1859-2 vs 1860 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1859-2

ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีผมสีทอง เมื่อเห็นเด็กชายยืนตรงนั้น ก็พลันนึกท่อนหนึ่งของบทกวีที่ว่า ‘หล่อสง่าหน้าหยก’ เส้นผมของพ่อหนูน้อยเหมือนใยไหม ทั้งยังดำขลับจนยากจะลืมได้ แม้ว่าใบหน้าจะถูกบดบังไว้ แต่นัยน์ตาลึกซึ้งนั่นเหมือนจะเปล่งแสงออกมาท่ามกลางหิมะที่โปรยทั่วฟ้าได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงขนตาที่งอนน้อยๆ ทั้งยังดกดำ รู้สึกถึงคำว่าสง่าเหมือนม้วนหนังสือโบราณได้เลยล่ะ

อา! พ่อบ้านชาวต่างชาติถอนใจอีกครั้ง เด็กชาวเอเชียนี่น่ารักจริงๆ

อันที่จริงคุณพ่อบ้านไม่รู้ว่า คนที่หลงเสน่ห์พ่อหนูน้อยไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว แต่ยังมีคนบางคนที่กำลังศึกษาคีย์บอร์ดน้อยของตัวเองอยู่ วันนี้คนคนนี้อยากออกไปเล่น แต่พอมาคิดดูอีกที ข้างนอกก็ไม่เห็นมีอะไรให้เล่นเลย ไม่สนุกเท่ากับการรื้อข้าวของ แถมเด็กแถวนี้ก็โดนเธออัดจนหมอบหมดแล้ว จะหาใครที่อยากเล่นกับเธอจริงๆ ก็ช่างยากเหลือเกิน แถมเธอยังโดนทำโทษให้ยืนเพราะเรื่องนี้ด้วย เธอโอเคกับการโดนลงโทษแบบนี้ แต่หากไม่มีอะไรในมือแล้วต้องมายืนแบบนี้ก็น่าเบื่อ เธอจึงกอดคีย์บอร์ดดูบรรยากาศหิมะตกด้านนอย่างเห็นได้น้อยครั้ง พลางยืนนิ่งๆ โดยมีหางเสือติดอยู่ด้านหลังตัวเสื้อ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีสิ่งที่สวยกว่าบรรยากาศหิมะตกอีก

คนนั้นเป็นสโนไวท์เหรอ?

คนบางคนพยายามรื้อความรู้ด้านเทพนิยายในสมอง มองหน้าตัวเองบนหน้าต่าง แล้วหันไปมองร่างหนึ่งที่ขาวเนียนและสวยกว่าเธอ เหมือนตุ๊กตาฝรั่ง กระเป๋าเดินทางก็น่ารัก นั่นคงเป็นแพนดาสินะ มันเป็นของที่มีแค่ในประเทศจีน เธอเคยได้ยินพ่อเล่าให้ฟัง

น่ารักจัง กระเป๋าเดินทางของเจ้าหญิงน้อยยังน่ารักกว่าเธออีก คนบางคนคิดถึงตรงนี้ก็มองรูบิกในมือด้วยความรังเกียจ เอ่อ เทียบไม่ได้จริงๆ แฮะ

พ่อหนูน้อยที่ยืนบนพื้นหิมะยังไม่รู้ว่าตัวเองถูกจับตามองอยู่ แถมอีกฝ่ายยังคิดว่าเขาเป็นเจ้าหญิงน้อยอีกด้วย

เจ้าหญิง หากคิดให้ลึกซึ้ง ก็คือคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงนั่นเอง

ผู้เป็นตากลัวว่าเด็กน้อยจะไม่เคยชิน จึงเดินไปข้างแล้วตบบ่าอีกฝ่าย “มั่วเอ๋อร์ เดี๋ยวพ่อกับแม่ก็มารับกลับนะลูก เมื่อกี้อังเดรก็บอกแล้วว่า ข้างบ้านเรามีเด็กเอเชียด้วย เป็นบ้านเพื่อนของตาเอง หลานไม่ต้องคิดว่าเข้ากับที่นี่ไม่ได้ เด็กคนนั้นจะต้องเป็นเพื่อนที่ดีของหลานแน่”

“อื้ม” เด็กน้อยก้มหน้า ขนตาโรยตัวลงสร้างเงาขี้นมา คุณตาเดาอารมณ์ของหลานไม่ออก เพราะหลานท่านเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เล็ก ไม่ทำให้คนอื่นเป็นห่วงเลย “เข้าไปกันเถอะ”

จะว่าไปก็ยังเด็กมาก ยังต้องมีคนจูงมือ เพียงแค่นัยน์ตาของเด็กน้อยยังสงบเหลือเกิน มือหนึ่งถูกคุณตาจูง ส่วนอีกมือก็ลากกระเป๋าเดินทาง เดินเข้าไปยังบ้านที่จะเริ่มชีวิตใหม่

ที่นี่เต็มไปด้วยบรรยากาศสไตล์อเมริกัน ล้วนเป็นที่ชื่นชอบของเด็กทั่วไป แต่พ่อหนูน้อยยังคงไม่หลุดสีหน้าตื่นเต้นออกมา กระทั่งเค้กและรถโคมฟักทองก็ยังดึงดูดความสนใจของเขาไม่ได้

คุณท่านอานคิดว่า รอพรุ่งนี้ก่อนเถอะ ได้ยินมาว่าหนูน้อยข้างบ้านร่าเริงมาก หวังว่าจะช่วยทำให้หลานท่านให้ร่าเริงขึ้นมาได้บ้าง

ส่วนคนบางคนที่อยู่ตรงหน้าต่างบานยาวระพื้น เห็นเจ้าหญิงที่อยู่ด้านนอกหายตัวไปแล้ว ก็สวมรองเท้าแตะวิ่งหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างมีเทคนิค เธอสวมถุงมือเป็นทรงกรงเล็บเสือน้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชุดนอนรูปเสือเลย…

…………………………………………………

 ตอนที่ 1860

“พ่อจ๋า” คนบางคนเรียกออกมา เมื่อเห็นชายหนุ่มที่นอนเอาหนังสือการ์ตูนปิดหน้าไม่สนใจตัวเอง เธอก็วิ่งไปเอาหนังสือการ์ตูนออกมา “มิสเตอร์ป๋อ หนูจะบอกเรื่องหนึ่ง”

“เรื่องอะไร?” ชายหนุ่มอ้าปากหาว ท่าทางขี้เกียจ ไม่เหมือนคนที่จะเป็นพ่อได้สักนิด “หนูไปทำกระจกบ้านไหนแตก หรือไปแกล้งเพื่อนคนไหนจนร้องไห้อีก ป๋อจิ่วน้อย พ่อเคยบอกกี่ครั้งแล้วว่า เป็นคนก็ต้องทำตัวดีๆ หน่อย แล้วพ่อยังจำได้นะว่าตอนนี้ลูกควรจะต้องยืนสำนึกผิดที่ริมหน้าต่างถึงจะถูก”

“ตอนแรกหนูก็ยืนอยู่นะ” ป๋อจิ่วทำหน้าจริงจัง “ตอนหลังถูกกระชากวิญญาณไป”

ชายหนุ่มหัวเราะ ใบหน้าหล่อเหลาเข้าคู่กันกับเส้นผมสีดำขลับ ให้ความรู้สึกมั่นใจในตัวเองสูง “พ่อคงเชื่อข้ออ้างเราหรอกนะ”

“พ่ออะ หนูว่าเราควรมาคุยกันดีกว่า” ป๋อจิ่วทำตาโต หางเสื้อส่ายเอาๆ

ชายหนุ่มนั่งเท้าคางอย่างไม่สนใจ “งั้นต้องขอบคุณฟ้าดิน ในที่สุดลูกก็รู้ตัวว่าควรจะพูดกับพ่อดีๆ เสียที จะพูดอะไร เรื่องที่หนูเล่นงานเด็กน้อยตั้งแต่ที่ย้ายมาเลยใช่ไหมลูก”

“พวกเขาโตกว่าหนูตั้งสามปี จะบอกว่าเป็นเด็กน้อยไม่ได้หรอก หนูต่างหากที่เป็นเด็กน้อย” ป๋อจิ่วลูบหูตัวเอง “พูดแล้วอายจัง”

ชายหนุ่มเอนตัวนอนพลางยกขาไขว่ห้างเสียอย่างนั้น “อาย? ลูกน่ะเหรอ? แม่คุณของพ่อ คำศัพท์คำนี้ใช้กับลูกไม่ได้หรอกนะ ว่ามา อยากจะทำอะไร”

ป๋อจิ่วคิดแล้ว ก็วิ่งเตาะแตะไปที่ด้านหนึ่ง จากนั้นก็วิ่งเตาะแตะกลับมา มือถือกระปุกออมสิน “หนูอยากซื้อของ”

“เรื่องเล็กๆ ประเภทซื้อของ ยังต้องวิ่งมาบอกพ่ออีก?” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน แตะนิ้วไปที่กระปุกออมสินของลูกสาว “ท่านจิ่ว ดูเหมือนในนี้จะมีบัตรเครดิตอเมริกันเอกซ์เพรสที่พ่อให้หนูอยู่นะ”

ลูกสาวเขากล้าใช้เงินมือเติบตั้งแต่เมื่อไรกัน?

ใบหน้าเล็กๆ ของป๋อจิ่วออกจริงจัง “ของมันแพง” แม้จะไม่รู้ว่าเท่าไร แต่ท่าทางแพงน่าดู ป๋อจิ่วหันไปมองข้างบ้านอีก น่าเสียดายจัง พอเจ้าหญิงเข้าบ้านแล้วก็ไม่ออกมาอีก

ชายหนุ่มได้ยินแล้วพลันยิ้มขึ้น คงเพราะหล่อเหลาเอามาก บวกกับเจ้าเล่ห์ไม่เบา แม้เจ้าตัวจะสวมเสื้อเชิ้ตตัวขาว แต่ก็ดูขัดกับความหล่อที่ปรากฏ “เรื่องนี้ลูกต้องไปถามแม่แล้วล่ะ พ่อไม่มีสิทธิ์ตัดสินเรื่องเงินของบ้านนี้ อย่าลืมสิว่า พ่อต้องขอข้าวแม่กินอยู่”

ป๋อจิ่วตัวน้อยออกจะนับถือพ่อตัวเองในบางครั้ง เวลาอยู่ต่อหน้าแม่ พ่อก็ทำตัวเป็นหมาน้อยแสนน่ารัก แต่เวลาแม่ไม่อยู่ก็เหมือนจะกลายเป็นอีกคนในวินาทีถัดไปได้เลย พ่อเธอบอกว่านี่เป็นความลับระหว่างเธอกับพ่อสองคน ห้ามบอกแม่ แม่ต้องหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว เธอและพ่อมีหน้าที่ทำตัวน่ารัก

ป๋อจิ่วน้อยไม่เถียง แต่พ่อโตแล้วยังทำตัวน่ารักได้ ฉะนั้นเด็กห้าขวบอย่างเธอจะสวมชุดนอนเสือน้อยก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย

“แล้ววันนี้แม่จะกลับมาตอนกี่โมงอะ” ตอนที่ถาม เธอเกาหน้าตัวเองด้วยความคัน

พ่อเธอดูแลเด็กไม่เป็น พอได้ยินคำถามของลูกสาว ใบหน้าหล่อเหลาก็ดูบ่นขึ้นมาทันที “ห้าทุ่ม ให้พวกเราหาทำกับข้าวกินกันเอง มา ท่านจิ่ว เรามาเล่นเกมทายกำปั้นกัน ใครแพ้ก็ไปต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ดีไหม?”

“ไม่เอา” ป๋อจิ่วกอดกระป๋องเงิน “ตอนนี้หนูกำลังหลงใหลความสวยจนถอนตัวไม่ขึ้น ไม่มีอารมณ์ต้มบะหมี่”

ชายหนุ่มสงสัย มันไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องความสวย?

…………………………………………………………..