ตอนที่ 868 - ทรายทอง

The Divine Nine Dragon Cauldron

ซือหยูยักไหล่
  “ข้าไม่ได้บอกเจ้าไปแล้วรึ?ข้าอ่านจบแล้ว”
  เจ่าฉวนหัวเราะ
  “มาถึงขั้นนี้แล้วยังดื้อด้านอีกเรอะ!”
  เจ่าฉวนจึงใช้ผนึกลำแสงระเบิดออกมาจากตำราโบราณในมือของเขา
  “ลืมตาบัดซบเจ้าดูซะดูว่าแสงนี้เป็นยั….”
  เขาหยุดพูดทันควันคนรับใช้อื่นมองเขาราวกับเห็นผี ทุกคนตัวแข็งทื่อราวกับน้ำแข็ง
  นั่นก็เพราะแสงที่ระเบิดออกมาจากตำรามิใช่แสงสีขาวแต่เป็นแสงสีแดง!มันคือสีแดงเฉดที่เข้มที่สุด! นั่นแสดงให้เห็นว่าตำราถูกซือหยูอ่านทั้งเล่มโดยไม่พลาดแม้แต่ตัวอักษรเดียว!
  “ฮ่าๆ!ก็อย่างที่เจ้าเห็น…นี่มันแสงสีแดงเลือด! ตาบัดซบเจ้ายังเปิดไม่กว้างพอนะ…”
  ซือหยูพูด
  เจ่าฉวนตกตะลึงเขาไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดสิ่งนี้ขึ้น
  “เป็นไปได้ยังไง?เป็นไปไม่ได้!”
  เจ่าฉวนที่ยังระแวงหยิบตำราอีกเล่มและใช้ผนึกแสงสีแดงเลือดระเบิดออกมาอีกครั้ง! เขาคว้าตำราขึ้นมาอีกหลายเล่มด้วยความตกใจเต็มที่ แต่กระนั้นแสงสีแดงแบบเดิมก็ระเบิดออกมาทุกครั้งเมื่อเขาตรวจสอบ!
  เขาตกใจแปลกใจ และสับสน
  “เป็นไปไม่ได้!มันเกิดขึ้นได้ยังไง? ใครจะมาอ่านตำราทุกเล่มได้รวดเร็วเช่นนี้!”
  ซือหยูยักไหล่
  “หึ…ข้าจะไปได้รึยัง?”
  เจ่าฉวนกระอักกระอ่วนและอับอายเขาถามด้วยความละอายใจ
  “คิดจะไปเรอะ?หึ! ข้าสงสัยว่าเจ้าใช้ลูกไม้แอบเปลี่ยนผนึกในตำรา เจ้าห้ามออกจากที่นี่จนกว่าจะผ่านการสืบสวน!”
  ซือหยูหรี่ตามองเจ่าฉวนช้าๆ
  “แล้วถ้าข้าจะเดินออกไปเฉยๆเล่า?”
  เจ่าฉวนตอบกลับทันที
  “…ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าตัดสินใจ!จับมัน!”
  กลุ่มคนกระโจรเข้าใส่ซือหยูทันทีโดยหมายจะจับตัวเขาแสงสีทองเปล่งประกายใจดวงตาของซือหยู
  “ข้าทนพวกเจ้ามามากพอแล้ว!เจ้ากำลังเล่นกับไฟ อย่ามาหาว่าข้าโหดร้ายก็แล้วกัน!”
  คนที่พุ่งเข้าใส่ซือหยูเป็นกลุ่มคนรับใช้ที่เป็นภูติระดับสี่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีชะตาแบบใดรอพวกเขาอยู่
  ซือหยูยื่นมือซัดไปด้วยอรหันต์แปดอักษรทุกคนล้มระเนระนาด กำแพงใกล้ๆปลิวลอยออกไป ทั้งสวนหนังสือโกลาหลวุ่นวายในพริบตา!
  เจ่าฉวนเบิกตากว้าง
  “วิชาระดับตำนาน!ไม่นะ! มันซ่อนพลังที่แข็งแกร่งเอาไว้! บอกให้นายท่านมาเดี๋ยวนี้!”
  เจ่าฉวนรีบหนีออกไปด้วยความหวาดกลัวซือหยูตะโกนไล่หลังด้วยแววตาเยือกเย็น
  “เจ้านั่นแหละตัวปัญหาตัวจริง!”..novel-lucky
  หลังจากผ่านไปไม่กี่ลมหายใจซือหยูเข้าไปหยุดเจ่าฉวนได้อย่างง่ายดาย เขาซัดพลังใส่ท้องของอีกฝ่ายจนกระอักเลือดและกระเด็นไปด้านหลัง เจ่าฉวนกระแทกกำแพง จุดกำเนิดพลังของเจ่าฉวนถูกทำลายในทันที!
  หากจุดกำเนิดพลังถูกทำลายก็เท่ากับพิการในโลกแห่งยอดฝีมือและถ้าหากเขาเคยทำให้คนไม่พอใจมามากเกินไปแล้วล่ะก็…สิ่งที่ตามมาคงจะลำบากไม่ใช่น้อย!
  ซือหยูจัดการคนรับใช้ทั้งหมดในพริงตาเดียวเขาล้างทำลายสวนตำรา เหล่าคนรับใช้ที่หวาดกลัวที่ยังนอนอยู่บนพื้นหวาดกลัวเขาเป็นอย่างมาก ไม่มีใครเลยที่จะกล้ายืนขวางทางเขา
  พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าซือหยูจะทรงพลังเช่นนี้!ถ้าพวกเขารู้ พวกเขาจะไม่มีทางโง่เขลาพอที่จะรังแกเขาตามเจ่าฉวน!
  ซือหยูมองเจ่าฉวนด้วยความเย็นชา
  “นี่คือบทเรียนของเจ้า!”
  จากนั้นซือหยูจึงเดินออกมาจากสวนตำราไม่นานหลังจากที่ไปก็มีชายสองคนที่แข็งแกร่งเดินออกมาจากภายในสวนตำรา ทั้งสองมีพลังระดับจ้าวเทวะ
  ซือหยูจะจำได้หากอยู่ที่นี่เพราะหนึ่งในนั้นคือปราชญ์วัยกลางคน เขาคือเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างที่ถูกถอนสิทธิ์ในการค้าขายร่วมกับพันธมิตรปรุงยา!
  เขายืนอยู่ข้างสตรีผิวเข้มที่สวมชุดดำนางดูเย่อหยิ่งและอวดดี
  “เกิดอะไรขึ้น?”
  นางถามขณะมองรอบๆ
  เหล่าคนรับใช้ไม่กล้าจะปิดบังเมื่อเล่าเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อโกรธมากเมื่อรู้ว่าเป็นฝีมือของศิษย์ตำหนักโลหิต
  “นี่มันเกินทนแล้ว!ตำหนักโลหิตยังคิดว่าเมืองเทียนหยาเป็นของดินแดนพรสวรรค์อยู่งั้นเรอะ?”
  นางถามด้วยความโกรธ
  จากนั้นนางก็จับจ้องเจ่าฉวนพร้อมกับถาม
  “แต่…เจ้าเป็นคนที่เริ่มเรื่องทั้งหมด!อย่าคิดว่าจะหนีจากโทษประหารไปได้! เจ้าต้องตาย!”
  จากนั้นนางก็ดีดนิ้วพลังชีวิตพุ่งเข้าใส่กะโหลกของเจ่าฉวน! เขาถูกฆ่าตายก่อนที่จะได้อ้อนวอนขอชีวิต
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างขมวดคิ้ว
  “ท่านฉินอยากจะให้ข้าตามไปจับศิษย์จากตำหนักโลหิตคนนั้นหรือไม่?”
  สตรีผิวเข้มผู้นี้คือเจ้าของสวนตำราจี่เฉิน!
  “ไม่ต้องหรอกนี่ไม่ใช่เวลาจะเผชิญหน้าโดยตรงกับตำหนักโลหิต ถึงเวลาเมื่อไหร่ ตำหนักโลหิตจะต้องได้รับผลที่ตามมา!”
  นางตอบกลับและสั่งเหล่าคนรับใช้ที่เหลือให้เก็บกวาด
  ตอนนั้นเองใบหน้านางก็มีความคาดหวัง
  “อย่าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังมันจะส่งผลจากความสัมพันธ์ระพวกเรากับของจากเหยามู่เต๋าเหริน อย่าได้ประมาท!”
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างพยักหน้า
  “ข้าเข้าใจแล้วขอบคุณที่ให้โอกาสข้า”
  “ไม่ต้องพูดแล้วเขตกลางรู้ว่าเจ้าเป็นอย่างไร ถ้าหากพันธมิตรปรุงยาไม่ให้ค่าเจ้า เจ้าก็ไม่ต้องเมตตาพวกมัน…”
  นางตอบ
  หลังจากที่เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างถูกตัดสิทธิ์อย่างเปิดเผยคนจากเขตกลางก็รู้เข้าและรับเขาเป็นพวก เพราะเขาคือจ้าวเทวะระดับสองอยู่แล้ว เขาจึงมีความสามารถอันน่าพอใจ
  “ข้าจะพยายามอย่างดีที่สุด…”
  เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างกล่าวและเผยรอยยิ้มเล็กๆเขาตั้งมั่นกับตัวเองว่าจะทำให้เจ้าของร้านซือแห่งร้านตงหลินเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป!
  ส่วนซือหยูเมื่อกลับมาถึงร้านตงหลิน เขาเข้าสู่การบ่มเพาะพลัง ดวงตาของเขาเปล่งแสงจางๆเมื่อเขาแบมือขวาช้าๆ ทางช้างเผือกส่องประกายโดยยังมีทรายสีทองสองร้อยหยิบมือในมือของซือหยู! ทรายทองคำเหล่านี้คือสิ่งที่เขาได้มาจากคู่มือของเหยามู่เต๋าเหริน
  “มันคืออะไรกันเนี่ย?”
  ซือหยูสงสัยอย่างมากขณะที่พยายามรวบรวมมัน