ผู้อาวุโสจากโถงบทบัญญัติผู้นั้นพูดขึ้นด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “ทุกเรื่องถามที่ความเป็นไปได้ไม่ได้ถามหัวใจ การรักษากฎก็เป็นเช่นนี้ ไม่ว่าหัวหน้าพรรคท่านจะมีความคิดต่อพวกข้าอย่างไร ตามกฎของเขาหลีซานแล้ว ศิษย์ชีเจียนควรจะถูกโถงบทบัญญัติสอบปากคำ”
ไป๋ไช่พูดขึ้นอย่างโมโห “อาจารย์ลุงหง ถ้าหากทุกเรื่องถามที่ความเป็นไปไม่ได้ถามหัวใจ เช่นนั้นนอกจากที่ศิษย์พี่สามเห็นก่อนตายนั่น ศิษย์น้องกระทำความผิดใดหรือ เขาทำอะไรกันแน่ถึงจำเป็นต้องเข้าไปให้โถงบทบัญญัติสอบสวน”
เสี่ยวซงกงมองเขาแล้วพูดเยาะเย้ยขึ้นมา “ถึงแม้เหลียงเสี้ยวเซียวจะมองนางเพียงแวบเดียว แต่กลับพูดอย่างชัดเจน เจ้าหมาป่านั่นเป็นฆาตกรที่ร่วมมือกับเผ่ามารสร้างความวุ่นวายในสวนโจว และภายในสวนโจวไปจนถึงนอกสวนโจว อย่างน้อยก็มีสายตานับร้อยคู่ที่เห็นอย่างชัดเจนว่า ชีเจียนกับเจ้าหมาป่านั่นกอดกันตัวกลม ส่งสายตากันไปมา พวกเขามีความสัมพันธ์อย่างไรกันแน่!”
คนจำนวนมากไม่เข้าใจว่าผู้อาวุโสเสี่ยวซงกงพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร และพวกคนที่รู้ชาติกำเนิดของชีเจียนต่างพากันเปลี่ยนสีหน้า ไม่รอให้คนเหล่านี้ได้เอ่ยปากห้ามปราม เสี่ยวซงกงก็ตะโกนขึ้นมา “ชีเจียนนางเป็นบุตรสาวแท้ๆ ของอาจารย์ปู่เล็ก”
ทุกยอดเขาได้มีเสียงฮือฮาดังขึ้นมา
“ตัวนางเป็นสตรีนางหนึ่ง ถึงกับสมคบคิดกับปีศาจเผ่าหมาป่า ในเมื่อมีความใกล้ชิดแบบเนื้อแนบเนื้อ นางยังจะรักษาหน้าอยู่ไหม! จะให้ชื่อเสียงของเขาหลีซานของเราไปไว้ที่ไหน! ทำไมโถงบทบัญญัติจะสอบสวนนางไม่ได้!”
เสียงที่เยือกเย็นและเต็มไปด้วยเจตนาร้ายของเสี่ยวซงกงสะท้อนไปทั่วยอดเขา ในเวลาเดียวกันเสียงก็ดังผ่านค่ายกลจนกระจายไปทุกยอดเขา ในช่วงนี้ ทุกยอดเขาล้วนเงียบเป็นเป่าสาก เหล่าศิษย์เขาหลีซานต่างตกตะลึงจนพูดไม่ออก ศิษย์น้องเล็กชีเจียน…ถึงกับเป็นสตรีอย่างนั้นหรือ? อีกทั้งยัง…เป็นบุตรสาวแท้ๆ ของอาจารย์ปู่เล็กหรือ? เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องจริงหรือ?
เสี่ยวซงกงจ้องไปที่ดวงตาของหัวหน้าพรรค และพูดถากถางขึ้น “ถ้าหากนางไม่ใช่บุตรสาวของอาจารย์ปู่เล็ก เจ้าจะเอ็นดูนางเช่นนี้หรือ นางต้องการอะไร เจ้าก็ให้สิ่งนั้นกับนาง พวกหานสือทั้งหลายเคยได้รับการปฏิบัติด้วยเช่นนี้หรือไม่ แม้แต่ชิวซาน เจ้าดีต่อเขาเหมือนกับที่ดีต่อชีเจียนหรือ? เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือ? แม้แต่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเจ้าก็คิดจะยกให้นาง!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ศิษย์เขาหลีซานของแต่ละยอดเขาก็ยิ่งตกตะลึง ไป๋ไช่ร้อนใจอย่างมาก อยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่กลับถูกหัวหน้าพรรคห้ามเอาไว้ หัวหน้าพรรคมองไปที่เสี่ยวซงกงแล้วส่ายหน้า ใบหน้าเผยให้เห็นความเหน็บแนบและโศกเศร้าจางๆ
…เขาเอ็นดูชีเจียนเป็นพิเศษจริงๆ มากมายกว่าพวกโก่วหานสือ แม้แต่ชิวซานจวินก็ยังไม่อาจจะเทียบได้ แต่นั่นไม่ใช่เพราะว่าชีเจียนเป็นบุตรสาวของอาจารย์ปู่เล็ก เป็นศิษย์ของเขา แต่เป็นเพราะว่า…ชีเจียนเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เหตุผลง่ายๆ เช่นนี้ หัวหน้าพรรครู้ว่าพวกชิวซานล้วนเข้าใจ และก็รับได้ ดังนั้นในหลายปีมานี้ พวกเขาจึงรักและเอ็นดูชีเจียนเป็นพิเศษ เชื่อว่าเสี่ยวซงกงเองก็เข้าใจ เพียงแค่อีกฝ่ายในตอนนี้จะไปยอมฟังได้อย่างไร
เสี่ยวซงกงไม่ได้หยุดการโจมตีลงเพียงเพราะความนิ่งเงียบของหัวหน้าพรรค และมองเขาพลางพูดขึ้นต่อด้วยเสียงที่เยือกเย็น “ตำแหน่งหัวหน้าพรรคกระบี่เขาหลีซานไม่ใช่ของเจ้า เจ้าอยากจะมอบให้กับชีเจียน ก็ต้องดูว่าพวกข้ายินยอมหรือไม่”
หัวหน้าพรรคมองเขาอย่างสงบแล้วถามขึ้น “เช่นนั้นในสายตาของเจ้า ตำแหน่งหัวหน้าพรรคกระบี่เขาหลีซานควรจะเป็นของใครกัน”
เสี่ยวซงกงพูดขึ้นเสียงเย็น “ตำแหน่งหัวหน้าพรรคกระบี่เขาหลีซาน ในวันหลังแน่นอนว่าควรเป็นของศิษย์หลานชิวซาน!”
คำพูดนี้แข็งกร้าวอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นศิษย์ที่อยู่บนยอดเขาต่างๆ หรือแม้กระทั่งไป๋ไช่ที่พยุงหัวหน้าพรรคอยู่ ล้วนรู้สึกว่าคำพูดนี้สมเหตุสมผล ทั่วทั้งพรรคกระบี่เขาหลีซานไปจนถึงทั่วทั้งโลกนี้ ก็ยอมรับเรื่องนี้กันตั้งแต่แรกแล้ว
“พูดไปพูดมา ก็ยังคงเป็นเรื่องตำแหน่งหัวหน้าพรรค” หัวหน้าพรรคมองเสี่ยวซงกงแล้วพูดขึ้นอย่างปลงอนิจจัง ในสายตาเต็มไปด้วยความสงสารไปจนถึงเห็นใจ “เมื่อไหร่กันศิษย์พี่ถึงจะรู้จักการมองไปให้ไกลกว่าเรื่องเหล่านี้”
เพราะสายตาของอีกฝ่าย เสี่ยวซงกงจึงโมโหขึ้นมา และคำรามขึ้น “หรือเจ้าคิดว่าข้าเป็นพวกละโมบในอำนาจ หรือเจ้าคิดว่าที่ข้าล่วงเกินเบื้องสูงในวันนี้ ก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง”
หัวหน้าพรรคแย้มยิ้มและเอ่ยขึ้นอย่างสงบ “บางที เจ้าอาจจะทำเป็นผลประโยชน์ของโลกมนุษย์”
ไม่ต้องสงสัย นี่เป็นการประชด
ไป๋ไช่ที่พยุงหัวหน้าพรรคอยู่หัวเราะขึ้นมา ศิษย์เขาหลีซานที่อยู่หน้าถ้ำพำนักนับสิบคนที่ชุดเต็มไปด้วยรอยเลือดนั่นก็พากันหัวเราะขึ้นมา มีเพียงเสี่ยวซงกงกับผู้อาวุโสโถงบทบัญญัติสองคนนั้น ไปจนถึงศิษย์ของพวกเขาที่ไม่อาจหัวเราะออกมา
เสี่ยวซงกงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดขึ้น “เจ้ามอบค่ายกลใหญ่หมื่นกระบี่และสละตำแหน่ง ปล่อยให้ชีเจียนถูกสอบ ข้าเพียงแค่รับหน้าที่ดูแลห้าปี แล้วก็จะถอนตัวไปอยู่หลังเขา และมอบตำแหน่งหัวหน้าพรรคให้แก่ศิษย์หลานชิวซาน
หัวหน้าพรรคไม่ได้สนใจเขา และมองไปที่ผู้อาวุโสโถงบทบัญญัติทั้งสองคนแล้วพูดขึ้น “ศิษย์พี่ทั้งสอง พวกเจ้าก็จะสนับสนุนความคิดนี้หรือ”
ผู้อาวุโสโถงบทบัญญัติพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หัวหน้าพรรคท่านจะสละตำแหน่งหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโถงบทบัญญัติ แต่หากเจ้าไม่ยอมมอบตัวชีเจียนมา โถงบทบัญญัติก็จะต้องขอให้เจ้ามอบอำนาจที่อยู่ในมือออกมาเป็นการชั่วคราว”
หัวหน้าพรรคพูดขึ้นอย่างสงบ “ศิษย์พี่ทั้งสองต้องการจะพูดเรื่องกฎ เช่นนั้นข้าก็จะมาพูดเรื่องกฎ”
ผู้อาวุโสโถงบทบัญญัติผู้ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “เชิญหัวหน้าพรรคว่ามา”
“อาจารย์ปู่เล็กในตอนนี้ถูกขังอยู่ที่แดนเหนือ ค่ายกลกระบี่เขาหลีซานถูกใช้มาหลายวัน รอเพียงแค่ข่าวที่เป็นรูปธรรมเท่านั้น เมื่อวานตอนบ่ายได้รับข่าวว่าอาจารย์ปู่เล็กปรากฏตัวขึ้นที่เมืองสวินหยาง ผู้อาวุโสทั้งสามของโถงกระบี่ได้พายอดฝีมือเข้าไปในค่ายกลกระบี่ เตรียมตัวที่จะมุ่งหน้าไปเมืองสวินหยางเพื่อสนับสนุนอาจารย์ปู่เล็ก ใครจะคาด ผู้อาวุโสเสี่ยวซงกงถึงกับร่วมมือกับคนนอกอย่างพรรคฉางเซิง เมื่อคืนวานได้แอบทำลายค่ายกลกระบี่ และนำผู้อาวุโสโถงกระบี่ทั้งสามคนรวมถึงยอดฝีมือองเขาหลีซานทั้งหมดขังเอาไว้ที่กลางภูเขา ถ้าหากพูดว่าศิษย์ของข้าชีเจียนกับเด็กหนุ่มเผ่าหมาป่ามีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันภายในสวนโจวมีความผิด ขอถามผู้อาวุโสโถงบทบัญญัติทั้งสอง ว่านี่เป็นความผิดใด”
หัวหน้าพรรคมองผู้อาวุโสโถงบทบัญญัติทั้งสองแล้วถามขึ้น “อาจารย์ปู่เล็กในตอนนี้บาดเจ็บสาหัส โดดเดี่ยวไร้การช่วยเหลือ ถ้าหากว่าต้องตายในมือพวกคนเลวเหล่านั้น…ในเมื่อศิษย์พี่ทั้งสองไม่ได้โกรธแค้นอาจารย์ปู่เล็กเพราะเรื่องเก่าสมัยสุสานเทียนซู เช่นนั้นพวกเจ้าในตอนนี้ไม่ใช่ว่าควรจะทำลายการบำเพ็ญเพียรของผู้อาวุโสเสี่ยวซงกง และจับเขาเข้าคุกใหญ่ของโถงบทบัญญัติแล้วค่อยมาว่ากันหรอกหรือ”
ผู้อาวุโสโถงบทบัญญัตินิ่งเงียบไม่พูดจา หัวหน้าพรรคกำลังมองไปที่ทั้งสองคน และเผยรอยยิ้มที่ยั่วเย้าออกมา ไป๋ไช่เดินขึ้นหน้ามาแล้วถุยน้ำลายออกไป ช่างไร้ยางอายอย่างถึงที่สุด หลังจากยอดเขาเขาหลีซานเงียบไปครู่หนึ่ง ก็มีเสียงด่าทอด้วยความโกรธแค้นดังขึ้นมานับไม่ถ้วน
“ถ้าหากซูหลี…เป็นอาจารย์ปู่เล็กของเขาหลีซาน เช่นนั้นนการกระทำของผู้อาวุโสเสี่ยวซงกง แน่นอนว่าเป็นความผิดใหญ่ที่ทรยศสำนัก”
อยู่ๆ ผู้อาวุโสโถงบทบัญญัติผู้หนึ่งก็พูดขึ้น “แต่ถ้าหากตัวของซูหลีเองที่มีความผิดใหญ่อย่างการทรยศสำนัก การกระทำของผู้อาวุโสเสี่ยวซงกงก็จะไม่มีความผิดใด กลับมีความชอบใหญ่อีกด้วย”
หัวหน้าพรรคเขาหลีซานหรี่ตาลงเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร ใบหน้ายั่วเย้าก็ยังคงมีอยู่ ไป๋ไช่ที่พยุงเขาอยู่ก็พูดเย้ยหยันขึ้น “แถ แถต่อไปสิ เรื่องที่เจ้าแต่ง เกรงว่าศิษย์พี่รองกับเฉินฉางเซิงก็ยังไม่เคยได้อ่าน”
“เดิมทีซูหลีก็เป็นคนบ้าคนหนึ่ง”
เสี่ยวซงกงเอ่ยขึ้นเสียงเย็น “ในปีนั้นคนที่ขัดขวางคนจากแดนเหนือก็คือเขา สิบปีมานี้ คนที่ขัดขวางการร่วมมือกันของเหนือใต้ก็คือเขา เขาคิดจะทำอะไร เขาไม่ได้อาวุโสเท่าพวกเรา เข้าสำนักก็ช้ากว่าพวกเรา หากไม่ใช่เพราะโชคดี ทำไมพวกเราถึงต้องเรียกเขาว่าอาจารย์ปู่เล็ก เขาคิดจะนำพาเขาหลีซานไปยังที่ใด พวกเจ้าไม่สนใจ แน่นอนว่าจะมีศิษย์ของเขาหลีซานมาสนใจ!”
มาถึงเวลานี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสี่ยวซงกงหรือผู้อาวุโสโถงบทบัญญัติสองคนนั้น ก็ไม่ได้เรียกซูหลีว่าอาจารย์ปู่เล็กอีกแล้ว แต่เรียกชื่อของเขาไปเลยโดยตรง…คนเหล่านี้ที่บุกเข้ามาบนยอดเขาหลักของเขาหลีซาน ในที่สุดก็เปิดเผยจุดประสงค์ของพวกเขา พวกเขาคิดจะอาศัยคำให้การก่อนตายของเหลียงเสี้ยวเซียวสร้างความลำบากให้แก่ชีเจียน ท้ายที่สุดก็อาศัยเรื่องนี้ลบผลกระทบจากซูหลีออกไปจากเขาหลีซานให้หมด
แน่นอน ทั้งหมดนี้สร้างอยู่บนพื้นฐานอย่างหนึ่ง
ซูหลีจำเป็นต้องตาย