TQF:บทที่ 513 เดินทางด้วยกัน กำจัดผู้ฝึกตนวิถีมาร (2)
“เสี่ยวเสี่ยว พวกตาแก่จากเมืองโลกทมิฬล้วนอยู่จุดสูงสุดของระดับจักพรรดิ์เทพยุทธ์ทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะกฎแห่งฟ้าดินพวกเขาคงจะบรรลุเป็นก่อเกิดราชันย์จักรพรรดิ์ไปนานแล้ว”
พลังภายในอันแกร่งกล้าที่แม้แต่คนที่อยู่ไกลๆอย่างพวกเขายังสามารถรู้สึกได้ และก็มองออกได้ถึงระดับวิทยายุทธและวิธีการของพวกเขา
ตาคู่สวยของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวจ้องไปยังทิศไกลๆอย่างไม่วางตา ตอบเสียงเบา “ไม่ธรรมดาจริงๆ แม้ว่าผู้อาวุโสพวกนั้นจะอยู่ระดับก่อเกิดราชันย์จักรพรรดิ์แล้ว แต่ภายใต้การโจมตีจากผู้ฝึกตนวิถีมารกลุ่มนั้นก็ไม่ได้ได้เปรียบเท่าไหร่นัก”
“พลังภายในของผู้ฝึกตนวิถีมารกับท่าโจมตีดูพิลึกๆ เหมือนนำพาพลังอะไรสักอย่างที่กดพลังของเหล่าผู้อาวุโสลง ทำให้พวกเขาไม่สามารถสู้อย่างเต็มที่ได้ แปลกจริงๆ”
“เจ้ารู้สึกแล้วเหรอ ข้าเองก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน”
ในขณะที่ทั้ง 2 คุยกันอยู่ เสียงของหยูเฮงก็ปรากฏขึ้น นางมองไปยังคนที่อยู่ไกลๆก่อนจะเอ่ย “พวกเขาเก่งจริงๆนั่นแหละ”
“หืม หยูเฮง เจ้ารู้สาเหตุแล้วหรือ” โม่ซวนซุนถามอย่างแปลกใจ
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ถามขึ้นเช่นกัน “หยูเฮง พลังของผู้ฝึกตนวิถีมารพวกนั้นแตกต่างยังไง ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้”
“เฮ่ะๆ คุณหนู คุณชาย จะให้พูดก็คือวิชาที่พวกเขาได้รับสืบสานมาอยู่ในขั้นที่สูงกว่า พวกท่านน่าจะรู้ว่าคาถาใจและพลังของพวกเราแบ่งตามขั้น โดยทั่วไปแล้วจะเป็น เทียน ตี้ เสวียน หวง ขั้นที่สูงที่สุดคือคาถาใจขั้นเทียน”
ไม่ทันที่ทั้ง 2 จะเอ่ยถามหยูเฮงก็เหมือนเปิดก๊อกแล้วพูดไม่หยุด บอกทุกอย่างที่ตัวเองรู้
“แล้วพวกเราถือว่าอยู่ในขั้นไหน” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ
อย่าว่าแต่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเลย แม้แต่โม่ซวนซุนก็ไม่รู้จักขั้นพวกนี้ ทั้ง 2 รอให้หยูเฮงอธิบายต่อ
หยูเฮงไม่ได้ทำให้ทั้งคู่ผิดหวัง เสียงของนางดังออกมา “คุณหนู คุณชาย คาถาใจของพวกท่านน่ะอย่างมากก็อยู่แค่ขั้นเสวียนเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆเต็มที่ก็อยู่แค่ขั้นหวง ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธในผืนดินนี้ส่วนใหญ่แล้วจะยังไม่ถึงขั้นกัน ส่วนมากก็เป็นคาถาใจและพลังทั่วๆไปเท่านั้น คาถาใจของคุณหนูและคุณชายถือว่าดีที่สุดแล้ว”
“เพิ่งถึงขั้นเสวียน” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวทั้งแปลกใจและตกใจ “หยูเฮง แล้วเจ้ารู้มั้ยว่ามีคาถาใจขั้นตี้และขั้นเทียนอยู่จริงๆรึเปล่า”
“มีสิ ต้องมีแน่ๆอยู่แล้ว คุณหนู คุณชาย ข้าจะบอกให้นะ ไม่แน่ว่าผืนดินฉางไห่ที่ท่านย่าอยู่มีคาถาใจขั้นตี้ ส่วนขั้นเทียนนั้นข้าไม่กล้ารับประกัน อาจจะมี แต่ก็อาจจะไม่มี วันหลังลองถามท่านย่าก็ได้ นางอาจจะรู้แต่ก็อาจจะไม่รู้”
“ที่แท้พวกเราก็เป็นแค่กบในกะลา” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวส่ายหน้า
ได้ยินคำใหม่อีกแล้ว หยูเฮงจึงถามด้วยความอยากรู้ “คุณหนู กบในกะลาคืออะไร”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวชะงักไปแปปนึงก่อนจะเล่านิทานเรื่องนี้ให้นางฟัง หยูเฮงจึงได้เรียนรู้สำนวนใหม่อีกอัน
โม่ซวนซุนยิ้มเล็กน้อย เขาชินแล้วกับสำนวนที่มีที่มาที่ไปแบบนี้ของเฉิงเสี่ยวเสี่ยว เขารู้ว่าสิ่งที่อยู่ในตัวนางนั้นเกินกว่าการรับรู้ของทุกคน กับเรื่องเล็กๆแบบนี้เขาจึงไม่ได้แปลกใจนัก
แต่ว่าเรื่องของคาถาใจเขายังให้ความสนใจอยู่ “หยูเฮง คาถาใจขั้นเทียนใช่ขั้นสูงสุดที่มีรึเปล่า”
“คุณชาย เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด ที่ข้ารู้ก็มีแค่เทียนตี้เสวียนหวง 4 ขั้นนี้ อาจจะมีขั้นที่สูงกว่านี้แต่แค่ข้าไม่รู้”
“ถูกต้อง เรื่องที่พวกเราไม่รู้นั้นมีเยอะมากจริงๆ อาจะมีโอกาสได้รู้ได้ภายภาคหน้า”
และตอนนี้ เฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่คอยดูการต่อสู้บนยอดเขานั้นก็เอ่ยขึ้น “เอาล่ะเลิกคุยกันได้แล้ว ข้าว่าพวกเราต้องลงมือแล้วล่ะ”
เหล่าผู้อาวุโสถูกผู้ฝึกตนวิถีมารกำราบไว้อยู่หมัดไม่สามารถต่อต้านอะไรได้อีก พวกเขาหลบไปมาอย่างน่าสังเวช
โม่ซวนซุนเองก็ดูออกแล้ว “พวกเขาได้แต่หนี ไม่อย่างนั้นชีวิตคงหาไม่”
“แย่จริงๆ วิทยายุทธระดับก่อเกิดราชันย์จักรพรรดิ์สู้ตาแก่แปลกๆ 6 คนไม่ได้” หยูเฮงเอ่ยอย่างดูแคลน
มองไปยังผู้อาวุโส 4 คนที่ถอยกรูดไปเรื่อยๆ เฉิงเสี่ยวเสี่ยวกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ในหมู่พวกเขามีก่อเกิดราชันย์จักรพรรดิ์ 2 คนก็จริง แต่ฝ่ายตรงข้ามมีถึง 6 คน แม้จะไม่ได้บรรลุเป็นก่อเกิดราชันย์จักรพรรดิ์ แต่ท่าทางคาถาใจกับพลังของพวกเขาอยู่สูงกว่าเหล่าผู้อาวุโส แน่นอนว่าต้องสู้พวกเขาไม่ได้”
“คุณหนูพูดถูก คาถาใจและพลังของพวกเขาทั้ง 3 อยู่ระดับเสวียนเหมือนกับคุณหนูและคุณชาย เพียงแค่นี้ก็สามารถกำราบตาแก่ของพวกเราได้แล้ว”
หยูเฮงเพิ่งพูดจบ โม่ซวนซุนก็เอ่ยขึ้นเสียงเข้ม “พวกเจ้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไปจัดการพวกเขา”
ถึงแม้อีกฝ่ายจะเก่ง แต่สำหรับโม่ซวนซุนแล้วไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาหรอก ไม่ทันที่พวกนางจะได้ตอบอะไรออกไป เขาก้าวไปแค่ 1 ก้าวเท่านั้นก็ไปปรากฏตัวอยู่บนยอดเขา
“ผู้อาวุโสทุกท่าน พวกท่านไปพักก่อน ให้ข้ามาเจอกับคนพวกนี้หน่อย” เสียงนุ่มของโม่ซวนซุนดังขึ้นเหนืออากาศ ทำให้คน 2 ฝั่งที่สู้กันอยู่ตื่นตัว
เหล่าผู้อาวุโสแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนรีบมาอยู่ข้างหน้าของชายชุดขาวด้วยท่าทีนอบน้อม เอ่ยขึ้นพร้อมกัน “คารวะคุณชายโม่”
“ผู้อาวุโสไม่ต้องเกรงใจ” โม่ซวนซุนพยักหน้า กวาดสายตาไปที่พวกเขา “ไม่ได้บาดเจ็บกันใช่มั้ย”
“คุณชายโม่ พวกเราไม่เป็นอะไร”
ผู้อาวุโสทั้ง 4 หน้าขึ้นสีด้วยความอาย วิทยายุทธระดับก่อเกิดราชันย์จักรพรรดิ์ 2 ท่านกลับสู้ผู้ฝึกตนวิถีมาร 6 คนไม่ได้ เมื่อต้องสู้หน้ากับคนระดับเจ้านายพวกเขาอายจนแทบไม่กล้าเงยหน้า
โม่ซวนซุนยิ้ม ไม่มีทีท่าตำหนิ สายตาหันไปตกอยู่ที่ผู้ฝึกตนวิถีมารอายุ 4-50 ทั้ง 6 คน
ผู้ฝึกตนวิถีมารทั้ง 6 เห็นคนหนุ่มที่พลังลึกล้ำยากจะหยั่งถึงต่างก็มีท่าทีหนักใจ ไม่ได้ประมาทเขาเพราะความวัยเยาว์
ตรงกันข้าม ได้ยินฝั่งตรงข้ามเรียกเขาว่าโม่ซวนซุนพวกเขานึกได้ทันทีว่าคนผู้นี้คือใคร
นอกจากโม่ซวนซุนแห่งวิหารสวรรค์แล้ว ใครอีกจะมีเกียรติให้ตาแก่อายุนับร้อยปีเรียกเขาว่าคุณชายโม่
อย่าว่าแต่ที่เขาเป็นเขยของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนเลย วิทยายุทธระดับก่อเกิดราชันย์จักรพรรดิ์ด้วยอายุแค่ 20 กว่าก็เพียงพอที่จะให้คนอื่นไม่กล้าประมาทเขา
———————————-