ตอนที่ 564 คิดตก / ตอนที่ 565 ไปหาไม่ได้

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 564 คิดตก 

 

 

เรื่องทุกอย่างล้วนต้องใช้เงิน เอาแต่รบเร้าให้เขาคิดหาวิธีทุกวัน สิ่งนี้ทำให้เมิ่งไหวเซินอยากจะทิ้งตำแหน่งประธานบริษัทไปเสีย ให้พวกเขาไม่เหลือข้ออ้างอะไรในการให้ตนต้องทุ่มสุดชีวิตอีก 

 

 

แต่มันก็เป็นแค่ความคิดเท่านั้น เมิ่งไหวเซินไม่มีทางยกบัลลังก์ของตนเองให้คนอื่นเป็นแน่ ถ้าเขาคิดแบบนั้นก็คงจะทำไปนานแล้ว คงไม่ลำบากยืนหยัดมาจนถึงตอนนี้หรอก 

 

 

นอกจากนี้บริษัทยังได้นี้รวบรวมคุณูปการของเขาเอาไว้ ก็ถือว่าเป็นกำลังของเขาทั้งหมด เขาก็ต้องการให้บริษัทกลับมามีชีวิตอีกครั้ง 

 

 

เพราะช่วงนี้มีโครงการหลายโครงการในบริษัทเกิดปัญหา เมิ่งไหวเซินคงไม่สามารถปลีกตัวไปได้สักพัก ทำได้แค่ให้ปล่อยให้เมิ่งชิงซีรออยู่ในคุกอย่างใจจดใจจ่อรอความช่วยเหลือของเขา และปลีกตัวมาจัดการเรื่องบริษัทก่อน 

 

 

เมิ่งชิงซีรอวันแล้ววันเล่า หัวใจเริ่มชินชา “พ่อต้องหลอกฉันแน่ ที่จริงแล้วเขาไม่อยากช่วยฉันสักนิด” 

 

 

เธอพึมพำไปมา ตนอาศัยอยู่ในคุกคนเดียวมาเป็นปี จู่ๆ ก็คิดว่าจะได้ออกไปก็ควรจะถูกกรรมตามสนองแบบนี้นั่นแหละ เมื่อคิดแบบนี้จึงจะสามารถสงบความร้อนรุ่มในใจลงไปได้ 

 

 

ในคุกตอนกลางคืนนั้นเงียบสงัด ทุกคนเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันต่างก็หลับฝันหวานกันหมด มีเพียงเมิ่งชิงซีที่ยังเบิกตาทั้งคู่ มองดูโลกที่ไร้เสียงในยามค่ำคืน 

 

 

ที่ที่เธออยู่นั้นเรียบง่ายมาก มีเพียงเตียงเดี่ยวหนึ่งหลัง ต่างกับเตียงยาวเจ้าหญิงที่เธอเคยอยู่ที่บ้าน แต่ที่เมิ่งชิงซีต้องนอนบนนั้นเพราะเธอหมดทางเลือก มีแค่ที่นี่เท่านั้นที่จะสามารถนั่งลงได้ 

 

 

แรกๆ จากที่เมิ่งชิงซีไม่อยากจะยอมรับมันก็ค่อยๆ รับได้ในที่สุด เพราะผ่านอะไรมามากมายทำให้ตอนนี้เธอค่อยๆ กลับสู่ความสงบอีกครั้ง 

 

 

ต้องบอกว่าที่เมิ่งไหวเซินยุ่งขนาดนี้เพราะโอวหยางหงเป็นคนจัดการ โอวหยางหงไม่มีวันปล่อยบริษัทของตระกูลเมิ่งไปแน่นอน เพียงแต่ถ้าเมิ่งไหวเซินเริ่มผ่อนคลายเมื่อไหร่ เขาก็จะทำตามแผนจริงๆ ของตัวเองทันที ค่อยๆ บดขยี้พวกเขา 

 

 

“พ่อคะ พ่อจะมาเมื่อไหร่คะ” เมิ่งชิงซีอยากให้เมิ่งไหวเซินมารับเธอออกไปเร็วๆ น่าเสียดายที่เมิ่งไหวเซินทำให้เธอผิดหวังอยู่ตลอด เธอจะต้องใช้เวลาที่เหลือของชีวิตอยู่ที่นี่งั้นเหรอ 

 

 

เมิ่งชิงซีคิดอยู่ทุกวันว่าทำไมเธอต้องเข้ามาอยู่ในนี้ แท้จริงแล้วใครเป็นคนทำให้เธอติดคุก เห็นๆ กันอยู่ว่าเธอเป็นหลานสาวตระกูลเมิ่ง คนอื่นๆ ต้องเห็นแก่หน้าคุณปู่ถึงจะถูก แต่เธอกลับได้รับความทรมานมากมายตอนอยู่ข้างใน 

 

 

แท้จริงแล้วใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่ เมิ่งชิงซีคิดถึงเรื่องนี้ ที่จริงแล้วในใจเธอก็พอเดาได้อยู่บ้าง เพียงแต่เธอไม่อยากจะเชื่อ 

 

 

รอให้เมิ่งไหวเซินจัดการกับบริษัทให้มั่นคง อย่างน้อยก็ไม่มีอะไรน่ากังวลอีก เมื่อมาเยี่ยมเมิ่งชิงซีอีกครั้งก็ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว  

 

 

“เรื่องนี้จะทำยังไงดี ชิงซีคงร้อนใจมากแล้ว ที่นานมากแล้วฉันยังไม่ได้ไปเยี่ยม” เมิ่งไหวเซินบ่นพึมพำ และให้เลขาติดต่อเรือนจำให้ทันทีว่าเขาจะไปเยี่ยมเมิ่งชิงซี 

 

 

สุดท้ายเขาก็ไปถึงเรือนจำและได้รับแจ้งว่าช่วงนี้เมิ่งชิงซีอยู่ภายใต้การตรวจสอบ ไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ เขาอยากจะถามว่าตรวจสอบเรื่องอะไร แต่อีกฝ่ายก็แจ้งว่าเขาเองก็ไม่แน่ใจนัก ดังนั้นเมิ่งไหวเซินทำได้แค่จำใจกลับไป 

 

 

เขาโทรหาเลขาของตัวเองทันที ถามว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เห็นๆ อยู่ว่าครั้งก่อนเขาก็มาเยี่ยมได้ตามปกติ ทำไมครั้งนี้ถึงเยี่ยมไม่ได้ ทำได้เพียงต้องอ้างคุณปู่เมิ่งเพื่อให้เขาได้เจอเมิ่งชิงซีก่อน 

 

 

  

 

 

ตอนที่ 565 ไปหาไม่ได้ 

 

 

เมิ่งไหวเซินก็คิดว่าลั่วเซ่าเชินต้องเล่นสกปรกแน่จึงไปหาพวกเขาที่บ้านทันที เสียงกดกริ่งที่ประตูดังขึ้น “มาแล้วๆ” 

 

 

ป้าหลิวส่งเสียงมาจากข้างใน เธอรีบวิ่งมาที่ประตู เมื่อเปิดประตูดูก็พบว่าเป็นเมิ่งไหวเซิน สีหน้าของเธอตึงขึ้นชั่วขณะ จะให้เขาเข้าไปหรือไม่เข้าไปดีล่ะ 

 

 

“คุณเมิ่ง วันนี้คุณมาทำไมคะ” ป้าหลิวรู้สึกแปลกใจ ต้องรู้ว่าพ่อของคุณผู้หญิงคนนี้ ปกติแล้วจะไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก วันนี้ลมอะไรหอบมา เขาถึงมาที่นี่ได้ 

 

 

“โจวโจวอยู่ไหม” ได้ข่าวว่าลูกสาวของเขาคนนี้ท้องอีกแล้ว คิดว่าเธอน่าจะอยู่บ้านเลี้ยงลูกหวังว่าเขาจะเดาไม่ผิดนะ 

 

 

“คุณเมิ่งคะ วันนี้คุณผู้หญิงออกไปที่ร้านค่ะ ที่บ้านไม่มีใครอยู่” เขามาที่นี่โดยไม่ได้นัดไว้ ท้องของคุณผู้หญิงนับวันก็ยิ่งโตขึ้น ถึงแม้ที่ร้านคุณผู้ชายจะมีคนมาช่วยแล้ว แต่คุณผู้หญิงก็ต้องไปดูด้วยตัวเองเพื่อให้วางใจ 

 

 

“ร้านอยู่ที่ไหน ฉันจะไปหาเธอ” วันนี้เขาต้องเจอถังโจวโจวให้ได้ ต้องถามเธอให้รู้เรื่อง เรื่องของชิงซีใครเป็นคนทำ เพราะไม่ว่ายังไง นั่นก็เป็นน้องสาวของเธอ เธอไม่รู้สึกเสียใจบ้างเลยเหรอ 

 

 

“คุณเมิ่งคะ เรื่องนี้ฉันคงช่วยคุณไม่ได้ ฉันไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน คุณโทรหาคุณผู้หญิงดีกว่าค่ะ” เมื่อมองเมิ่งไหวเซินแล้วก็หวังว่าจะได้ผล 

 

 

“อืม งั้นเดี๋ยวค่อยโทร” เขาคค่อยๆ ถอยหลังกลับไปที่รถ ป้าหลิวเห็นเขาไปแล้วก็โล่งอกขึ้น ทุกครั้งที่เขามาที่บ้านมักทำให้บรรยากาศคุกรุ่นอยู่ไม่น้อย 

 

 

ป้าหลิวไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของแม่คุณผู้หญิงกับเมิ่งไหวเซิน สามีภรรยาที่ไม่มีพรหมลิขิต ทำเรื่องอะไรมากมายก็เปล่าประโยชน์ ยังไม่สู้ถือโอกาสใช้ชีวิตของแต่ละคนไปให้ดีถึงจะเป็นความสุขที่สุด 

 

 

“ถ้าอย่างนั้นคุณเมิ่งเดินทางปลอดภัยค่ะ ฉันส่งแค่นี้” ป้าหลิวเห็นเขาขับรถออกไปแล้วถึงได้ปิดประตูใหญ่ เธอก็ไม่ได้หลอกเขาเสียหน่อย 

 

 

เมิ่งไหวเซินจำเบอร์โทรศัพท์ของถังโจวโจวไม่ได้ ทำได้แค่โทรหาลั่วเซ่าเชิน เพื่อคุยกับถังโจวโจว ลั่วเซ่าเชินคุยด้วยยากมาก เขาพูดวกไปวนมา สุดท้ายจนก็ยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้ถังโจวโจวอยู่ไหน  

 

 

เขาให้เลขาของตัวเองหาตำแหน่งร้านที่ถังโจวโจวเพิ่งเปิดเพราะเขาจะไปที่นั่นด้วยตัวเอง 

 

 

“โจวโจว” ถังโจวโจวกำลังอุ้มเสี่ยวอวี่อยู่ในร้าน วันนี้ช่วงเช้าลูกค้าในร้านก็ไม่เยอะ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเรียกเธอจากด้านหลัง และน้ำเสียงก็ยังคุ้นเคย เธอหันกลับไปดูก็พบว่าเมิ่งไหวเซินยืนอยู่หน้าประตู 

 

 

เห็นว่าถังโจวโจวหันกลับมา เมิ่งไหวเซินจึงค่อยๆ เดินเข้าไปหยุดลงตรงหน้าเธอ “พวกเราหาที่นั่งคุยกันหน่อยได้ไหม” 

 

 

แขกในร้านของถังโจวโจวส่วนใหญ่เธอรู้จักหมด หลังจากเริ่มมาบ่อยขึ้นก็เริ่มจะคุ้นเคยกัน 

 

 

“ได้ค่ะ เสี่ยวหลิน ช่วยฉันดูเสี่ยวอวี่หน่อย เดี๋ยวฉันมา” 

 

 

“ได้ค่ะเจ้านาย คุณไปเถอะ ฝากเสี่ยวอวี่ไว้กับฉันวางใจได้ค่ะ” เสี่ยวหลินคือพนักงานคนใหม่ที่เพิ่งรับมาของร้านถังโจวโจว เพื่อให้ทำงานอย่างกระตือรือร้น ถังโจวโจวจึงดีกับเธอ และเสี่ยวหลินก็เชื่อฟังคำสั่งของถังโจวโจวและไม่เคยปฏิเสธ และทุกๆ ครั้งก็ทำออกมาได้ดี 

 

 

“ไปเถอะค่ะ เข้าไปนั่งก่อน” ถังโจวโจวพาเมิ่งไหวเซินเข้าไปในห้องพักพนักงาน ถังโจวโจวนั่งลงก่อน เมิ่งไหวเซินเห็นเธอนั่งได้ไม่สะดวก แต่ก็ไม่ได้เอื้อมมือไปช่วยพยุงเธอ เพียงแค่มองดูอยู่เงียบๆ