คนอำมหิต เหตุใดนางถึงได้ไร้เดียงสาถึงเพียงนี้ หากนางมีเล่ห์เหลี่ยมมารยามากกว่านี้ เขาคงจะเกลียดนาง สาปแช่งนาง และปล่อยนางไปได้โดยง่าย เหตุใดจึงไม่คิดจะโกหก เหตุใดจึงพูดออกมาตรงๆ แล้วใช้คมมีดทิ่มแทงกันเช่นนี้ กโยซึลได้พูดสิ่งที่เขาต้องการจะได้ยินออกมาแล้ว ทว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะรับความเจ็บปวดนั้นไว้อย่างไม่รู้สึกอะไร
ช่างย้อนแย้งกันไปหมด
มือที่ถูกง้างขึ้นยังคงไม่ได้ถูกลดลงมาที่เดิม ไม่รู้ว่ามือที่กำหมัดค้างอยู่บนอากาศนั่นถูกกำไว้แน่นเพียงใด มันถึงได้สั่นระริกและเห็นกระดูกปูดโปนขึ้นมา บีพาอันที่ในตอนนี้ไม่สามารถรักษาสีหน้านิ่งเรียบได้อีกต่อไป พยายามระงับความโกรธของตนอย่างยากลำบากด้วยการเม้มริมฝีปากแน่น เลือดไหลออกมาจากฝ่ามือที่ถูกเล็บฝังเข้าไปข้างใน บีพาอันลดมือลงอย่างรวดเร็วกว่าในตอนที่เขายกมันขึ้น
“อย่าเรียกฮวางเซจาว่ารูแฮต่อหน้าเรา ถึงอย่างไรเราก็เป็นพระสวามีของชายา แล้วก็…ขอเพียงแค่ไม่ให้ถึงหูองค์จักรพรรดิ เพียงไม่ทำให้เราเดือดร้อน ชายาจะทำสิ่งใดก็ทำตามแต่ที่ประสงค์เถิด”
ชายาจะทำสิ่งใดก็ทำตามแต่ที่ประสงค์เถิด
ท้ายที่สุดแล้วคำที่เขาสามารถเอ่ยออกไปได้ คำที่เขาบอกแก่กโยซึล ไม่ว่าเมื่อไรก็มีเพียงแค่คำนี้เท่านั้น
บีพาอันที่ยืนนิ่งอยู่อีกพักใหญ่หลังจากที่กโยซึลออกไปแล้ว ใช้มือค้ำไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ จากนั้นจึงค่อยๆ เดินไปที่เก้าอี้อย่างช้าๆ เขายกมือกุมหน้าผากครู่หนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นมองชุดอภิเษก สายตาจับจ้องไปที่ผ้าแพรผืนแดงนั้น แล้วหลังจากนั้นบีพาอันก็ปัดมันทิ้งอย่างรวดเร็ว ชายเสื้อกระทบที่ชั้นวางหนังสือแล้วร่วงหล่นลงพื้นดั่งกลีบกุหลาบรูโกซ่าที่แตกละเอียด
ใบหน้าที่หันกลับมาของบีพาอันซีดเผือด ในตอนนี้นางได้โบยบินจากเขาไปแล้ว ของเหลวที่ไม่คุ้นชินหลั่งไหลออกมา แม้ว่าตนจะตัดสินใจปล่อยนางไปตั้งนานแล้ว ทว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย
และในตอนนี้เขาก็คิดถึงนางเสียแล้ว
***
ชุดอภิเษกที่กโยซึลนำมาคืนถูกเก็บไว้ที่ห้องเล็กๆ ด้านหลังตำหนักดงชอน ในห้องว่างที่ไม่มีข้าวของเครื่องใช้แม้แต่ชิ้นเดียว มีเพียงชุดอภิเษกถูกแขวนไว้ที่ผนัง บีพาอันห้ามไม่ให้ใครเข้าไปในนั้น และเขามักจะใช้เวลาอยู่ในนั้นคนเดียวอยู่บ่อยครั้ง
ก่อนที่จะเข้านอนหลังจากจัดการงานทั้งหมดจนเสร็จสิ้น บีพาอันตรงไปที่ห้องด้านหลังและจ้องมองชุดอภิเษกตัวนั้น พร้อมกับจมอยู่ในความคิดของตน ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง คาดไม่ถึงว่าบีพาอันจะมุ่งหน้าไปที่ตำหนักดงบิน เส้นทางที่เดินไปนั้นช่างเป็นเส้นทางไม่คุ้นเคย ที่ซึ่งเขาไม่เคยเดินมาเลยหลังจากมีพิธีอภิเษกสมรส บีพาอันไม่ทันคิดด้วยซ้ำว่ามันดึกมากแล้ว เหล่านางกำนัล รวมทั้งกโยยองต่างตกใจกับการปรากฏตัวของเขา กโยยองนั้นสวมใส่ชุดที่บางเบา เนื่องจากคงเป็นเวลาเข้านอนของนาง บีพาอันที่มองกโยยอง ที่ซึ่งกำลังมองมาที่ตนเองด้วยท่าทีที่เขินอาย อยู่ๆ ก็ถามคำถามหนึ่งออกไปทื่อๆ
“ยังคงเก็บชุดอภิเษกไว้หรือไม่”
“ชุดอภิเษกหรือเพคะ”
“ชุดอภิเษกที่เราทิ้งเอาไว้เมื่อคืนวันส่งตัว”
“อ้อ หม่อมฉันนึกออกแล้วเพคะ หม่อมฉันจำได้ว่าเหล่าข้ารับใช้ในตำหนักดงบินนำไปส่งให้ห้องซักรีด มันน่าจะถูกส่งคืนให้วังตะวันออกเรียบร้อยแล้วนะเพคะ” กโยยองที่มีอาการงุนงงพยายามดึงความทรงจำออกมาอย่างยากลำบาก
ใช่แล้ว อย่างนี้สิถึงจะเป็นเรื่องปกติ บีพาอันเม้มปากจนมันบางเฉียบ แล้วพูดออกไปเบาๆ ว่า
“เช่นนั้นหรือ”
หลังจากบีพาอันได้ฟังคำตอบแล้วเขาก็หมุนตัวกลับทันที เหตุผลที่เขามาที่ตำหนักดงบินนั้นมีเพียงเท่านี้ ขณะที่ตนกำลังจ้องมองชุดอภิเษกอยู่นั้น ก็คิดขึ้นมาได้ว่าเหตุใดกโยซึลถึงยังเก็บมันเอาไว้ ด้วยความสงสัยจึงอยากรู้ว่าหญิงคนอื่นเองก็ทำแบบเดียวกันหรือไม่ ทว่ากโยยองกลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับชุดอภิเษกที่เขาทิ้งไว้เลยสักนิด
“แล้วเหตุใดนางถึง…”
ถึงได้เก็บมันเอาไว้กัน
อยู่ๆ บีพาอันก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมา หรือว่านางจะเคยคาดหวังในตัวเรา หากจะกระทำการใดในตอนนี้จะยังทันหรือไม่ ความคิดเพ้อฝันกำลังสั่นคลอนหัวใจของบีพาอัน และในขณะที่เขากำลังจะเดินออกจากห้องบรรทม กโยยองก็ยื่นมือมาจับที่ชายเสื้อของเขาเอาไว้ และมืออีกข้างหนึ่งของนางก็เอื้อมไปดึงโบที่เสื้อของนาง
“ฝ่าพระบาทฮวางแทจาเพคะ”
กโยยองเอ่ยเรียกบีพาอันพร้อมกับดึงรั้งมือของเขาไว้ บีพาอันขมวดคิ้วทันทีที่เห็นว่าเสื้อผ้าของนางหลุดร่วงออกจากร่างกาย
“นี่ชายารองกำลังทำสิ่งใด”
“ได้โปรดกอดหม่อมฉันทีเพคะ ครั้งนี้ขอทรงอย่าเมินเฉยต่อหม่อมฉันอีกเลยนะเพคะ”
พรวด
กโยยองโผเข้าไปในอ้อมแขนของบีพาอัน ร่างเปลือยเปล่าของนางสัมผัสกับเนื้อผ้าเย็น นางเพิ่มแรงไปที่มือที่ใช้โอบกอดบีพาอันเอาไว้ พรึ่บ สุดท้ายบีพาอันก็ล้มลงที่เบาะรองนั่งสีแดงเข้ม และกโยยองเองก็ล้มลงที่หว่างขาของเขาเช่นเดียวกัน บีพาอันขมวดคิ้วมุ่น เขาวางมือที่ไหล่ของนาง เขาสัมผัสนาง ปลายนิ้วสัมผัสได้ถึงผิวกายอ่อนนุ่มของหญิงสาว ไหล่กลมมนเรียบเนียน รวมทั้งหัวใจที่เต้นรัวของกโยยอง น่าตกใจยิ่งที่บีพาอันกัดริมฝีปากของตัวเอง เขาไม่เคยให้ความสนใจในตัวหญิงสาวผู้ใดเลย ทว่าช่วงนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหัวใจของเขากำลังสับสนเพราะเรื่องของกโยซึลหรืออย่างไร พอได้สัมผัสผิวกายของสตรีจึงทำให้ความร้อนรุ่มบางอย่างปะทุขึ้นมา
อยากโอบกอดเหลือเกิน อยากจะสัมผัสเช่นนี้
กโยซึล
เขาจะสามารถสัมผัสนางเช่นนี้ได้หรือไม่
นางเองก็อยากถูกเขาโอบกอดเช่นเดียวกันหรือไม่
ความคิดเพ้อฝันที่ผิดเพี้ยนดำเนินไปอย่างไม่ที่สิ้นสุด บีพาอันนึกถึงกโยซึลแม้กโยยองจะอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ เขาถึงขั้นคิดไปว่าคนที่ตนกำลังกอดอยู่ตอนนี้คือกโยซึล ทันใดนั้นเองมือของบีพาอันก็ถูกจุมพิต นิ้วมือของเขากระตุก ริมฝีปากที่ถูกเม้มแน่นคลายตัวลง พร้อมกับมีเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ยากจะฟังเข้าใจเปล่งออกมา
“เหตุใดนางถึง…”
เหตุใดนางถึงไม่มองมาที่ข้า เหตุใดนางถึงมีใจให้ชายอื่นไปได้ เช่นนี้ข้าที่มีใจหยาบช้าก็ไม่กล้าขยับเข้าไปใกล้ได้น่ะสิ
บีพาอันรับรู้ว่ากโยยองอยากให้ตนโอบกอดนางเพียงใด แต่ยิ่งรู้เช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้บีพาอันขุ่นเคือง
กโยซึลมากขึ้น กโยยองยังทำเช่นนี้ แล้วเหตุใดกโยซึลถึงไม่ทำเช่นนี้บ้าง หรือเพราะนางทำไม่ได้ แม้จะมีสตรีที่อยากจะให้เขาโอบกอดมากมายเพียงใด แต่หากไม่ใช้กโยซึล มันก็ไม่มีความหมาย
บีพาอันที่ตกอยู่ในความว้าวุ่นดึงรั้งกโยยองเอาไว้ เรือนร่างเปลือยเปล่าที่แสนดึงดูดอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ทว่าบีพาอันหาได้อยากสัมผัสมันไม่ หรือหากโอบกอดกโยยองแล้ว เขาอาจจะสามารถลืมเลือนกโยซึลไปได้
“โอ๊ย” กโยยองส่งเสียงร้องออกมาราวกับตระเตรียมไว้แล้ว
ทันใดนั้นเอง บีพาอันที่ตกอยู่ในภวังค์ก็รู้ได้สติขึ้น “พอแค่นี้เถิด”
แล้วบีพาอันก็เดินออกมาจากตำหนักดงบี
น่าสมเพช น่าสมเพชยิ่งนัก ไม่ว่ากโยยองจะออดอ้อนเขาอย่างไร แต่ความคิดที่จะโอบกอดนางเพื่อให้ลืมกโยซึลนั้น เป็นความคิดที่ผิดต่อกโยยองยิ่งนัก บีพาอันอ่อนแอลง เพราะหัวใจที่ว้าวุ่นของเขาในตอนนี้
“ผิดเพี้ยนไปหมด” บีพาอันรู้สึกผิด “เราไม่เหลือเรี่ยวแรงมาเสียเวลากับการเล่นกับความรู้สึกเช่นนี้”
บีพาอันหยุดยั้งตัวเอง
พระราชวัง บัลลังก์ จักรพรรดิ
บีพาอันนึกถึงสิ่งที่ตามติดเขามาทั้งชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง