เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 610
……

หลังจากหยางเฟิงและคนอื่น ๆ ออกไปได้ไม่นาน

เหลิงฉานและคนอื่น ๆ ก็บุกออกจากเส้นทางสุสาน มาถึงปากทางหุบเขาแล้ว

“นี่……”

มองเห็นฉากที่อยู่ด้านหน้านี้

เหลิงฉานและคนอื่น ๆ ต่างก็ถูกทำให้ตะลึงแล้ว

ทุกคนคิดไม่ถึง

สุสานนี้คิดไม่ถึงว่าจะมีถ้ำสวรรค์อื่น

ดูแล้วสุสานของเย่เวิ่นคนนี้ไม่สามารถดูถูกได้จริง ๆ !

หลี่ซู่ตรวจดูรอยเท้าของหยางเฟิงและคนอื่น ๆ ที่ทิ้งไว้เล็กน้อยแล้ว เดินมาถึงด้านข้างเหลิงฉานพูดว่า“ผู้คุมกฎใหญ่ เอาตามร่องรอยหยางเฟิงและคนอื่น ๆ น่าจะออกไปได้ไม่นาน พวกเราจะไล่ตามขึ้นไปหรือเปล่า?”

เหลิงฉานไม่ได้ตอบคำถามของหลี่ซู่แต่มองประเมินหุบเขาเล็กน้อยแล้ว พูดถอนใจว่า“คิดไม่ถึงจริง ๆ ส่วนที่ลึกของสุสานนี้คิดไม่ถึงว่าจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างนี้ ปีนั้นเย่เวิ่นนี่หาสถานที่ฝังกระดูกให้ตัวเองได้เก่งจริง ๆ ”

ยุคเย่เวิ่นใกล้ยุคปรมาจารย์หมัดหย่งชุนในปัจจุบัน

ผลกระทบต่อยุคใกล้โลกบู๊ปัจจุบันมีความลึกซึ้งและห่างไกลมาก

ต้องรู้ว่าสองสามร้อยปีก่อนสาวตะวันออกเฉียงเหนือล่วงล้ำที่ราบกลางจริง ๆ

ต้าเซี่ยดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็แผ่นดินทรุดนับจากนี้

หนึ่งร้อยปีก่อนประเทศมหาอำนาจยิ่งข่มเหงรังแกต้าเซี่ย

ในยุคสมัยที่ประเทศล่มสลายครอบครัวถูกทำลายนั้น

นักบู๊มากมายลุกขึ้นต่อสู้ต้านทานศัตรูด้านนอก เขียนประพันธ์แต่ละบทเพลงเรื่องราวที่น่าสรรเสริญประทับใจแล้ว

และในยุคสมัยสงครามที่วุ่นวายนั้น

ก็คือเวลาที่โลกบู๊ของต้าเซี่ยเจริญรุ่งเรืองมากที่สุด

ปรมาจารย์บู๊แต่ละชนิดปรากฏอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งอาจารย์ของสมัยนั้นต่างก็เป็นอาจารย์ที่แท้จริง

ไม่เหมือนตอนนี้ถึงแม้คนมากมายเรียกตัวเองว่าบรรลุปรมาจารย์บู๊

แต่เนื่องจากโลกบู๊ของต้าเซี่ยพบเจอการเปลี่ยนแปลงที่วุ่นวายมากนับสิบปีแล้ว

ส่งผลทำให้ขาดชั้นการถ่ายทอดเลยโดยตรง

วันนี้ปรมาจารย์บู๊มากมายก็เพียงแค่เป็นปรมาจารย์เท่านั้น!

และเย่เวิ่นก็คือคนเก่งที่โปรดปรานของปรมาจารย์บู๊ในช่วงเวลาที่เจริญรุ่งเรืองของโลกบู๊นั่น

พูดกันว่าได้บรรลุศิลปะการต่อสู้ก้าวที่สองแล้ว!

ศิลปะการต่อสู้ก้าวที่สองนั่นเป็นแดนความใฝ่ฝันของนักบู๊นับไม่ถ้วนที่ต้องการไปถึง

ผู้แข็งแกร่งปรมาจารย์ใหญ่สูงสุดมากมาย สืบเสาะทั้งชีวิตต่างก็ยากที่จะเข้าใจ

ถึงแม้เป็นเหลิงฉานเอง แม้ว่าสิบปีก่อนก็ได้บรรลุแดนปรมาจารย์ใหญ่สูงสุดแล้ว

แต่ก้าวที่สองนี่สำหรับเขาแล้วไม่มีที่สิ้นสุดมาตลอด

ครั้งนี้มาหมู่บ้านตระกูลเย่

นอกจากแย่งชิงชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกรแล้ว

เขาก็คืออยากที่จะได้รับการถ่ายทอดของเย่เวิ่นหมัดหย่งชุน

ถ้าหากสามารถได้รับการถ่ายทอดของหมัดหย่งชุน อาจจะสามารถบรรลุก้าวที่สองได้!

นี่ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้

พูดกันว่า

หลี่เสียวหลงเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของเย่เวิ่นที่มีชื่อเสียงที่สุด!

ก็เพราะได้รับการถ่ายทอดอย่างแท้จริงจากหมัดหย่งชุนแล้ว

อายุน้อยก็บรรลุศิลปะการต่อสู้ก้าวที่สองแล้ว

เอาชนะผู้แข็งแกร่งนานาชาตินับไม่ถ้วน เพลิดเพลินกับชื่อเสียงทั่วโลก!

ศิลปะการต่อสู้ก้าวที่สอง!

คิดถึงที่นี่

บนหน้าของเหลิงฉานเปิดเผยความร้อนรุ่มออกมา

ครั้งนี้ไม่ว่ายังไง

นอกจากชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกร การถ่อยทอดของหมัดหย่งชุนเขาก็จะต้องเอามาให้ได้!

มองเห็นเหลิงฉานไม่พูด

หลี่ซู่อดไม่ได้ที่จะพูดว่า“ผู้คุมกฎใหญ่!”

เหลิงฉานหันหน้ามา มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า“นายร้อนรนอะไร? รอกุ่ยเหมินคนพวกนั้นคนก็ไม่เหมือนคนผีก็ไม่เหมือนผีมาแล้วค่อยว่ากัน อย่างพวกเราเองบุกเข้าไปก็ส่งไปให้หยางเฟิงฆ่าตายเหรอ?”

ได้ยิน

หลี่ซู่ก็ไม่พูดมากต่อไปอีก

ถ้าหากตัวเองพูดมากอีกจะต้องหาเรื่องให้เหลิงฉานดุด่าแน่นอน

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

ไม่ได้ให้เหลิงฉานรอนานมากไป

เงาร่างแต่ละคนพุ่งออกมาจากที่ลึกของเส้นทางสุสานแล้ว

เป็นคนกุ่ยเหมินนั่นเอง!

“ฮึ ๆ !”

ผู้คุมกฎสิบหัวเราะแปลกประหลาดเสียงหนึ่ง“เหลิงฉาน คิดไม่ถึงว่าคุณจะมาถึงก่อนผมแล้ว!”

เหลิงฉานมองตาขาวใส่ผู้คุมกฎสิบแวบหนึ่ง พูดอย่างอารมณ์เสียว่า“ไม่ต้องพูดมากแล้ว หยางเฟิงและคนอื่น ๆ ได้เข้าไปในหุบเขาก่อนแล้ว พูดมากอีกก็ไม่เหลืออะไรแล้ว!”

ได้ยินคำพูดของเหลิงฉาน

สีหน้าของผู้คุมกฎสิบเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา

“คุณพูดถูก! พลังหยางเฟิงนี่แข็งแกร่งอย่างนี้ให้เขาได้รับชิ้นส่วนม้วนภาพมกุฎมังกรอีก เกรงว่าต่างก็เป็นภัยพิบัติสำหรับศูนย์พันธมิตรบู๊กับกุ่ยเหมินแล้ว!”