ตอนที่ 110: ปีใหม่ โดย Ink Stone_Romance

“ของพวกนี้พ่อลูกทำทั้งหมด แม่แค่เป็นคนจุดไฟให้ อร่อยก็กินเยอะหน่อย เดี๋ยวตอนกลับลูกก็เอาไปให้ทางนั้นบ้าง จะปีใหม่แล้ว ไม่มีกินไม่ได้”

หวางนิวลังเลสักพัก ในใจยังอดไม่ได้ ถึงแม้จะบอกว่าของเป็นของฝั่งนี้ แยกกันอยู่แล้ว แต่นั่นเป็นลูกชายเธอ ลูกสาวเธอ เธอจะปล่อยให้พวกเขาหิวได้ยังไง

เฉินหู่ไม่ได้พูดอะไร มีก็กินกันทุกคนนั่นแหละ

“ค่ะ”

เฉินเวยยิ้มหยักหน้า มีกินก็ไม่ควรไม่เอา อยู่ฝั่งโน้นหากินไม่ได้

“แม่ หนูมาฉลองปีใหม่ที่นี่ได้ไหมคะ?”

เฉินเวยกระซิบปรึกษาหวางนิว ที่นี่มีกินมีทุกอย่าง ฝั่งนั้นไม่มีอะไรเลย เธอไม่อยากอยู่ลำบากที่ฝั่งนั้น

“เธอมาวันที่สามสิบสิ เรียกพี่ชายกับพี่สะใภ้มาด้วย อยู่ฉลองปีใหม่กันทั้งครอบครัว แต่บอกไว้ก่อนนะ ตั้งแต่วันที่สามสิบเป็นต้นไป ยังไงก็แยกบ้านกันแล้ว ถึงแม้หู่จื่อจะยังไม่มีภรรยา แต่บ้านนี้เป็นของเขา เลยวันที่สามสิบไป พวกเธอต้องอยู่จุดไฟที่ฝั่งนั้นอยู่ดี”

หวางนิวยังไม่ทันตกลง เฉินเยี่ยนพูดขึ้นมาก่อน เธอรู้ ถ้าให้หวางนิวพูด หวางนิวต้องตกลงแน่นอน ก็ปีใหม่ ครอบครัวอยู่กันครบหน้า ยิ่งคึกคักยิ่งดี ส่วนหวางนิวตอบตกลง ไม่แน่เฉินเวย เฉินกุ้ยและช่างเหลียนจะมากินที่นี่วันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนอีก มากินทุกวัน เธอไม่อยากเห็นหน้าคนพวกนี้ทุกวัน ไม่อยากทำกับข้าวให้เฉินเวยและคนพวกนั้นกินทุกวัน สู้เธอชิงตกลงก่อน แค่วันเดียว เลยปีใหม่ไปแล้ว คิดว่าเฉินเวยคงไม่มีเหตุผลจะมาอีกแล้ว

“พี่สาวลูกพูดถูก ยังไงก็แยกบ้านกันแล้ว ลูกกลับไปบอกพี่ชายและพี่สะใภ้ลูกให้มาวันที่สามสิบ พวกเราฉลองปีใหม่กัน”

หวางนิวคิดว่าลูกสาวคนโตพูดมีเหตุผล เลยเห็นด้วย

เฉินเวยแอบแค้นเฉินเยี่ยน เธอรู้ว่าเฉินเยี่ยนไม่พอใจ ถึงแม้จะตกลงให้เธอมาวันที่สามสิบ แต่ก็ปิดทางไม่ให้เธอมาทุกวัน แต่เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ ครั้งที่แล้วบ้านเฉินเกิดเรื่องแบบนั้น เธอไปหาอวี๋เหวยหมินเพื่อปรึกษา อวี๋เหวยหมินบอกให้เธออย่าเพิ่งลงมือวู่วาม อยู่ฉลองปีใหม่ไปก่อน รอเลยปีใหม่ พวกเขาค่อยมาคิดกัน ให้เธออย่าเพิ่งก่อเรื่อง

เฉินเวยก็รู้ว่าตัวเองสู้เฉินเยี่ยนไม่ได้ เฉินเยี่ยนยอมแลก ใจเด็ดกว่าเธอ เธอทำได้แค่ต่อกรกับผู้ชาย เฉินเวยเลยเชื่ออวี๋เหวยหมิน เลยทำตัวดีก่อน

เฉินจงไม่ได้พูดอะไร เฉินเยี่ยนพูดตรงกับความตั้งใจของเขา ลูกๆ สนิทกันดี ได้อยู่กันพร้อมหน้าทุกคนก็มีความสุข ถ้าขัดแย้งกัน แยกกันอยู่แล้ว ต่างคนต่างอยู่ จะได้ไม่ต้องทะเลาะกันอันนี้ไม่ดี อันนั้นไม่ถูก พวกเขาเป็นพ่อแม่เห็นแล้วก็กลุ้มใจ

ตกลงกันแล้ว เฉินเวยกับหวางนิวก็คุยกันเรื่องอื่น

ตอนกลางวันไม่ได้ทำอาหาร ของกินเยอะขนาดนี้ กินกันอิ่มแล้ว เลยแค่ต้มน้ำดื่ม

ตอนบ่ายเฉินจงเริ่มเขียนป้ายมงคล ในยุคนี้คนขายป้ายมงคลยังน้อยอยู่ ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย เพียงแต่คนซื้อไมเยอะ โดยเฉพาะเกษตรกร ซื้อป้ายมงคลแพงกว่าซื้อกระดาษแดงแน่นอน ดังนั้นคนในหมู่บ้านเลยซื้อกระดาษแดงกลับมา ถ้าไม่เรียกให้คนเขียนให้ ก็เขียนเอง แล้วแปะคำที่มีความหมายลงไป

ส่วนเฉินจงไม่เพียงแต่เขียนป้ายมงคลให้บ้านเฉิน เขายังเขียนให้อีกหลายคน คนแทบจะครึ่งหมู่บ้านต่างเอากระดาษแดงมาให้เฉินจงเขียนให้ มีคนมาหาคุณ นั่นก็แปลว่าเขาเห็นความสำคัญของคุณ เฉินจงไม่เคยปฏิเสธเลย

เรื่องนี้ก็มีอยู่ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมเหมือนกัน แต่ความทรงจำก็คือความทรงจำ เรื่องจริงก็คือเรื่องจริง เฉินเยี่ยนเห็นเฉินจงหยิบพู่กันเขียนตัวหนังสือลงบนกระดาษแดงแล้วก็อึ้งไป เดิมทีเธอคิดว่าเฉินจงก็แค่เขียนตัวอักษรได้เฉยๆ แต่คิดไม่ถึงว่าลายมือตัวอักษรพู่กันของเฉินจงจะสวยขนาดนี้

เฉินเยี่ยนเขียนตัวอักษรสวยงาม ตัวอักษรของเฉินเวยดูธรรมดา ตัวอักษรอวี๋เหวยหมินเขียนได้ไม่แย่ แต่เฉินเยี่ยนกลับรู้สึกว่าอวี๋เหวยหมินเทียบเฉินจงไม่ได้ ตัวอักษรพู่กันของเฉินจงดูชำนาญ อีกทั้งที่เฉินจงเขียนมีหลายตัวอักษรที่เป็นอักษรจีนตัวเต็ม แต่เฉินเยี่ยนก็รู้จักหมด

เฉินจงเขียนป้ายมงคลหลายใบ แต่ซ้ำกันเยอะอยู่ เพราะป้ายมงคลล้วนแต่เป็นคำที่มีความหมายดี ทุกบ้านก็จะใกล้เคียงกัน ไม่มีใครต้องการให้วาดรูปดอกไม้

นอกจากป้ายมงคลแล้ว เฉินจงยังเขียนให้ผลผลิตดี มีสัตว์เลี้ยงมากขึ้น มีแดดในฤดูใบไม้ผลิอย่างพอเพียง เดินทางปลอดภัย มีโชค และอื่นๆ

เฉินเวยก็ดูตามมาตลอด เธอหลุบตาลง ในใจรู้สึกไม่สบาย ลายมือเธอน่าเกลียดมาก เพราะเธอไม่เคยมีความตั้งใจด้านนี้เลย เธอเห็นเขียนดีกว่าเธอก็รู้สึกอึดอัดแล้ว ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร

เขียนป้ายมงคลเสร็จ เฉินจงให้เฉินหู่เอาไปส่งให้แต่ละบ้าน จนป้ายมงคล 28 ใบติดเสร็จ ก็ไม่มีงานอะไรแล้ว ทุกวันกินๆ ดื่มๆ พูดคุยกัน

จนวันที่สามสิบ เฉินกุ้ย ช่างเหลียน และเฉินเวยต่างก็มา พวกเขามากินข้าวเช้า เฉินเยี่ยนมองออกว่าเฉินกุ้ยไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียด ช่างเหลียนเท่าวันนั้นแล้ว ส่วนสีหน้าช่างเหลียนก็ดูภาคภูมิใจ

หรือว่าพวกเขาดีกันแล้ว?

ถ้าเป็นแบบนี้จริง ก็ถือว่าช่างเหลียนมีวิธี สามารถเกลี้ยกล่อมเฉินกุ้ยได้อีกครั้ง

หวางนิวก็มองออก เธอลากเฉินกุ้ยไปคุยด้วยตั้งนาน ตอนกลับมาเฉินกุ้ยหน้าแดงเล็กน้อย

“เฮ้อ”

ในห้องครัว หวางนิวนวดแป้งไปก็ถอนหายใจไป

เฉินเยี่ยนถาม เธอรู้ว่าต้องเป็นเพราะเรื่องของเฉินกุ้ยและช่างเหลียนแน่นอน

“ถึงแม้จะบอกว่าพี่ชายกับพี่สะใภ้ลูกแยกทางกันแล้ว แม่กังวลพี่ชายลูกจะหาใหม่ แต่ตอนนี้พี่ชายลูกไม่ค่อยอยากจะเลิกกับพี่สะใภ้แล้ว แม่กลุ้มจะแย่”

หวางนิวพูดมาถึงตรงนี้แล้วมองในครัวไม่มีคนอื่น เธอพูดเสียงเบากับเฉินเยี่ยน “พี่ชายลูกพูดกับแม่ ไม่กี่วันก่อนเขาโกรธมาก แต่ช่างเหลียนร้องไห้กับเขาทุกวัน ที่บ้านแม่เธอก็ทำอย่างนั้นกับเธออีก ช่างเหลียนยังเอาใจเขา ตอนกลางคืนต้มน้ำร้อนให้ เธอยังลงมือล้างเท้าให้พี่ชายลูกด้วยตัวเอง อุ่นที่นอนให้ทุกวัน ปรนนิบัติพี่ชายลูก เธอเริ่มทำอาหารแล้ว แล้วจะทอดของยังโดนน้ำมันลวกมือด้วย พี่ชายลูกทนไม่ไหว ช่างเหลียนบอกว่าเธอแต่งงานกับพี่ชายลูก ชีวิตนี้ก็เป็นคนของพี่ชายลูกแล้ว เธอจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ขอร้องให้พี่ชายลูกอย่าทิ้งเธอไป เธอจะดีกับพี่ชายลูกทั้งชีวิต พี่ชายลูกเป็นคนหัวอ่อน ก่อนหน้านี้บอกว่าประคองให้ผ่านพ้นไป ขอแค่ช่างเหลียนปรับปรุงตัวด้วยความจริงใจ เขาก็จะไม่พูดเรื่องนี้อีก”

เฉินเยี่ยนเดาได้อยู่แล้ว เธอเข้าใจคนอย่างเฉินกุ้ย เป็นคนซื่อตรง และหัวอ่อน ช่างเหลียนทำแบบนี้ เฉินกุ้ยต้องใจอ่อนแน่นอน แต่ช่างเหลียนจะแก้ไขตัวเองได้? เธอไม่เชื่อ ถ้าช่างเหลียนตั้งใจแก้ไขจริง วันนี้สายตาที่มองตัวเองต้องไม่มีความเกลียดและได้ใจ

แต่เฉินเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไร เธออยากจะให้เฉินกุ้ยหย่า แต่เธอทำอะไรแทนเฉินกุ้ยไม่ได้

ครั้งที่แล้วเกิดเรื่องแบบนั้น ใช้ชีวิตอยู่กับช่างเหลียนมาหลายปี เฉินกุ้ยไม่น่าจะไม่รู้ว่าช่างเหลียนเป็นคนยังไง แต่เขายอม ใครจะบังคับเขาได้? ยังไงชีวิตก็เป็นของเขา

แค่มีสะใภ้แบบนี้ ในใจเฉินเยี่ยนจะไม่มีวันเป็นสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอและช่างเหลียนถือว่าเป็นศัตรูกันแล้ว อีกทั้งยังมีเฉินเวยอีกคน ตัวเองไม่ป้องกันไม่ได้

สายตาเฉินเยี่ยนเป็นประกาย เธอจะให้โอกาสช่างเหลียน แต่ไม่ใช่วันนี้

คิดถึงเรื่องพวกนี้ เฉินเยี่ยนสงบใจลง ช่วยหวางนิวและคนอื่นๆ ห่อเกี๊ยว ตอนบ่ายทำกับข้าวเย็นมาหกจาน ตอนเย็นผัดกับข้าวอีกสี่อย่าง รวมกับเกี๊ยวร้อยๆ ทุกคนฉลองปีใหม่กันอย่างมีความสุข

———–