บัญชามังกรเดือด บทที่ 780 สามกระบวนท่ามีดม้ง
นอกจากเถียหนิงซวงที่อยู่ข้างกันนั้น ยังมีหวูฉาง ชุยหมิง ถงชวน เถียปี้และคนอื่น ๆ ที่อยากจะลงไปสู้ด้วย!
เพื่อต้องที่จะระบายความโกรธในสิ่งที่หยางต้าวทำลงไปนั้น พวกเขาห้าพญายมแห่งนรกจึงอดไม่ได้ที่จะรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกันในทันที
พวกเขาเป็นพี่น้องที่มีทุกข์ร่วมทุกข์มีสุขร่วมสุขด้วยกัน!
ทว่า ในตอนที่พี่น้องของพวกเขาตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ พวกเขาทั้งหมดไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเอง พร้อมกับต้องการที่จะออกไปร่วมรบด้วยเช่นกัน
“ฮ่าๆๆๆ ดี ๆ สู้ ๆ ได้ดีเลย!”
“ไม่ปิดเลยที่เป็นหนึ่งในผู้มีฝีมือดีในกำลังพลของฉัน หยางต้าวแกสู้ได้ดีมาก!”
“ถ้าแกหยุดต่อสู้เมื่อไหร่ ฉันจะเป็นคนฆ่าแกเอง!”
เมื่อเห็นว่า หยางต้าวยิ่งสู้ยิ่งมีความกล้ามากขึ้นนั้น ในขณะที่ทักษะการใช้มีดของหม่าหงเทาค่อย ๆ เชื่องช้าลง จนกลายเป็นเงอะงะ ทั้งยังเคลื่อนไหวตัวซ้ำ ๆ เสียหลายครั้ง เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว ชีวิตของเขาก็อยู่ปลายเหวเท่านั้น
ฉินเปียวที่ดูเหมือนจะได้กลิ่นคาวเลือด ก็พลันปลุกสัตว์ร้ายที่ตัวเขาให้ออกมาอาละวาดในทันที พลางร้องตะโกนออกมาอย่างมีชัย
เมื่อเห็นผลลัพธ์ที่อยู่ตรงหน้านั้น ดวงตาของหยางเต้าพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำและค่อย ๆ โจมตีด้วยความดุร้ายมากขั้นเรื่อย ๆ
หยางเต้าพลันฉวยโอกาสในทันทีทันใดนั้นเขาก็ยกมือขึ้น ใบมีดระหว่างนิ้วส่องเป็นประกายออกมาอย่างเย็นชา และพุ่งตรงไปที่หม่าหงเทาในทันที
เหล่าหม่าได้แต่กัดฟันหลบ พร้อมกับล่าถอยออกไปเสียหลายก้าว พร้อมกับยกมีดม้งในมือขึ้นมาบังใบมีดเอาไว้
เพียงเสียงใบมีดที่กระทบดาบหนึ่งที ใบมีดที่อยู่ตรงหน้านั้นพลันกระเด็นออกไปหาหยางต้าว พร้อมกับหยางต้าวที่ใช้มืออีกข้างหนึ่งรับใบมีดเอาไว้
เมื่อเหล่าหม่าไม่สามารถขัดขวางมันได้นั้น ดังนั้นเขาจึงต้องเอียงตัวหลบใบมีดอย่างเร่งด่วน
พร้อมกับเสียงชึบของใบมีดที่ตัดเข้ากับแขนด้านซ้ายของเขา ด้วยการเย้ยหยันและเลือดก็ไหลเปื้อนออกมาบนแขนเสื้อของเขาให้กลายเป็นสีแดงในทันที
หยางต้าวแย้มยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจว่า “ฉันคิดว่า แกจะมีอะไรบางที่พิเศษเสียอีก ก็แค่สองกระบวนท่ามีดม้งธรรมดา ๆ แค่นั้นเองไม่ใช่เหรอ ”
“พี่ชาย ยังกระบวนท่าอื่นอีกไหมล่ะ? ถ้าไม่มี วันนี้จะได้เป็นวันตายของพี่เอานะ”
เมื่อเห็นเช่นนี้เถียหนิงซวงและคนอื่นๆ ก็หมดความอดทนลงในทันที พร้อมทั้งวู่วามพยายามที่จะพุ่งลงไปที่สนามประลอง
“อย่าวู่วามไป” ฉินเทียนยื่นมือออกไปหยุดเขาเอาไว้ พลางแย้มยิ้มออกมาด้วยท่าทีเฉยเมยว่า “ฉันเชื่อใจในตัวเหล่าหม่า ”
“ปาฏิหาริย์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ”
ทุกคนต่างพากันงงงวยออกมาในทันที
ตามความเข้าใจของพวกเขาแล้วนั้น ทักษะเพลงมีดม้งทั้งหมดของหม่าหงเทามีเพียงสองกระบวนท่าเท่านั้น ทั้งกระบวนท่าแรกนั้นเป็นได้ทั้งแนวรับและแนวรุก
ทว่า กระบวนท่าที่สองมันจะมีความเป็นเล่ห์เป็นกลอยู่บ้าง
โดยทั่วไปแล้ว คนส่วนใหญ่ที่สามารถต้านทานเส้นทางแรกของมีดม้งได้นั้น พวกเขาก็จะมาตกม้าตายในกระบวนท่ามีดม้งที่สอง
จากในแง่มุมนี้ พวกเขาเองก็ต้องยอมรับได้เลยว่า หยางต้าวเองก็เป็นหนึ่งในปรมาจารย์ที่เก่งกาจหายากจริงๆ นอกจากนี้เขายังเชี่ยวชาญในทักษะการใช้มีดเป็นอย่างมากอีกด้วย
ไม่เพียงแต่เขาสามารถสกัดกั้นกระบวนท่ามีดม้งของหม่าหงเทาได้นั้น แต่ทุกการต่อสู้ของเขายังเพิ่มความกล้าและความดุดันมากขึ้นไปในแต่ละครั้งอีกด้วย
เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบันแล้วนั้น เหล่าหม่ามีกระบวนท่าอะไรที่จะไปใช้ตั้งรับเหลืออยู่แล้ว แล้วทำไมฉินเทียนยังคงไว้ใจเหล่าหม่าอยู่อีกล่ะ?
อย่างไรก็ตามเถียหนิงซวงและคนอื่นๆ ต่างก็ได้แต่เชื่อมั่นในการตัดสินของฉินเทียนแทน ว่าเขาคิดถูก ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกงงงวย แต่พวกเขาก็ฝืนทนมองดูการประลองต่อไปโดยไม่พูดไม่จา
ทุกคนต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเอง พร้อมกับมองประเมินสถานการณ์การประลองตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ
แต่ก็เห็นแต่เพียงเหล่าหม่าที่ถูกต้อนจนมุมแล้วจนมุมเล่า ภายใต้การรุกที่เฉียบคมของหยางต้าวนั้น เหล่าหม่ากำลังจะพ่ายแพ้ในไม่ช้า
ในขณะเดียวกัน ท่าทีของเหบ่าหม่าที่ดูจนมุมเมื่อครู่นั้น จู่ ๆ ก็กลับมาตวัดมีดเป็นมุมที่แหลมคม
มีดนี้ แม้จะดูเชื่องช้า ทว่าก็ไม่อาจประมาทได้เลยแม้แต่น้อย แม้จะมีพลังไม่มากนัก ทว่าเมื่อเทียบกับความดุร้ายและความเฉียบคมของวิชาเพลงดาบในกระบวนท่าแรก และความเจ้าเล่ห์ในเพลงดาบที่สองนั้น พวกมันราวกับคล้ายของเล่นเด็กไปในทันที
ตกลงว่าเหล่าหม่าจนมุมจริง ๆ เหรอ ?
ชายชุดดำที่ติดตามฉินเปียวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ ในสายตาของพวกเขาแล้วนั้น หยางเต้ากำลังจะได้รับชัยชนะ
ดูเหมือนว่าการประลองในครานี้ นายน้อยฉินเปียวจะได้ทำการตบหน้าฉินเทียนว่าไร้ประโยชน์เสียที
ในตอนแรกนั้น หยางต้าวเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน เมื่อเห็นการออกมีดที่เงอะงะของเหล่าหม่านั้น เขาก็แทบจะหัวเราะออกมา
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่เขาจะได้หัวเราะออกมา ก็พลันรับรู้ได้ถึงความผิดปกติอะไรบางอย่าง
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่า ใบมีดที่ดูเหมือนธรรมดานั้นปัดป้องการโจมตีทั้งหมดของเขาเอาไว้ได้แล้ว
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่มันก็ดุน่าประหลาดใจในคราวเดียวกัน
เขาที่เป็นถึงปรมาจารย์ ย่อมเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงคลื่นลมในสนามรบได้อย่างแม่นยำ เพียงชั่วพริบตาเดียวนั้น เขาคิดวิธีต่างๆ ที่จะจัดการกับมันได้ภายในใจของเขา
แต่จู่ ๆ เขาก็รู้ว่าทุกอย่างมันไร้ประโยชน์ไม่มีกลอุบายใด ๆ ที่สามารถทำลายการป้องกันของหม่าหงเทาได้
เมื่อไม่ทางเลือกแล้วนั้น เขาจึงได้แต่จำยอมละทิ้งความได้เปรียบที่เขาได้รับมันมาอย่างยากลำบากไป พลางถอยหลังไปหนึ่งก้าว
เมื่อหยางต้าวถอยหลังนั้น เหล่าหม่าก็รุกขึ้นหน้าหนึ่งก้าว
มันเป็นมีดที่ดูเหมือนจะธรรมดา ทว่ามันก็เฉือนการป้องกันออกไปอย่างไม่ตั้งใจ
ใบหน้าของหยางเต้าพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาพยายามใช้สมองอย่างขะมักเขม้น แต่ก็ยังไม่สามารถคิดหาวิธีที่จะฝ่าฟันเพลงของหม่าหงเทาออกไปได้
ดังนั้น เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากจะต้องล่าถอย
พร้อมกับเหล่าหม่าที่รุกขึ้นหน้าไปอีกหนึ่งก้าว
กระบวนท่าเพลงมีดที่สาม
“นี่เป็นวิชาดาบประเภทไหนกัน? ทำไมไม่เคยเห็นเหล่าหม่าใช้มันมาก่อนเลยล่ะ?” เถี่ยหนิงซวงพลันเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจและดีใจในคราวเดียวกัน
เหลิ่งหยุนพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “หรือว่า มันจะเป็นมีดม้งเหมือนกันเหรอ?”
“แต่ดูอย่างไรก็ไม่ค่อยเหมือนนะ”
ฉินเทียนแย้มยิ้มกล่าวออกมา”คนที่มักจะเงียบขรึมเช่นเหล่าหม่า กลับดูเหมือนกับกัวจิ้งยิ่งนัก”
“อันที่จริงแล้ว บางครั้งยิ่งคนมีจิตใจเรียบง่ายมากเท่าไร เขาก็จะยิ่งได้รับความรู้แจ้งมากขึ้นเท่านั้น”
“นี่น่าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งในการผสมผสานระหว่างเพลงดาบที่หนึ่งกับสองของเหล่าหม่า พวกเราน่าจะเรียกมันได้ว่ากระบวนท่าที่สามของมีดม้งกระมัง”
กระบวนท่าที่สามของมีดม้ง?
ทุกคนทั้งประหลาดใจและดีใจในคราวเดียวกัน
หากรู้ว่า ผู้คนบรรดารุ่นก่อน ๆ ต่างก็เฟ้นหาวิธีในการสร้างกระบวนท่าใหม่ ๆ ขึ้นมาเสมอ นี่คือกระบวนท่าขั้นสูงที่มีเพียงเหล่าปรมาจารย์เท่านั้นที่จะสามารถบรรลุได้
ตัวอย่างเช่นกระบวนท่าที่สองของมีดม้งนั้น ได้รับการพัฒนามาจากปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้เมืองชางโจวของผู้อาวุโสกัว หลังจากที่ลูกศิษย์หลิวยวี่ชุนได้รับการสืบทอดวิชามานั้นก็ถึงได้มีเคล็ดวิชามีดม้งสืบทอดต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
นี่มิใช่แค่การเปลี่ยนแปลงในด้านเทคนิคมีดดาบเท่านั้นหากต้องศึกษาไปยังเทคนิคมีดดาบชุดใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย ทั้งจำเป็นต้องมีการวางท่า การวางเท้าและแม้แต่การควบคุมลมหายใจตัวเองหายใจ รายละเอียดทุกอย่างล้วนแต่ต้องมีการกำหนดเอาไว้แล้ว
ดังนั้นผู้อาวุโสกัว จึงได้เป็นปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงที่ในรุ่น
เหล่าหม่าที่ดูซื่อ ๆ กลับมาสามารถบรรลุเพลงดาบขั้นสูงได้โดยไม่คาดคิดเสียนี่
ภายใต้ท่าทางเงอะงะของเขา แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น การเคลื่อนไหลตัวกับดูเบาบาง จนทำให้หยางต้าวถึงกับต้องล่าถอยกลับมา ครั้งแล้วครั้งเล่าภายใต้เทคนิคกระบี่เพลงดาบที่ถูกฟาดฟันออกไปอย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกัน หยางต้าวก็รู้สึกได้ถึงเรี่ยวแรงที่ใกล้จะหมดลงแล้ว หากแต่เขาถูกมีดม้งสะกันกั้นร่างกายเสียจนไม่อาจขยับไปที่ไหนได้อีก
ภายใต้สายตาที่จับจ้องมองมาของทุกคน หยางต้าวอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงออกมาด้วยความกรุ่นโกรธ
“ฉันจะลากแกไปด้วยเอง!”
เมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังถูกต้อนเข้ามุมนั้น จู่ ๆ เขาก็ยื่นมือออกไปจับใบมีดด้วยความอับอาย
หยางต้าวต้องการที่ใช้ฝ่ามือเหล็ก ทำลายมีดม้งทิ้งซะ
เมื่อเห็นว่าใบมีดกำลังจะถูกจับได้แล้วนั้น เหล่าหม่าพลันสะบัดข้อมือของตัวเองทิ้งไป
จู่ ๆ พลันมีมีดยาวเสมือนงูเย็น ๆ ออกมา พร้อมกับแรงสั่นสะท้านไปเล็กน้อย จากนั้นมีดเล่มนั้นพลันหลบฝ่ามือของหยางต้าวไปได้ในทันที
พร้อมกับใบมีดที่พุ่งตรงไปยังหลังมือของเขา
ท่ามกลางเสียงอุทานที่ร้องดังออกมา หยางต้าวได้แต่กุมมือของตัวเองเอาไว้และถอยออกไป
มือที่สัมผัสกับใบมีดเมื่อครู่นั้น พลันตัดนิ้วมือออกถึงสามนิ้ว !
ผู้คนที่ดูอยู่ต่างพากันช็อกไปหมด!
“ดีมาก !”
“เหล่าหม่า ตัดได้ดีมาก!”
“เร็วเข้า ตีเหล็กในขณะที่มันยังร้อน ตัดหัวเจ้าลูกหมาที่ดุร้ายตัวนี้เลย!” เถี่ยหนิงซวงพลันลุกขึ้นปรบมือและโห่ร้องออกมาในทันที
ใบหน้าของหยางต้าวที่สดใสในคราแรก พลันกัดฟันเผยความเกรี้ยวกราดออกมา ก่อนที่ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าของเขาด้วยมือข้างเดียว เสมือนกับจะหยิบอะไรบางอย่างออกมา
“พอแล้ว!”
“ช่างน่าขายหน้าจริง ๆ เลย ยอมรับความพ่ายแพ้นี่ซะ และรีบไสหัวออกไปให้พ้น ๆ หน้าฉันได้แล้ว กลับมากับฉันเร็ว ๆ นี้!”
ฉินเปียวเอ่ยดุด่าด้วยความโกรธเกรี้ยว
หยางต้าวพลันหน้าแดงก่ำ ก่อนที่จะก้มหน้าลงและเดินเข้าไปอยู่ที่ด้านหลังของฉินเปียวอย่างเชื่อฟัง
ฉินเปียวพลันแย้มยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา พร้อมกับมองไปที่ฉินเทียน “ไม่เลวเลยหนิ ดูเหมือนว่าหลายปีที่ผ่านมานั้น พี่ไม่ได้เสียเวลาไปเปล่าประโยชน์”
“เช่นนั้นก็ดี ฉันจะตั้งหน้าตั้งตารอเกมออกล่าในอีกสามวันให้หลังจากนี้”
“พี่ยังจำได้ไหมว่า ตัวเองไม่เคยเอาชนะฉันในเกมแบบนี้เลยสักครั้ง ในตอนที่พี่ยังเด็ก ๆ จำได้ไหมว่าพี่ถูกคนในตระกูลหัวเราะเยาะเย้ยหลังจากที่แพ้ยังไงบ้าง”
ราวกับมีเปลวไฟลุกโชนในดวงตาของฉินเทียนในทันที เขาเพียงแค่เอ่ยขั้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “น่าเสียดาย ตอนนี้มันไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว ”
“คราวนี้นายแพ้แน่”