TQF:บทที่ 516 บางคนปรากฏตัว (1)

“คุณหนู คุณชาย พวกท่านมาแล้วเหรอ รีบเชิญนั่งเร็ว” ผู้เฒ่าหยิงโผล่มาจากชั้น 2 ยิ้มอย่างดีใจเมื่อเห็นพวกเขา

เจ้าเขาจี้ที่อยู่ข้างๆเขาประสานมือทักทาย “คุณหนู คุณชายโม่ เชิญมานั่งตรงนี้เร็ว”

ทั้ง 2 ไม่ได้พูดอะไรมาก เดินยังโต๊ะที่พวกเขาชี้และนั่งลงด้วยกัน

ทุกคนในที่นี้ต่างนั่งอย่างสงบ ไม่มีใครกระซิบกระซาบ ล้วนเงี่ยหูตั้งใจรอฟัง

ชาบางๆแก้วหนึ่งถูกวางอยู่หน้าพวกเขา ทั้ง 2 คนไม่มีอารมณ์ดื่มชานัก โม่ซวนซุนเอ่ยถามทันที “ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง ข้าเห็นพวกเจ้าออกรบกันหมด ไหนว่าสงครามครั้งสุดท้ายอย่างเป็นทางการ ทำไมยังสู้กันสะเปะสะปะมั่วไปหมดแบบนี้”

ในเมื่อส่งสาสน์สงครามมาก็ไม่ควรมารบกันตามอำเภอใจแบบนี้ คิดจะสู้ยังไงก็สู้ ปกติแล้วจะต้องนัดแนะและรบกันให้รู้แพ้รู้ชนะไปเลย

สถานการณ์ที่ทั้ง 2 เห็นกลับไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใช่แค่การต่อสู้ที่ไปเจอ แม้แต่ผู้อาวุโสในนี้ก็มีบาดแผลตามร่างกายกันหลายคน ถ้าไม่ได้ลงมือกันละก็ต้องไม่ใช่แบบนี้แน่

สายตาของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวทอดไปยังตาเฒ่าทั้ง 3 สงครามครั้งนี้ให้พวกเขาคอยคุมบังเหียนไว้ ดูจากสีหน้าพวกเขาแล้วท่าทางจะเกิดบางอย่างขึ้น

เจ้านิกายฉินยิ้มเฝื่อนๆ เบือนสายตาไปที่ผู้เฒ่าหยิง “คุณหนู คุณชายโม่ ให้ผู้เฒ่าหยิงเป็นคนพูดเถอะ”

“ที่จริงพวกเราก็ประหลาดใจเหมือนกัน ไม่คิดว่าผู้ฝึกตนวิถีมารของเมืองโลกทมิฬจะมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้ พอเห็นคนของพวกเราพวกเขาก็ลงมือเลย ไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆทั้งสิ้น” ผู้เฒ่าหยิงอธิบายด้วยความไม่รู้จะทำอย่างไร

ทั้ง 2 ขมวดคิ้วเมื่อได้ฟัง โม่ซวนซุนถามอย่างสงสัย “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ หัวหน้าของ 10 กลุ่มใหญ่ได้ออกมาหรือยัง”

“ผู้ฝึกตนวิถีมารที่ลงมือถูกส่งมาโดยหัวหน้ากลุ่มทั้ง 10 แล้วยังเป็นพวกไม่มีสำนักด้วยใช่มั้ย” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวถาม

ผู้เฒ่าหยิงตอบพลางมองไปที่นาง “คุณหนู เป็นผู้ฝึกตนวิถีมารไม่มีสำนักของเมืองโลกทมิฬ”

“ถ้าอย่างงั้น ตั้งแต่พวกเจ้ามาที่นี่หัวหน้ากลุ่มทั้ง 10 ยังไม่ปรากฏตัวล่ะสิ”

ทั้งเฉิงเสี่ยวเสี่ยวและโม่ซวนซุนต่างรู้สึกประหลาดใจ ผู้เฒ่าหยิงพยักหน้า “ใช่แล้วคุณหนู พวกเขาแค่ส่งคนมาบอกว่าคนที่จะออกคำสั่งได้จริงๆยังไม่มา เพราะฉะนั้นจึงปฏิเสธที่จะออกรบ”

“คนที่ออกคำสั่งได้จริงๆ?” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเหล่มองไปยังตาเฒ่าตรงหน้า “พวกเขาหมายความว่าแม้แต่พวกเจ้าก็ออกคำสั่งไม่ได้รึ”

ไม่พูดถึงผู้เฒ่าหยิงที่เป็นตัวแทนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนในการออกรบครั้งนี้ แม้แต่เจ้านิกายฉินและเจ้าเขาจี้ก็เป็นคนชั้นยอดของ 4 อิทธิพลใหญ่ พวกเขายังมีเกียรติไม่พอแล้วจะให้ไปหาใครอีก

พวกเขาคุยกันอยู่ที่นี่ ในขณะเดียวกันนั้น ภายในกลุ่มเทียนยี หัวหน้ากลุ่มทั้ง 10 เฝ้าอยู่ที่กลุ่มเทียนยีมาหลายวันแล้ว รอให้เฒ่าผีออกอุบาย

ข่าวใหม่ที่เพิ่งได้รับมาทำให้สีหน้าของพวกเขาเกิดความเปลี่ยนแปลงไปในที่สุด หัวหน้ากลุ่มกุ่ยเต้าที่ใจร้อนที่สุดกล่าวพลางจ้องไปยังคนที่นั่งอยู่ตรงที่ประธาน “เฒ่าผี เฉิงเสี่ยวเสี่ยวและโม่ซวนซุนมาปรากฏตัวแล้ว ตอนนี้พวกเราไปพบพวกเขาได้แล้วใช่รึเปล่า”

“ใช่แล้วเฒ่าผี เจ้าเด็ก 2 คนนั้นปรากฏตัวแล้ว ถึงเวลาที่พวกเราจะไปเจรจากับพวกเขาแล้วสิ” เล้งยี่เฉินกล่าวสมทบ

หัวหน้ากลุ่มที่เหลือแม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่พวกเขาก็คิดเหมือนกันหมด มีสายตาที่กระหายสงครามและต้องการฆ่าฟันอยู่บนใบหน้าของพวกเขา

เดิมทีเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธของดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาถึงพวกเขาก็อยากจะไปเจอแล้ว แต่เฒ่าผีบอกว่ายังไม่ถึงเวลา ให้ทุกคนรอไปก่อน

ตอนนี้ 2 หนุ่มสาวที่ถือว่าเป็นคนระดับเจ้านายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จงหยวนมาถึงแล้ว ไปทักทายพวกเขาได้สักที

เฒ่าผีค่อยๆยกสายตาขึ้นมองเหล่าคนตรงหน้า ถอนหายใจเศร้าๆ “ได้ ในเมื่อทุกคนต้องการให้เป็นแบบนั้น เที่ยงนี้เราจะไปพบพวกเขากัน ให้คนไปส่งสาสน์เถอะ”

เมื่อประโยคนี้ออกไปหัวหน้ากลุ่มทุกคนก็หายตัวออกไปทันที ไม่ได้อยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว

“ในที่สุดก็จะได้เจอหน้าพวกเขาแล้ว ไม่รู้ว่าเพื่อนเก่าทั้งหลายจะยังจำข้าได้อยู่รึเปล่า” เฒ่าผีถอนหายใจอีกครั้ง สายตาขุ่นมัวมีแววแห่งความคิดถึง

—————————-