ตอนที่ 668 ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ / ตอนที่ 669 เผยปิงปิงทูลเตือน

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 668 ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้

 

 

อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่อาหลานซึ่งอยู่ข้างหลังยังตกใจจนสะอึก ซูจิ่วซือเสวยพระโอสถตามเวลาทุกวัน เรื่องนี้นางเห็นกับตา ไม่ผิดพลาดแน่

 

 

“ข้าคงจะตรวจผิด จิ่วซือ เพื่อป้องกันไว้ก่อน ให้หมอหลวงมาดูเถอะ!”

 

 

นี่เป็นเรื่องใหญ่ ซูจิ่วซือพยักหน้าให้อาหลาน อาหลานเข้าใจความหมาย รีบออกไปเชิญหมอหลวงทันที

 

 

ซูจิ่วซือนั่งบนเก้าอี้อย่างเหม่อลอย รู้สึกสับสน

 

 

นางอยากมีพระโอรสให้ฟู่เฉินหรง แต่ก็อยากอยู่ใกล้ชิดกับฟู่เฉินหรงไปอีกนานๆ จึงยกเลิกความคิด นึกไม่ถึงว่าเผยปิงปิงกลับพูดอย่างนี้ นางอาจจะตั้งครรภ์จริงๆ

 

 

ถ้าตั้งครรภ์จริงๆ จะทำอย่างไร

 

 

“จิ่วซือ อย่าเพิ่งคิดมาก ข้าไม่ใช่หมอ อย่าเชื่อข้า รอหมอหลวงมาตรวจให้ดีก่อน”

 

 

เผยปิงปิงร้อนใจ นางรู้ว่าเรื่องนี้กระทบซูจิ่วซือมาก นึกภาวนาในใจ หวังว่าจะเป็นความเข้าใจผิดของนางเอง

 

 

ในใจซูจิ่วซือสับสนอลหม่าน แต่ภายนอกยังคงสงบ หันไปพยักหน้าให้เผยปิงปิง

 

 

ไม่นานหมอหลิวก็หิ้วหีบยาเข้ามาอย่างเร่งรีบ พอถวายบังคมแล้วก็คุกเข่าลงกับพื้นจับชีพจรให้ซูจิ่วซือ ทุกคนจ้องหน้าหมอหลิว ทำให้หมอหลิวซึ่งเป็นหมอหลวงมาหลายปีรู้สึกตึงเครียด

 

 

ไม่นานหมอหลิวก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ ชักมือกลับ ค้อมศีรษะทูลขึ้น “ทูลฮองเฮา ฮองเฮาทรงครรภ์เกือบสองเดือนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

 

 

ยากันท้องเขาเป็นคนปรุงถวายซูจิ่วซือด้วยตัวเอง ตามเหตุผลแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะตั้งครรภ์ แต่เวลานี้จับชีพจรพบว่าตั้งครรภ์จริงๆ เขาไม่กล้าแม้แต่จะมองซูจิ่วซือ

 

 

“ตรวจผิดหรือไม่”

 

 

ซูจิ่วซือไม่กล้าเชื่อคำพูดของหมอหลิว ซักถาม

 

 

“กระหม่อมถวายการตรวจอย่างละเอียดแล้ว ฮองเฮาตั้งครรภ์จริงๆ”

 

 

การตั้งครรภ์ควรจะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่สำหรับนางกลับไม่ใช่ นางกับลูกไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ รู้สึกสมองว่างเปล่า

 

 

“หมอหลิว ยากันท้องที่ฮองเฮาเสวยเจ้าเป็นคนปรุงเอง ฮองเฮาเสวยตามกำหนดทุกวัน ไม่เคยเว้น เกิดอะไรขึ้นแน่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำความผิดรุนแรง”

 

 

ไม่รอให้ซูจิ่วซือกล่าว อาหลานซึ่งรู้สึกโกรธและร้อนใจถามขึ้นก่อน

 

 

หมอหลิวเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาร้อนใจจนหน้าผากมีเหงื่อเม็ดเล็กซึมออกมา เขาก้มศีรษะลงต่ำ แทบจะโขกกับพื้น ถ้าเรื่องนี้เขาไม่สามารถหาสาเหตุได้ คงเอาชีวิตไม่รอดแน่

 

 

ซูจิ่วซือตกตะลึง แต่ยังสงบ เอ่ยขึ้น “อาหลาน เอายามาให้หมอหลิวดู”

 

 

อาหลานพยักหน้า

 

 

ครู่หนึ่งนางก็หยิบขวดเคลือบสีดำออกมาจากกล่องไม้ ยื่นให้หมอหลิว

 

 

หมอหลิวยื่นมือไปรับขวดเคลือบ มือนั้นสั่น เขาเปิดฝาขวดเคลือบออก เทยาลูกกลอนใส่มือสองเม็ด ลองดม แล้วชิม

 

 

หลังจากมั่นใจแล้ว จึงรีบทูล “ทูลฮองเฮา ยานี้แม้รสชาติเหมือนยากันท้อง แต่ไม่ใช่ยากันท้องที่กระหม่อมปรุงให้ฮองเฮา”

 

 

“เจ้าหมายความว่ามีคนเปลี่ยนยาของฮองเฮาหรือ”

 

 

เผยปิงปิงได้สติ รีบซักถาม

 

 

“น่าจะเป็นอย่างนี้”

 

 

หมอหลิวไม่กล้าพูดอะไรมาก เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก ยังดีที่พ้นข้อสงสัย เรื่องราวที่เหลือให้ฮองเฮาสืบคงได้ความชัดเจน เขาไม่จำเป็นต้องพูดมาก

 

 

ซูจิ่วซือสีหน้าเครียด นัยน์ตาฉายแววอำมหิตแวบหนึ่ง

 

 

“ใครหนอบังอาจจริงๆ” เผยปิงปิงรู้สึกคาดไม่ถึง ซูจิ่วซือเป็นคนรอบคอบมาตลอด และมียอดฝีมือมากมายล้อมรอบ การเข้ามาเปลี่ยนยาโดยที่ซูจิ่วซือไม่รู้ตัวนั้นเป็นเรื่องยากจริงๆ

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 669 เผยปิงปิงทูลเตือน

 

 

“หมอหลิว เรื่องนี้อย่าพูดให้ใครฟังเด็ดขาด เก็บไว้ในใจก็พอ ไม่เช่นนั้นเจ้าคงรู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร ถ้าข้างนอกมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ตระกูลหลิวจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย”

 

 

ซูจิ่วซือกล่าวเตือนสีหน้าจริงจัง

 

 

“ฮองเฮาทรงเหน็ดเหนื่อยเกินไป กระหม่อมจะถวายยาบำรุงประสาทให้ฮองเฮา”

 

 

หมอหลิวไม่กล้าพูดจาเหลวไหล การสั่งสอนของซูจิ่วซือแม้เขาไม่เคยประสบกับตัวเอง แต่ก็เคยได้ยินมาไม่น้อย

 

 

“ออกไปเถอะ!”

 

 

ซูจิ่วซือโบกมือ ให้หมอหลิวออกไป

 

 

หมอหลิวลุกขึ้น ถวายบังคมแล้วออกไปจากห้องของซูจิ่วซือ พอออกไปแล้วเขาถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนหน้านี้ขณะที่คุกเข่าอยู่ที่วังเจาหยาง เขาเหงื่อโชกทั่วแผ่นหลัง

 

 

“ฮองเฮา เรื่องนี้คุณหนูมู่เป็นคนทำใช่หรือไม่เพคะ”

 

 

อาหลานตั้งข้อสงสัย แต่คิดดูแล้วรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมู่ซืออวี่อยู่แต่ในตำหนักฟังเสียงฝนไม่ออกมา หลังจากซุ่นตี้สวรรคต ก็ไม่มีใครใส่ใจมู่ซืออวี่

 

 

ฟู่เฉินหรงประกาศว่ามู่ซืออวี่ป่วยตาย แล้วส่งมู่ซืออวี่กลับจิ่นโจว ตามเหตุผลแล้วนางไม่มีโอกาสลงมือแน่ และไม่ใจกล้าอย่างนั้น แต่เวลานี้นอกจากมู่ซืออวี่ อาหลานก็นึกไม่ออกว่าจะเป็นใคร

 

 

“ไม่ใช่มู่ซืออวี่” ซูจิ่วซือกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น มู่ซืออวี่ไม่มีความสามารถทำอย่างนี้ ในใจของนางนึกสงสัยใครคนหนึ่ง

 

 

“ฮองเฮาสงสัยใครหรือเพคะ”

 

 

ซูจิ่วซือไม่ได้กล่าว สีหน้าเยือกเย็น มือสองข้ากำหมัดแน่น เส้นเลือดบนมือปูดขึ้นมา

 

 

เผยปิงปิงนั่งอยู่ข้างซูจิ่วซือ นางเป็นคนปากกับใจตรงกัน แม้เป็นเรื่องที่พูดยาก แต่เพื่อปกป้องซูจิ่วซือ นางจึงเอ่ยปากทูลเตือน “จิ่วซือ เรื่องเปลี่ยนยาค่อยสืบวันหลังก็ได้ เรื่องสำคัญเวลานี้คือสุขภาพ หนอนไหมพิษใช้น้ำคั้นผลเซียนหลิงควบคุมไว้ได้ ต้องดื่มยานี้ภายในสามเดือนที่ตั้งครรภ์

 

 

หากครรภ์เกินสามเดือน ทารกก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างแล้วต้องทำแท้ง พอถึงเวลานั้นผลเซียนหลิงหมดฤทธิ์ เวลานี้อายุครรภ์เกือบสองเดือนแล้ว จะยื้อเวลาต่อไปไม่ได้ จิ่วซือ รีบให้หมอหลิวปรุงยาแท้งลูกเถอะ”

 

 

ซูจิ่วซือไม่กล่าวอะไร มือทั้งสองกุมท้อง รู้สึกปวดใจอย่างรุนแรง คำพูดของเผยปิงปิงนางเข้าใจดี แต่ก็ไม่อาจตัดใจได้ นี่เป็นลูกของนางกับฟู่เฉินหรง

 

 

พอเห็นซูจิ่วซือไม่กล่าว เผยปิงปิงก็จับมือซูจิ่วซือ “หม่อมฉันรู้ว่าฮองเฮาไม่สบายใจ แต่หม่อมฉันไม่อยากให้ฮองเฮาเกิดเรื่อง

 

 

หากคลอดเมื่อไร หนอนไหมพิษจะกำเริบ พอถึงตอนนั้นฮองเฮาจะไม่รู้จักใครเลย อะไรก็ทำออกมาได้ เป็นคนบ้าจริงๆ จะให้ลูกเห็นแม่ที่น่ากลัวอย่างนี้หรือ ไม่ยุติธรรมสำหรับลูกเลย

 

 

ส่วนฝ่าพระบาท พระองค์ทรงรักฮองเฮามาก พอถึงเวลานั้นจะดำเนินชีวิตอย่างไร จิ่วซือ พวกเราอยากให้ฮองเฮามีความสุข”

 

 

อาหลานแม้รู้ว่าการทูลเตือนฮองเฮาเป็นเรื่องโหดร้าย แต่นางก็อยากให้ซูจิ่วซือมีความสุข จึงทูลเตือน “ฮองเฮา บ่าวคิดว่าฮูหยินกู้พูดถูก หนอนไหมพิษหากกำเริบขึ้นมาก็หมดหนทางรักษา”

 

 

“พูดในด้านร้าย พอถึงตอนนั้นแม้อยากตายก็ตายไม่ได้ ไม่ว่าฮองเฮาจะเป็นอย่างไร ฝ่าพระบาทก็ไม่มีวันทำร้ายฮองเฮา แต่อยู่อย่างนั้นไม่ทรมานหรือเพคะ”

 

 

เพื่อไม่ให้ซูจิ่วซือทำอะไรโง่ๆ เผยปิงปิงได้แต่ทูลอย่างเด็ดขาด

 

 

“เอาละ ปิงปิง เจ้ากลับไปก่อนเถอะ! เรื่องนี้ไม่ต้องบอกใคร ข้ามีแผนในใจอยู่แล้ว”

 

 

ซูจิ่วซือกล่าวด้วยเสียงราบเรียบ ภายนอกดูไม่ออก ราวกับเป็นเรื่องเล็กน้อย

 

 

เผยปิงปิงแม้ไม่วางใจ แต่เมื่อซูจิ่วซือกล่าวอย่างนี้แล้ว นางก็ไม่อาจทูลอะไรอีก ได้แต่ถอนหายใจ “พรุ่งนี้หม่อมฉันจะมาหาฮองเฮาอีก”