บทที่ 71 ปลุกปั่น
“เมืองกลืนธารา”
โจวชิงขวงพึมพำกับตนเองพลางมองตัวอักษรสามตัวที่ห้อยอยู่เหนือประตูใหญ่
ในที่สุดเขาก็มาถึง
นับตั้งแต่ที่ตัดสินใจมาเมืองกลืนธาราจนถึงตอนนี้ก็ใช้เวลาเกือบครึ่งปี อุปสรรคทั้งหลายพากันดาหน้าเข้ามาจนโจวชิงขวงเหนื่อยไปทั้งกายและใจ อดคิดไม่ได้ว่าหรือเขากับกู่ชิงลั่วจะถูกลิขิตให้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
โชคดีที่ในที่สุดเขาก็มาถึง
แต่ในเมื่อมาถึงแล้ว ความคิดนั้นก็หายไปรวดเร็วดั่งตอนผุดขึ้นมา
ครึ่งชั่วยามต่อมา โจวชิงขวงก็มานั่งอยู่ในห้องรับแขกตระกูลกู่ ด้านบนคือหัวหน้าตระกูลกู่ กู่เซวียนเหมี่ยน
กู่เซวียนเหมี่ยนถือถ้วยชาไว้พลางกล่าว “การเดินทางครั้งนี้คงลำบากนัก เดินทางมาเรียบร้อยดีหรือไม่ ?”
“ขอรับท่านลุง ทุกอย่างเรียบร้อยดี ข้ายังนำของขวัญจากท่านพ่อมาแสดงความเคารพด้วย”
ว่าจบเขาก็หยิบของขวัญที่ข้ารับใช้เตรียมมาให้
ตระกูลโจวเลือกของขวัญมาอย่างดี แน่นอนว่ามันมีค่าพอสมควร หากเป็นปกติอย่างน้อยกู่เซวียนเหมี่ยนก็ควรแสดงคำขอบคุณบ้าง
ทว่ากู่เซวียนเหมี่ยนเพียงเหลือบมองเล็กน้อยก่อนเก็บของไป เมื่อของขวัญที่โจวชิงขวงตั้งใจเตรียมมาเป็นอย่างดีไม่ให้ผลดั่งที่หวัง มันก็ทำให้เขาขุ่นใจอยู่เล็กน้อย
ทั้งสองคุยกันอีกสักพัก ก่อนจะมีคนมาแจ้งว่าห้องพักแขกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้โจวชิงขวงเข้าพักได้ตามสะดวก
กู่เซวียนเหมี่ยนจึงแนะให้โจวชิงขวงทำตัวตามสบาย
หลังจัดของแล้ว โจวชิงขวงก็นั่งอยู่ด้านในพักใหญ่ ครุ่นคิดบางอย่างนิ่งเงียบ
ผ่านไปพักหนึ่งจึงเอ่ย “ฉางชิง เจ้ารู้สึกไหมว่าท่าทีของกู่เซวียนเหมี่ยนวันนี้ดูแปลก ?”
“นายน้อยหมายความว่า ?”
“ข้ารู้สึกว่าเขาไม่อบอุ่นต้อนรับข้าอย่างแต่ก่อน คำพูดก็ดูกระด้างไปหน่อย เจ้าว่า…… เขากำลังคิดจะยกเลิกเรื่องหมั้นหมายหรือไม่ ?”
เหมียวฉางชิงลังเลก่อนตอบ “หัวหน้าตระกูลกู่ยังมองท่านดีอยู่นะขอรับ ไม่เช่นนั้นคงไม่ให้ลูกสาวกับท่านหมั้นกันเมื่อคราก่อนที่พบกัน อีกทั้งหัวหน้าตระกูลกู่มีชื่อเสียงดียิ่ง คงไม่ทำเรื่องอย่างถอนหมั้นหรอกขอรับ”
“ปัญหาคือเรื่องมันยังไม่เป็นทางการ หากเขาคิดเสียใจยกเลิกหมั้นเขาก็ยังทำได้”
“อย่างไรก็เป็นเรื่องที่พวกท่านสองคนตกลงกันแล้ว ทั้งเขายังรับของจากท่านไป ชี้ให้เห็นว่ายังมองท่านในแง่ดีอยู่ ไม่แน่ว่าหัวหน้าตระกูลกู่อาจกำลังมีเรื่องหนักใจก็ได้ขอรับ”
“ก็หวังให้เป็นเช่นนั้นล่ะ”
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุย ข้ารับใช้ก็เข้ามาแจ้ง “คุณชายกู่จิ่นถังขอเข้าพบขอรับ”
“เข้ามาแล้ว บอกให้เขาเข้ามาเถอะ”
กู่จิ่นถังกับโจวชิงขวงเคยพบกันมาก่อน เมื่อกู่จิ่นถังเข้ามาแล้วก็แบมือปะทะกำปั้นแล้วเอ่ย “พี่โจว ดีนักที่ท่านกลับมา”
“โอ๋ ?” โจวชิงขวงได้ยินแล้วมุ่นคิ้ว “เหมือนพี่กู่กำลังจะบอกใบ้บางอย่างกระมัง”
“เฮ้อ ข้าไม่คิดปิดบัง บอกท่านไปตรง ๆ เลยแล้วกัน หากท่านมาช้ากว่านี้สักนิด คู่หมั้นท่านก็คงถูกแย่งไปแล้ว” กู่จิ่นถังว่าพลางเคาะพัดในมือ
โจวชิงขวงกับเหมียวฉางชิงเหลือบมองกัน “พี่กู่ เชิญนั่งก่อน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?”
“จริง ๆ ก็ไม่มีอะไร เพียงแต่คนมีอิทธิพลกลุ่มหนึ่งเดินทางมาเมืองกลืนธาราพักหนึ่ง คุณชายตระกูลนั้นชื่นชอบกู่ชิงลั่วขึ้นมาแล้วดึงตัวคนตระกูลข้า ให้ไปสนับสนุนเรื่องเขาจะขอนางกับท่านลุง”
โจวชิงขวงว่า “แล้วท่านลุงไม่บอกหรือว่าชิงลั่วมีคู่หมั้นหมายแล้ว ?”
“บอกแล้ว” กู่จิ่นถังตอบ “แต่คุณชายท่านนั้นเงินหนานัก ! เสนอหินพลังต้นกำเนิด 3 ล้านออกมาตาไม่กะพริบ อ้างว่าหากชิงลั่วต้องการหมั้นกับเขา เขาก็มอบให้อีก 3 ล้านได้”
โจวชิงขวงสูดลมหายใจเข้าลึก
หินพลังต้นกำเนิดคราเดียว 6 ล้าน !
ใครกันที่ทำตัวหรูหราเช่นนั้นได้ ?
“แล้วท่านลุง……”
กู่จิ่นถังยกพัดขึ้นพัดตนเอง “ท่านลุงไม่ได้ตอบรับคำไปทันที แต่ก็คงเก็บกลับไปคิดหนักทีเดียว”
“ไม่แปลกเลย……” โจวชิงขวงเอ่ยเสียงเบา
เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมกู่เซวียนเหมี่ยนถึงมีท่าทีเมินเฉยต่อเขา ก็เพราะถูกหินพลังต้นกำเนิด 6 ล้านก้อนนั่นลวงเอาน่ะสิ !
“พี่โจว ได้ยินว่าวันนี้ท่านมาถึง ข้าเลยมาบอกเป็นพิเศษ แม้คุณชายผู้นั้นจะถูกปฏิเสธไป 2 ครั้ง แต่ก็ดูเขายังไม่ยอมแพ้ ต้องใช้เล่ห์อื่นแน่ อย่างไรท่านก็ระวังไว้หน่อยเถอะ”
“ขอบคุณพี่กู่ที่เตือน !”
“ข้าได้เพียงคำขอบคุณเองหรือ ?” กู่จิ่นถังเอนหลังไป ท่าทางดูไม่พอใจเล็กน้อย
โจวชิงขวงย่อมเข้าใจ เขาเหลือบมองเหมียวฉางชิงที่หยิบถุงหนึ่งขึ้นมา มีหินพลังต้นกำเนิดหลายร้อยก้อนอยู่ในนั้น
กู่จิ่นถังหัวเราะ “ท่านพยายามจะไล่ข้าไปใช่หรือไม่ ? เอาเถอะ ก็ดีกว่าไม่ได้อะไร”
เขาเก็บถุงไป
ได้ยินดังนั้น โจวชิงขวงก็รู้สึกโกรธ แต่ไม่อาจเผยให้เห็นได้ ทำได้แต่บอกเหมียวฉางชิงให้มอบของเพิ่มจนจำนวนถึงหนึ่งพัน
กู่จิ่นถังเก็บของไปแล้วมุ่งหน้าไปหากู่เซวียนเหมี่ยน
กู่จิ่นถังทำความเคารพกู่เซวียนเหมี่ยน “ท่านลุงใหญ่”
“อืม มีอะไรถึงมาหาข้าได้เล่า ?” กู่เซวียนเหมี่ยนว่า สายตาจับจ้องอยู่กับสมุดบัญชีการค้า
“อ้อ ได้ยินว่าพี่โจวมา ข้าก็เลยมาหาขา ระหว่างทางก็เลยแวะมาหาท่านด้วยขอรับ”
“อืม ชิงขวงเป็นแขก เจ้าต้องดูแลให้ดี”
“ขอรับ หลานคุยกับพี่โจวแล้ว แต่เหมือนเขาไม่พอใจอะไร”
“หือ?” กู่เซวียนเหมี่ยนลืมตาขึ้น “เขาไม่พอใจอะไร ?
“เมื่อไม่กี่วันก่อนมีคนมาขอกู่ชิงลั่วไม่ใช่หรือขอรับ ? ชิงขวงดันรู้เรื่องเข้า ดูจะไม่สบายใจอยู่บ้าง”
กู่เซวียนเหมี่ยนคำราม “แล้วอย่างไร ? ลูกสาวใครบ้างไม่มีบุรุษสักหลายคนไล่ตาม ? กู่ชิงลั่วนิสัยดี พื้นฐานพลังแกร่ง รูปโฉมก็งดงาม ไม่ใช่ปกติธรรมดาหรือที่จะมีคนอยากแต่งกับนาง ? ข้าก็ปฏิเสธไปแล้วนี่ ? เขาจะมาไม่พอใจอะไรอีก ?”
“แต่ท่านก็ไม่ได้บอกเขา ?”
“บอกไปแล้วมีอะไรดี ? ข้าต้องเล่าทุกเรื่องให้เขาฟังงั้นหรือ ?
“แต่เขาไม่สบายใจนะขอรับ อีกทั้งคนที่มาขอยังเสนอหินพลังต้นกำเนิดถึง 6 ล้านเป็นของหมั้น เขาจึงรู้สึกว่าท่านคิดว่าเขานำของขวัญมาไม่มากพอ ถึงได้ไม่ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นเท่าไหร่” กู่จิ่นถังเอ่ยเสียงเจ้าเล่ห์
“ไร้สาระสิ้นดี !” กู่เซวียนเหมี่ยนตบโต๊ะแล้วผุดลุกขึ้น “สัญญา 6 ล้านแล้วอย่างไร ? ใต้หล้านี้ขาดคนรวยหรือ ? ข้าไม่ได้คิดจะขายลูกสาวกิน โจวชิงขวงคิดมากไปแล้ว อีกทั้งข้าเป็นผู้อาวุโส เขาเป็นผู้น้อย เขาอยากให้ข้าอบอุ่นรักใคร่เขามากมายหรือกะไร ? ช่วงนี้เกิดเรื่องมากมายนัก เมื่อวานข้าก็ตกลงทำการค้ากับซูเฉินแทนตระกูลกู่ ลงทุน 5 ล้านไปกับเครือข่ายเรือเหาะของเขา ทั้งตระกูลทำงานหนักเพื่อพยายามทำให้การค้าครั้งนี้บรรลุผล ข้าหาเวลามาพบเขาเป็นส่วนตัวได้ก็นับว่าไว้หน้ามากแล้ว เขาจะอยากได้อะไรอีก ?”
“เรื่องนี้……” กู่จิ่นถังหัวเราะ “ท่านบอกข้าไปก็ไร้ประโยชน์ ท่านเป็นคนเลือกคู่หมั้นผู้นี้มาเองนี่ขอรับ”
กู่เซวียนเหมี่ยนคำรามก่อนปรบมือ “ได้ยินว่าตระกูลโจวช่วงนี้เกิดเรื่องไม่น้อย การเดินทางของโจวชิงขวงถูกขัดอยู่ตลอด เขาเพียงแต่รอนานไปจึงเริ่มหมดความอดทน คนหนุ่มมักเจ้าอารมณ์หุนหันเช่นนี้ อา ช่างมันเถอะ ชิงลั่วกลับมาเมื่อไร ข้าจะส่งนางไปใช้เวลากับเขาบ้าง”
“ท่านลุงใหญ่ ท่านก็รู้ว่าน้องเจ็ดไม่ได้ชอบโจวชิงขวง”
“ข้าจะทำอะไรกับลูกข้าไม่ใช่เรื่องของเจ้า”
กู่จิ่นถังยิ้มน้อย ๆ “ก็อาจใช่ สุดท้ายทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับท่านลุงใหญ่ แต่ท่านลุงไม่คิดถามลูกสาวท่านเองหน่อยหรือว่านางคิดเห็นอย่างไร ?”
“โอ๋ ?” กู่เซวียนเหมี่ยนว่าพลางหันมามองกู่จิ่นถังช้า ๆ
กู่จิ่นถังยักไหล่ “คิดเสียว่าข้าไม่ได้พูดอะไรเถอะขอรับ”
ว่าจบเขาก็จากไป
หลังจากออกไปแล้ว กู่จิ่นถังก็ออกจากคฤหาสน์กู่ไป
เขาเดินลัดเลาะไปเรื่อยก่อนจะผลุบผ่านประตูเล็กบานหนึ่งเข้ามา
ภายในสวนนั้น ซูเฉินกับกู่ชิงลั่วกำลังจิบชากินขนมอย่างมีความสุขด้วยกัน ทั้งยังมีชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนมือประสานกันอยู่ข้าง ๆ ด้วย
“ไอ้หยา ข้าก็ออกไปทำงานงก ๆ ให้พวกเจ้า พวกเจ้ากลับมานั่งจิบชากินขนมเสียนี่” กู่จิ่นถังถอนใจส่ายหน้า
“เป็นอย่างไร ?” ซูเฉินถาม ไม่สนคำบ่นเขา
“มีหรือข้ากล้าไม่ทำตามเรื่องที่สั่ง ?” กู่จิ่นถังว่าพลางแบมือ
ซูเฉินโยนถุงหินไปให้เขา กู่จิ่นถังเปิดออกดู จากนั้นเก็บถุงไปพร้อมยิ้มกว้าง
ยุแยงสองฝ่ายเช่นนี้เป็นกลยุทธ์ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเพียงไหนก็ยังใช้ได้ดีและไม่ใช่เรื่องหายาก ทั้งยังใช้ง่ายดายเอามากด้วย