TQF:บทที่ 514 เดินทางด้วยกัน กำจัดผู้ฝึกตนวิถีมาร (3)

ผู้ฝึกตนวิถีมารทั้ง 6 คนเห็นคนตรงหน้าที่มีท่าทีนุ่มนวลไม่ได้เบาใจลงแม้แต่น้อย กลับยิ่งรู้สึกกดดันมากขึ้น เขาแค่ลอยอยู่ในอากาศเท่านั้น แต่กลับเหมือนภูเขาที่ทับพวกเขาไว้ให้หายใจไม่ออก

ยังไม่ทันจะได้ต่อสู้กันก็เกิดอาการแบบนี้ พวกเขาเข้าใจดีว่าไม่สามารถต่อต้านคนหนุ่มตรงหน้านี้ได้

การที่เขามาปรากฏตัวที่นี่ก็ยิ่งทำให้พวกเขารู้ว่าการที่พวกเขาจะชนะสงครามครั้งท่าทางจะเป็นไปไม่ได้

“พวกเจ้าจะเอายังไง จะสู้หรือจะถอย”

โม่ซวนซุนไม่ได้ลงมือในทันที แต่ถามพวกเขาด้วยท่าทีเรียบเฉยพร้อมปลดปล่อยพลังลมปราณในร่างออกมา พื้นที่ตรงนั้นเสมือนถูกดูดอากาศออกไปจนหมด สีหน้าของผู้ฝึกตนวิถีมารทั้ง 6 เปลี่ยนไปเป็นสีแดงก่ำด้วยแรงกดดันทันที นาทีนี้ พวกเขารู้สึกเหมือนถึงอยากจะต่อต้านแต่ก็ต่อต้านไม่ได้อยู่ดี

แน่นอนว่าพวกเขาไม่ยอมรามือไปแค่นี้แน่ 1 ในนั้นเอ่ยเสียงเย็น “ไม่ต้องพูดมาก ครั้งนี้ไม่เจ้าก็พวกข้านี่แหละที่ตาย”

พูดจบเขาก็กระโจนขึ้น พุ่งหมัดใส่โม่ซวนซุนที่ลอยอยู่กลางอากาศ

“หมัดน้ำแข็งไท่ยิน”

เมื่อหมัดถูกปล่อยออกไป ก็ปรากฏรอยหมัดมโหฬารขึ้นในอากาศ อากาศรอบรอยหมัดเปลี่ยนเป็นสีดำ ท่าทางพิลึกเป็นอย่างมาก

มีไอเย็นกระจายไปรอบทิศพร้อมๆกับหมัดที่ถูกปล่อยออกมา ราวกับอยู่ท่ามกลางภูเขาน้ำแข็ง

แต่ใบหน้าหล่อเหลาของโม่ซวนซุนก็ยังเรียบเฉยอยู่ มองไปยังหมัดมโหฬารที่ฝ่ายตรงข้ามปล่อยมาโดยไม่ได้ขยับร่างกายแม้แต่น้อย เขายืนอยู่อย่างนั้นเหมือนไม่เห็นภยันตรายที่คืบคลานเข้ามา

ภายใต้สายตาตื่นตระหนกของทุกคนราวกับตั้งใจจะรับหมัดของฝ่ายตรงข้ามไว้

ตู้มม…..

เกิดเสียงดังสนั่น รอยหมัดนั่นกระแทกเข้าที่หน้าอกของโม่ซวนซุน ฝ่ายตรงข้ามมีท่าทีดีใจอยู่บนใบหน้า แต่วินาทีต่อมารอยยิ้มดีใจก็หายไป

ไม่ทันจะหุบรอยยิ้มลง สีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นตกใจ เพราะหมัดของเขาหยุดอยู่ที่หน้าอกเขา รุกไม่ได้ ถอยกลับก็ไม่ได้ ล็อคการเคลื่อนไหวของเขาไว้

ไม่ใช่แค่เขาที่ตกใจ คนอื่นๆที่ได้เห็นฉากตรงหน้าก็อึ้งกันหมด พวกเขายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

ผู้ฝึกตนวิถีมารคนอื่นก็ลืมโจมตี มอง 2 คนที่นิ่งไม่ไหวติงด้วยความอึ้ง

ไม่สิ โม่ซวนซุนขยับ รอยยิ้มบนใบหน้าเขายังไม่เปลี่ยนไป มือขวายกขึ้นเบาๆปล่อยพลังฝ่ามือออกไป เร็วอย่างสุดจะหาไม่ แม้แต่อากาศยังถูกทำให้เกิดร่องรอยเป็นคลื่นยาวๆแถมยังมีเสียงแหลมดังแทงหูดังขึ้นมาด้วย

อย่าว่าแต่อีกฝ่ายขยับไม่ได้เลย ต่อให้ขยับได้ด้วยความเร็วขนาดนี้อีกฝ่ายก็ไม่มีทางหลบพ้น

พลังภายในมากมายถล่มลงมา 2 ตาของอีกฝ่ายเบิกโพลงด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ผู้ฝึกตนวิถีมารอีก 5 คนที่อยู่ไม่ไกลใจสั่นราวกับถูกภูเขานับพันนับหมื่นลูกถล่มลงมา พวกเขารู้สึกได้ถึงความกดดันที่ไม่สามารถต้านทานนี้ได้

ตู้ม….

นาทีที่ฝ่ามือนั้นถูกฟาดลงไปบนตัวอีกฝ่าย ก็มีแสงสีขาวจากฝ่ามือของโม่ซวนซุนล้อมรอบอีกฝ่ายเอาไว้

“อ๊ากกก….”

เสียงร้อยโหยหวนดังสะท้อนไปทั่วฟ้า คนนอกรีตที่ถูกแสงสีขาวล้อมรู้สึกเหมือนถูกเผาด้วยไป เขาหล่นลงมาจากอากาศ กลิ้งอยู่บนพื้นด้วยความทรมาน

แต่ไม่ว่าเขาจะโหยหวนยังไงแสงสีขาวที่ล้อมรอบตัวเขาก็ยิ่งหนาขึ้น พลังมารในตัวเขาก็ไม่ปรากฏออกมาเพื่อทำการต่อต้านเลย ภายใต้สายตาของทุกคน เขาถูกเผาจนมลายสิ้นไม่เหลือแม้แต่ซาก ราวกับไม่เคยอยู่บนโลกใบนี้มาก่อน

เรื่องแปลกประหลาดขนาดนี้ ผู้ฝึกตนวิถีมารทั้ง 5 คนอึ้งไปกับฉากตรงหน้า จากนั้นสายตาที่พวกเขามองโม่ซวนซุนมีแต่ความเกรงกลัว

แต่ตอนนี้ต่อให้พวกเขาอยากหนีก็ไม่กล้าหนี เพราะพวกเขาเชื่อว่าหนีออกไปไม่ได้แล้ว

หนีไม่ได้ก็ต้องสู้เท่านั้น ต้องหาทางรอด 1 ในหมื่นให้ได้

ทั้ง 5 คนมองหน้ากันก็ได้เห็นในตาของอีกฝ่ายว่าจะขอสู้โดยทุ่มทั้งหมดที่มี อย่างไรซะก็เตรียมใจที่จะสละชีวิตแล้ว พวกเขาไม่กลัวตาย แต่จะตายฟรีไม่ได้

ต่อให้ฆ่าอีกฝ่ายไม่ได้ก็ต้องทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสก็ถือว่าพวกเขาได้ประโยชน์อย่างใหญ่หลวงแล้ว

มีประกายเลือดเย็นอยู่ในสายตาของทั้ง 5 คน ราวกับเสือร้ายที่กำลังรอฉีกเหยื่อให้เป็นชิ้นๆอยู่

เห็นปฏิกิริยาของพวกเขาแล้วโม่ซวนซุนก็ยังคงเรียบเฉย ไม่ได้เป็นฝ่ายรุกโจมตีก่อน เสมือนรอให้พวกเขาเริ่มลงมือ

ผู้ฝึกตนวิถีมารทั้ง 5 คนขยับแล้ว พวกเขาแบ่งเป็นหน้า 2 หลัง 3 ท่าทางเตรียมจะล้อมโจมตี

ผู้อาวุโส 4 คนก็มองแผนของพวกเขาออก 1 ในนั้นประสานมือขึ้นพร้อมกล่าว “คุณชายโม่ จะให้พวกเรา…”

“ไม่ต้องหรอก” ไม่ทันที่เขาจะพูดจบ โม่ซวนซุนก็ยกมือขึ้นปฏิเสธ

ในชั่วขณะนั้นผู้ฝึกตนวิถีมารทั้ง 5 ก็ลงมือ

โม่ซวนซุนกระตุกมุมปากเล็กน้อย มีความอำมหิตปรากฏขึ้นในนัยน์ตา สำหรับผู้ฝึกตนวิถีมารแล้วเขาจะไม่ใจอ่อน

ฟิ้วๆๆๆๆ…..

ร่างของผู้ฝึกตนวิถีมารทั้ง 5 พุ่งชะแว้บมาด้วยความเร็วที่น่าตกใจใส่โม่ซวนซุน

ตู้มๆๆ…..

พลังภายในดั่งมังกรล้อมรอบโม่ซวนซุนไว้พร้อมโจมตี ทันใดนั้นก็มีความรู้สึกเหมือนฟ้าดินถล่ม เห็นได้ว่าถ้าหากคนพวกนี้ทุ่มสุดแรงอานุภาพก็ไม่น้อย “อยากตายใช่มั้ย ข้าจะช่วยพวกเจ้าเอง”

———————————-