ซือหยูยักไหล่
“ข้าไม่ได้บอกเจ้าไปแล้วรึ?ข้าอ่านจบแล้ว”
เจ่าฉวนหัวเราะ
“มาถึงขั้นนี้แล้วยังดื้อด้านอีกเรอะ!”
เจ่าฉวนจึงใช้ผนึกลำแสงระเบิดออกมาจากตำราโบราณในมือของเขา
“ลืมตาบัดซบเจ้าดูซะดูว่าแสงนี้เป็นยั….”
เขาหยุดพูดทันควันคนรับใช้อื่นมองเขาราวกับเห็นผี ทุกคนตัวแข็งทื่อราวกับน้ำแข็ง
นั่นก็เพราะแสงที่ระเบิดออกมาจากตำรามิใช่แสงสีขาวแต่เป็นแสงสีแดง!มันคือสีแดงเฉดที่เข้มที่สุด! นั่นแสดงให้เห็นว่าตำราถูกซือหยูอ่านทั้งเล่มโดยไม่พลาดแม้แต่ตัวอักษรเดียว!
“ฮ่าๆ!ก็อย่างที่เจ้าเห็น…นี่มันแสงสีแดงเลือด! ตาบัดซบเจ้ายังเปิดไม่กว้างพอนะ…”
ซือหยูพูด
เจ่าฉวนตกตะลึงเขาไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดสิ่งนี้ขึ้น
“เป็นไปได้ยังไง?เป็นไปไม่ได้!”
เจ่าฉวนที่ยังระแวงหยิบตำราอีกเล่มและใช้ผนึกแสงสีแดงเลือดระเบิดออกมาอีกครั้ง! เขาคว้าตำราขึ้นมาอีกหลายเล่มด้วยความตกใจเต็มที่ แต่กระนั้นแสงสีแดงแบบเดิมก็ระเบิดออกมาทุกครั้งเมื่อเขาตรวจสอบ!
เขาตกใจแปลกใจ และสับสน
“เป็นไปไม่ได้!มันเกิดขึ้นได้ยังไง? ใครจะมาอ่านตำราทุกเล่มได้รวดเร็วเช่นนี้!”
ซือหยูยักไหล่
“หึ…ข้าจะไปได้รึยัง?”
เจ่าฉวนกระอักกระอ่วนและอับอายเขาถามด้วยความละอายใจ
“คิดจะไปเรอะ?หึ! ข้าสงสัยว่าเจ้าใช้ลูกไม้แอบเปลี่ยนผนึกในตำรา เจ้าห้ามออกจากที่นี่จนกว่าจะผ่านการสืบสวน!”
ซือหยูหรี่ตามองเจ่าฉวนช้าๆ
“แล้วถ้าข้าจะเดินออกไปเฉยๆเล่า?”
เจ่าฉวนตอบกลับทันที
“…ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าตัดสินใจ!จับมัน!”
กลุ่มคนกระโจรเข้าใส่ซือหยูทันทีโดยหมายจะจับตัวเขาแสงสีทองเปล่งประกายใจดวงตาของซือหยู
“ข้าทนพวกเจ้ามามากพอแล้ว!เจ้ากำลังเล่นกับไฟ อย่ามาหาว่าข้าโหดร้ายก็แล้วกัน!”
คนที่พุ่งเข้าใส่ซือหยูเป็นกลุ่มคนรับใช้ที่เป็นภูติระดับสี่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีชะตาแบบใดรอพวกเขาอยู่
ซือหยูยื่นมือซัดไปด้วยอรหันต์แปดอักษรทุกคนล้มระเนระนาด กำแพงใกล้ๆปลิวลอยออกไป ทั้งสวนหนังสือโกลาหลวุ่นวายในพริบตา!
เจ่าฉวนเบิกตากว้าง
“วิชาระดับตำนาน!ไม่นะ! มันซ่อนพลังที่แข็งแกร่งเอาไว้! บอกให้นายท่านมาเดี๋ยวนี้!”
เจ่าฉวนรีบหนีออกไปด้วยความหวาดกลัวซือหยูตะโกนไล่หลังด้วยแววตาเยือกเย็น
“เจ้านั่นแหละตัวปัญหาตัวจริง!”..novel-lucky
หลังจากผ่านไปไม่กี่ลมหายใจซือหยูเข้าไปหยุดเจ่าฉวนได้อย่างง่ายดาย เขาซัดพลังใส่ท้องของอีกฝ่ายจนกระอักเลือดและกระเด็นไปด้านหลัง เจ่าฉวนกระแทกกำแพง จุดกำเนิดพลังของเจ่าฉวนถูกทำลายในทันที!
หากจุดกำเนิดพลังถูกทำลายก็เท่ากับพิการในโลกแห่งยอดฝีมือและถ้าหากเขาเคยทำให้คนไม่พอใจมามากเกินไปแล้วล่ะก็…สิ่งที่ตามมาคงจะลำบากไม่ใช่น้อย!
ซือหยูจัดการคนรับใช้ทั้งหมดในพริงตาเดียวเขาล้างทำลายสวนตำรา เหล่าคนรับใช้ที่หวาดกลัวที่ยังนอนอยู่บนพื้นหวาดกลัวเขาเป็นอย่างมาก ไม่มีใครเลยที่จะกล้ายืนขวางทางเขา
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าซือหยูจะทรงพลังเช่นนี้!ถ้าพวกเขารู้ พวกเขาจะไม่มีทางโง่เขลาพอที่จะรังแกเขาตามเจ่าฉวน!
ซือหยูมองเจ่าฉวนด้วยความเย็นชา
“นี่คือบทเรียนของเจ้า!”
จากนั้นซือหยูจึงเดินออกมาจากสวนตำราไม่นานหลังจากที่ไปก็มีชายสองคนที่แข็งแกร่งเดินออกมาจากภายในสวนตำรา ทั้งสองมีพลังระดับจ้าวเทวะ
ซือหยูจะจำได้หากอยู่ที่นี่เพราะหนึ่งในนั้นคือปราชญ์วัยกลางคน เขาคือเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างที่ถูกถอนสิทธิ์ในการค้าขายร่วมกับพันธมิตรปรุงยา!
เขายืนอยู่ข้างสตรีผิวเข้มที่สวมชุดดำนางดูเย่อหยิ่งและอวดดี
“เกิดอะไรขึ้น?”
นางถามขณะมองรอบๆ
เหล่าคนรับใช้ไม่กล้าจะปิดบังเมื่อเล่าเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อโกรธมากเมื่อรู้ว่าเป็นฝีมือของศิษย์ตำหนักโลหิต
“นี่มันเกินทนแล้ว!ตำหนักโลหิตยังคิดว่าเมืองเทียนหยาเป็นของดินแดนพรสวรรค์อยู่งั้นเรอะ?”
นางถามด้วยความโกรธ
จากนั้นนางก็จับจ้องเจ่าฉวนพร้อมกับถาม
“แต่…เจ้าเป็นคนที่เริ่มเรื่องทั้งหมด!อย่าคิดว่าจะหนีจากโทษประหารไปได้! เจ้าต้องตาย!”
จากนั้นนางก็ดีดนิ้วพลังชีวิตพุ่งเข้าใส่กะโหลกของเจ่าฉวน! เขาถูกฆ่าตายก่อนที่จะได้อ้อนวอนขอชีวิต
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างขมวดคิ้ว
“ท่านฉินอยากจะให้ข้าตามไปจับศิษย์จากตำหนักโลหิตคนนั้นหรือไม่?”
สตรีผิวเข้มผู้นี้คือเจ้าของสวนตำราจี่เฉิน!
“ไม่ต้องหรอกนี่ไม่ใช่เวลาจะเผชิญหน้าโดยตรงกับตำหนักโลหิต ถึงเวลาเมื่อไหร่ ตำหนักโลหิตจะต้องได้รับผลที่ตามมา!”
นางตอบกลับและสั่งเหล่าคนรับใช้ที่เหลือให้เก็บกวาด
ตอนนั้นเองใบหน้านางก็มีความคาดหวัง
“อย่าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังมันจะส่งผลจากความสัมพันธ์ระพวกเรากับของจากเหยามู่เต๋าเหริน อย่าได้ประมาท!”
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างพยักหน้า
“ข้าเข้าใจแล้วขอบคุณที่ให้โอกาสข้า”
“ไม่ต้องพูดแล้วเขตกลางรู้ว่าเจ้าเป็นอย่างไร ถ้าหากพันธมิตรปรุงยาไม่ให้ค่าเจ้า เจ้าก็ไม่ต้องเมตตาพวกมัน…”
นางตอบ
หลังจากที่เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างถูกตัดสิทธิ์อย่างเปิดเผยคนจากเขตกลางก็รู้เข้าและรับเขาเป็นพวก เพราะเขาคือจ้าวเทวะระดับสองอยู่แล้ว เขาจึงมีความสามารถอันน่าพอใจ
“ข้าจะพยายามอย่างดีที่สุด…”
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างกล่าวและเผยรอยยิ้มเล็กๆเขาตั้งมั่นกับตัวเองว่าจะทำให้เจ้าของร้านซือแห่งร้านตงหลินเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป!
ส่วนซือหยูเมื่อกลับมาถึงร้านตงหลิน เขาเข้าสู่การบ่มเพาะพลัง ดวงตาของเขาเปล่งแสงจางๆเมื่อเขาแบมือขวาช้าๆ ทางช้างเผือกส่องประกายโดยยังมีทรายสีทองสองร้อยหยิบมือในมือของซือหยู! ทรายทองคำเหล่านี้คือสิ่งที่เขาได้มาจากคู่มือของเหยามู่เต๋าเหริน
“มันคืออะไรกันเนี่ย?”
ซือหยูสงสัยอย่างมากขณะที่พยายามรวบรวมมัน