ตอนที่ 1882-1884

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1882 กองทัพศักดิ์สิทธิ์ (2)
  หญิงสาวผู้เย็นชาเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงนั้น เมื่อร่างเล็กปรากฏต่อสายตา ความคิดถึงที่มากมายก็ทำให้หัวใจนางสั่นไหว
  หญิงสาวพยายามข่มความต้องการที่จะวิ่งเข้าไปหา และเดินไปทางผู้มาใหม่อย่างอดกลั้น พออยู่ตรงหน้าคนผู้นั้น นางก็โค้งคำนับอย่างงดงาม ริมฝีปากปรากฏรอยยิ้มที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ
  “มาแล้วเพคะ”
  จวินอู๋เสียมองหญิงสาวตรงหน้า เวลาผ่านไปไม่กี่ปี เด็กสาวที่เคยบริสุทธิ์ไร้เดียงสาคนนั้นได้กลายเป็นหญิงสาวที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบแล้ว
  ฉูหลิงเย่ อดีตคุณหนูแห่งเมืองพันอสูร จักรพรรดินีใจเพชรแห่งแคว้นเหยียน ภรรยาในนามของจวินอู๋เสีย
  “กองทหารห้าหมื่นนายรวมพลมาที่นี่ตามที่ได้รับพระบัญชาเพคะ” ฉูหลิงเย่ยืดตัวตรง ผายมือไปทางกองทหารห้าหมื่นนายด้านหลังนาง!
  “ถวายบังคมฝ่าบาท!” ทหารห้าหมื่นนายพลิกตัวลงจากหลังม้าโดยพร้อมเพรียงกัน พวกเขาคุกเข่าลงข้างหนึ่งที่ด้านข้างม้าของตน เสียงคำรามดังกึกก้องขึ้นพร้อมกันสะเทือนไปถึงสวรรค์ การเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงกันของคนห้าหมื่นเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่สง่างามมาก!
  จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นมองกองทหารที่อยู่ตรงหน้า
  กองทัพที่มาจากอาณาจักรล่างซึ่งเป็นความทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดของจวินอู๋เสียและจวินอู๋เหยา
  กองกำลังนี้เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่เก่งที่สุดในอาณาจักรล่าง จวินอู๋เสียเห็นคนที่คุ้นเคยหลายคนยืนอยู่แถวหน้าของกองทัพ
  “ข้าน้อยหลงฉี คารวะคุณหนู” หลงฉีเดินออกมาจากกองทัพ คุกเข่าลงข้างหนึ่งตรงหน้าจวินอู๋เสียและกำหมัดไว้ตรงหน้าอก
  “ข้าน้อยมู่เฉิน คารวะคุณหนู” จากนั้นก็เป็นมู่เฉิน
  “ข้าน้อยมู่เชียนฟาน คารวะคุณหนู!”
  “กระหม่อมเล่ยเฉิน ถวายบังคมฝ่าบาท!”
  “กระหม่อมโม่เฉี่ยนเยวียน ถวายบังคมฝ่าบาท!”
  “หม่อมฉันไป๋อวิ๋นเซียน ถวายบังคมฝ่าบาท!”
  “กระหม่อมอิ่นเหยียน ถวายบังคมฝ่าบาท!”
  “กระหม่อมกู้หลีเซิง ถวายบังคมฝ่าบาท……”
  ใบหน้าที่คุ้นเคยเดินออกมาจากกองทัพทีละคน แล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่งเรียงเป็นแถวตรงหน้าจวินอู๋เสีย
  แต่ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านั้น จวินอู๋เสียไม่เห็นพ่อลูกตระกูลจวินเลย จึงอดไม่ได้ที่ดวงตาจะฉายแววผิดหวัง
  สัมผัสอันเฉียบคมของฉูหลิงเย่จับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของจวินอู๋เสียได้ มุมปากของนางโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง
  “ข้าว่า ข้าคงไม่ต้องคารวะเจ้าหรอกมั้งยัยหนู” เสียงร่าเริงพลันดังขึ้น จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น
  จวินชิงในชุดเกราะอ่อนสีเงินเข้ามายืนตรงหน้าจวินอู๋เสีย รอยยิ้มสง่างามประดับอยู่บนใบหน้าที่อ่อนโยนของเขา
  จวินอู๋เสียใจเต้นรัว!novel-lucky
  “ท่านอา!”
  จวินชิงยิ้มขณะที่ก้าวเข้ามา และอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบหัวของจวินอู๋เสีย ดวงตาเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู
  “ปู่เจ้ากังวลเรื่องที่จะทิ้งพ่อเจ้าไว้ที่บ้านคนเดียว เขาก็เลยไม่ได้มา แต่เขามีคำพูดฝากมาให้เจ้าด้วย”
  จวินอู๋เสียไม่อาจเปล่งคำพูดออกมาได้ การแยกจากครอบครัวเป็นเวลานานและในที่สุดก็ได้พบหน้ากัน ใครจะเข้าใจความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจนาง?
  “ปู่เจ้าบอกว่า ไม่ว่าศัตรูเจ้าจะเป็นใคร อย่าได้ทำให้ชื่อเสียงของตระกูลจวินเราต้องเสื่อมเสีย! กองทัพรุ่ยหลินสองหมื่นนาย ข้านำมาให้เจ้าแล้ว”
  จวินอู๋เสียสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก้าวเข้าไปกอดจวินชิงแน่น
  พันคำหมื่นคำก็ไม่อบอุ่นเท่าอ้อมกอดนี้
  จวินชิงยิ้มจนตาหยี เขาลูบหัวของจวินอู๋เสียและพูดเบาๆว่า “เจ้าเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของอาณาจักรล่างเราแล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กๆอยู่ได้ยังไง? อย่าให้คนอื่นหัวเราะเอาสิ”
  “ช่างมันสิ” จวินอู๋เสียไม่สนใจอะไรทั้งนั้น นางรู้แค่ว่านางคิดถึงอาของนางมาก คิดถึงท่านปู่ คิดถึงจวนอ๋องหลินที่ไม่ได้เห็นมานาน
  จวินชิงหัวเราะอย่างหมดคำพูด คนอื่นๆเบนสายตาออกไปอย่างรู้กาลเทศะ ไม่อยากจะรบกวนการพบกันที่แสนอบอุ่นของครอบครัว
ตอนที่ 1883 กองทัพศักดิ์สิทธิ์ (3)
  ฉูหลิงเย่ยืนยิ้มอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ และเมื่อจวินอู๋เสียออกจากอ้อมกอดของจวินชิง นางก็หันมาหาฉูหลิงเย่
  แม้ว่าจะเป็นจักรพรรดินีใจเพชร แต่ฉูหลิงเย่ก็ยังแสดงความประหม่าออกมา เมื่อถูกสายตาของจวินอู๋เสียจ้องมอง ดูเหมือนนางจะกลับไปเป็นคุณหนูของเมืองพันอสูรอีกครั้ง
  เจอกับสายตาเย็นชาคู่นั้นของจวินอู๋เสีย ฉูหลิงเย่ก็รู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย
  ทันใดนั้น จวินอู๋เสียก็โอบฉูหลิงเย่ที่สูงกว่านางครึ่งหัวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด และพูดด้วยเสียงนุ่มนวลว่า “ขอบคุณ” ฉูหลิงเย่ตัวแข็งค้างอยู่กับที่ หัวใจราวกับจะกระโจนออกมานอกอก สีหน้าตกใจขีดสุด พอได้สตินางก็ก้มหน้าลงและกอดตอบจวินอู๋เสีย
  “เป็นสิ่งที่หม่อมฉันควรทำเพคะ”
  กองทัพห้าหมื่นนาย นอกเหนือจากทัพรุ่ยหลินสองหมื่นนายแล้ว ที่เหลือถูกสร้างขึ้นจากกองกำลังชั้นยอดจากแคว้นต่างๆ หลังจากอาณาจักรล่างรวมตัวกัน คนเหล่านี้ก็ไม่มีการแบ่งเขตพรมแดนระหว่างแคว้นอีกต่อไป แต่อยู่ร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียว ฝึกวิชาร่วมกัน สนิทสนมกันราวพี่น้อง
  ฉูหลิงเย่และคนของตระกูลจวินช่วยชี้แนะและสอนทุกคนอย่างไม่หวงวิชา และครูที่เก่งที่สุดของกองทัพนี้ก็คือ จวินอู๋เหยา!
  ช่วงที่จวินอู๋เสียออกจากอาณาจักรล่าง แม้ว่าจวินอู๋เหยาจะหายตัวไปบ่อยครั้ง แต่เขาก็ยังใช้เวลาสิบวันในทุกๆเดือนช่วยชี้แนะการฝึกฝนให้กับคนของอาณาจักรล่าง จวินอู๋เสียและพวกของเฉียวฉู่ก็ก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดดภายใต้การชี้แนะของจวินอู๋เหยาไม่ใช่หรือ?
  แม้ว่าคนในกองทัพของอาณาจักรล่างจะไม่ได้มีพรสวรรค์แบบที่พวกของจวินอู๋เสียมี แต่ก็ยังมีคนเก่งๆอยู่เป็นจำนวนมาก ในช่วงเวลาสั้นๆแค่หนึ่งปี ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงในอาณาจักรล่างก็เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
  ช่องว่างระหว่างอาณาจักรล่างและอาณาจักรกลางใกล้เข้ามาด้วยความเร็วที่น่าตกใจ
  กองทัพที่ฉูหลิงเย่นำมาที่นี่ไม่ได้ด้อยไปกว่ากองทัพไหนในอาณาจักรกลางเลย อาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ!
  ผู้อาวุโสอิ่งและเยว่อี้ตกตะลึงกับทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าจวินอู๋เสียไปเรียกกองทัพที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาจากไหน ไม่ต้องพูดถึงจำนวนที่มหาศาลและความยิ่งใหญ่น่าประทับใจของพวกเขา แค่กลุ่มคนที่ออกมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสียก็เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่แท้จริงทั้งหมด!
  กองทัพนี้งอกออกมาจากที่ไหนกัน?
  ทั้งผู้อาวุโสอิ่งและเยว่อี้ต่างมีสีหน้าสับสนงุนงง ตอนแรกผู้อาวุโสอิ่งคิดว่าจวินอู๋เสียเป็นคนของราชอาณาจักรแห่งความมืด คนที่เขาคาดว่าจะมาย่อมต้องเป็นคนของราชอาณาจักรแห่งความมืดหรือไม่ก็กองทัพราตรี แต่เขาสามารถมองเห็นพลังวิญญาณของคนเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ใช่คนของราชอาณาจักรแห่งความมืด
  แต่กองทัพที่ใหญ่โตและมีจำนวนคนมากขนาดนี้ ถ้าอยู่ในอาณาจักรกลาง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครรู้ว่ามีพวกเขาอยู่ ดูจากออร่าอันแข็งแกร่งและระดับพลังของพวกเขา ก็เห็นได้ว่าพวกเขาไม่ใช่กองกำลังที่กลุ่มอำนาจทั่วๆไปจะสามารถสั่งการได้ สำหรับกองทัพที่ทรงพลังเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะหลุดรอดสายตาของสิบสองวิหารและเก้าอารามไปได้
  แต่กระนั้น ผู้อาวุโสอิ่งก็ไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับกองทัพเช่นนี้มาก่อนเลย
  “กองทัพรุ่ยหลิน” ที่จวินชิงเอ่ยถึงเมื่อกี้ก็เป็นสิ่งที่เขาไม่รู้อะไรเลย
  และสิ่งที่ทำให้ผู้อาวุโสอิ่งยิ่งตกใจมากขึ้นก็คือกองทัพขนาดใหญ่เช่นนี้อยู่ใต้คำสั่งของจวินอู๋เสีย ดูจากสายตาและท่าทางที่เคารพยำเกรงของพวกเขา ก็เห็นได้ว่าพวกเขาเคารพจวินอู๋เสียมากแค่ไหน การยกย่องจนเกือบจะเป็นคลั่งไคล้เช่นนี้เป็นสิ่งที่สิบสองวิหารไม่สามารถมีได้!
  สายตาของผู้อาวุโสอิ่งเลื่อนไปมองด้านหลังของจวินอู๋เสียโดยไม่รู้ตัว
  [เด็กสาวลึกลับที่ไม่รู้ที่มาคนนี้เป็นใครกัน?]
  [ทำไมนางถึงมีคนจากกองทัพราตรีของราชอาณาจักรแห่งความมืดอยู่ข้างกาย และมีกองทัพที่ลึกลับและแข็งแกร่งเช่นนี้!]
ตอนที่ 1884 คบคิดวางแผนการใหญ่ (1)
  กองทัพของอาณาจักรล่างถูกนำเข้าไปในวิหารเงาจันทรา วิหารเงาจันทราที่ว่างเปล่ามาระยะหนึ่งก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง
  จวินอู๋เสียมอบหน้าที่จัดการที่พักให้กับผู้อาวุโสอิ่ง ผู้อาวุโสอิ่งเผชิญหน้ากับเหล่าทหารที่องอาจห้าวหาญในชุดเกราะเบาทีละคน บนหน้าผากของเขามีเหงื่อออก
  โชคดีที่เขาเคยเป็นผู้อาวุโสของวิหารเงาจันทรา จึงเคยเห็นฉากใหญ่ๆเช่นนี้มาบ้าง แต่ไม่รู้ทำไม กองทัพที่เงียบและมีระเบียบวินัยสูงตรงหน้าเขานี้ถึงได้ทำให้เขารู้สึกถึงบรรยากาศนองเลือดอย่างรุนแรง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แสดงอารมณ์และไม่ได้ทำอะไรรุนแรงเลย ไม่เคยแสดงความไม่พอใจใดๆกับการจัดการของผู้อาวุโสอิ่ง และทำทุกอย่างที่ถูกบอกให้ทำ แต่……
  ผู้อาวุโสอิ่งอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าคนพวกนี้เหมือนเดินมากับเลือด แม้ว่าจะไม่มีกลิ่นเลือดบนร่างกายเลยแม้แต่น้อย แต่บรรยากาศเลือดเดือดที่ดูเหมือนจะซึมออกมาจากกระดูกของพวกเขาเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถเพิกเฉยได้
  “ลำบากท่านแล้ว” หลงฉีขอบคุณผู้อาวุโสอิ่งแทนทุกคน
  ผู้อาวุโสอิ่งฝืนหัวเราะ ชายตรงหน้าอายุแค่ 20 กว่าปี แต่พลังวิญญาณของเขาบรรลุถึงพลังวิญญาณสีม่วงขั้นสองแล้ว ออร่าที่ออกมาจากร่างของชายคนนี้แข็งแกร่งที่สุด
  “ไม่ต้องขอบคุณ พวกเจ้าเป็นคนของคุณหนูจวิน คุณหนูจวินช่วยเหลือข้าเอาไว้มาก นี่เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว” ผู้อาวุโสอิ่งพูดพลางหัวเราะ แม้ว่าเขาจะอยากรู้ที่มาของกองทัพนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
  อีกด้านหนึ่ง จวินชิง, ฉูหลิงเย่, เล่ยเฉิน และคนอื่นๆได้ตามจวินอู๋เสียมาที่เรือนเล็กของนาง เยว่เย่กำลังนั่งแกว่งเท้าน้อยๆสองข้างอยู่ริมสระน้ำพร้อมกับท่องหนังสือ เมื่อได้ยินเสียงนางก็หันหน้ามาพร้อมรอยยิ้มร่าเริง ตั้งใจที่จะทักทายอาจารย์ของนาง แต่สิ่งแรกที่นางเห็นเมื่อหันหน้ามาก็คือคนแปลกหน้ากลุ่มใหญ่……
  “อา……อาจารย์……” เยว่เย่ตัวแข็งทื่อ
  “เอ๋? อาจารย์? เจ้ารับศิษย์ด้วย” จวินชิงมองเยว่เย่ที่ตัวแข็งทื่อแล้วรู้สึกสนใจขึ้นมา
  จวินอู๋เสียพยักหน้า
  เยว่เย่ยังคงมึนงงnovel-lucky
  “นี่คือท่านอาของข้า” จวินอู๋เสียพูด
  เยว่เย่อ้าปากกว้าง แล้วรีบลุกขึ้นจากขอบสระไปยืนอยู่ด้านข้างสระน้ำอย่างร้อนรน ใบหน้าแดงก่ำด้วยความไม่สบายใจ
  “อา……อาจารย์ปู่น้อย……” เยว่เย่พูดตะกุกตะกัก
  นางทำให้ครอบครัวของอาจารย์เห็นนางในสภาพมอมแมมเลอะเทอะซะแล้ว!
  อาจารย์ปู่น้อย? จวินชิงพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินคำเรียกนั้น ยัยหนูนี่ดูเหมือนจะเรียกผิดใช่ไหม?
  แต่เมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำของเยว่เย่ จวินชิงก็มีน้ำใจมากพอที่จะไม่กระตุ้นเด็กสาวไปมากกว่านี้
  คนอื่นๆที่ยืนอยู่กับจวินอู๋เสียก็พากันแนะนำตัวเองและจ้องมองเยว่เย่ด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น ทุกคนอยากรู้กันมากว่าคนที่ทำให้จวินอู๋เสียยอมรับเป็นศิษย์ได้นั้นเป็นคนแบบไหน
  เยว่เย่พลันรู้สึกว่าตนกลายเป็นสัตว์อสูรหายากให้ผู้คนมามุงดู
  จนกระทั่งฉูหลิงเย่เอ่ยแนะนำตัวเอง ดวงตาของเยว่เย่ก็เบิกกว้าง จ้องมองจักรพรรดินีใจเพชรผู้เย็นชาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
  “ภรร……ภรรยาของ……อา……อาจารย์……” เด็กสาวผู้น่าสงสารตกใจจนติดอ่าง
  “อืม” จวินอู๋เสียยืนยันคำพูดของฉูหลิงเย่ด้วยท่าทางสงบนิ่ง
  เยว่เย่ทำสีหน้าตื่นตระหนก
  นางรู้สึกว่าฉูหลิงเย่มีบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครอยู่รอบตัว แม้ว่าจะเย็นชาเหมือนกัน แต่ก็แตกต่างจากอาจารย์ของนาง แต่ไม่คิดเลยว่า……
  ใบหน้าของเยว่เย่ยิ่งแดงขึ้นไปอีก
  “อาจารย์ พวกท่านคุยกันไปก่อน ข้าไปก่อนนะ” เยว่เย่หน้าแดง คำนับ “ผู้ใหญ่” ทุกคนอย่างน่ารัก
  “ได้” จวินอู๋เสียพยักหน้า
  เยว่เย่วิ่งหนีออกไปจากเรือนเล็กของจวินอู๋เสียราวกับติดจรวด
  ไม่ได้รู้เลย……