ตอนที่ 654 น่าหัวเราะหรือไม่ / ตอนที่ 655 ปิงอวิ๋นยื่นมือมาช่วย

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 654 น่าหัวเราะหรือไม่

 

 

“เรื่องที่พูดวันนี้ ข้าหวังว่าคุณหนูมู่จะจำใส่ใจ คนอื่นไม่จำเป็นต้องรับรู้ ไม่เช่นนั้นจะกระทบถึงพ่อของเจ้า”

 

 

พูดจบฟู่เฉินหรงก็หันหลังจากไป

 

 

หลังจากฟู่เฉินหรงไปแล้ว มู่ซืออวี่ก็ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ หรงเอ๋อร์เข้ามาในห้อง เห็นมู่ซืออวี่สีหน้าว้าวุ่นใจ จึงถามด้วยความประหลาดใจ “คุณหนู องค์รัชทายาททำไมกลับไปเร็วอย่างนี้เจ้าคะ”

 

 

“เข้าห้องเถอะ!”

 

 

มู่ซืออวี่พยายามสะกดใจ สีหน้ายังคงไม่ดีนัก

 

 

“คุณหนู เป็นอะไรไป องค์รัชทายาทพูดอะไรกับคุณหนูหรือเจ้าคะ”

 

 

มู่ซืออวี่ไม่พูดไม่จา ได้แต่สาวเท้าไปที่ห้อง ขณะก้าวข้ามธรณีประตูเกือบจะสะดุดล้ม นางไม่หยุดเดิน แต่รีบกลับเข้าไปในห้อง

 

 

หรงเอ๋อร์ตามมา พร้อมกับปิดประตูห้อง พอเห็นมู่ซืออวี่นั่งบนเตียงไม่พูดไม่จา หรงเอ๋อร์ก็ถามอย่างเป็นห่วง “คุณหนู เป็นอะไรไป อย่าทำให้บ่าวตกใจเลยเจ้าค่ะ”

 

 

หรงเอ๋อร์รับใช้มู่ซืออวี่มานานแล้ว แทบไม่คยเห็นมู่ซืออวี่เป็นอย่างนี้มาก่อน รู้สึกร้อนใจ

 

 

ตอนออกจากจิ่นโจว ฮูหยินกำชับนางให้ดูแลมู่ซืออวี่ให้ดี

 

 

นั่งครู่หนึ่ง ในที่สุดมู่ซืออวี่ก็สงบลง นางเล่าคำพูดของฟู่เฉินหรงให้หรงเอ๋อร์ฟัง หรงเอ๋อร์ตกใจเบิ่งตากว้าง ทำไมจึงเกิดเรื่องที่คาดไม่ถึงอย่างนี้

 

 

ไม่มีคุณชายสูงศักดิ์คนใดทำได้อย่างนี้ แต่องค์รัชทายาททำกับผู้หญิงคนหนึ่งได้ พระชายารัชทายาทช่างร้ายกาจจริงๆ

 

 

“หรงเอ๋อร์ น่าหัวเราะหรือไม่”

 

 

มู่ซืออวี่มองหรงเอ๋อร์ ยิ้มอย่างขมขื่น ท่าทางยังไม่ได้สติจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

 

หรงเอ๋อร์อายุมากกว่ามู่ซืออวี่ห้าหกปี รับใช้นางมาสิบปีแล้ว อีกทั้งหรงเอ๋อร์เป็นคนของครอบครัวฝ่ายแม่ของมู่ซืออวี่ แม่ของนางอบรมหรงเอ๋อร์ด้วยตัวเอง

 

 

ทั้งสองแม้เป็นนายกับบ่าว แต่หรงเอ๋อร์กลับคล้ายพี่สาวคอยอยู่ใกล้ชิด มีเรื่องอะไร มู่ซืออวี่มักจะปรึกษาหรงเอ๋อร์

 

 

หรงเอ๋อร์ไม่คิดว่าฟู่เฉินหรงจะพูดอย่างนี้ เรื่องนี้นางคาดไม่ถึง ไม่เพียงแต่นาง ทุกคนต่างคาดไม่ถึงว่าฟู่เฉินหรงจะคิดอย่างนี้

 

 

“คุณหนูอย่าเพิ่งใจร้อน เวลานี้คุณหนูยังไม่ออกไปจากวังตะวันออก คุณหนูกุมโอกาสให้ดี พยายามหาทางไปปรากฏตัวเบื้องหน้าองค์รัชทายาท ให้องค์รัชทายาทเข้าใจคุณหนูให้มาก ไม่แน่องค์รัชทายาทอาจจะชอบคุณหนู”

 

 

มู่ซืออวี่กลับไม่เห็นด้วย ตอนที่ฟู่เฉินหรงพูดกับนางนั้น หรงเอ๋อร์ไม่เห็นสีหน้าของฟู่เฉินหรง แต่นางเห็นอย่างชัดเจน ฟู่เฉินหรงรักใคร่พระชายาอย่างล้ำลึก เวลาพูดถึงพระชายาแววตาของเขาอ่อนโยนมาก ในเมื่อเขาบอกอย่างนี้ ก็คงจะทำอย่างนี้แน่

 

 

“หรงเอ๋อร์ เราทำตามที่องค์รัชทายาทบอกเถอะ”

 

 

พอคิดแล้ว มู่ซืออวี่ก็ตัดสินใจ ในเมื่อรัชทายาทไม่ชอบนาง นางฝืนอยู่ก็ไม่มีความหมาย พอถึงเวลาเขาคงหาทางส่งตัวนางกลับ นางทำตามที่เขาบอกดีกว่า เขากับซูจิ่วซือยังจะถือนางเป็นน้องสาว วันหลังคงจะไม่ทำอะไรกับพ่อของนาง

 

 

พอได้ยินคำพูดของมู่ซืออวี่ หรงเอ๋อร์ยังนึกว่าตนฟังผิด รีบเตือน “คุณหนูรู้ตัวหรือไม่ว่าพูดอะไรออกมา คนทั่วหล้ารู้แล้วว่าคุณหนูมาตูเฉิง วันหลังจะได้เป็นพระชายารองรัชทายาท ถ้ายอมให้องค์รัชทายาทส่งตัวกลับ วันหลังคุณหนูจะอยู่ได้อย่างไร

 

 

แม้ไม่ได้แต่งเข้าประตูวังตะวันออกก็จริง แต่ผู้คนก็จะเย้ยหยันว่าคุณหนูเป็นม่ายที่ถูกทอดทิ้ง วันหลังใครจะกล้าแต่งงานกับคุณหนู นายท่านกับฮูหยินจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

 

 

“องค์รัชทายาทไม่ต้องการข้า เราจะบีบองค์รัชทายาทได้หรือ หรงเอ๋อร์ ข้าเข้าใจคำพูดของเจ้า แต่องค์รัชทายาทพูดแล้วว่าเรื่องที่เหลือเขาจะจัดการให้เรียบร้อย ซือหนานปัญญาอ่อน ถ้าข้าแต่งเข้าวังตะวันออกจริงๆ พวกเขาคงมองว่าข้าเป็นซือหนาน”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 655 ปิงอวิ๋นยื่นมือมาช่วย

 

 

“ถึงอย่างไร คุณหนูจะยอมไปจากวังตะวันออกหรือเจ้าคะ”

 

 

หรงเอ๋อร์ยังคงเตือนอีก ก่อนเดินทางฮูหยินมู่เตือนนางเป็นพิเศษ ให้นางช่วยมู่ซืออวี่ยืนอย่างมั่นคงในวังตะวันออก พวกเขาหวังว่าจะอาศัยลูกสาวทำให้ตระกูลมู่รุ่งเรืองขึ้น

 

 

พระชายารัชทายาทแม้เป็นหลานสาวของฮูหยิน แต่ก็ไม่ใช่หลานที่แท้จริง มู่อวิ๋นชางกับพวกเขาแยกครอบครัวกันแล้ว เกียรติของมู่อวิ๋นชางไม่ได้เป็นของพวกเขาซึ่งอยู่ไกลถึงจิ่นโจว

 

 

หากมู่ซืออวี่ได้เป็นที่โปรดปราน ตระกูลมู่ที่จิ่นโจวจึงจะเงยหน้าอ้าปากได้

 

 

หรงเอ๋อร์มีภาระหน้าที่ ฟู่เฉินหรงเป็นคนโดดเด่นอย่างนี้ และมู่ซืออวี่ก็ชอบฟู่เฉินหรง นางไม่ยอมให้มู่ซืออวี่กลับจิ่นโจวด้วยความผิดหวัง

 

 

มู่ซืออวี่สีหน้าสลด “ไม่ยอมแล้วจะเป็นอย่างไร คงเป็นชะตากรรมของข้า ข้าไม่มีวาสนาที่จะอยู่เคียงข้างองค์รัชทายาท”

 

 

“คุณหนูมู่ เจ้ามีวาสนา”

 

 

จู่ๆ เสียงของปิงซินก็ดังขึ้น

 

 

นางรู้ว่าฟู่เฉินหรงมาหามู่ซืออวี่ที่นี่ และรู้ว่าฟู่เฉินหรงคงไม่มาเยี่ยมมู่ซืออวี่แน่ จึงแอบตามฟู่เฉินหรงมา รอฟู่เฉินหรงไปแล้วจึงเข้ามาแอบฟังที่ห้องของมู่ซืออวี่ ไม่เช่นนั้นฟู่เฉินหรงอาจจะรู้

 

 

คำพูดของมู่ซืออวี่กับหรงเอ๋อร์นางได้ยินแล้ว นึกไม่ถึงว่าฟู่เฉินหรงคิดจะทำอย่างนี้ มิน่าจึงรับปากซุ่นตี้อย่างง่ายๆ

 

 

นางไม่อยากเข้ามาก้าวก่ายคนคู่นี้ แต่เมื่อนึกถึงว่านางรับปากซุ่นตี้เรื่องนี้ นางจึงทำ นี่เป็นหน้าที่ของนาง

 

 

นางเคยรับปากซุ่นตี้ ต้องให้ฟู่เฉินหรงมีลูก พอมีลูกแล้ว มู่ซืออวี่จะเป็นหรือตายนางไม่ใส่ใจ นางจะไม่ช่วยเหลือมู่ซืออวี่อีก

 

 

มู่ซืออวี่กับหรงเอ๋อร์ไม่รู้จักปิงอวิ๋น พอเห็นปิงอวิ๋นปรากฏตัวกะทันหัน ก็ตกใจ หรงเอ๋อร์ทำใจกล้าถามขึ้น “เจ้าเป็นใคร”

 

 

“ข้าชื่อปิงอวิ๋น เป็นคนใกล้ชิดองค์รัชทายาท”

 

 

ปิงอวิ๋นน้ำเสียงเย็นชา ฟังไม่ออกว่ามีความรู้สึกอย่างไร

 

 

“เจ้าคือปิงอวิ๋นหัวหน้าองครักษ์พิทักษ์อุทยานตะวันออก” มู่ซืออวี่เคยได้ยินชื่อนี้ นางมองผู้หญิงท่าทางเคร่งเครียดอำมหิตเบื้องหน้าด้วยความประหลาดใจ

 

 

ปิงอวิ๋นไม่ได้บอกฐานะของตนอีก ตอบด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “องค์รัชทายาทกับพระชายารัชทายาทรักใคร่กันดีจริงๆ เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัย คุณหนูมู่ก็อย่าคิดว่าเข้ามาจะแทนที่พระชายารัชทายาท เป็นไปไม่ได้ แต่มีเรื่องหนึ่งที่คุณหนูมู่ทำได้”

 

 

“อะไรหรือ”

 

 

มู่ซืออวี่มองหน้าปิงอวิ๋นด้วยความสงสัย รอให้ปิงอวิ๋นพูดต่อ

 

 

“พระชายารัชทายาทเคยถูกพิษ ชีวิตนี้ไม่อาจมีลูก นี่คือเหตุผลที่ทำให้ฝ่าพระบาทประทานพระชายารอง ถ้าคุณหนูมู่มีลูก ย่อมอาศัยลูกยืนได้อย่างมั่นคงในวังตะวันออก โอกาสที่หายากอย่างนี้จะรับหรือไม่ คุณหนูมู่ต้องคิดให้ดี”

 

 

พูดจบปิงอวิ๋นก็จากไปด้วยความเร็วสูง เพียงชั่วพริบตาก็ไม่เห็นเงาแล้ว

 

 

หลังจากปิงอวิ๋นจากไป มู่ซืออวี่ก็สงบลงทันที แต่หรงเอ๋อร์กลับตื่นเต้นมาก คอยเตือนอยู่ข้างๆ “คุณหนู นี่เป็นโอกาสที่สวรรค์ประทาน ต้องคว้าโอกาสนี้ให้ได้

 

 

ถ้ามีโอรสองค์โตให้องค์รัชทายาท วันหลังแม้แต่พระชายารัชทายาทก็ไม่สามารถสั่นคลอนฐานะของคุณหนู พระชายารัชทายาทไม่มีลูกจึงไม่อาจทำอะไรคุณหนูได้ ชีวิตที่ดีรอคุณหนูอยู่ไม่ใช่หรือ”

 

 

“หรงเอ๋อร์ เจ้าคิดว่าเรื่องจะง่ายๆ อย่างนี้หรือ พระชายารัชทายาทเป็นคนอย่างไรพวกเราที่จิ่นโจวเคยได้ยินมาแล้ว นางสามารถบีบเฟิงชิงสุ่ยออกไปแล้วให้ตนเองเป็นพระชายารัชทายาทได้ นอกจากเป็นความตั้งใจของรัชทายาทแล้ว นางเองก็มีเล่ห์เหลี่ยมมาก”