ตอนที่ 441

The Novel’s Extra

บทที่ 441 ตอนใหม่ (3)

 

Vast Expanse กระทืบเท้าลงบนพื้น เขาไม่จำเป็นต้องขยับตัวพลังของเขาแทรกซึมลงไปในพื้นดิน แผ่นดินก็พุ่งเข้าหาศัตรูของเขา บางครั้งมันก็แผ่กระจายไปทั่วท้องฟ้าเหมือนร่ม พรสวรรค์ของเขาสมบูรณ์แบบสำหรับการโจมตีและการป้องกัน Vast Expanse กลายเป็นหนึ่งเดียวกับโลกและต่อสู้กับ Chameleon Troupe

 

แต่ความแข็งแกร่งที่รวมกันของ Chameleon Troupe นั้นมีพลังที่ไม่ต่างกับพรสวรรค์ของ Vast Expanse เท่าไร ชอคจุนกยอง ทุบกำแพงดินของ Vast Expanse ด้วยความแข็งแกร่งและพลังของเขา บอสเผาดินด้วยเงาที่กลายเป็นเพลิงนรกของเธอ ฮิราโนะ อาราชิ โจมตีด้วยเวทมนตร์แห่งการทำลายล้าง สายเลือดของ เกอิต้า, หอกของ

จินโยฮานและมีดสั้นของเซนต์​ริน ต่างก็ฌจมตีเข้าใส่ Vast Expanse

 

การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป พลังเวทมนต์ประทะกันทำให้โลกและ

แผ่นดินต้องลุกเป็นเปลวไฟขนาดใหญ่จากระยะไกลมันดูราวกับว่ามีการจุดประทัดหลายสิบจุดติดกัน

 

“…ทำไมพวกเราไม่หยุดลงที่นี่”

 

พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ เมื่อการต่อสู้หยุดลงบอสขอให้ Vast Expanse หยุดก่อนที่จะเปิดทักษะขั้นสูงสุดของเธอออกมา

 

“พวกเราจะต้องหันไปใช้วิธีอื่นถ้าคุณยังขัดขวางพวกเราอยู่”

 

“….” Vast Expanse มองบอสอย่างเงียบๆทันใดนั้นเขาก็ยิ้มเบาๆ

“งั้นเองเหรอเด็กน้อยที่อยู่ข้างๆยียอนจุนโตขึ้นมากขนาดนี้แล้วเหรอ”

 

ยียอนจุน ชื่อของอดีตบอส บอสกำกำปั้นของเธอแน่นเพราะชื่อของเขามันทำให้เธอเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้ยิน

 

“เด็กน้อยทำไมเธอถึงต้องการเด็กหญิงคนนั้น?”

 

Vast Expanse ชี้ไปที่ยียูริที่อยู่ไม่ไกล

 

“พวกเราต้องการปกป้องเธอ”

 

“ปกป้อง?” ใบหน้าของ Vast Expanse เปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

“ตอนนี้เธอกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับบุคคลทางการเมือง เธอจะต้องถูกใช่ประโยชน์แบบนี้ต่อไปจนกว่าเธอจะตาย พวกเราอยากที่จะปกป้องเธอจากสิ่งนั้น”

 

“…และใครเป็นคนบอกเธอเรื่องนี้? ใช่เด็กที่เธอเรียกว่า ดอกบัวดำ หรือเปล่า?”

 

บอสพยักหน้า“ ใช่”

 

“ทำไมเขาถึงบอกเรื่องแบบนี้?”

 

“ฉันไม่รู้.”

 

“…เธอไม่รู้ทั้งแรงจูงใจและจุดประสงค์ของเขา แต่เธอก็ยังเต็มใจที่ทำตามคำขอของเขา” Vast Expanse ยิ้มอย่างดูหมิ่น

 

“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันสอน ยียอนจุน”

 

“…ฉันรู้” บอสส่ายหัวเธอ ความสัมพันธ์ระหว่างอดีตบอส – ยียองจุน – กับ Vast Expanse นั้นคือ ลูกศิษย์และอาจารย์

Vast Expanse สอน Vast Expanse เรื่องเกี่ยวกับความคิดของทหารรับจ้างซึ่งต่อมาได้ถูกส่งต่อให้กับบอส

 

“อย่างไรก็ตามนี่เป็นคำขอจากคนที่ฉันเป็นหนี้เขาไปตลอดชีวิต”

 

คำขอของคนที่มีค่าต่อเธอ ทุกคนมาที่นี่ในวันนี้มาด้วยเหตุผลเดียวกัน บอสไม่ได้บังคับให้พวกเขามีส่วนร่วมในภารกิจนี้ สมาชิกทุกคนมาด้วยความสมัครใจ ก่อนที่ทุกคนจะรู้ตัวคิมฮาจินก็ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของ Chameleon Troupe

 

“ฉันจะทำตามคำขอของเขา เพราะฉันไม่ใช่ Vast Expanse”

 

ใบหน้าของ Vast Expanse แข็งทื่อเมื่อได้ยินคำพูดของบอส เขาหาร่องรอยของศิษย์เก่าเขาบนใบหน้าของบอส ใบหน้าของเธอมีความมุ่งมั่นที่คล้ายกัน แต่ก็แตกต่างกัน ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มกว้างๆ

 

“…จุนวู วางดาบของเธอลงเถอะ”

 

คิมจุนวูวางดาบลง พลังเวทย์ของ Vast Expanse ก็ลดลงเช่นกัน

Vast Expanse วางแผนที่จะปล่อยให้ Chameleon Troupe จากไปและ Chameleon Troupe เองก็ไม่ปฏิเสธความเมตตาของเขา

 

“ขอบคุณ.”

 

“เธอไม่ต้องขอบคุณฉัน ฉันถอยเพียงเพราะเป้าหมายของพวกเราอยู่ในแนวทางเดียวกัน” Vast Expanse กล่าวขณะที่เขาหันหลังกลับ

“ฉันจะไปเยี่ยมเธอไม่นานนี้หรอกเพราะงั้นรักษาเด็กให้ปลอดภัยจนกว่าจะถึงวันนั้น”

 

เขาค่อยๆเดินจากไปจาก! และเขาหายไปจากสายตาของทุกคน

 

*************************************************************************

[บันทึกของ อคทรีน่า]

 

ทวีป อคทรีน่า นั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกับ ‘โลกแฟนตาซี’ ที่พบในนิยายต่างๆเหนือท้องฟ้าเป็นดาวบริวารที่เหมือนดวงจันทร์ 2 ดวงและดวงดาวนับไม่ถ้วน ความกว้างใหญ่มันที่ส่องทสว่างบนท้องฟ้าที่มืดมิด ผมเดินท่ามกลางทิวทัศน์ที่แปลกประหลาดแต่สวยงาม

 

[เป้าหมายแรก – ไปถึงเมืองหลวง พัลซาร์]

 

หน้าต่างป๊อปอัปที่ปรากฏต่อหน้าผมประกาศเป้าหมายแรกของพวกเรา

ผมเดินต่อไปโดยมีหน้าต่างนี้อยู่ที่มุมขวาบนของผม

 

พวกเราเดินต่อไปประมาณครึ่งวันโดยตามหนังสือแห่งสัจธรรม

 

“…อืมมมมม.”

 

วันใหม่เริ่มขึ้นและดวงอาทิตย์ก็อยู่เหนือหัวพวกเราแล้ว พวกเรามองเห็นกำแพงได้จากในระยะไกล แต่มันได้รับความเสียหายอย่างน่ากลัวและไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ผมตรวจสอบข้อมูลแล้ว

 

===

[กำแพงด้านนอกแห่งพัลซาร์]

– กำแพงด้านนอกของ ‘พัลซาร์’ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของ พัลซาร์ มันถูกทำลายในสงคราม

===

 

“นี่คือผนังด้านนอกของ พัลซาร์”

 

ผมอ่านข้อมูลให้กับ จินซาฮยอค ที่ติดตามผมจากด้านหลัง ดวงตาเธอเบิกกว้างแล้วตรวจสอบกำแพง

 

“…นายพูดถูก.”

 

พวกเราหยุดอยู่ตรงหน้ากำแพง พวกเราเห็นซากปรักหักพังเหนือกำแพงที่ถูกทำลาย คราบเลือดย้อมเป็นสีแดงปนดำและกลิ่นที่น่ารังเกียจของซากศพสะท้อนออกมา มันดูน่ากลัวอย่างแท้จริง

 

“ภายในปี 555 ทั้งทวีปอยู่ในซากปรักหักพัง สงครามจำนวนมาก

พัดผ่านทวีปราวกับพายุและมอนสเตอร์ก็บุกเข้ามาก่อนที่พวกเราจะฟื้นตัวหลังจากสงคราม ในปี 555 สถานที่แห่งเดียวใน พัลซาร์ ที่ยังคงไม่พังทลายคืออาณาเขตของ เคาร์ชูเบิร์ท ซึ่งพวกเราเพิ่งผ่านไปและ

ที่นั้นกับเมืองหลวงกำลังขัดแย้งกัน”

 

จินซาฮยอค อธิบายให้ผมฟังถึงเหตุผลเบื้องหลังการมุมมองเห็นที่

น่าเบื่อนี้ ตอนนี้เธอแตกต่างอย่างชัดเจนจากที่โลก บางที

‘ตราประทับแห่งความทรงจำ’ ของเธออาจอ่อนแอลง

 

“เอาล่ะไปกันเถอะ”

 

“… .”

 

พวกเราเดินผ่านกำแพงที่แตกสลาย ไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตภายในมีเพียงบ้านเท่านั้นที่ถูกทำลายและร่างของผู้อยู่อาศัยกับทหารที่ปกป้องเมืองจนตัวตาย

 

“ดูเหมือนว่ากำแพงจะพังทลายลงมาเร็วๆนี้ละ”

 

ตัดสินจากรูปการ์ณที่นี่ผ่านมาไม่ถึง 1 สัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่เกิดเหตุจินซาฮยอค พยักหน้าในเรื่องนี้

 

“น่าจะเป็นแบบนั้น. ต้องมีการต่อสู้เมื่อไม่นานมานี้ …เฮ้ นายวางแผนจะทำอะไรที่นี่?”

 

ผมรู้สึกตะลึงคำถามของจินซาฮยอค ‘เธอไม่เข้าใจสถานการณ์งั้นเหรอ’ แทนที่จะโกรธผมก็ถอนหายใจแล้ววางมือลงบนไหล่ของจินซาฮยอค

 

“ทำไมเธอถึงถามฉันแบบนั้น? เธอคือคนที่ลากฉันมาที่นี่นะ”

 

“… .”

 

ใบหน้าของ จินซาฮยอค เหยเก เธอมองมาที่ผมด้วยดวงตาที่แหลมคม

 

“มันถึงเวลาที่นายจะแสดงตัวได้แล้ว”

 

“อะไรนะ? เธอพูดบ้าอะไร”

 

ในเวลานั้น ตึก,ตึก เสียงควบสัตว์ดังขึ้น แม้เสียงจะมาจากม้าหลายตัว แต่มันก็ฟังดูอ่อนกำลังด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมหันไปยังทิศทางของเสียง

 

กองทัพทหารม้าประมาณ 300 คนกำลังเข้ามาใกล้พวกเราพร้อมธงชาติ แต่ม้าของกองทัพอยู่ในสภาพแย่มาก ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว….แน่นอนมันเข้าใจได้ง่ายๆ สุดท้ายแล้วสิ่งมีชีวิตในทวีป อคทรีน่า ก็ใกล้จะสูญพันธุ์เพราะสภาพความเป็นอยู่ของมันก็แทบจะเป็นสันทราย

 

“… เจ้าวายร้าย!”

 

ด้วยเสียงโห่ร้องขนาดใหญ่กองทัพก็มาถึงหน้าพวกเรา แต่ทันทีที่

พวกเขาเห็นเสื้อผ้าที่ผิดปกติของพวกเรา พวกเขาก็งุนงง ในขณะเดียวกันจินซาฮยอค พยายามพูดราวกับว่าเธอเป็นกษัตริย์ของพวกเขา

 

“หืมม เจ้าพวกโง่เขลา พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าพูดอยู่กับใคร”

 

“เงียบๆซะ เธอไม่ใช่ราชาในตอนนี้”

 

“… .”

 

จินซาฮยอค เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าผมหมายถึงอะไร เธอมองพวกเขาพร้อมดวงตาที่เปิดกว้าง

 

ท่ามกลางทหารมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆในชุดเกราะหลวมๆ เธอดูอายุไม่เกิน 10 ปี เธอตัวเล็กที่สุด แต่เธอขี่ม้าที่สูงที่สุด

 

“ …โอ้โห โอ้โห”

 

หญิงสาวเดินมาข้างหน้าอย่างช้าๆบนม้าของเธอ พวกเราจ้องมองไปที่เด็กคนนั้น

 

ที่จริงแล้วเธอดูเหมือนจินซาฮยอคที่อายุลง 15 ปี ในเวลานี้พวกเธอดูแตกต่างกันนิดหน่อยเพราะผู้หญิงคนนี้ผมสีบลอนด์และตาสีฟ้า

 

“พวกเจ้าเป็นใคร?” เด็กหญิงสาวผู้น่ารักเหมือนตุ๊กตาถามขณะที่เธอพยายามรักษาความสงบของเธอ ผมเห็นประกายไฟและความดื้อรั้นในสายตาของเธอแม้จะอยู่ไกลๆ

 

ผมมองไปที่ จินซาฮยอค เธอมองผู้ปกครองของ พัลซาร์ ด้วยความงุนงง

การเผชิญหน้ากับอดีตเป็นยังไง แน่นอนว่าผมเองก็ไม่รู้

 

“ตอบฉัน. ถ้าพวกเจ้าไม่ -!”

 

ม้ากระโดดเหมือนกษัตริย์ตัวน้อยที่กำลังจะตะโกน

 

“ว้า…..ว้าย เป็นอะไรไป….”

 

อัศวินลงจากหลังม้าเพื่อกุมบังเหียนของเธอ จากนั้นกษัตริย์ตัวน้อยก็มองพวกเราอีกครั้ง

 

“เปิดเผยตัวตนของพวกเจ้าออกมา ชูเบิร์ทส่งพวกเจ้ามาหรือเปล่า และอธิบายชุดของพวกเจ้าด้วย”

 

“ไม่ พวกเราเป็น….”

 

ผมจ้องมองจินซาฮยอค อย่างไรก็ตามเธอพูดไม่ได้

 

“พวกเรามาจากพระวิหาร”

 

“วิหาร?”

 

“ใช่.”

 

เป็นธรรมดาที่ อัศวิน จะไม่เชื่อผม

 

“พวกโง่! พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเจ้ากำลังโกหกใครอยู่…?”

 

การกระทำดีกว่าคำพูด ผมแสดงหลักฐานให้พวกเขาเห็น การรวมตัวของพลังศักดิ์สิทธิ์โดยใช้รอยสัก อัศวินจ้องมองไปที่ก้อนพลังสีขาวที่พุ่งขึ้นมาจากฝ่ามือของผม จากนั้นแสงก็บินไปที่ทหารเผื่อรักษาอาการบาดเจ็บในทันที

 

“อะ-อา บาดแผลของฉันหายไปแล้ว!”

 

“เพียงพอหรือไม่”

 

ผมพูดกับพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่สุภาพ ทันใดนั้นเสียงแห่งความสุขก็ดังขึ้นจากเด็กน้อย จินซาฮยอค

 

“งั้นวิหารก็ไม่ได้ถูกทำลาย”

 

ผมมองดู หนู จินซาฮยอค รอยยิ้มและดวงตาของเธอปรากฏว่าไม่มีประสบการณ์สำหรับการเป็นราชา

 

*************************************************************************

 

พวกเราเดินเข้าไปในผนังด้านในของเมืองภายใต้ขบวนทหารอัศวิน อย่างไรก็ตามเมืองไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดี กำแพงสึกกร่อนและผู้คนอดอยาก พวกเขาให้ความสนใจเพียงเล็กน้อยต่อพระราชาที่ผ่านไป

 

“…ในปี 555 ความหวังได้ผ่านพ้นไปแล้ว”

 

ตอนนี้พวกเราอยู่ในห้องพักที่วัง พัลซาร์

 

“ฉันสูญเสียบางสิ่งที่ฉันรักท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองและ

ผู้รับใช้ที่ทำให้อาหารและของมีค่าวิ่งหนีไป เงินกองทุนและร้านค้าของรัฐกำลังว่างเปล่าคนใช้ของฉันก็หายไปทีละคน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเขาหักหลัง วันหนึ่งฉันตื่นขึ้นมาและพบว่าสิ่งที่ได้จากฉันไปคืออัศวินผู้สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อฉัน”

 

ในห้องที่มีระเบียบเรียบร้อยและมีเตียงขนาดใหญ่ 2 เตียง จินซาฮยอค พูดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์

 

“และ 2 ปีต่อมาในปี 557 ฉันเสียชีวิตขณะวิ่งหนีจากมอนสเตอร์และ

ชูเบิร์ท”

 

“ส่วนอัศวินคนสุดท้ายที่เธฮอยู่ด้วยคือคิมซูโฮ?”

 

จินซาฮยอค ปล่อยเสียง หึ ออกมา

 

“เขาไม่ใช่อัศวินของฉัน พวกเขาทั้งหมดตายและเขาเป็นเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตมาจริงๆแล้วคิมซูโฮก็ต้องมาที่นี่ด้วย”

 

“…อะไรทำให้เธอคิดแบบนั้น.”

 

ผมนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง ตอนใหม่เริ่มขึ้นแล้ว ผมไม่ควรมองข้าม ตอนนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด

 

หนึ่งในรางวัลสำหรับตอนนี้คือ [คริสตัลบริสุทธิ์] เหลือเวลาอีกไม่นานก่อนที่โลกจะเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นอาณาจักรอสูร ผมไม่ได้บอกใบ้ถึงวิธีที่จะหยุดการเปลี่ยนแปลงนี้ในเนื้อเรื่องเดิมและตอนนี้ผู้สร้างก็เสนอทางออกให้ฉัน ‘คริสตัลบริสุทธิ์’ อาจเป็นไอเท็มที่สามารถชำระล้างและหยุดการเปลี่ยนแปลงของอาณาจักรแห่งอสูรลงได้

——————————-2——————————