บทที่334
ผู้แปล : N.
“ได้สิ” ลูชินได้ตอบกลับมาอย่างง่ายๆ
ก่อนหน้านี้เขาได้สงสัยว่าแฟนนี่อาจจะเป็นสายลับที่ส่งมาจากบริษัทคู่แข่ง ดังนั้นในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาเขาจึงได้ทำการสั่งให้เซียวไบทำการตรวจเธออย่างละเอียด แต่ผลที่ได้กับเป็นเรื่องธรรมดาและไม่มีสิ่งที่น่าสงสัยเลย
นอกจากงานขับเครื่องบินสวนตัวให้กับลูชินแล้ว เธอไม่เคยแสดงความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกของบริษัทของเขาเลย ดังนั้นเขาจึงได้สั่งให้เซียวไบหยุดการสืบสวนของเธอเอาไว้ก่อน
“คุณลู! คุณจะต้องรู้สึกตื่นเต้นกับสถานที่ที่ฉันจะพาไปอย่างแน่นอน!” แฟนนี่ได้แสดงรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ออกมา
เธอได้พาลูชินไปเยี่ยมชมตามจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในนิวยอร์ก ตลอดการเที่ยวชมครั้งนี้พวกเขาทั้งสองต่างก็ได้ภาพถ่ายจำนวนมาก
วอสตรีสซึ่งเป็นถนนทางตอนใต้ของแมนฮัตตัน ที่มีทางทอดตัวจากบรอดเวย์ไปจนถึงแม่น้ำอีสต์เตอร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในสามของความยาวหนึ่งไมล์และกว้างสิบเอ็ดเมตร มันเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่มีชื่อเสียงระดับโลก และมีสำนักงานใหญ่จำนวนมากที่ตั้งอยู่ที่นี่
ลูชินและแฟนนี่ได้เดินผ่านถนนที่แออัดนี่ ก่อนที่แฟนนี่จะชี้ไปที่ตึกสูงถัดจากเขาและพูดว่า: “คุณลู! คุณรู้ไหมว่าถ้าคนที่นี่รู้จักตัวตนของคุณ บางทีพวกเขาอาจจะกระโดดจากชั้นบนเพื่อมาต่อสู้กับคุณโดยตรง! “
ที่เป็นแบบนี้ก็เนื่องมาจากการที่บริษัทลู่เทคโนโลยีเข้ามาเปิดตลาดยังอเมริกาเหนือในครั้งนี้ ทำให้จำนวนทรัพย์สินของนายทุนหดตัวลงอย่างมาก และยังมีข่าวลือว่าได้มีเจ้านายใหญ่บางคนที่เสียผลประโยชน์ในครั้งนี้ ได้ทำการจ้างนักฆ่าในเครือข่ายใต้ดิน เพื่อทำการฆ่าประธานบริษัทลู่เทคโนโลยี แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ถึงตอนนี้ลูชินยังไม่เคยเจอมาก่อน
“ ฮาฮาฮา! แล้วเธอสนใจอยากจะร่วมต่อสู้กับฉันในครั้งนี้ไหม?” ลูชินได้ถามกลับมาอย่างยิ้มๆ
“ฉันไม่กลัว! ฉันจะบอกความลับให้นะ! ฉันได้เรียนกังฟูจากวัดเส้าหลินมาเมื่อไม่นานมานี้!” พูดจบแฟนนี่ก็ได้ทำท่าเลียนแบบของบรูซลีและตะโกนว่า: “เข้ามาเลย พวกคนเลว!”
“ ฮาฮาฮา” ลูชินที่เห็นท่าทางนี้ของแฟนนี่ก็ได้หลุดหัวเราะออกมา
ทั้งสองยังคงเดินเล่นต่อไป และหลังจากออกจากวอสตรีส พวกเขาก็เดินมาถึงถนนแห่งหนึ่งก่อนที่พวกเขาจะได้เห็นขบวนพาเหรดเต็มถนน
ลูชินที่ไม่เคยเห็นขบวนพาเหรดแบบนี้มาก่อนในประเทศจีน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสนใจเรื่องนี้อย่างมาก เขายังได้สังเกตว่าขบวนพาเหรดนี้ได้แต่งตัวเป็นโมเดล “รถถังเคลื่อนที่” ที่ทำมาจากกระดาษแข็ง
และในช่วงกลางของขบวนพาเหรดนี้ก็ได้มีโมเดลที่คล้ายโทรศัพท์มือถือของเขาอยู่ และยังมีโมเดลตัวกระบอกปืนที่ทำท่าทางจะเล็งมาทำลายตัวโทรศัพท์มือถือนี้
“พวกเขากำลังทำอะไรกัน?” ลูชินถามด้วยความประหลาดใจ
“นี่ … ” การแสดงออกของแฟนนี่นั้นดูลำบากใจอย่างมาก เธอยังได้แสดงสีหน้าโกรธออกมาเล็กน้อยด้วย
“นี่….คือ … มันเรียกว่าการเดินประท้วง” เสียงของแฟนนี่ได้เบาลงเล็ก และในสถานที่ที่พวกเขาอยู่นี้ก็มีเสียงดังมาก ดังนั้นลูชินจึงไม่ได้ยินประโยชน์นั้นของแฟนนี่ชัดเจน
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้เปิดตัวฟังก์ชั่นการแปลอัตโนมัติของแว่นตาอัจฉริยะ และตรวจจับคำพูดโดยรอบอีกครั้ง ก่อนที่ตัวฟังก์ชั่นจะทำการแปลภาษาอื่นมาเป็นภาษาจีน
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าพวกนั้นเดินขบวนกันทำไม จากเนื้อหาที่เขาได้ฟังมานั้นเป็นอะไรที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินมาก่อน
“เราต้องต่อต้านการรุกรานของผลิตภัณฑ์จากประเทศจีน! เราอย่าปล่อยให้พวกนั้นมีโอกาสเข้ามายังประเทศเราได้!”
ด้านหน้าของเขา ชายผิวดำได้โบกมือแล้วตะโกนว่า: “ผลิตภัณฑ์ของพวกคนจีนนั้นเป็นขยะ มันได้ดูดเงินของเราไป และยังได้แย่งงานของเราไปอีกด้วย! ดังนั้นเราจะต้องร่วมใจกันต่อต้านผลิตภัณฑ์ของจีนและทำการคว่ำบาตรพวกนั้น!”
ยังมีคนอีกมากที่ต่างก็ตะโกนสิ่งที่คล้ายกันออกมา แฟนนี่ที่เห็นแบบนั้นก็รีบสังเกตลูชินทันทีว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่
โชคดีที่ลูชินไม่ได้แสดงอารมณ์โกรธออกมา กลับกันเขาได้แสดงรอยยิ้มขี้เล่นออกมาแทน เธอที่เห็นแบบนี้ก็รู้สึกผ่อนคลายออกมาได้เล็กน้อย
เมื่อกี้นี้เธอยังกลัวว่าลูชินจะแสดงความโกรธออกมา และนั้นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันที
ทางลูชินเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาไม่คิดว่าจะเจอขบวนพาเหรดแบบนี้ เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าการที่บริษัทของเขาได้เข้ามายังประเทศสหรัฐ จะทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ขบวนพาเหรดค่อยๆเข้าหาพวกเขามากขึ้น และในเส้นทางการเดินขบวนนี้ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นจำนวนมาก
“โอ้! มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกละ?” นักท่องเที่ยวที่อยู่ถัดจากลูชินไปไม่ไกลได้กระซิบถามเพื่อนที่มาด้วยกัน
“ถ้าฉันฟังไม่ผิด ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ต้องการให้ประเทศจีนเข้ามายังประเทศตัวเอง!”
“เออ! คุณลู! คุณไม่จำเป็นต้องเก็บเรื่องนี้มาใส่ใจหรอกนะค่ะ !” แฟนนี่ได้รีบอธิบายให้ลูชินฟังว่า “ในความเป็นจริงคนส่วนใหญ่ไม่ได้มีอคติกับเรื่องนี้เลย และดูเหมือนว่าจะมีหลายคนด้วยซ้ำชอบผลิตภัณฑ์ของคุณ!”
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มออกมา: “ฮาฮาฮา! เธอไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ฉันฟังหรอก ฉันเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ดี “
“คุณไม่ได้โกรธพวกเขาเหรอ?” แฟนนี่มองลูชินอย่างสงสัย เธอไม่เข้าใจว่าชายคนนี้คิดอะไรอยู่ หากเป็นเธอที่เจอกับสถานการณ์แบบนี้ เธอคงจะตะโกนออกไปด้วยความโกรธแล้ว
“ แล้วทำไมฉันถึงต้องโมโหละ?” ลูชินยังได้พูดต่อว่า “ และการที่พวกเขาออกมาเดินขบวนพาเหรดแบบนี้ ยังถือว่าเป็นการช่วยโฆษณาให้กับบริษัทของฉันไปในตัวด้วย”
“ ยิ่งไปกว่านั้น การที่บริษัทลู่เทคโนโลยีของฉันแข็งแกร่งแบบนี้ มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะมีคนเสียผลประโยชน์”
“ แต่ที่ฉันอยากรู้ก็คือ ทำไม่คนพวกนี้ถึงต้องเล็งมาที่ผลิตภัณฑ์ของฉัน?”
แฟนนี่ที่ได้ฟังแบบนั้นก็รีบพูดว่า: “เรื่องนั้นฉันคิดว่าพอจะช่วยคุณได้”
เธอพูดจบก็หันไปยังขบวนพาเหรดแล้วตะโกนว่า: “ไอแซค! ไอแซค!”
ชายผิวขาวร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง ได้ยินคนเรียกชื่อของตัวเองก็ได้หันไปยังต้นทางของเสียงทันที และเขาที่เห็นว่าเป็นใครที่เรียกเขาก็ตะโกนกลับว่า: “โอ้พระเจ้า! นั้นใช้แฟนนี่ไหม?!”
เดิมทีคนผิวขาวคนนี้ได้ถือป้ายที่ว่า “ปกป้องความเป็นส่วนตัว และปฏิเสธโทรศัพท์มือถือจากประเทศจีน” ในเวลานี้เขาได้มอบป้ายที่เขาถืออยู่ให้กับเพื่อนที่อยู่ด้านข้าง ก่อนที่เขาจะได้เดินแยกออกมาจากกลุ่มเพื่อมาหาแฟนนี่
ไอแซคนั้นเป็นคนที่มีความสูงถึงหนึ่งเมตรแปดสิบ จมูกของเขานั้นเหมือนกับตะขอ เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้พบแฟนนี่ที่นี่ “แฟนนี่! ฉันไม่คิดว่าจะได้พบเธอที่นี่ ต้องเป็นพรจากเทพแห่งโชคแน่นอนที่ทำให้ฉันเจอเธออีกครั้ง! แล้วนี้เธอไม่ได้อยู่ที่ประเทศจีนเหรอ?”
แฟนนี่ที่ได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มออกมา “ตอนนี้ฉันกลับมาพักที่นิวยอร์กนะ”
“เยี่ยมเลย! งั้นเราไปหาอะไรดื่นกันช่วงกลางคืนกันไหม?” ไอแซคถามออกมาอย่างมีความหวัง
แฟนนี่ที่ได้ฟังแบบนั้นก็ไม่ได้ตอบกลับไปทันที เธอเลือกมองไปลูชินเล็กน้อยก่อนที่จะตอบกลับว่า “ฉันขอโทษนายด้วย! พอดีว่าฉันยังมีงานที่ต้องทำนะ”
“เป็นเรื่องน่าเศร้าจริง! แล้วคุณเป็นใคร?” ไอแซคมองไปที่ลูชินด้วยความระมัดระวัง ลูชินเห็นถึงความเกลียดชังที่ไอแซคแสดงออกมาให้กับเขาอย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะชอบแฟนนี่เข้าอย่างจัง
“นี่คือเพื่อนของฉัน เขาชื่อว่าลูชิน” แฟนนี่ได้แนะนำลูชินสั้นๆ ก่อนที่เธอจะถามว่า: “ไอแซค! คุณไปทำอะไรมา? ทำไมคุณถึงมาร่วมเดินขบวนพาหรดนี้ได้กัน?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ไอแซคก็พูดด้วยความตื่นเต้น: “แน่นอนว่ามันเป็นเพราะนโยบายใหม่ที่น่ากลัวนี้!”