เห็นว่าลูกชายไม่มีท่าทีจะติดกับเท่าไหร่ ซย่าโหวจวินอวี่ก็ปวดเศียรเวียนเกล้าขึ้นมาทันที ห่ามขนาดนี้ ไม่น่าประทับใจเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วจะจีบหญิงติดได้อย่างไรกัน!
แล้วชาจากลูกสะใภ้ทั้งสาม เขาจะได้ดื่มเมื่อไหร่กัน…
“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะพาใครไป! สรุปแล้ว เจ้าต้องพาสตรีไปสักคนหนึ่ง นี่เป็นคำสั่ง!”
ซย่าโหวจวินอวี่แทบจะตีอกชกตัวแล้วด้วยซ้ำไปขณะที่ออกคำสั่ง
เมื่อครั้นที่ฝ่าบาทตอนเป็นหนุ่มทรงเปี่ยมด้วยความรู้ เจ้าสำราญเป็นที่สุด
ถึงแม้ว่า ในตอนที่พระองค์รู้จักมู่หรงเยียนจะอายุไม่มาก เพิ่งจะสิบห้าชันษาเท่านั้น แต่พระองค์ก็ทรงเติบโตอยู่ในพระราชวังตั้งแต่เล็ก ดังนั้นจึงรู้ว่าจะเอาอกเอาใจหญิงสาวอย่างไร
ไม่ว่าจะเป็นการต่อกวีกาพย์กลอน หรือดื่มสุราชมจันทร์ พระองค์ล้วนแต่เชี่ยวชาญช่ำชองทั้งสิ้น
ซึ่งเป็นเพราะว่าซย่าโหวจวินอวี่มีประสบการณ์ที่สั่งสมมาด้วยตนเองอยู่อย่างเนืองแน่น จึงมีความรู้เป็นเลิศ เก่งกาจเหนือผู้อื่น พิชิตใจมู่หรงเยียนได้ในที่สุด
ความสามารถเขามากมายล้นเหลือ แต่ซย่าโหวฉิงเทียนกลับไม่ได้รับถ่ายทอดไปเลยแม้แต่น้อย
เจ็บปวดใจจริงเชียว!
และเมื่อนึกได้ว่าส่งที่ซย่าโหวฉิงเทียนชอบมากที่สุดก็คือฆ่าคน เรื่องที่ถนัดที่สุดนั่นก็คือฆ่าคน ซย่าโหวจวินอวี่ก็เจ็บปวดใจแล้วเจ็บปวดใจอีก ความเจ็บปวดทั้งหลายประเดประดังกำเริบขึ้นมาพร้อมๆ กัน
ดูเหมือนว่าหลังจากที่ซย่าโหวฉิงเทียนกลับมา ก็เป็นเช่นนี้มาตลอด
ในตอนแรกไม่มีใครสังเกตเห็น เพราะซย่าโหวฉิงเทียนในตอนนั้นเป็นเพียงเด็กชายอายุสิบขวบเท่านั้น
ภายในระยะเวลาห้าปี ซย่าโหวฉิงเทียนได้ทำการจัดระเบียบบรรดาอ๋องและราชนิกุลต่างๆ มารอบหนึ่งแล้ว ซึ่งก็ต้องต่อสู้กันจนลูกหลานได้รับบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน แม้แต่ฮ่องเต้องค์ก่อนยังทำอะไรเขาไม่ได้ ทว่าผู้คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าอ๋องสิบสี่กำเริบเสิบสาน ยโสโอหังบ้าดีเดือดเกินไปบ้าง
จวบจนกระทั่งซย่าโหวจวินอวี่ขึ้นครองราชย์ ต้าโจวจึงเข้าสู่สภาวะอันตรายอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน นิสัยที่แท้จริงของซย่าโหวฉิงเทียนถึงได้แสดงออกมา
นี่เองที่ทำให้ซย่าโหวจวินอวี่ได้รับรู้เป็นครั้งแรกว่าบุตรชายของตนเองเมื่อเติบโตแล้วมีบางอย่างที่ผิดปกติไป ภายหลังไม่ว่าฝ่าบาทจะทรงเปลี่ยนแปลง สั่งสอน หรือสั่งสมสิ่งใดให้กับซย่าโหวฉิงเทียนก็หาได้มีประโยชน์ใดๆ ไม่
เด็กดีคนหนึ่ง เหตุใดถึงได้เติบโตมาเป็นเช่นนี้ได้
ฉินจื้อแคว้นที่น่ารังเกียจ!
ซย่าโหวจวินอวี่กำมือแน่น ใจที่คิดอยากจะกำจัดแคว้นฉินจื้อยิ่งแน่วแน่ขึ้นอีกขั้น
ทว่า สิ่งที่เขากังวลใจมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนที่คดเคี้ยวเลี้ยวลดแปลกประหลาดคนนี้เปลี่ยนกลับไปเป็นซย่าโหวฉิงเทียนที่ถูกต้องปกติคนเดิมได้
ทว่าซย่าโหวฉิงเทียนกลับมิได้รับรู้ถึงความกลัดกลุ้มใจของซย่าโหวจวินอวี่แม้แต่น้อย เขาจึงกล่าวออกไปว่าสนอกสนใจในข้อเสนอแนะนี้ของพระองค์เป็นอย่างมาก
พาแมวน้อยไปชมดอกบัว นางจะชอบหรือไม่นะ
ซย่าโหวฉิงเทียนก้มหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง อวี้เฟยเยียนก็มิเคยแสดงท่าทีชื่นชอบดอกไม้ชนิดไหนเป็นพิเศษเสียด้วย ซย่าโหวฉิงเทียนกลับเอาแต่คิดว่าที่ทะเลสาบยุงเยอะน่าดู บินวนใกล้ๆ น่ารำคาญจะตาย
ไปหลบร้อนที่สวนบนเขา เรื่องนี้ไม่น่าจะสร้างสรรค์เท่าไหร่!
เช่นนั้นไปที่ไหนดีนะ
สุดท้ายที่ที่ซย่าโหวฉิงเทียนจะพาอวี้เฟยเยียนไป นั่นก็คือบ่อน้ำพุร้อนที่คนทั้งสองพบกันเป็นครั้งแรก
บ่อน้ำพุร้อนที่มีไอร้อนปะทุขึ้นมาตลอดเวลา เพียงแค่คิดอวี้เฟยเยียนก็รู้สึกร้อนวาบไปทั้งร่าง
ไอ้คุณพี่ ฤดูร้อนแช่น้ำพุร้อน ท่านว่ามันจะดีหรือ
“แมวน้อย ลงมา!”
ไม่รอให้อวี้เฟยเยียนรีรอลังเล ซย่าโหวฉิงเทียนก็ถอดเสื้อผ้าของตนเองออกหย่อนกายลงไปในน้ำ จากนั้นก็ยื่นมือออกมาให้กับอวี้เฟยเยียน
“ไม่ ร้อน!”
อวี้เฟยเยียนเตรียมที่จะถอยหลังกลับ ใครจะคาดคิดซย่าโหวฉิงเทียนยื่นแขนคว้าเอวของนางเอาไว้แล้วตวัดร่างของนางลงไปในบ่อน้ำพุทันที
หลายวันมานี้ซย่าโหวฉิงเทียนศึกษาจนเชี่ยวชาญชุดสตรีเป็นอย่างดี เขาจึงจัดแจงแก้ปมแล้วปลดเปลื้องชุดอวี้เฟยเยียนออกไปได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยเหลือไว้เพียงเสื้อเอี๊ยมด้านในเท่านั้น
“เฮ้ย…”
อวี้เฟยเยียนยังมีทันจะปัดป้องใดๆ ซย่าโหวฉิงเทียนก็จับขาทั้งสองของนางให้งอเข้าหากัน จัดท่าทางให้นางนั่งขัดสมาธิในน้ำเสร็จสรรพ
“พี่เห็นว่าเจ้าสำเร็จถึงช่วงปลายของจอมเทวาแล้ว ครั้งนี้รวบรวมพลังเพื่อให้สำเร็จขั้นปรมาจารย์ให้ได้!”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ซย่าโหวฉิงเทียนกล่าวมา อวี้เฟยเยียนถึงได้เข้าใจ ลากนางมาฝึกวิชานี่เอง ว่าแล้วก็คิดว่าได้ก่อนหน้านี้ตนเองคิดเลยเถิดไป หลงคิดไปว่าซย่าโหวฉิงเทียนต้องการเที่ยวเพื่อรำลึกความหลังกับนางอีกครั้งนะสิ…
แล้วก็มองดูอกผายไหล่ผึ่ง กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ผิวพรรณราวหยกขาวของคนตรงหน้าแล้ว อวี้เฟยเยียนก็รีบหลับตาลงทันที
เสียมารยาทนัก!
แม้ว่าในใจจะพยายามท่องเอาไว้เช่นนั้น แต่อวี้เฟยเยียนก็ยังเผลอลืมตา นางค่อยๆ หรี่ตาจนเป็นเส้นตรง แอบลอบดื่มด่ำกับร่างกายซย่าโหวฉิงเทียนตรงหน้า
ไหล่กว้าง เอวได้รูป กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ที่มีความสวยงาม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงดวงหน้าหล่อเหลาไร้ที่ตินั่น ยังมีจุดแดงที่หว่างคิ้วนั่นอีก
ในฐานะแพทย์ที่ได้ทำการลงมีดผ่าตัดมาหลายปีและผ่าศพมามากมาย อวี้เฟยเยียนขอให้คะแนนซย่าโหวฉิงเทียนร้อยคะแนนเต็ม สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ไม่มีอะไรให้ติ!
เป็นบุรุษหล่อเหลาไร้ที่ติจนเทพเซียนต้องพิโรธ ช่างไร้เหตุผลจริงๆ เลย!
“เป็นอะไรหรือ”
ซย่าโหวฉิงเทียนสังเกตเห็นท่าทีแปลกประหลาดของอวี้เฟยเยียนแล้ว
เจ้าแมวน้อยหื่นกาม!
คงคิดว่าหรี่ตา พี่จะไม่รู้ว่าเจ้ากำลังแทะโลมพี่ด้วยสายตาอยู่หรืออย่างไร
แต่ซย่าโหวฉิงเทียนก็ลำพองใจยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือรูปโฉมเขา มันก็ดึงดูเจ้าแมวจอมหื่นได้ดี ถือเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การภาคภูมิใจและดีใจ!
“ไม่มีอะไร…”
เมื่อแอบมองและถูกจับได้คาหนังคาเขา อวี้เฟยเยียนจึงออกอาการเขินอาย
“โอ้…จริงหรือ”
มองดูซย่าโหวฉิงเทียนที่จะยิ้มก็ไม่ใช่จะโกรธก็ไม่เชิงแล้ว อวี้เฟยเยียนจึงรีบนั่งหลังตรง ท่าทีจริงจังขึงขังขึ้นมากล่าวว่า
“ทำไมหรือ ดูไม่ได้หรืออย่างไร ท่านถอดจนเหลือเพียงเท่านี้ มิใช่เพราะต้องการให้ข้าดูหรืออย่างไร! “
อวี้เฟยเยียนไม่รู้ตัวเลยว่า การที่นางนั่งหลังตรงอกผายไหล่ผึ่งเช่นนั้น ทำให้ส่วนที่มีน้ำมีนวลด้านหน้านางมันชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำพุร้อนที่ชื่นฉ่ำ มันแทรกซึมจนเอี๊ยมสีเหลืองตัวน้อยเปียกปอน ยิ่งแนบชิดส่วนโค้งส่วนเว้าของนางมากขึ้น หากมองจากมุมที่ซย่าโหวฉิงเทียนอยู่นี่ สามารถมองเห็นความสวยงามได้อย่างชัดเจน
“ดูท่าโตขึ้นมากแล้วนะ!”
ซย่าโหวฉิงเทียนกล่าวออกมาเบาๆ
“อะไร”
ในตอนแรกอวี้เฟยเยียนยังไม่เข้าใจ แต่เมื่อมองตามสายตาของซย่าโหวฉิงเทียน นางก็เขินอายจนแทบหน้ามุดดินหนี
“ทะลึ่ง! ท่านมองอะไรนะ! ลามก!”
อวี้เฟยเยียนรีบหันหลังให้ซย่าโหวฉิงเทียนทันที
แต่นางคงลืมไปว่า ในสายตาของคนที่รักนาง นางสวยงามเสมอ
ต่อให้เห็นเพียงแผ่นหลังที่นวลเนียนขาวใส ในสายตาซย่าโหวฉิงเทียนมันก็คือภาพที่สวยงามที่สุดในโลกอยู่ดี
ไม่รู้ว่าสายตาซย่าโหวฉิงเทียนเร่าร้อนเกินไป หรือแผ่นหลังอวี้เฟยเยียนเองที่ร้อนระอุ นางรู้สึกราวกับว่าตนเองเป็นกระต่ายน้อยตัวหนึ่งที่กำลังถูกพันธนาการอยู่บนเตาไฟก็ไม่ปาน
“แมวน้อย…”
ซย่าโหวฉิงเทียนโอบกอดนางจากทางด้านหลัง แล้วกล่าวความในใจของตนเองออกมา
“พี่ชอบเจ้า!”
“พี่ชอบเจ้ามาก พี่ชอบเจ้ามาก!”
ประโยคนี้ทำให้อวี้เฟยเยียนถึงกับตกตะลึง
จากทุกสิ่งทุกอย่างที่ซย่าโหวฉิงเทียนทำให้กับนางที่ผ่านมา อวี้เฟยเยียนก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขา
ในยุคสมัยของนางที่จีน ผู้ชายใช้รถหรูแหวนเพชรตั๋วเงินดอกไม้ในการตามจีบสตรี แต่ที่นี่ ซย่าโหวฉิงเทียนกลับใช้วิธีการของเขา บังแดดต้านฝนให้กับนางอย่างเงียบๆ
ชายผู้นี้ มองดูภายนอกอาจว่าโหดเ**้ยมน่าหวาดกลัว แท้ที่จริงแล้วน่ารักในแบบโง่ๆ!
เพียงแต่ การสารภาพรักของเขานี้ นางควรจะตอบอย่างไรดี
จะให้บอกเขาไปว่าตนเองไม่ใช่คนของที่นี่ ช้าเร็วนางก็ต้องจากไปอยู่ดี เขาอาจจะต้องทุ่มเทโดยเปล่าประโยชน์ สุดท้ายทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นเพียงความว่างเปล่าอย่างนั้นหรือ
แผ่นหลังที่แข็งทื่อของอวี้เฟยเยียนทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนรับรู้ได้
เป็นดั่งที่คาด…
นางไม่ชอบเขาสินะ!
แต่จุมพิตในวันนั้น ซย่าโหวฉิงเทียนรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าอวี้เฟยเยียนหวั่นไหว
อะไรกันนะที่ทำให้นางลังเล ทำให้นางหยุดยั้งไม่ยอมก้าวไปต่อ
“แมวน้อย!”
ซย่าโหวฉิงเทียนจับให้อวี้เฟยเยียนมาเผชิญหน้ากับเขา แล้วจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของนางด้วยแววตาแน่วแน่
“พี่ชอบเจ้า ต้องการอยู่เคียงข้างเจ้าไปแสนนาน ไม่รู้เพราะอะไร เมื่อเห็นเจ้า พี่ก็ดีใจเป็นอย่างมาก จิตใจพี่สงบลง!”