TQF:บทที่ 507 อุบัติเหตุ พวกตาแก่มาเป็นฝูง (3)

 

หยินเฟิ่งหัวเราะด้วยความเขิน ก่อนจะรีบหุบรอยยิ้มบนใบหน้า เอ่ยเสียงเบา “ที่ศิษย์มาหาอาจารย์เพราะมีเรื่องหนึ่งต้องให้อาจารย์ช่วย ขออาจารย์โปรดรับปากศิษย์ด้วย

 

“เจ้ายังไม่ได้บอกเลยว่าเรื่องอะไร จะให้อาจารย์รับปากได้อย่างไร บอกมาก่อนว่าเรื่องอะไร”

 

“อาจารย์ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่อยากให้อาจารย์มอบของวิเศษที่สามารถฉีกมิติออกได้”

 

“อะไรนะ” ชายวัยกลางคนมีสีหน้าประหลาดใจ “เจ้าอยากได้ของวิเศษที่ฉีกมิติออกได้ เจ้าจะไปไหน เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ”

 

“ไม่ได้เกิดอะไรขี้นหรอกอาจารย์ แค่ศิษย์อยากไปดูอะไรที่อีกผืนดินนึงสักหน่อย ดูว่าจะหาคนๆนึงเจอมั้ย” หยินเฟิ่งไม่ได้ปิดบัง บอกอาจารย์ของตัวเองไปตรงๆ

 

ชายวัยกลางคนมองลูกศิษย์ตัวเองด้วยความรู้สึกแปลกใจ แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร “ในเมื่อเจ้าต้องการของวิเศษอาจารย์ให้เจ้าได้ แต่เจ้าต้องรู้ว่าการไปอีกผืนดินหนึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่าย สามารถเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ทุกเมื่อ อีกอย่างเจ้าก็ไม่รู้ด้วยว่าสถานการณ์ที่ผืนดินนั้นเป็นอย่างไร ถ้าไม่ระวังอาจจะเอาชีวิตไปทิ้งได้ เจ้าต้องไตร่ตรองให้ดี”

 

“ข้ารู้อาจารย์ แต่ข้าก็ต้องไปดู ไปหาเขาให้เจอ” หยินเฟิ่งกล่าวอย่างหนักแน่น

 

ชายวัยกลางคนรู้จักนิสัยของลูกศิษย์ตัวเองดี เรื่องที่ตั้งใจไว้แล้วจะต้องยืนหยัดจนถึงที่สุด ไม่ล้มเลิกง่ายๆ เขาจึงได้แต่หยิบของวิเศษชิ้นนึงออกมาให้นาง “อาจารย์เคารพการตัดสินใจของเจ้า ถ้าอยากจะทำก็ทำเถอะ เจ้าก็ระวังตัวด้วย อาจารย์รอเจ้ากลับมา”

 

“เจ้าค่ะ ขอบพระคุณอาจารย์” หยินเฟิ่งรับกริชวิเศษมา ขอเพียงแค่ตวัดกริชนี้ในอากาศเบาๆก็สามารถฉีกมิติออกและไปสู่ผืนดินอื่นได้

 

ชายวัยกลางคนยิ้ม “ไปเถอะ ดูแลความปลอดภัยด้วย ทำเรื่องที่อยากจะทำให้เสร็จแล้วรีบกลับมาล่ะ”

 

รับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่อาจารย์มีให้ตัวเอง หยินเฟิ่งพยักหน้าอย่างหนักแน่น “อาจารย์ข้าจะรีบกลับมา” พูดจบก็หายตัวทะลุอากาศไป

 

ชายวัยกลางคนมองไปยังทิศทางที่ลูกศิษย์ตัวเองจากไป ถอนหายใจเบาๆ “เจ้าศิษย์เอ๋ย เจ้าน่ะมีเคราะห์เรื่องความรัก ไม่รู้ว่าเรื่องดีหรือร้าย หวังว่าเจ้าจะกลับมาอย่างปลอดภัย อย่าทำให้อาจารย์ผิดหวัง”

 

“ศิษย์น้องสอง เจ้าออกจากฌานแล้วมาที่ข้าหน่อย” เสียงคุ้นเคยดังอยู่ข้างหูของชายวัยกลางคน

 

เขายกสายตามองไปยังยอดเขาสูงสุดข้างหน้า ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเหยียบอากาศขึ้นไป

 

ในระยะร้อยลี้นี้ ยอดเขาลูกนี้เป็นเขาลูกหลักของเจ้าวิหารสวรรค์ เป็นที่พำนักของเจ้าโถง โดยปกติแล้วเวลามีเรื่องอะไรเหล่าผู้อาวุโสก็จะมาปรากฏตัวกันที่นี่

 

ชายวัยกลางคนมาถึงโถงโบราณบนยอดเขาสูงสุด ประตูเปิดอย่างเงียบเชียบราวกับต้อนรับการมาของเขา

 

“ศิษย์น้องสองมาแล้วหรือ นั่งสิ” มีชายวัยกลางคนนั่งขัดสมาธิอยู่กลางห้องโถง แม้เขาจะดูอายุยังน้อย แต่จริงๆก็อายุได้หลายพันปีแล้ว เจ้าวิหารสวรรค์นั่นเอง

 

เจ้าวิหารสวรรค์ผู้นี้เป็นผู้สืบทอดรุ่นที่ 10 วิหารสวรรค์จื่อผู้โด่งดังแห่งผืนดินฉางไห่ ไม่มีใครสามารถสืบสานพลังของบรรพบุรุษได้ดีไปกว่าเขา ดังนั้นตำแหน่งเจ้าวิหารสวรรค์จึงดำรงโดยเขามาตลอด

 

ชายวัยกลางคนสบเข้ากับสายตาของเขา นั่งลงข้างๆอย่างเรียบๆ “ศิษย์พี่ใหญ่เรียกข้ามาไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไร”

 

เจ้าวิหารสวรรค์ยิ้มนุ่มนวล “ยัยหนูหยินเฟิ่งออกไปข้างนอกอีกแล้วเหรอ”

 

“ศิษย์พี่ใหญ่รู้อยู่แล้วยังจะแกล้งถาม”

 

“ท่าทางศิษย์น้องสองได้ทำนายดวงชะตาช่วงนี้ของนางแล้วใช่มั้ย ไม่รู้ว่าอาจารย์อย่างเจ้านี่คิดอะไรอยู่ ตามความเห็นของข้าไม่ควรให้นางออกไปจริงๆ”

 

“คนหนุ่มสาวก็มีความคิดของคนหนุ่มสาว ชะตาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน นางอยากจะเดินทางไหนก็เป็นทางเลือกของนางเอง และเป็นโชคชะตาของนางเอง ข้าไม่อยากจะไปตัดสินอะไรแทนนาง ให้นางไปเถอะ”

 

“ศิษย์น้องสอง เจ้าน่ะเป็นคนนิสัยแบบนี้อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าลูกศิษย์ของเจ้านี่โชคดีหรือโชคไม่ดี” เจ้าวิหารสวรรค์ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

 

ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างไม่คิดอะไร “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านเรียกข้ามามีเรื่องอะไร”

 

“เอ่อ…” เจ้าวิหารสวรรค์รู้ว่าเขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ จึงสะกดความอยากเกลี้ยกล่อมไว้และตอบคำถามของเขา “ศิษย์น้องสอง เจ้าเก็บตัวอยู่ตลอดคงไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ข้าตั้งใจเรียกเจ้ามาพูดคุยถึงเรื่องราวพวกนี้แหละ”

 

“หืม เรื่องอะไร หรือว่ามีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นที่ผืนดินฉางไห่อีกแล้ว”

 

“ไม่ใช่ที่อื่นเกิดเรื่องประหลาดหรอก ที่วิหารสวรรค์ของเราเนี่ยแหละที่เกิดเรื่อง”

 

“ที่พวกเรา?” ชายวัยกลางคนถามอย่างแปลกใจ ขณะเดียวกันเขาก็ปล่อยจิตของตัวเองออกไปครอบคลุมพื้นที่ใกล้เคียงหลายร้อยลี้เอาไว้ ลองสัมผัสดูก็ไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติอะไร จึงทอดสายตาไปมองคนข้างๆ

 

เจ้าวิหารสวรรค์เห็นสีหน้างุนงงของเขายิ้มออกมาอ่อนๆ “เจ้าน่ะสัมผัสไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเขาไม่ได้อยู่ที่นี่”

 

“ศิษย์พี่ใหญ่ นี่มันเรื่องอะไรกัน” ชายวัยกลางคนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“บอกได้ว่าเป็นเรื่องดี 1 ปีก่อนเราพบว่ามีลูกศิษย์สืบสานจิตเทพของอาจารย์ปู่”

 

“อะไรนะ สืบสานจิตเทพ” ใบหน้าเรียบเฉยของชายวัยกลางคนเกิดสีหน้าตกใจ “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านพูดจริงหรือ ลูกศิษย์ของพวกเราได้รับสืบสานจิตเทพอันสำคัญ”

 

“แน่นอน อย่างข้าจะหลอกเจ้ารึไง” เจ้าวิหารสวรรค์ท่าทีเรียบเฉย ไม่ได้ดูดีใจเท่าไหร่

 

“เรื่องดีจริงๆ นี่เป็นเรื่องดีจริงๆ”

 

ชายวัยกลางคนอดดีใจขึ้นมาไม่ได้ “ลูกศิษย์วิหารสวรรค์ของเราแม้จะไม่น้อย แต่คนที่ได้รับสืบสานจิตเทพน่ะไม่มีเลย ในที่สุดตอนนี้ก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ว นี่มันสุดยอดไปเลย”

 

“ดีก็จริง แต่น่าเสียดาย…” เจ้าวิหารสวรรค์มีสีหน้าเสียใจ

 

“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านหมายความว่ายังไง”

 

“ศิษย์น้องสอง เราพบลูกศิษย์ที่สืบสานจิตเทพจริงๆ เพียงแต่ไม่ใช่ลูกศิษย์ของวิหารสวรรค์ที่นี่ ตอนนี้พวกเราก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นลูกศิษย์วิหารสวรรค์จากที่ไหนที่ได้รับสืบสาน เราส่งลูกศิษย์ออกไปหาข่าวไม่น้อย แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เรื่องอะไรเลย”

————————————-