EG บทที่ 660 พร้อมใจใช้บัตรช้อปปิ้ง

 

ความหมายของวันครูเปลี่ยนไป

หลายๆคนต่างพูดถึงเรื่องนี้ วันนี้ควรจะเป็นวันที่ได้ขอบคุณและแสดงความเคารพต่อครูอาจารย์ แน่นอนว่าวันนี้ถูกกำหนดให้เป็นวันเทิดทูนอาชีพครูรวมถึงปรับปรุงคุณภาพชีวิตและการทำงานของครูให้ดียิ่งขึ้นแต่ตอนนี้มันกลายมาเป็นวันมอบของขวัญให้กับครูเสียแล้ว

ผู้ปกครองก็เริ่มเปรียบเทียบซึ่งกันและกัน พวกเขาอาจไม่ได้ให้ของขวัญที่มีราคาแพงกว่าคนอื่นๆแต่ก็ไม่ยอมให้ของขวัญของตนเองน้อยหน้าใครเช่นกัน ครูหลายๆคนจะได้รับของขวัญเป็นจำนวนมากในวันนี้

วันครูในปีก่อนๆครูมักจะได้รับบุหรี่หรือใบชา ครูบางคนก็จะได้รับไก่หรือเป็ด แน่นอนว่าของเหล่านี้เป็นสิ่งไร้ประโยชน์ยิ่งนัก แต่ปีนี้จะแตกต่างไปจากทุกๆปีเพราะครูส่วนใหญ่จะได้รับบัตรช้อปปิ้งของไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ต

ไม่แน่ใจว่าผู้ปกครองเหล่านี้นัดแนะกันมาก่อนหรือไม่? เพราะมูลค่าบัตรช้อปปิ้งมีราคาที่ใกล้เคียงกัน โดยผู้อำนวยการโรงเรียนและอธิการบดีของมหาวิทยาลัยคือคนที่ได้รับบัตรช้อปปิ้งมากที่สุด

ครูทุกคนพยายามเก็บบัตรช้อปปิ้งเหล่านี้เป็นความลับ แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ไม่มีใครโอ้อวดเกี่ยวกับจำนวนเงินที่พวกเขาได้รับ สุดท้ายแล้วนี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาภูมิใจเลยสักนิด

แต่พอเลิกงานพวกเขาก็แทบจะเดินชนไหล่กันที่ไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ต

สิ่งแรกที่บรรดาครูทั้งหลายทำหลังจากได้รับบัตรช้อปปิ้งคือไปเอ่ยชวนภรรยาหรือสามีของตนเพื่อไปเดินซื้อของที่ไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ต บัตรเหล่านี้จะใช้ได้เฉพาะช่วงเวลาที่จำกัดเท่านั้น

เมื่อครูเดินไปเจอเพื่อนร่วมงานของตนก็ได้แต่ส่งยิ้มแหยๆให้แก่กันแต่ที่นี่คือไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตไม่ใช่โรงเรียนของพวกเขาสักหน่อย! นอกจากนี้ครูในโรงเรียนก็เฮโลกันมาที่นี่พร้อมกับเข็นรถเข็นไปมาทั่วซุปเปอร์มาร์เก็ต บนรถเข็นก็เต็มไปด้วยข้าวของต่างๆไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นวีซีดี พัดลม ฯลฯ ย่อมหมายความว่าครูคนอื่นๆก็ได้รับบัตรช้อปปิ้งในราคาแพงๆเช่นกัน

ในเมื่อทุกคนต่างก็ได้เหมือนกันแล้วจำเป็นต้องอายอะไรอีก? พวกเขาสามารถซื้อสินค้าด้วยกันได้

“ครูหนิว..มีหม้อหุงข้าวยี่ห้อดังอยู่ตรงนั้นด้วย เราไปซื้อด้วยกันมั้ย?”

“ได้สิ! โอ้!? เครื่องเล่นวีซีดียี่ห้อนี้ดีหรือเปล่า? ฉันอยากได้สักเครื่องเหมือนกัน”

“ต้องดีอยู่แล้วสิ..มันคือยี่ห้อวินด์แอนด์เรนเชียวนะ!มันเป็นยี่ห้อดังระดับโลก!สโลแกนของพวกเขาบอกว่า‘ถูกเลียนแบบบ่อยครั้งแต่ไม่มีใครเทียบได้!’”

“แล้วเครื่องเล่นวีซีดียี่ห้อนี้วางขายตรงไหนหรือ? ฉันอยากได้บ้างจัง”

ครูหนิวเลิกคิ้วสูง ดูท่าวันนี้ครูซานจะได้รับบัตรช้อปปิ้งจากบรรดาผู้ปกครองมาเยอะทีเดียวแต่ครูซานเป็นครูที่ดีมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ปกครองจะทุ่มเต็มที่เพื่อเอาใจเขา

“มันอยู่ตรงนั้น! เดี๋ยวไปดูหม้อหุงข้าวกันก่อนแล้วฉันจะพาครูหนิวไปดูเครื่องเล่นวีซีดีต่อ”

ในระหว่างที่พวกเขากำลังจ่ายเงิน พวกเขาก็เห็นใบหน้าอันคุ้นเคยจำนวนมาก บ้างก็เป็นครูจากโรงเรียนเดียวกัน บ้างก็เป็นครูจากโรงเรียนอื่น พวกเขายังเห็นผู้บริหารระดับสูงของเขตการศึกษามาซื้อของที่นี่อีกด้วย

นี่เป็นการพิสูจน์ว่าครูทุกคนได้รับของขวัญมากมายในช่วงวันครูนี้

.

.

เสี่ยวลี่ได้งานเป็นแคชเชียร์ที่ไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ต เธอดีใจมากที่ได้งานนี้แม้ว่างานของเธอจะยากแต่เงินเดือนของเธอก็สูงกว่าพ่อแม่ของเธอมากนัก

วันนี้เธอสังเกตเห็นบางอย่างที่แปลกออกไป ลูกค้าหลายๆคนที่เข้ามาชำระเงินต่างรู้จักกัน ที่นี่เป็นเมืองใหญ่ แม้จะไม่ใหญ่เท่าปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้แต่ประชากรก็หลายล้านคนเช่นกัน การที่ลูกค้าเหล่านี้ต่างรู้จักกันจะเป็นเรื่องบังเอิญอย่างนั้นหรือ?

อืม..อาจเป็นเพราะที่นี่คือไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตและลูกค้าเหล่านี้มาซื้อของที่นี่เพราะโฆษณา

แต่คนเหล่านี้ต่างเรียกกันและกันว่าครู คนพวกนี้ต่างเป็นครูกันทั้งนั้น อย่าบอกนะว่าวันนี้ไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของครูไปเสียแล้ว?

เมื่อทำการคิดเงินเสี่ยวลี่ก็ถึงกลับตกใจ บัตรช้อปปิ้ง? บัตรช้อปปิ้ง?  บัตรช้อปปิ้งอีกแล้ว!?

ครูเหล่านี้ต่างจ่ายเงินด้วยบัตรช้อปปิ้งกันทั้งหมด

อะไรนะ? เงินในบัตรไม่พองั้นหรือ? ไม่เป็นไรฉันยังมีอีกใบ! คิดเงินจากบัตรใบนั้นให้หมดไปเลย ฉันยังมีอยู่ในกระเป๋าอีก! ไม่พออีกแล้ว? ไมต้องตกใจไป ฉันยังมีอีก!

ลูกค้ามากกว่าครึ่งชำระสินค้าด้วยบัตรช้อปปิ้งและส่วนใหญ่ต่างมีบัตรช้อปปิ้งมากกว่าหนึ่งใบ

บัตรช้อปปิ้งที่ถูกที่สุดที่เสี่ยวลี่เห็นมีมูลค่า 500 หยวนและใบที่แพงที่สุดมีมูลค่า 5,000 หยวน แน่นอนว่าคนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นครู

ทางโรงเรียนใจดีขนาดนี้เลยหรือ? ครูทุกคนต่างได้รับบัตรช้อปปิ้งในวันครูเป็นเพราะโรงเรียนซื้อให้อย่างนั้นหรือ? เงินเดือนเฉลี่ยของครูน้อยกว่า 500 หยวนหากเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยก็อาจได้มากกว่าเล็กน้อย แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ทางโรงเรียนและมหาวิทยาลัยที่งบประมาณน้อยขนาดนี้จะยอมควักกระเป๋าซื้อบัตรช้อปปิ้งแจกให้เพราะราคาอย่างต่ำๆก็ 500 หยวนแล้ว

แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าครูจำนวนมากต่างพากันมาซื้อของในวันนี้ พวกเขาได้บัตรช้อปปิ้งมาจากไหนกันแน่?ทำไมแต่ละคนถึงมีมากกว่า 1 ใบ

เสี่ยวลี่ไม่เข้าใจในประเด็นนี้และอยากรู้เป็นอย่างมาก แต่ในระหว่างการฝึกอบรมกฎข้อหนึ่งที่พนักงานเช่นเธอต้องถือปฏิบัติคือการให้บริการลูกค้าต้องมาก่อนและเธอไม่สามารถชวนลูกค้าคุยได้ ลูกค้าหลายๆคนไม่ชอบให้พนักงานซักถามอะไรที่เป็นการละลาบละล้วงและแน่นอนว่าการถามถึงรายได้และสาเหตุที่ได้บัตรมาเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

เสี่ยวลี่ยังคงเงียบและตั้งใจทำงานของตนต่อไป เธอรับบัตรจากลูกค้าและแจ้งยอดเงินคงเหลือให้กับลูกค้าฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า!

วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยกว่าวันอื่นๆ มันไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์แต่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกับมากกว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยซ้ำ นอกจากนี้สินค้าที่ลูกค้าเลือกซื้อยังเป็นชิ้นใหญ่ แม้ว่าลูกค้าบางคนจะซื้อเหล้าและบุหรี่ไปบ้างแต่มันก็เป็นยี่ห้อที่มีราคาแพงๆทั้งนั้น ดูเหมือนคนรวยจะเพิ่มขึ้นในชั่วพริบตา

เสี่ยวลี่ทำงานในไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตมาประมาณ 1 เดือนแล้ว เธอไม่เคยเห็นลูกค้าซื้อสินค้าราคาแพงๆพร้อมกันขนาดนี้มาก่อน ทั้งโทรทัศน์สียี่ห้อฟิลิปส์ราคาเกือบ 3,000 หยวน ทั้งตู้เย็นยี่ห้อต่างประเทศต่างก็ถูกขนลงจากชั้นวาง

ดูท่าพนักงานส่งของจะต้องรับศึกหนักในวันนี้  การขนส่งสินค้าในวันนี้มากกว่ายอดรวมของทั้งสัปดาห์เสียอีกแต่พนักงานส่งของต่างพากันยิ้มออก เป็นเพราะยิ่งส่งมากพวกเขาก็จะได้รับเงินมากขึ้น ไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตไม่ได้มีบริการจัดส่งฟรี พวกเขาคิดค่าขนส่งด้วย ค่าใช้จ่ายไม่ได้สูงมากนักและลูกค้าส่วนใหญ่ไม่สามารถขนสินค้าขนาดใหญ่กลับด้วยตัวเองได้ พวกเขาจำเป็นต้องใช้รถยนต์ในการขนส่งสินค้าของพวกเขากลับไป

ค่าจัดส่งของไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตถูกกว่าขนส่งข้างนอกทั้งยังรวมค่าติดตั้งในราคานี้ด้วย หากมีความเสียหายใดกับสินค้าในระหว่างการขนส่ง ทางไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตจะเป็นผู้รับผิดชอบและชดเชยค่าเสียหายให้

ไม่มีใครต้องการให้เกิดความเสียหายต่อสินค้าราคาเกือบ 3,000 หยวน แม้ว่าเหล่าลูกค้าจะรู้สึกไม่ชชอบใจที่จะต้องเสียค่าขนส่งแต่ถ้าพวกเขาขนกลับไปเองและพยายามติดตั้งสินค้าจนเกิดความเสียหายแล้วล่ะก็? พวกเขาจะต้องแย่แน่ๆ!

.

.

“ผู้จัดการครับ!..เราได้สรุปยอดขายคร่าวๆของวันนี้แล้วครับ จำนวนลูกค้าเกือบ 85%ใช้บัตรช้อปปิ้งเพื่อชำระสินค้าและรายรับของวันนี้มากกว่ายอดรวมของสัปดาห์ที่แล้วอีกครับ!”

ผู้จัดการซุปเปอร์มาร์เก็ตพยักหน้ารับ

“ความคิดของผู้จัดการเฝิงช่างยอดเยี่ยมจริงๆ นี่ขนาดไม่มีโปรโมชั่นใหม่แต่ยอดขายกลับสูงกว่าช่วงโปรโมชั่นเสียอีก มันแค่วันแรกเท่านั้น พรุ่งนี้จะต้องมีลูกค้ามากกว่านี้แน่นอน!”

ผู้จัดการซุปเปอร์มาร์เก็ตคาดว่าผู้ที่มีบัตรช้อปปิ้งยังไม่ได้มาซื้อของที่ไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตทั้งหมด พวกเขาอาจเดินทางมาในวันพรุ่งนี้หรือไม่ก็หลังจากนั้น แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะถึงอย่างไรบัตรช้อปปิ้งก็มีวันหมดเขตและพวกเขาต้องมาใช้บริการก่อนวันครบกำหนดอย่างแน่นอน

ครั้งแรกเฝิงหยู่ได้กำหนดวันหมดเขตไว้ที่ 3 เดือนแต่ฟู่เกิงเฉิงและผู้บริหารที่เหลือคิดว่ามันนานเกินไปแค่ 1 เดือนก็พอแล้ว นอกไปจากวันครูยังมีเทศกาลอื่นๆอีกมากที่รออยู่และมีถึง 3 เทศกาลในเดือนเดียวกัน พวกเขาต้องเพิ่มแรงกระตุ้นในคนเหล่านี้กล้าที่จะใช้บัตรช้อปปิ้งออกมาซื้อของโดยเร็วที่สุด

เฝิงหยู่เห็นด้วยในที่สุดเพราะลูกค้าต่างมีพฤติกรรมตามที่คาดไว้จริงๆ พวกเขาจะยังไม่มั่นใจเมื่อต้องใช้บัตรช้อปปิ้งชำระแทนเงินสด

ถึงเวลาแล้วที่ไท้หัวซุปเปอร์มาร์เก็ตจะผลิตบัตรช้อปปิ้งออกมาอีกชุด