ในตอนที่จูลั่วเป็นดั่งพระจันทร์กลางน้ำ ก็แบ่งร่างที่เหมือนกับร่างจริงออกมา และข้ามผ่านรอยแยกกลางอากาศที่หวังผ้อใช้ดาบเหล็กฟันไว้อย่างง่ายดาย ในตอนที่มาถึงหัวถนนนี้ ถ้าหากเขาลงมือกับซูหลีเลยโดยตรง บางทีซูหลีอาจจะต้องตายไป บางทีเฉินฉางเซิงที่ไม่สนใจว่ากำลังจะถูกแทงตาย ต่อจากนี้ก็ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว
แต่จูลั่วก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น นี่ไม่ใช่ความผิดพลาด อย่างน้อยในวินาทีที่เกิดขึ้น ผู้คนที่คาดไม่ถึงว่าในภายหลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงล้วนไม่ได้คิดว่าจูลั่วผิด ถึงขนาดที่รู้สึกว่าการรับมือของเขานั้นสมบูรณ์แบบอย่างไร้ข้อติเตียน น่าปลงอนิจจังตรงที่ผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกผู้นี้เดิมทีสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้ ดังนั้นจึงนึกถึงคำที่แสนสวยงามนั้นพร้อมกันขึ้นมาอย่าง มรสุมได้ครอบคลุมสวินหยาง
แม้แต่ตัวของจูลั่วเองยังคิดว่าการรับมือของตนแสนสมบูรณ์แบบ ซูหลีจะต้องตาย แต่ไม่ใช่เขาที่ลงมือฆ่าเองกับมือ ตระกูลจูแห่งเมืองเทียนเหลียงในอนาคตก็จะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาวุ่นวายได้มากมาย เขาเองก็จะไม่ถูกเขียนถึงชื่อเสียงที่ไม่ดีเอาไว้บนหนังสือประวัติศาสตร์ ต่อให้มีหยาดหมึกเหลือไว้บางทีก็จะเจือจางไปบ้างแล้ว ในเวลาเดียวกันก็ไม่ลืมคำขอของพระราชวังหลี ที่ให้เฉินฉางเซิงมีชีวิตรอด
มรสุมได้รุกล้ำตัวเมือง ดวงจันทร์ได้ซ่อนอยู่ด้านหลังของมัน พระจันทร์กลางน้ำได้เปลี่ยนจากหนึ่งเป็นสอง จริงเท็จสอดประสาน ร่างจริงและร่างแยกของเขากลับมีความสามารถในการต่อสู้ที่ใกล้เคียงกัน เขาทำสามอย่างพร้อมกันในครั้งเดียว ราวกับเป็นทวยเทพก็มิปาน เขาใช้วิธีการที่เรียบง่ายที่สุดในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนที่สุด
สภาพในตอนนั้นสวยงามอย่างมากจริงๆ บทสรุปของเรื่องนี้ก็ควรจะสมบูรณ์แบบอย่างมาก ผู้แข็งแกร่งในตำนานชาวมนุษย์ผู้นี้ ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่มั่นใจ แต่เขาได้ลืมเรื่องที่สำคัญอย่างมากไปเรื่องหนึ่ง หลายครั้งที่ความมั่นใจมักจะทำให้ประมาท ยิ่งไปกว่านั้น จนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้ายนั้น เขาถึงได้รู้ว่าศัตรูที่แท้จริงเป็นใคร
กระบี่ที่เยือกเย็นเล่มนั้นแทงเข้าไปในร่างแยกของจูลั่ว
ก่อนหน้านี้เฉินฉางเซิงรู้สึกว่ากระบี่เล่มนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ในตอนนี้เขาถึงได้รู้ ที่แท้อีกฝ่ายกำลังออมมือให้มาโดยตลอด กระบี่เล่มนี้น่ากลัวอย่างมากจริงๆ น่ากลัวจนขนาดที่บุคคลอย่างจูลั่วก็ยังไม่อาจจะหลบพ้น
เสียงทิ่มแทงดังขึ้นแผ่วเบา
กระบี่ของหลิวชิงวาดเป็นเส้นโค้งที่น่าประหลาดอยู่กลางสายฝน ราวกับดวงจันทร์กลางบ่อน้ำได้กระทบกับระลอกคลื่น พลันผ่าแยกดวงจันทร์กลางน้ำออกเป็นหลายส่วน ในเวลาเดียวกันก็ผ่าร่างแยกของจูลั่ว และทิ่มแทงเข้าไปอย่างล้ำลึก!
นี่ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นการเริ่มต้น
หลังจากที่กระบี่ของหลิวชิงแทงเข้าไปในร่างแยกของจูลั่ว ถึงได้เริ่มระเบิดพลังที่รุนแรงที่สุดออกมาจริงๆ กระบี่ที่เยือกเย็นเล่มนั้นแปรเปลี่ยนเป็นร้อนระอุอย่างหาใดเปรียบในทันที หลังจากนั้นก็เริ่มส่องแสงขึ้นมา และเริ่มลุกไหม้ ปลดปล่อยวิหคเพลิงสีทองออกมานับไม่ถ้วน วิหคเพลิงทุกตัวราวกับแบกดวงอาทิตย์ไว้บนหลัง ถนนกลางสายฝนได้ถูกส่องสว่างขึ้นมาในทันที ร่างแยกของจูลั่วถูกเผาไหม้จากด้านในออกมาสู่ด้านนอก!
นี่เป็นเพลงกระบี่ลับที่ไม่ถ่ายทอดของหลีซาน
เพลงกระบี่วิหคทอง
เสียงแห่งความโกรธแค้นพลันดังขึ้นมาจากถนนกลางสายฝนทางด้านนั้น
สายตาของจูลั่วมองข้ามดาบเหล็กของหวังผ้อไป มองดูภาพเหตุการณ์ที่ไกลออกไปนับสิบจั้งนี้ ความโกรธเกรี้ยวพุ่งขึ้นไปถึงขีดสุด เห็นชัดๆ ว่าที่กระบี่ของหลิวชิงแทงเข้าไปนั้นเป็นร่างแยกของเขา แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด หน้าอกของเขาในตอนนี้กลับเริ่มมีเลือดไหลออกมา!
นับร้อยปีหลังจากที่เหยียบเข้ามาในเขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ เคยมีผู้ใดกล้าทำร้ายเขาบ้าง? ตนเคยได้หลั่งเลือดมาก่อนหรือ? เขาลืมเลือนความรู้สึกของการได้รับบาดเจ็บไปตั้งนานแล้ว กระทั่งลืมไปแล้วว่าตนก็สามารถบาดเจ็บได้
จนกระทั่งถึงตอนนี้
แต่ที่ทำให้เขาโมโหจริงๆ ไม่ใช่เรื่องการที่เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นสถานะของมือสังหารผู้นั้น ที่มือสังหารผู้นั้นใช้ถึงกับเป็นเพลงกระบี่วิหคทองของหลีซาน สิ่งนี้ทำให้เขาโมโหเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่แอบรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา!
เสียงคำรามด้วยความโกรธดังสะท้อนไปบนถนน กระบี่ของจูลั่วฟันไปทางหวังผ้อที่อยู่ตรงหน้า เจตจำนงกระบี่มหาศาล เมฆสีดำกระจัดกระจาย ดวงจันทร์พลันส่องสว่างขึ้นมาหลายเท่าในพริบตา ในเวลาเดียวกัน แสงกระบี่ที่ถูกตัวหวังผ้อก็เพิ่มขึ้นมาหลายเท่า
เลือดของหวังผ้อทะลักออกมาจากร่างของเขาราวกับห่าฝน ดาบเหล็กที่อยู่กลางสายฝนยังคงไม่ขยับ
กระบี่ของจูลั่วฟันไปตรงข้างหน้า กลับมุ่งไปยังสถานที่ที่ไกลออกไป เป็นเวลาเดียวกับที่เขาชักกระบี่ ด้วยกระบวนท่าการเคลื่อนไหวอย่างพระจันทร์กลางน้ำ ร่างแยกได้ไปปรากฏตัวขึ้นที่ถนนด้านนั้น ในเวลาเดียวกันก็ฟันกระบี่ไปทางหลิวชิง ถึงแม้จะเป็นร่างแยก แต่กลับมีความแข็งแกร่งเกือบจะอยู่ในระดับเดียวกับร่างหลักของเขา ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นมือสังหารอันดับสามของแผ่นดิน ก็จะไปสามารถต้านทานอานุภาพของกระบี่นี้ได้อย่างไร
เงาร่างที่แปลกประหลาดยากจะจับกุม ถูกโอบล้อมอยู่ท่ามกลางแสงกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วน ฉึกๆ ฉึกๆ เสียงตวัดฟันอันรุนแรงดังขึ้นนับไม่ถ้วน เพียงแต่พริบตาเดียว ร่างของเขาก็มีรอยแผลนับสิบปรากฏขึ้นมา
หากว่าเป็นคู่ต่อสู้คนอื่น ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งในขั้นรวบรวมดวงดาวเหมือนกันกับหลิวชิง ภายใต้กระบี่ที่เต็มไปด้วยความโกรธของจูลั่วเช่นนี้ ก็จะทำได้เพียงตกตายอยู่ตรงนั้น ไม่มีทางเกิดเรื่องที่คาดไม่ถึงใดๆ
แต่หลิวชิงไม่ได้เป็นผู้บำเพ็ญเพียรธรรมดา เขาเป็นมือสังหารผู้หนึ่ง
เขาเชี่ยวชาญการฆ่าคนที่สุด แน่นอนว่าก็เชี่ยวชาญเรื่องที่จะทำเช่นไรเพื่อไม่ให้ถูกคนฆ่ามากที่สุดเช่นกัน
ชุดบนร่างของเขาตัวนั้นที่ดูแล้วแสนจะธรรมดา ถึงขนาดดูซอมซ่ออยู่บ้าง ที่จริงแล้วมันถูกถักทอมาจากเส้นไหมวิญญาณ สามารถสกัดการฟันของกระบี่และดาบธรรมดาได้ แน่นอนในการต่อสู้ระดับนี้ สิ่งนี้ก็ไม่ได้มีความหมายเท่าใดนัก ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ ภายใต้ชุดของเขายังสวมเกราะอ่อนที่ถูกสร้างโดยตระกูลถังแห่งเวิ่นสุ่ย ใบหน้าที่แสนธรรมดาของเขาแท้จริงแล้วเป็นหน้ากากชิ้นหนึ่ง ซึ่งแตกต่างกับกระดาษขาวที่อยู่บนใบหน้าของเซียวจาง หน้ากากชิ้นนี้ของเขานั้นมาจากหอความลับสวรรค์ มีความสามารถในการป้องกันเท่ากับชุดเกราะ แน่นอนว่าที่จริงแล้วสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้มีความหมายมากนัก แต่ว่า…เมื่อทั้งหมดนี้มารวมเข้าด้วยกัน ก็จะมีความหมายขึ้นมาแล้ว
ความหมายอยู่ที่ กระบี่ที่เต็มไปด้วยความโกรธของจูลั่วไม่อาจจะฆ่าเขาให้ตายได้ ส่วนเขายังสามารถยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน และฟาดฟันกระบี่ต่อได้
เสียงฉึกที่ดังขึ้นมา กลายเป็นเสียงกระทบกันอย่างชัดเจนของเจตจำนงกระบี่กับของแข็ง
ทั่วร่างของหลิวชิงเต็มไปด้วยเลือด แต่กลับยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว
มือสังหารในนาทีนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นนักรบพลีชีพแล้ว
เพราะว่าด้านหลังของเขาคือซูหลี
กระบี่ในมือของเขาที่เป็นดั่งกิ่งก้านของดวงจันทร์กลางบ่อน้ำเล่มนั้น เห็นชัดๆ ว่าอานุภาพของกระบี่นั่นถึงขีดสุดแล้ว แต่กลับยังสามารถเพิ่มขึ้นมาได้อีกส่วน มันลุกไหม้ และปลดปล่อยวิหคเพลิงออกมานับไม่ถ้วน ปลดปล่อยแสงสว่างและความร้อนออกจากกระบี่อย่างไร้ที่สิ้นสุด ในนาทีถัดมาก็ระเบิดออกมาแล้ว!
กระบี่พลันระเบิดใส่ร่างแยกของจูลั่ว!
เสียงระเบิดดังสนั่น!
ห่าฝนบนถนนถูกดีดกระจายออกไป
ร่างแยกของจูลั่วพลันส่องสว่างอย่างหาใดเปรียบในทันที ทั่วร่างก็เริ่มมีสัญญาณของความเสียหาย
และบนถนนทางด้านนั้น หน้าอกของจูลั่วก็ปรากฏเป็นรอยแผลเหวอะหวะ!
……
……
จากการติดตามซูหลีและเฉินฉางเซิงอย่างเงียบๆ มานับสิบวัน นาทีก่อนยังสร้างความเดือดร้อน ทิ่มแทงเสียจนเฉินฉางเซิงเลือดอาบทั่วตัว จนกระทั่งจูลั่วบุกมาถึง ในที่สุดถึงได้เปิดเผยเป้าหมายที่แท้จริง ที่แท้ไม่ได้มาเพื่อฆ่าคน แต่มาเพื่อปกป้อง
กระบี่นี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการคำนวณหรือจะเป็นในด้านอื่น ก็ล้วนทำได้อย่างสุดยอด
สามารถพูดได้ว่า กระบี่นี้ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของการเป็นมือสังหารของหลิวชิง
กระบี่ที่แสนแปลกประหลาด กระบี่ที่แสนจะส่องประกาย กระบี่ที่แสนจะอดกลั้น กระบี่ที่แสนจะน่ากลัว
กระบี่นี้แข็งแกร่งและน่าหวาดกลัวจนถึงขั้นที่ยากจะจินตนาการได้
แต่ว่า…ก็ยังไม่เพียงพอที่จะฆ่าจูลั่วให้ตาย
เพราะว่าความสุดยอดเช่นนี้ก็ยังอยู่ในความสุดยอดของโลกมนุษย์
แต่ผู้แข็งแกร่งอย่างจูลั่วนี้ หลังจากที่เหยียบเข้าไปในเขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ เจ้าก็สามารถพูดได้ว่าพวกเขาไม่ใช่มนุษย์แล้ว!
เสียงคำรามด้วยความโกรธยังไม่จบ ทันใดนั้นมันก็กระจายออกไปเป็นเสียงคำรามที่กระจ่างชัด เยือกเย็นอย่างถึงที่สุด ราวกับดวงจันทร์บนเนินหิมะ
ร่างแยกของจูลั่วถูกสายฝนสาดใส่เสียจนพร่าเลือน แต่กลับไม่ได้หายไป
นาทีถัดมา ในมือของร่างแยกก็มีกระบี่เพิ่มขึ้นมาเล่มหนึ่ง
กระบี่ได้แทงไปทางซูหลี
ซูหลีมองกระบี่นี้ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มือขวาของเขาจับอยู่บนด้ามของร่มกระดาษทอง
ต่อให้ไม่มีแรงต่อสู้ แต่คนเช่นเขาเหล่านี้ แม้ตายก็จะต้องตายอยู่ท่ามกลางการต่อสู้
ความหมายก็คงจะประมาณนี้
หลังจากที่หลิวชิงแทงกระบี่ไป ก็ไม่อาจจะยื้อเอาไว้ และลงไปนั่งขัดสมาธิกลางน้ำฝนแล้ว
เลือดสดๆ หลั่งไหลออกมาจากบนร่างและบนใบหน้าของเขา
เขานั้นไม่อาจจะทำอะไรได้อีกแล้ว
กระบี่ของจูลั่วมาถึงแล้ว ช่างเด็ดขาดและโดดเดี่ยว
เพราะว่าเขาโมโหขึ้นมาจริงๆ แล้ว
เขาตัดสินใจจะฆ่าซูหลีให้ตาย ไม่ว่าใครจะมาขวางตนอีกก็ล้วนต้องตายไปด้วย
ทันใดนั้น บนถนนก็เหมือนมีเสียงมังกรคำรามขึ้นมา
บางทีอาจพูดได้ว่า เป็นเสียงมังกรครวญ
ที่แท้เฉินฉางเซิงยังอยู่ตรงนี้มาโดยตลอด
ในวินาทีที่จูลั่วเตรียมเหวี่ยงเขาออกไปที่ด้านข้างของถนน กระบี่ของหลิวชิงก็มาถึงแล้ว
ดังนั้นเขาจึงร่วงลงบนถนน
กระบี่มังกรครวญอยู่ในมือของเขา
เขาเหยียบน้ำขึ้นมา แทงกระบี่ทะยานขึ้นฟ้า
เมื่อเขาแทงกระบี่ ก็เกิดเสียงมังกรครวญ
กระบี่ของเขาได้พานพบกับกระบี่ของจูลั่ว
กระบี่มังกรครวญที่แท้จริง พานพบกับกระบี่จันทราที่ลวงตา
บางทีระหว่างกระบี่ทั้งสองก็ไม่ได้มีข้อแตกต่าง อาจจะเป็นกระบี่มังกรครวญที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า
แต่ว่าระหว่างคนที่ใช้กระบี่นั้นช่างแตกต่างกันอย่างมากเหลือเกิน
ไร้ซึ่งสุ้มเสียง กระบี่ที่ว่างเปล่าเล่มนั้นก็เป็นดั่งแสงจันทร์ที่ส่องลงบนพื้นที่ราบหิมะ และข้ามผ่านช่องว่างกระบี่ของกระบี่มังกรครวญไปอย่างง่ายดาย พุ่งไปด้านหน้าต่อ
หลังจากนั้น กลับถูกฝักกระบี่สกัดเอาไว้