หากได้รับบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย ก็ยังพอพูดได้ว่าพวกเขาปะทะกันเล็กน้อย แต่ตอนนี้ทั้งสองคนปกติดี แต่จ้าวหยางถูกทารุณกรรมอย่างหนัก ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าพวกเขา ‘เกิดการปะทะกันเล็กน้อย’
ทั้งหมดเข้าไปในลิฟต์ เซียวจิ่งหยิบโทรศัพท์ออกมาจะโทรออก ขณะที่ตำรวจนายหนึ่งจับมือเขาไว้ พร้อมกับกล่าวว่า “ท่านครับ โปรดให้ความร่วมมือกับเราด้วยครับ”
เซียวจิ่งมองหน้านายตำรวจคนนั้น ยักไหล่ แล้วเก็บโทรศัพท์พร้อมกับยิ้ม กล่าวว่า “ผมจะโทรหาทนายของผม แต่ในเมื่อไม่ได้รับอนุญาต ผมก็จะไม่โทร”
ตำรวจเหลือบมองเขาเป็นเชิงเตือนแล้วหันกลับไป เซียวจิ่งเก็บโทรศัพท์พลางจ้องหน้าหนิงเหยี่ยน “ไอ้บ้าเอ๊ย ทำไมนายถึงหุนหันพลันแล่นอย่างนี้”
หนิงเหยี่ยนขมวดคิ้ว “ฉันจำได้ว่านายเป็นคนพามันเข้ามาในห้องฉัน แล้วจะให้ฉันทำยังไงกับมัน นอกจากซ้อมมัน” เขากล่าวออกมาดังๆ
เซียวจิ่งหรี่หางตาลง บอกว่า “เออ ช่วยลดเสียงลงหน่อยได้ไหม”
ถ้าคุณพ่อกับพี่ใหญ่รู้ว่าเขาถูกตำรวจจับ เขาต้องโดนทำโทษแน่! พระเจ้า เขาไม่ควรเข้ามายุ่งกับเรื่องของหนิงเหยี่ยนเลย!
เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วในตอนนี้!
หนิงเหยี่ยนตะคอกอย่างไม่เกรงกลัวอะไร “พวกเขาไม่เข้าใจภาษาจีน!”
เซียวจิ่งอึ้ง “…” เออ นายพูดถูก!
“หุบปาก!” จู่ๆ ตำรวจนายหนึ่งก็ตะตอกใส่พวกเขาเป็นภาษาจีน!
เซียวจิ่งอึ้ง “…” ยังคงหรี่ตามอง
หนิงเหยี่ยนกล่าวว่า “…ฮ่าๆ ภาษาจีนของคุณดีมาก” บัดซบ! ทำไมตำรวจฝรั่งเศสพูดจีนเก่งอย่างนี้วะ! เขาสนใจวัฒนธรรมจีนหรือไง!
จ้าวหยางซึ่งตำรวจยังคงหิ้วปีกไว้ หันหลังกลับไปมองหนิงเหยี่ยนแล้วยิ้มอย่างสบายใจ หนิงเหยี่ยนหรี่ตาลง ผวาเข้าไปชกหน้าจ้าวหยาง “ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ายิ้ม! ไม่อย่างนั้นฉันจะชกแกให้คว่ำ! แกไม่เข้าใจที่ฉันพูดเหรอ”
จ้าวหยางงง “…” แกพูดแบบนี้กับฉันเมื่อไหร่!
ตำรวจพยายามห้ามหนิงเหยี่ยน จ้าวหยางรีบตะโกนฟ้อง “ท่านครับ พวกเขาไม่เพียงกักขังหน่วงเหนี่ยวผม แต่ยังตั้งใจทำร้ายผมด้วย! โปรดใช้การกระทำนี้ของเขาเป็นหลักฐานด้วย!”
“แกคิดว่าฉันกลัวหรือไง” หนิงเหยี่ยนกล่าว แล้วเตะจ้าวหยางอย่างแรงอีกครั้ง ตำรวจนายหนึ่งจับขาหนิงเหยี่ยนไว้ และตะโกนว่า “สงบจิตสงบใจหน่อย!”
เซียวจิ่งรีบห้ามหนิงเหยี่ยนและกล่าวอย่างอ่อนใจ “เจ้านายหนิงครับ ช่วยควบคุมอารมณ์หน่อยไม่ได้หรือยังไง! นี่ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม! เอาไว้ค่อยอาละวาดหลังจากที่เราถูกปล่อยตัวแล้ว!”
ตำรวจอึ้ง “…”
หนิงเหยี่ยนจ้องมองจ้าวหยางและกล่าวอย่างเย็นชา “แกนั่นแหละควรหุบปาก ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแกต่อหน้าตำรวจพวกนี้!”
ตำรวจอึ้งอีก “…” เฮ้ เห็นหัวเราบ้างไหม เรายืนอยู่ตรงหน้าคุณนะ!
เซียวจิ่งห้ามหนิงเหยี่นอย่างจนปัญญา “เจ้านายหนิง นายตำรวจคนนี้เข้าใจภาษาจีน!”
“แล้วไง! ฉันไม่ได้ทำผิดนี่ มันแอบถ่ายรูปฉันแล้วสร้างเรื่องใส่ร้ายฉัน!” หนิงเหยี่ยนมองจ้าวหยางอย่างเหยียดหยาม และกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ตอนนี้มันควรเริ่มสวดภาวนาจะดีกว่า! เพราะฉันจะฆ่ามันหลังจากออกจากสถานีตำรวจ!”
จ้าวหยางกลืนน้ำลาย ขยับเข้าไปใกล้ตำรวจนายหนึ่งราวกับจะขอความคุ้มครอง
เซียวจิ่งกลอกตาเมื่อเห็นท่าทีของจ้าวหยาง หนิงเหยี่ยนคำรามแล้วละสายตาไปทางอื่น
ดูเหมือนว่าตำรวจต้องใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะอดกลั้นต่อพวกเขา ในที่สุดเมื่อทั้งหมดลงมาถึงชั้นหนึ่ง ตำรวจก็พาพวกเขาออกจากลิฟต์นำไปยัดใส่ในรถตำรวจ ทันทีที่ขึ้นรถเรียบร้อย ตำรวจก็ถอดเครื่องแบบและโยนหมวกทิ้ง หนิงเหยี่ยนมองหน้าเซียวจิ่งซึ่งดูสับสน ตำรวจคนหนึ่งมองเซียวจิ่งและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นายน้อยเซียว ขอโทษด้วยนะครับที่เมื่อกี้ทำให้คุณกลัว ตอนที่เรามาถึงตำรวจฝรั่งเศสขึ้นลิฟต์ไปแล้ว เราจึงใช้ได้เพียงอุบายนี้เท่านั้น”
เซียวจิ่งจ้องมองอย่างงุนงงไปที่ ‘ตำรวจ’ เหล่านี้ ซึ่งหลังจากฉีกหน้ากากผิวหนังออกแล้วก็เห็นได้ชัดว่าเป็นคนเอเชีย หางตาเขาหรี่ลงแล้วส่ายศีรษะ “ไม่เป็นไร แต่คราวหน้าช่วยบอกให้ฉันรู้ตัวก่อนได้ไหม”
ตำรวจคนหนึ่งหันไปมองจ้าวหยาง ซึ่งตกตะลึงจนพูดไม่ออก เขากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เราต้องแสดงให้ดูน่าเชื่อถือครับ เพื่อให้ผู้ชายคนนี้มากับเราด้วยความสมัครใจ ไม่อย่างนั้นเขาอาจจัดฉากขึ้นมาอีก”
จ้าวหยางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เมื่อชายคนนั้นมองไปที่ชายอีกคน และชายอีกคนจัดการให้จ้าวหยางสลบไปทันที หนิงเหยี่ยนกะพริบตาปริบๆ หันไปหาเซียวจิ่งซึ่งอุทานว่า “โอ การแสดงของพวกนายนี่ไม่มีที่ติ ฉันเกือบจะเชื่อแล้วว่าพวกนายเป็นตำรวจฝรั่งเศส!”
ไม่สิ เขาเชื่อไปแล้วว่าพวกเขาเป็นตำรวจฝรั่งเศส!
“ผมชื่อเหลยถิงครับ เป็นองครักษ์ของนายน้อยเหมือนกับอาห้าและอาหก” เหลยถิงแนะนำตัว
หนิงเหยี่ยนมองใบหน้าอันหล่อเหลาของเหลยถิงพลางคิดว่า ‘หลงเซี่ยวกรุปมีข้อกำหนดเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของพนักงานหรือเปล่าเนี่ย ทำไมพวกเขาถึงดูหล่อเหลามาก ผู้ชายคนนี้สามารถเป็นดารายอดนิยมได้เลย ถ้าเขาเข้าวงการบันเทิง!’
เซียวจิ่งยิ้ม “พวกนายทำงานได้มีประสิทธิภาพดีมาก ฉันคิดว่าเราถูกตำรวจฝรั่งเศสจับจริงๆ เสียแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นคงเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับเรามาก ขอบใจนะ”
เหลยถิงก็ยิ้มเช่นกัน “เป็นหน้าที่ของเราครับ ตอนนี้ผมจะพาพวกคุณไปที่สำนักงานสาขาในปารีส ขออภัยด้วยนะครับ”
หนิงเหยี่ยนและเซียวจิ่งสบตากัน เหลยถิงยิ้ม หยิบรีโมทคอนโทรลออกมากด จากนั้นกระจกรถทุกบานก็เปลี่ยนเป็นสีดำ มองไม่เห็นภายนอก เซียวจิ่งและหนิงเหยี่ยนสบตากันอีกครั้ง เหลยถิงอธิบายว่า “นี่เป็นการป้องกันไม่ให้ที่ตั้งสำนักงานสาขาของเรารั่วไหลครับ”
เซียวจิ่งพยักหน้า หนิงเหยี่ยนมองหน้าเซียวจิ่ง ถามเสียงต่ำ “นายรู้จักตัวตนของเฉียวเหลียงหรือยัง”
เซียวจิ่งมองหน้าหนิงเหยี่ยนและเลิกคิ้ว “นายไม่รู้จักตัวตนของเขาเหรอ”
เมื่อเห็นหนิงเหยี่ยนยิ้ม เซียวจิ่งก็ยิ้มมุมปาก “นายก็รู้จักตัวตนของเขาด้วยใช่ไหม ไม่ว่าเขาจะมีตัวตนอย่างไร เขาก็คือเพื่อนของเรา”
หนิงเหยี่ยนยิ้ม เอนหลัง หลับตาลงพักผ่อนพร้อมกับกล่าวว่า “ใช่ ดีจริงๆ ที่มีเพื่อนแบบนี้ มีใครคนหนึ่งที่ทรงอิทธิพลคอยปกป้องและสนับสนุนเราอยู่เบื้องหลังเสมอ เราจะไม่กลัว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
ที่เขากล้าซ้อมจ้าวหยางจนน่วมเมื่อกี้ ก็เพราะเขารู้ว่าเฉียวเหลียงอยู่ในปารีส และจะปกป้องพวกเขา นอกจากนี้เฉียวเหลียงยังรักเซียวโหรวมาก แน่นอนว่าเฉียวเหลียงจะไม่ปล่อยให้เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับตัวเขาเผยแพร่ออกไป เพราะจะส่งผลต่อแฟชั่นโชว์ของเซียวโหรว!