ตอนที่ 1903 อาหารเรียกน้ำย่อย (3)
แต่ตอนนี้กู่อี้ไม่สามารถระเบิดความโกรธออกมาได้
คำพูดของประมุขวิหารมังกรอาจจะยังเป็นที่สงสัยของคนอื่นๆ แต่ถ้าเขาพูดประชดประชันเสียดสีก็เท่ากับเผยความอัปยศอดสูในใจ เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ยืนยันได้ว่าเป็นความจริงแล้ว!
“ประมุขวิหารมังกร ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดข้ากับกู่อิ่งมากเพราะการตายของลูกชายเจ้า เจ้าอยากได้คำตอบวันนี้ ข้าก็จะให้คำตอบเจ้า” กู่อี้พยายามอดกลั้นความโกรธในใจและแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง
กู่ซินเยียนที่นั่งอยู่ข้างๆกู่อี้เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้น นางกระตุกแขนเสื้อของกู่อี้โดยไม่รู้ตัวและมองพ่อของตนอย่างอ้อนวอน
แต่กู่อี้ไม่สนใจการอ้อนวอนของลูกสาวnovel-lucky
“โอ้ ข้าก็อยากเห็นว่าเจ้าจะให้คำตอบอะไรกับข้า” ประมุขวิหารมังกรพูดเย้ยหยัน
กู่อี้มองประมุขวิหารมังกร แล้วหลับตาลงก่อนจะส่งเสียงเรียกไปที่ด้านหลัง
“กู่อิ่ง”
เมื่อได้ยินเสียงของกู่อี้ กู่อิ่งก็ยิ้มเยาะที่มุมปากแวบนึง เขาลุกขึ้นอย่างไม่ลังเล ยืนอยู่ท่ามกลางสายตาของทุกคนโดยไม่มีการหลบเลี่ยงใดๆ
“เจ้ายอมรับความผิดที่กระทำในวิหารจิงหงหรือไม่?” เสียงของกู่อี้เย็นยะเยือกจนทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน
“ขอรับ” กู่อิ่งตอบออกมาทันทีอย่างไม่มีลังเล
กู่ซินเยียนเบิกตากว้าง มองพ่อของตนก่อนจะหันไปมองกู่อิ่ง แววตาเต็มไปด้วยความกังวล
“ติดหนี้ต้องคืนเงิน ฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต ในเมื่อเจ้าเป็นลูกชายของข้ากู่อี้ ย่อมต้องมีความรับผิดชอบ ไปซะ!” กู่อี้กล่าวอย่างเย็นชา
“ท่านพ่อ!!” กู่ซินเยียนร้องออกมาด้วยความตกใจ
“เจ้าหุบปาก!” กู่อี้จ้องกู่ซินเยียนเขม็ง
รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากของกู่อิ่ง เขามองกู่ซินเยียนที่พยายามอ้อนวอนแทนเขาอย่างเต็มที่ ดวงตาฉายแววยิ้ม
[น้องสาวผู้ใจดีของเขา……]
กู่อี้เงยหน้าขึ้นและก้าวยาวๆไปที่กลางห้องโถง เผชิญหน้ากับประมุขวิหารมังกรที่ดวงตาแดงก่ำ
“ประมุขวิหารมังกร นี่คือคำตอบที่ข้าให้เจ้า ตั้งแต่นี้ไป กู่อิ่งจะถูกส่งมอบให้เจ้า จะฆ่าจะแกงยังไงก็แล้วแต่เจ้า สิบสองวิหารจับมือกันจนถึงวันนี้ เผชิญหน้าต่อสู้อย่างยากลำบากกับเก้าอารามมาเนิ่นนาน ถ้าพวกเราไม่ลงรอยกัน เก้าอารามจะไม่เห็นพวกเราเป็นตัวตลกได้อย่างไร?” กู่อี้พูดอย่างเด็ดเดี่ยวองอาจ ไม่มีท่าทางจำใจหรือรับไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ประมุขวิหารมังกรหรี่ตามองกู่อิ่ง เจตนาฆ่าในแววตาของเขารุนแรงจนแทบหายใจไม่ออก
“เจ้าพูดถูกต้อง ข้ายอมรับคำตอบนี้ของเจ้า เด็กๆ! มาเอาตัวฆาตกรที่ฆ่าประมุขน้อยไปซะ!”
“ไม่ได้นะ!” กู่ซินเยียนลุกออกมาจากโต๊ะของนางทันที ไม่สนใจกู่อี้ที่พยายามจะห้ามนาง และวิ่งไปยืนตรงหน้ากู่อิ่ง นางยืนคั่นกลางระหว่างประมุขวิหารมังกรและกู่อิ่ง
“ท่านอาจูเก๋อ พี่ชายข้าไม่ได้ฆ่าจูเก๋ออินจริงๆ เขาถูกใส่ร้าย ข้าสามารถยืนยันได้!” ร่างเพรียวบางของกู่ซินเยียนยืนขวางอยู่ตรงหน้ากู่อิ่ง กู่อิ่งผงะไปเล็กน้อย ดวงตายิ้มแย้มของเขาฉายแววประหลาดใจ
ประมุขวิหารมังกรหัวเราะ แล้วพูดเสียงเยาะเย้ยว่า “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อคำพูดเจ้างั้นรึ?”
กู่ซินเยียนตอบอย่างกระวนกระวายว่า “ข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้ ให้เวลาข้าหนึ่งเดือน ข้าจะหาว่าใครฆ่าจูเก๋ออินมาได้อย่างแน่นอน!”
ประมุขวิหารมังกรเริ่มหงุดหงิด เขาหันไปมองกู่อี้
กู่อี้เปิดปากพูดทันที “พวกเจ้าพาคุณหนูกลับไปพักผ่อนที่ห้อง นางเมาแล้ว”
“ท่านพ่อ! เขาเป็นพี่ชายของข้านะ!” กู่ซินเยียนมองกู่อี้อย่างเหลือเชื่อ ผู้อาวุโสของวิหารมารโลหิตก้าวออกมาและจะดึงตัวนางออกไป แต่กู่ซินเยียนไม่ยอมไป
“กลับไปเถอะ” กู่อิ่งพูดขึ้น ยกมือขึ้นแกะมือเล็กๆของกู่ซินเยียนที่จับแขนเสื้อของตนไว้ออกไป
ตอนที่ 1904 พายุกำลังมา (1)
กู่ซินเยียนถูกผู้อาวุโสลากตัวออกไป นางยังคงดิ้นรนหาทางออกให้กับกู่อิ่งเป็นครั้งสุดท้าย แต่ทั้งงานเลี้ยงไม่มีใครอยากช่วยชีวิตกู่อิ่งเลยสักคน
ทุกคนที่นั่นรู้ว่ากู่อิ่งฆ่าจูเก๋ออิน เป็นไปไม่ได้ที่ประมุขวิหารมังกรจะปล่อยเขาไป แม้แต่กู่อี้ก็ทอดทิ้งกู่อิ่ง แล้วใครจะกล้ายื่นจมูกเข้าไปยุ่งเรื่องนี้
ศิษย์วิหารมังกรเดินเข้ามามัดกู่อิ่ง กู่อิ่งยืนนิ่งอยู่กับที่ปล่อยให้คนพวกนั้นมัดเขา เขายิ้มบางๆที่มุมปากตั้งแต่ต้นจนจบ ดูเหมือนกำลังมองความวุ่นวายตรงหน้าด้วยความรู้สึกขบขันอย่างยิ่ง
ประมุขวิหารมังกรส่งสัญญาณให้ศิษย์ของเขาด้วยสายตาพอใจ แล้วกู่อิ่งก็ถูกพาตัวออกไปทันที
ประมุขวิหารมังกรยืนขึ้นและพูดว่า “ดูเหมือนข้าจะเมานิดหน่อย ขอลาไปก่อนนะ”
พูดจบเขาก็เดินออกไปจากห้องจัดเลี้ยงทันทีโดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะพูดยังไง
“จุ๊ๆ กู่อี้ใจแข็งเหลือเกิน ไม่ว่ากู่อิ่งจะเป็นลูกชายเขาหรือไม่ แต่กู่อิ่งก็ทำเพื่อวิหารมารโลหิตมาไม่น้อยตลอดหลายปีที่ผ่านมา กู่อี้ยังส่งเขาไปง่ายๆแบบนั้น ใจร้ายจริงๆ” ประมุขวิหารจื่อเหลยกล่าวอย่างอารมณ์ดีที่ได้ดูเรื่องสนุกๆ
ประมุขวิหารคงฉานที่อยู่ด้านข้างพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆว่า “ก็นั่นน่ะซิ เจ้าคนจากวิหารมังกรรีบกลับไปแบบนี้ ต้องเป็นเพราะอดใจรอที่จะแก้แค้นให้ลูกชายไม่ไหวแล้ว ไม่รู้ว่ากู่อิ่งจะมีชีวิตรอดจนถึงพรุ่งนี้เช้ารึเปล่า”
“เขาไม่ตายง่ายๆหรอก เจ้าไม่ได้ยินที่เจ้านั่นจากวิหารมังกรพูดเมื่อกี้หรือ? เขาจะ “ดูแล” กู่อิ่งอย่างดีแน่นอน คาดว่ากู่อิ่งจะยังไม่ตายอย่างน้อยอีก 3-5 ปีโน่นแหละ”
ทุกคนถกเถียงกันอย่างดุเดือด เนื่องจากไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิหารของตน ส่วนใหญ่จึงพากันเฝ้าดูอย่างตื่นเต้น
ไม่มีใครสนใจฟ่านจั๋วที่นั่งก้มหน้าอยู่มุมหนึ่ง ไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามือที่อยู่ในแขนเสื้อของเขากำลังกำแน่น
แค้นที่ฆ่าลูกชายทำให้ไม่อาจอยู่ร่วมฟ้าเดียวกัน
แล้วแค้นที่ฆ่าพ่อล่ะ?
ฟ่านจั๋วไม่มีวันลืมได้ว่าพ่อบุญธรรมของเขาตายอย่างไร
ท่านพ่อถึงขั้นเสียสละลูกชายตัวเองเพื่อปกป้องเขา แต่กลับถูกกู่อิ่งสังหารอย่างโหดเหี้ยม
หากทำได้ ฟ่านจั๋วก็อยากล้างแค้นให้ฟ่านฉีด้วยมือตัวเอง!
ความบาดหมางระหว่างวิหารมังกรและวิหารมารโลหิตได้สิ้นสุดลงแล้วในวันนี้ หลังจากทุกคนดื่มกันพอแล้ว พวกเขาก็กลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง การประชุมสุดยอดของสิบสองวิหารในวันพรุ่งนี้จะเป็นเวลาที่พวกเขาแก้ไขปัญหาระหว่างวิหารต่างๆ
วันนี้มีการแสดงดีๆให้ดูติดๆกัน วิหารต่างๆที่ขัดแย้งกันก็แอบยั่วยุและแข่งกันเอง หลายคนดื่มจนเมาและหลับไปทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้อง
แต่เงาร่างดำๆหลายร่างได้แอบเข้ามาในที่พักของวิหารเงาจันทราภายใต้ความเงียบสงบยามค่ำคืน
จวินอู๋เสียนั่งลูบขนเจ้าแมวดำที่นอนอยู่บนโต๊ะในห้องของนาง เย่ฉาและเย่กูอุ้มท่านแบะแบะและกระต่ายโลหิตยืนอยู่ข้างหลังนาง ผู้อาวุโสอิ่งยืนอยู่ข้างประตู ดวงตาครุ่นคิดขณะมองสองพี่น้องเยว่อี้กับเยว่เย่ที่กำลังกระซิบกระซาบคุยกัน
ฉูหลิงเย่นั่งอยู่ข้างๆจวินอู๋เสีย รินชาสองถ้วยให้กับจวินอู๋เสียและจวินชิง จวินอู๋เสียยังไม่ทันเงยหน้าขึ้นมา เยี่ยนปู้กุยผู้ไม่อินังขังขอบอะไรก็คว้าเอาถ้วยชาไปดื่มรวดเดียวหมด หลงฉีที่ยืนอยู่ด้านหลังจวินชิงตวัดสายตามองเขาแต่ไม่พูดอะไร ชินกับนิสัยที่ไม่ใส่ใจในเรื่องเล็กน้อยของชายผู้นี้แล้ว
ทันใดนั้นจวินอู๋เสียก็เงยหน้าขึ้นมองไปทางประตูที่ปิดสนิท
วินาทีต่อมา ประตูก็ถูกผลักเปิดออก ร่างสูงหลายร่างก้าวเข้ามาในห้อง เหยียบลงบนแสงจันทร์ที่สาดส่องผ่านประตูที่เปิดอยู่
“ออกมาฝึกนานขนาดนี้ ยังไม่สุขุมหนักแน่นกันสักคน” เยี่ยนปู้กุยกวาดตามองคนที่เพิ่งปรากฏตัว เอ่ยปากดุแบบไม่จริงจัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสุขมากกว่าตำหนิ
ตอนที่ 1905 พายุกำลังมา (2)
“ศิษย์คารวะท่านอาจารย์!”
ฟ่านจั๋วยืนถูจมูกเงียบๆอยู่ด้านหนึ่ง มองชายร่างกำยำสูงใหญ่พร้อมหนวดเคราเต็มหน้าที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ
[นี่คงเป็นอาจารย์ของพวกเฉียวฉู่……]
[ดูเป็นคนที่ทำอะไรตามใจจริงๆ……]
เยี่ยนปู้กุยหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “พอแล้ว ไอ้เด็กเวรลุกขึ้น ทำอะไรกันอย่างนี้ ข้าไม่เอา ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้” แม้ว่าปากจะพูดอย่างนั้น แต่เห็นได้ชัดจากดวงตาที่ยิ้มจนตาหยีว่าเขาอารมณ์ดีมาก
พวกของเฉียวฉู่ก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าเช่นกัน ทั้งสี่ประสบเคราะห์ร้ายสาหัสตั้งแต่เล็ก พวกเขารอดชีวิตมาได้ก็เพราะโชคดีได้เยี่ยนปู้กุยช่วยเอาไว้ ดังนั้น ความรู้สึกที่มีต่อเยี่ยนปู้กุยจึงลึกซึ้งอย่างยิ่ง เป็นทั้งพ่อทั้งอาจารย์
เมื่อเห็นการรวมตัวที่อบอุ่นใจระหว่างอาจารย์และศิษย์ คนอื่นๆในห้องก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
ฟ่านจั๋วเดินไปตรงหน้าจวินอู๋เสียและพยักหน้าให้นาง
“ขอบคุณ”
จวินอู๋เสียส่ายหน้า
“ข้ารู้ว่าเจ้าเลือกกู่อิ่งเพื่อช่วยข้าแก้แค้น ข้าขอบคุณจริงๆ” ฟ่านจั๋วรู้สึกขอบคุณจวินอู๋เสียมาก การตายของฟ่านฉีเป็นหนามที่ฝังแน่นอยู่ในใจเขา การปรากฏตัวของกู่อิ่งยิ่งทำให้หนามนี้ฝังลึกเข้าไปถึงกระดูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการแก้แค้น แต่เขาต้องพิจารณาภาพรวมที่ใหญ่กว่าและไม่สามารถทำอะไรผลีผลามได้
สำหรับจวินอู๋เสียที่พยายามกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งระหว่างวิหารต่างๆ มีหลากหลายวิธีที่จะทำได้ ตอนอยู่ที่วิหารจิงหง นางใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อจัดฉากเล่นงานกู่อิ่ง เพราะนางอยากจะช่วยหาทางแก้แค้นแทนฟ่านจั๋ว
สิ่งที่ฟ่านจั๋วไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง นางจะช่วยเขาทำให้สำเร็จ
“ระหว่างเราไม่จำเป็นต้องพูดแบบนี้หรอก” จวินอู๋เสียกล่าวเรียบๆ ในเมื่อเป็นเพื่อนกัน เป็นตายด้วยกัน ความแค้นของพวกเขาก็คือความแค้นของนางด้วย
“ฮ่า! เจ้าจะทำเป็นเกรงใจเสี่ยวเสียอะไรมากมาย? สมองนาง คนธรรมดาทั่วไปเทียบไม่ได้หรอก ย่อมต้องใช้ทุกอย่างให้คุ้มค่าที่สุดอยู่แล้ว” เฉียวฉู่กระโจนใส่ แขนของเขาเกี่ยวรอบคอฟ่านจั๋วพร้อมกับรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า
ฟ่านจั๋วโดนเข้าไปแบบนี้ ความหนักอึ้งในใจก็หายไปมาก
“บอกมาเร็วว่าพรุ่งนี้เจ้าวางแผนไว้ว่ายังไง! ข้าทนรอให้ถึงวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว” เฉียวฉู่พูดอย่างตื่นเต้นขณะมองจวินอู๋เสีย เขารู้สึกว่าจวินอู๋เสียจะต้องเล่นใหญ่ในวันพรุ่งนี้แน่นอน
“เดาสิ” จวินอู๋เสียรับถ้วยชาที่ฉูหลิงเย่ยื่นให้ขึ้นจิบอย่างช้าๆ
“อ๊า อย่าปล่อยให้เราสงสัยสิ บอกมาเร็ว เจ้าพาคนมาเท่าไร? อย่าบอกนะว่ามีแค่พวกเจ้าไม่กี่คนตรงนี้น่ะ ตีข้าให้ตายข้าก็ไม่เชื่อ ท่านอาจวินกับพี่ใหญ่หลงฉีอยู่ที่นี่ พวกท่านต้องพากองทัพรุ่ยหลินมาด้วยแน่ แม้แต่ภรรยาของเจ้าก็มาด้วย อย่าบอกข้าว่าไม่มีกองทัพเลยสักกอง” ตอนแรกเฉียวฉู่ยังกังวลอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อเห็นจวินชิง หลงฉี และฉูหลิงเย่มาด้วย เขาก็สบายใจขึ้น สิ่งที่คนพวกนี้มีอยู่ในมือก็คือกองกำลังทหารของทั้งอาณาจักรกลาง!
“เดาสิ” จวินอู๋เสียยังคงตอบแบบคลุมเครือเช่นเดิม
เฉียวฉู่โอดโอยเสียงดัง ทนไม่ไหวจนต้องหันไปหาจวินชิง
จวินชิงผงะไปเล็กน้อยจากสายตาละห้อยนั้น
“ท่านอาจวิน บอกข้าหน่อยน๊าาาา” เฉียวฉู่มองจวินชิงด้วยสายตาบ้องแบ๊วเป็นพิเศษ
จวินชิงแทบจะหัวเราะก๊ากออกมาดังๆกับสายตานั้น
“พรุ่งนี้เจ้าก็รู้เอง ไม่ต้องกังวลไปหรอก” จวินชิงพูดพลางหัวเราะ
เฉียวฉู่ยังคงไม่ได้คำตอบที่ต้องการ
พวกเขาพูดคุยกันอย่างมีความสุข แต่ผู้อาวุโสอิ่งมองดูพวกเขาด้วยความหวาดกลัว ตอนอยู่ในงานเลี้ยงเมื่อกี้เขาสนใจผู้เยาว์ที่เพิ่งเข้ามาในบ้านพวกนี้ ทุกคนคือศิษย์ขั้นหัวกะทิคนใหม่ล่าสุดที่วิหารต่างๆดูแลอย่างดี ตีผู้อาวุโสให้ตายเขาก็ไม่มีวันคิดว่าผู้เยาว์พวกนี้กับจวินอู๋เสียรู้จักกันมาตลอด และยังสนิทสนมกันมากด้วย!