ตอนที่ 109-1 ตัดใจ

ซ่อนรักเคียงบัลลังก์

แม้ว่าเดิมทีในฤดูหนาวภายในพระราชวังจะเต็มไปด้วยความรู้สึกเปลี่ยวเหงา ทว่าภายในตำหนักดงชอน ที่เป็นตำหนักของฮวางแทจานั้นกลับให้ความรู้สึกเงียบเหงาเสียยิ่งกว่า อาจเป็นเพราะในฤดูหนาวไม่ค่อยมีแสงแดดเท่าไร จึงทำให้ตอนนี้ใบหน้าขาวของกโยซึลยิ่งดูขาวขึ้น ขณะนี้นางกำลังนั่งก้มหน้าอยู่ตรงหน้าบีพาอัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เผชิญหน้ากับนางหลังจากเข้าสู่ฤดูหนาว เขาทั้งยินดีและกังวลไปพร้อมๆ กันว่าในครั้งนี้นางจะมาพูดสิ่งใดที่มาทำให้จิตใจของเขาสั่นไหวอีก  

 

 

บีพาอันกลัวว่าความรู้สึกจะยิ่งถลำลึก เขากลัวว่าตนจะโลภมากขึ้น เขาไม่อยากเอาแต่ยัดเยียดความรู้สึกของตัวเองจนทำให้นางเจ็บปวด และเพราะบีพาอันนั้นรับรู้ความรู้สึกของนางอยู่แล้ว เขาจึงตั้งใจพูดออกไปอย่างเย็นชาว่า 

 

 

“เรายุ่ง หากจะทรงนั่งอยู่เฉยๆ อย่างนี้โดยไม่พูดอะไร ก็จงกลับไปเถิด” 

 

 

ลำตัวของกโยซึลสั่นระริก หลังจากนั้นนางก็ก้มศีรษะจรดพื้น บีพาอันที่เห็นท่าทางเช่นนั้นของนางก็ตกใจ ขมวดคิ้วมุ่น 

 

 

“ทรงทำอะไร เงยหน้าขึ้นมาเดี๋ยวนี้” 

 

 

“ฝ่าพระบาทเพคะ” เสียงที่สั่นไหวของกโยซึลฟังดูไม่ชอบมาพากล 

 

 

บีพาอันผลักโต๊ะเขียนหนังสือตัวเตี้ยที่ตั้งอยู่ระหว่างทั้งคู่ออกไป หลังจากนั้นก็ยื่นมือไปหากโยซึลที่หมอบอยู่กับพื้น และในขณะที่เขาเดินไปหานางเพื่อจะประคองให้นางลุกขึ้น กโยซึลก็พูดขึ้นมา 

 

 

“ขอประทานอภัยเพคะ ขอประทานอภัยเพคะฝ่าพระบาท หม่อมฉัน หม่อมฉัน ตั้งครรภ์เพคะ” 

 

 

มือของบีพาอันที่กำลังเอื้อมไปหากโยซึลหยุดชะงัก ความเงียบบังเกิดขึ้นราวกับว่าเวลาหยุดหมุน ทั้งเสียงและการเคลื่อนไหวต่างถูกแช่แข็ง บีพาอันที่มีสีหน้าราวกับหินสลักน้ำแข็ง เดินถอยหลังกลับไปนั่งที่เบาะรองนั่ง เขาวางมือลงบนหมอนอิงอย่างล่องลอย หลังจากนั้นบีพาอันก็ยกมือกุมหน้าผาก ตัวของเขาเริ่มสั่นขึ้นทีละนิด ทันใดนั้นเองบีพาอันก็แหงนหน้าไปข้างหลัง 

 

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” 

 

 

มีเพียงเสียงหัวเราะที่ดังขึ้น บีพาอันกำลังหัวเราะ เขากำลังเงยหน้าหัวเราะออกมาด้วยเสียงที่ดังที่สุดเท่าที่เคยได้ยิน มือของเขาที่จับอยู่ที่ปลายหมอนอิงกำแน่น บีพาอันกำลังระบายความรู้สึกที่ไม่สามารถพรรณนาออกมาได้ด้วยการขยำไปที่ปลายหมอนอิง ไม่อาจอ่านสีหน้าของบีพาอันที่กำลังอ้าปากหัวเราะกว้างอยู่ได้เลย 

 

 

ตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือ 

 

 

บีพาอันทำเพียงหัวเราะออกเมื่อได้ยินว่าชายาของตนตั้งครรภ์ มันเป็นเสียงหัวเราะดังที่ถูกเปล่งออกมาเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี หลังจากที่เสียงหัวเราะนั้นดังขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่พักหนึ่ง มันก็หยุดลงอย่างกะทันหันดั่งในครั้งแรกที่มันดังขึ้น บีพาอันที่ตั้งคอตรงอีกครั้ง มองไปที่กโยซึล เขายกยิ้มกว้างให้นาง มันเป็นรอยยิ้มที่บีพาอันอยากให้ยิ้มให้นางมาเสมอ ไม่คิดเลยว่าจะได้ทำมันในเวลานี้ 

 

 

“เอาล่ะ จะมีสิ่งใดน่ายินดีไปกว่าการที่ชายาของเราตั้งครรภ์กัน” 

 

 

“ฝ่า ฝ่าพระบาท…” 

 

 

“ทว่าช่วงนี้เราไม่ได้ไปหาชายาเลยแท้ๆ หรือนี่จะเป็นการล้อเล่นที่ยากจะเข้าใจของสวรรค์กัน” 

 

 

คำพูดเสียดแทงถูกพ่นออกมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว บีพาอันยกยิ้มกว้างขึ้น พลางจ้องไปที่ดวงตาของ 

 

 

กโยซึลที่เปียกชื้นอยู่ เขาต้องทำอย่างนี้เพื่อที่จะสามารถมองหน้านางได้ ต้องทำอย่างนี้ถึงจะสามารถเอ่ยสิ่งใดออกไปได้ ทั้งที่กำลังจ้องมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกลัวของนาง 

 

 

“แม้ว่าในสายตาของคนบนโลกมันจะออกดูแปลกประหลาดไปเสียหน่อย ทว่าเรากลับมั่นใจว่ามันเป็นเรื่องที่แน่นอนนัก เอาล่ะ เพื่อเป็นการป้องกันพวกโง่เขลาที่ช่างเจรจาแล้วนั้นเห็นทีจะมีก็แต่วิธีนี้วิธีเดียว ชายา” 

 

 

บีพาอันเอ่ยต่อด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า ทั้งที่ริมฝีปากแดงก็ยังคงยกยิ้มกว้าง 

 

 

“เราจะไปหาชายาคืนนี้ จงเตรียมตัวเสีย” 

 

 

นั่นคือทั้งหมด บีพาอันไม่ได้พูดถึงเรื่องใดออกมาอีก 

 

 

“ตอนนี้ก็ได้แก้ไขเรื่องที่เป็นกังวลแล้ว จงกลับไปเถิด” 

 

 

บีพาอันยังคงแย้มยิ้มออกมา ทว่ากโยซึลยังคงนั่งนิ่ง เขาที่กำลังมองไปที่นาง คว้าหมอนที่อยู่ข้างตัวแล้วปามันลงพื้น 

 

 

“กลับไปเดี๋ยวนี้! ออกไป! เราบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าเราจะไปหา!” 

 

 

แล้วบีพาอันที่ตวาดออกมาเสียงดังก็กลับมาแย้มยิ้มอีกครั้ง กโยซึลตกใจลุกขึ้นจากที่นั่งในทันที น้ำตาเริ่มหลั่งไหลออกมาจากดวงตาของนาง นางทำความเคารพบีพาอันอย่างทุลักทุเล แล้วจึงเดินโซเซออกจากห้องบรรทมไป 

 

 

บีพาอันที่นั่งอยู่ในห้องเพียงคนเดียววางแขนไว้ที่หมอนอิง เอามือเท้าค้างพร้อมกับยังคงยกยิ้ม  

 

 

รอยยิ้ม มีเพียงรอยยิ้มเท่านั้น  

 

 

หลังจากที่เขาได้ยินสิ่งที่กโยซึลเอ่ยออกมาอย่างร้อนรน เขาก็ทำเพียงยกยิ้มขึ้นมา เขาทำได้เพียงเท่านั้นจริงๆ 

 

 

“ตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือ ตั้งครรภ์ ฮ่าฮ่า” บีพาอันหลับตาลง เขารู้ว่านั่นเป็นบุตรของผู้ใด 

 

 

“รูแฮ…” 

 

 

บีพาอันเม้มริมฝีปากแน่น และระหว่างช่องว่างของริมฝีปากที่ปิดสนิทอยู่นั้น ก็มีเลือดไหลออกมา 

 

 

มันแตกสลายลงแล้ว 

 

 

ในตอนนี้มันแหลกสลายเป็นเสี่ยงๆ เสียจนไม่สามารถประกอบเข้าที่เดิมได้อีกแล้ว หญิงสาวที่ตนเฝ้าปรารถนาอยู่ในใจเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง แต่ก็ไม่อาจครอบครองนางได้นั้น ถูกรูแฮช่วงชิงไปอย่างง่ายดายเสียเหลือเกิน แม้ว่าจะเจ็บปวดเพียงใดก็ไม่สามารถเอ่ยออกไปได้ ใช่แล้ว ผู้ที่ปล่อยกโยซึลให้กับรูแฮนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นตัวเขาเอง อย่างนี้แล้วตนจะสามารถเกลียดนางได้หรือไม่ หรือตนต้องเกลียดนางจริงๆ จึงจะสามารถลบล้างความรู้ที่ตนแอบซ่อนไว้ได้ ไม่ เขาไม่มีทางเกลียดนาง ถึงแม้นางจะตั้งท้องลูกของชายอื่นอยู่ ทว่าบีพาอันก็ไม่อาจเกลียดนางได้ลง  

 

 

เช่นนั้นเขาควรจะทำอย่างไรกับรูแฮดี  

 

 

รูแฮที่แย่งผู้หญิงของตนไป ไม่สิ เขาคือคนที่ตนมอบผู้หญิงของตนให้ เป็นตัวเขาเองที่ขอให้รูแฮดูแลนางแทน เช่นนั้นตนก็ไม่มีสิทธิเกลียดรูแฮเช่นกัน 

 

 

ลูกธนูทุกดอกล้วนหวนกลับมาปักลงที่ตัวบีพาอันเองทั้งสิ้น 

 

 

*** 

 

 

ช่วงเวลาค่ำของฤดูหนาวมาถึงอย่างรวดเร็ว 

 

 

หลังจากที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับความมืดมิดที่คืบคลานเข้ามา ข้ารับใช้จำนวนหนึ่งก็เดินเข้ามาที่ตำหนักดงบี ด้านหน้าของพวกเขานั้นมีบีพาอันที่สวมชุดสีน้ำเงินงามสง่าเดินนำหน้าอยู่ 

 

 

“ไม่ต้องนำสำรับเหล้า หรือสิ่งใดเข้ามาทั้งสิ้น ทุกคนจงออกไปให้หมด ห้ามเข้ามาใกล้ไม่ว่าผู้ใดก็ตาม” 

 

 

เขาที่พูดขึ้นเสียงเบา หันกลับมาสั่งด้วยใบหน้านิ่งเรียบ หลังจากที่ไล่เหล่าข้ารับใช้ออกไป บีพาอันที่ยืนมองเงาของตำหนักดงบีอยู่ครู่หนึ่ง ก็ก้าวเดินขึ้นบันไดหินไป เขาเลื่อนเปิดประตูตำหนักด้วยตนเองแล้วเดินเข้าไปข้างใน ภายที่อยู่ในสายตาของบีพาอันตอนนี้นั้นคือกโยซึลที่แต่งกายอย่างงดงามเช่นเดียวกับวันส่งตัว