ตอนที่ 1943 ยาต้ม (1)
เฉียวฉู่เกาหัวพร้อมกับยิ้มเขิน
“เสี่ยวเสีย ยาแปลงวิญญาณมันสุดยอดเลย! มีของมหัศจรรย์แบบนี้อยู่ในมือ เราจะห้ามตัวเองไม่ให้ใช้มันได้ยังไง?”
จวินอู๋เสียตวัดสายตามองเฉียวฉู่อย่างเย็นชา เฉียวฉู่ยิ้มไม่ออกทันที
“ไม่มีมัน พวกเราก็ไม่สามารถแก้แค้นด้วยมือตัวเองได้” เฟยเหยียนแทรกขึ้นทันที ผลของยาแปลงวิญญาณกล่าวได้ว่าทรงพลังและรุนแรง แต่ผลข้างเคียงของมันก็ร้ายแรงไม่แพ้กัน ตลอดหนึ่งปีหลังจากนี้ พวกเขาทั้งกลุ่มจะไม่ต่างกับขยะที่ไร้ประโยชน์ที่สุด แต่ถ้าได้ล้างหนี้แค้นที่ฝังลึกของพวกเขา อย่าว่าแต่เป็นคนไร้ประโยชน์หนึ่งปีเลย ต่อให้เป็นตลอดชีวิต พวกเขาก็เต็มใจ
จวินอู๋เสียมองสายตามุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวของเพื่อนๆ แม้ว่านางจะรู้สึกจนปัญญา แต่นางก็เข้าใจสิ่งที่พวกเขาคิด
ถ้าสลับตำแหน่งของพวกเขากับนาง สิบสองวิหารฆ่าทุกคนในวังหลินอ๋อง ต่อให้ต้องเสี่ยงชีวิตนางก็จะแก้แค้นเหมือนกัน
“หมายความว่าพวกเจ้าเตรียมตัวมาดีแล้วใช่ไหม?” จวินอู๋เสียพูด
เฉียวฉู่พยักหน้าทันทีอย่างไม่ทันคิด แต่แล้วก็ชะงักกลางคัน
“เตรียมตัวอะไร?”
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วแล้วปรบมือ
ประตูถูกผลักเปิดออกทันที เยว่เย่, เยว่อี้, และหลงฉีถือยาต้มหลายถ้วยเดินเข้ามา บนถาดในมือของเยว่เย่มีกระทั่งขวดที่มีรูปทรงและขนาดต่างๆกัน
เยว่อี้และหลงฉีวางถ้วยยาต้มร้อนๆลงตรงหน้าพวกเฉียวฉู่
พวกเฉียวฉู่มองยาต้ม แล้วมองจวินอู๋เสีย
สีหน้าของจวินอู๋เสียเย็นชา
เฉียวฉู่ลอบกลืนน้ำลาย แล้วหยิบถ้วยยาขึ้นมาดม
“อี๋….นี่มันยาอะไรกันเนี่ย? ทำไมกลิ่นยังกับขี้ ข้าอยากจะอ้วก!” เฉียวฉู่เกือบโยนยาต้มถ้วยนั้นทิ้งแล้ว กลิ่นของมันสุดจะบรรยาย
“ข้าสั่งยาเอง เจ้ามีปัญหาหรือ?” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เฉียวฉู่ทำหน้าบูดเบี้ยว เขารีบส่ายหน้าและพูดว่า “ไม่มี! ไม่มีปัญหาเลยสักนิด!”
เพื่อนคนอื่นๆก็ตกใจกับกลิ่นของยาเช่นกัน ก่อนที่พวกเขาจะทันได้อ้าปากพูด พวกเขาก็เห็นเฉียวฉู่โดนจวินอู๋เสียดักเอาไว้ พวกเขาจึงกลืนคำพูดที่ปลายลิ้นของตนกลับลงไปทันที
การที่พวกเขากินยาแปลงวิญญาณในทันทีก็ทำให้จวินอู๋เสียไม่พอใจมากอยู่แล้ว ถ้าพวกเขายังหาข้อแก้ตัวไม่ยอมกินยาต้มนี้อีกล่ะก็……
ฟ่านจั๋วไม่พูดอะไรสักคำ เขาหยิบถ้วยยาขึ้นมาและเทยาเข้าปากรวดเดียวหมดเกลี้ยง
“พอได้อยู่ ไม่ได้กินยากอะไรขนาดนั้น” ฟ่านจั๋วพูดด้วยรอยยิ้ม
เขากินยาเข้าไปอย่างรวดเร็ว ถ้ามือเขาไม่ได้สั่นตอนที่วางถ้วยยาลง ก็อาจจะดูน่าเชื่อถือมากกว่านี้
ต้องรู้ว่าฟ่านจั๋วโตขึ้นมาด้วยยาต้มยาบำรุงทุกชนิด ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ เขาต้องกินยาไปประมาณหมื่นถ้วย หรืออย่างน้อยก็หลายพันถ้วย แต่ขนาดฟ่านจั๋วยังมีปฏิกิริยาเช่นนั้นหลังจากกินยาต้มอันนี้……
เฉียวฉู่แทบจะร้องไห้น้ำตาไหลพรากขณะจ้องไปที่ยาต้ม
หรงรั่วและฮัวเหยากลั้นใจกรอกยาลงคอตัวเอง ทั้งสองล้มลงนอนแผ่บนโซฟาทันทีพร้อมกับเอามือปิดปาก ทำให้เฉียวฉู่และเฟยเหยียนตัวสั่นอย่างรุนแรงขณะมองดูสองคนนั้น
[ไอ้ของบัดซบนี่กินได้จริงหรือ?]
“พวกเจ้าไม่กินหรือ?” จวินอู๋เสียจ้องสองหนุ่มที่ยังไม่ยอมกินยา ดวงตาของนางเหมือนจะพูดว่า [ถ้าพวกเจ้าไม่กิน ข้าจะลงมือเอง]
นั่นทำให้เฉียวฉู่กับเฟยเหยียนกลัวมาก และรีบกินจนเกลี้ยงถ้วยในทันที
หลังจากกินหมด ทั้งสองก็มีสีหน้าเศร้าสลดราวกับหมดหวังในชีวิต สองมือปิดปากเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองอ้วกออกมา
ทั้งชีวิตพวกเขาไม่เคยกินอะไรที่เลวร้ายและน่ารังเกียจมากเท่านี้เลย!
“กินเสร็จแล้วใช่ไหม?” จวินอู๋เสียกวาดตามองพวกเขา
เหล่าผู้เยาว์พากันพยักหน้าอย่างอ่อนแรง
“ดี งั้นก็กินถ้วยต่อไปได้” สิ้นเสียงของจวินอู๋เสีย หลงฉีก็นำยาต้มหม้อใหญ่เข้ามาทันที
ตอนที่ 1944 ยาต้ม (2)
พวกเฉียวฉู่น้ำตาไหลพรากทันที
ยังมีอีกเหรอ!!
“เสี่ยวเสีย……เรายังต้องกินอีกหรือ?” ใบหน้าของเฉียวฉู่เปลี่ยนจากซีดขาวเป็นดำคล้ำ เขาร้องไห้แบบไม่มีน้ำตาขณะมองไปที่หม้อยาซึ่งกว้างเท่ากับเอวของผู้ใหญ่
นี่มันหม้อยาที่ไหนกัน! มันคือถังน้ำต่างหาก!
“ยาดีย่อมมีรสขม ทำไม? ไม่อยากกินหรือ?” จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว ตั้งใจข่มขู่อย่างเห็นได้ชัด
อย่างนี้ใครจะกล้าขัดขืน? ทุกคนได้แต่มองจวินอู๋เสียด้วยสายตาสิ้นหวังอย่างที่สุด
หลงฉีพยายามกลั้นยิ้ม และเทยาต้มใส่ถ้วยให้พวกเฉียวฉู่ตามคำสั่งของจวินอู๋เสีย พวกเฉียวฉู่มองยาต้มสีดำขุ่นในถ้วย สีหน้าของพวกเขาดูน่าเกลียดซะยิ่งกว่าตอนที่กินยาต้มถ้วยแรกเสร็จซะอีก
แม้ว่านี่จะเป็นยาวิเศษครอบจักรวาล แต่รสชาติของมันก็……
พวกเขาขอเลือกที่จะป่วยและอ่อนแอต่อไปได้ไหม?
เห็นได้ชัดว่าคำตอบคือไม่
พวกผู้เยาว์เรียกความเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดเช่นนักรบตัดข้อมือออกมา และยกถ้วยขึ้นกรอกยาต้มลงคอของตน
เมื่อยาต้มถ้วยที่สองลงท้องไปแล้ว พวกเขาก็ได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่ว่าตายซะยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่
เฟยเหยียนทนไม่ไหว เอนกายสำรอกอยู่ข้างเตียง รสชาติของยาต้มที่กระจายอยู่ในปากทำให้เขาอยากตาย
เฟยเหยียนอาเจียนจนน้ำตาไหล เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย
เฉียวฉู่ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน เขาพยายามกลั้นเอาไว้อย่างเต็มที่จนหน้ากลายเป็นสีแดงเข้ม
ฮัวเหยา หรงรั่ว และฟ่านจั๋วดีกว่าหน่อย แต่จากริมฝีปากที่เม้มแน่นของพวกเขาก็เห็นได้ไม่ยากว่าพวกเขากำลังพยายามทนเอาไว้อย่างสุดกำลัง
โชคร้ายที่การทรมานอันโหดร้ายยังไม่สิ้นสุด หลังจากยาถ้วยที่สอง หลงฉีก็ถือหม้อเข้ามาอีกรอบ และเทยาให้ทุกคนอีกครั้ง
เฉียวฉู่มองหลงฉีด้วยสีหน้าโกรธเคือง “พี่ใหญ่หลงฉี ท่านแน่ใจหรือว่าในหม้อยังมีอีก?” [ไม่เห็นหรือว่าพวกเขาจะตายอยู่แล้ว? ช่วยมีความเป็นมนุษย์อีกสักหน่อยไม่ได้หรือไง!]
หลงฉีมองเฉียวฉู่ด้วยสีหน้าจริงจังและพูดอย่างมีเหตุผลชอบธรรมว่า “คุณหนูสั่งให้คนเตรียมไว้เจ็ดส่วนสำหรับพวกท่านทั้งห้าคน” ดังนั้น พวกเขาเพิ่งกินไปแค่ 1-2 ถ้วย ต่อให้อยากแสร้งทำเป็นว่าหม้อว่างเปล่าแล้ว จวินอู๋เสียก็คงจะไม่เชื่อ
“เจ็ด……เจ็ดส่วน……” เฉียวฉู่ตาเบิกโพลงจ้องมองหลงฉีอย่างยากที่จะเอ่ยเป็นคำพูด เขาไม่อยากเชื่อจำนวนที่เพิ่งได้ยินเลย
ใบหน้าของคนอื่นๆก็ซีดจนกลายเป็นสีเขียว
“พวกเจ้าทุกคนต้องกินยานี้ทุกวันตั้งแต่นี้เป็นต้นไป” จวินอู๋เสียเอ่ยขึ้นอีกครั้ง โยนข่าวที่ทำให้พวกเฉียวฉู่อลหม่านวุ่นวายออกมา
ทันใดนั้น ผู้เยาว์ทั้งห้าก็ตัวแข็งเป็นหิน
[พวกเขาต้องกินยานั่นทุกวัน……]
“ข้า……ข้าเวียนหัว……ขอนอนสักงีบนะ” เฟยเหยียนรีบขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ตั้งใจจะแสร้งทำเป็นตาย
“ได้สิ หลงฉี เก็บส่วนของเฟยเหยียนเอาไว้ แล้วอุ่นให้เขากินตอนกลางคืน” จวินอู๋เสียจะปล่อยให้เขาหนีไปได้อย่างไร
เฟยเหยียนตัวสั่นสะท้านอยู่ใต้ผ้าห่ม
ฟ่านจั๋วเป็นคนที่ยอมรับชะตากรรมได้เร็วที่สุด อาจจะเป็นเพราะเขาเคยชินกับการกินยาต้มมากที่สุด แม้ว่ารสชาติของยาจะทำให้กินยากมากจริงๆ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะทำให้ประสาทรับรสชาในขณะกินยามานานแล้ว เขากินยาจนหมดถ้วยและกวักมือเรียกหลงฉีให้รีบเติมยาใส่ถ้วยของเขาอีกครั้ง กินที่เหลือทั้งหมดในคราวเดียว
เมื่อมียาต้มเจ็ดถ้วยอยู่ในท้อง ฟ่านจั๋วก็รู้สึกเสียใจทันที ยาต้มเจ็ดถ้วยนั้นเต็มท้องของเขาจนล้นขึ้นมาถึงคอ กลิ่นและรสของมันวนเวียนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ฟ่านจั๋วรู้สึกสิ้นหวังอย่างที่สุด
ภายใต้สายตาเฝ้ามองของจวินอู๋เสีย พวกเฉียวฉู่ได้แต่ยอมรับชะตากรรมและกินยาต้มทั้งหมด หลังจากกินหมดแล้ว ทุกคนก็นอนเหมือนตายไปครึ่งหนึ่งอยู่บนเตียงราวกับคนป่วยหนัก
จวินอู๋เสียมองไปที่เยว่เย่ เยว่เย่ถือขวดยากองหนึ่งเดินยิ้มเข้ามายืนตรงหน้าพวกเฉียวฉู่ทันที
ตอนที่ 1945 ยาต้ม (3)
จวินอู๋เสียมองไปที่เยว่เย่ เยว่เย่ถือขวดยากองหนึ่งเดินยิ้มเข้ามายืนตรงหน้าพวกเฉียวฉู่ทันที
“ได้เวลาอาจารย์อากินยาแล้วเจ้าค่ะ” เยว่เย่มองพวกเฉียวฉู่ยิ้มๆ ดูเหมือนจะไม่เห็นสีหน้าหมดอาลัยตายอยากของพวกเขาเลย นางวางถาดลงบนโต๊ะ ยาถูกแบ่งเป็นห้าส่วนใส่กล่องเล็กห้าใบ เด็กสาวเทเม็ดยาออกมาจากแต่ละขวด นำมาวางบนขอบโซฟานุ่มที่พวกเฉียวฉู่นอนอยู่
ฮัวเหยากวาดตามองยาในกล่อง มองแวบเดียวก็เห็นว่าเต็มไปด้วยยาเม็ดหลายชั้นอยู่ในนั้น……
นี่เท่ากับให้พวกเขากินยาแทนข้าวเลยนะ!
อย่างไรก็ตาม หลังจากถูกทรมานด้วยยาต้มมาแล้ว หัวใจของพวกเขาก็เหมือนตายไปแล้ว เมื่อรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่ต่อต้าน พวกเขาก็ได้แต่ยอมรับชะตากรรม เทยาเข้าปากราวกับกินถั่ว สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ยาเม็ดพวกนี้ละลายในปากทันที รสขมของมันเลวร้ายไม่ด้อยไปกว่ายาต้มเมื่อครู่ ยาเม็ดกำนั้นทำให้พวกผู้เยาว์รู้สึกเศร้าจนอยากตาย แต่ก็ทำได้แค่กลั้นใจกลืนมันลงไป
เมื่อครู่ยาต้มก็เต็มท้องของพวกเขาอยู่แล้ว ตอนนี้ยังต้องยัดยาเม็ดลงไปอีกกล่อง
ทุกคนแทบจะอาเจียนทุกอย่างออกมาอยู่แล้ว
พวกเขาไม่เคยรังเกียจตัวเองมาก่อนเลย แต่รสชาติในปากตอนนี้ทำให้พวกเขารู้สึกรังเกียจอย่างที่สุด
“เจ้าจันทร์น้อย……ช่วยเอาน้ำให้อาจารย์อาหน่อยได้ไหม?” เฉียวฉู่ยื่นมือที่สั่นระริกออกไป หางตาวาววับด้วยหยดน้ำที่น่าสงสัย
เยว่เย่มองสีหน้าเศร้าโศกของเฉียวฉู่แล้วถามว่า “อาจารย์อายังดื่มไหวหรือเจ้าคะ?”
“เราจะบ้วนปาก……” อย่าให้เขาต้องพูด เขาเกลียดปากตัวเองจะแย่แล้ว!
เยว่เย่มองเหล่าอาจารย์อา แล้วหันไปมองอาจารย์ของตน เมื่อเห็นจวินอู๋เสียพยักหน้าตกลง นางก็วิ่งออกไปเอาชาสมุนไพรมาหนึ่งกา เทให้พวกเฉียวฉู่คนละถ้วย พวกเขาบ้วนปากกันอย่างบ้าคลั่ง หวังจะล้างเอาคราบเหนียวๆที่ติดอยู่ในปากออกให้หมด
รสชาติของมันสุดจะบรรยาย!
“ยาแปลงวิญญาณไม่ใช่สิ่งที่จะกินง่ายๆอย่างนั้น ถ้าวันหน้าเจ้าอยากทำเช่นนั้นอีก ก็ควรคิดให้ดีซะก่อน” จวินอู๋เสียนั่งลงบนเก้าอี้ ถือถ้วยชาใสอยู่ในมืออย่างใจเย็น มองดูสีหน้าเพื่อนๆที่กำลังทุกข์ทรมานกับชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย
“คิดแน่นอน! จะคิดทบทวนให้ดีๆเลย” เสียงของเฉียวฉู่เหมือนกำลังจะร้องไห้
พวกผู้เยาว์ถูกจวินอู๋เสียทรมานจนถึงขั้นอยากตาย แต่ไม่ว่ายาต้มจะรสชาติเลวร้ายน่ารังเกียจยังไง ก็ยังล้างเอาความห่วงใยภายใต้ท่าทางเย็นชาของจวินอู๋เสียออกไปไม่ได้ ทุกคนรู้ดีว่าจวินอู๋เสียต่อต้านการที่พวกเขาใช้ยาแปลงวิญญาณอย่างมาก นางมอบมันให้กับพวกเขาเพื่อเอาไว้ป้องกันตัวเองในกรณีที่หมดหนทางแล้วจริงๆ แต่พวกเขากลับเอามันออกมากินตั้งแต่แรก
สิ่งที่นางทำในตอนนี้เป็นเพียงการพยายามทำให้พวกเขาไตร่ตรองสิ่งต่างๆอย่างรอบคอบมากขึ้นก่อนที่จะตัดสินใจทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อตัวเองในครั้งหน้า
แน่นอนว่าคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีเหตุผลให้สงสัยว่านางจงใจทรมานพวกเขา
แต่เมื่อพวกเขาเห็นผ้าพันแผลที่พันรอบหน้าผากของจวินอู๋เสีย ก็ไม่มีใครคิดจะโต้เถียงได้ลง
หากพูดถึงอาการบาดเจ็บ จวินอู๋เสียคือคนที่บาดเจ็บหนักกว่าพวกเขา แต่นางกลับรีบมาตรวจอาการพวกเขาอย่างร้อนใจ แล้วพวกเขาจะทำให้นางผิดหวังทั้งๆที่นางมีเจตนาดีต่อพวกเขาได้อย่างไร?
“กินยาแล้วก็รีบพักผ่อนซะ” จวินอู๋เสียลุกขึ้นยืนหลังจากก่อกวนพอแล้ว
พวกเฉียวฉู่ส่งเสียงคร่ำครวญทันที น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโล่งใจ
จวินอู๋เสียเดินออกไปทางประตู และเห็นจวินอู๋เหยายืนพิงกำแพงอยู่ข้างประตู ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มร้ายกาจประดับอยู่