ตอนที่ 578 ผู้ชายอย่างพวกคุณมันเลว
แต่ทว่าการกระทำของเธอมันก็ยังไม่เร็วเท่าฉีหย่วนเหิง เธอวิ่งไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ถูกคว้าข้อมือเอาไว้แน่น จากนั้นร่างทั้งร่างก็ถูกดึงเข้าไป ในขณะที่เธอกำลังมึนงง บนลำคอของเธอก็มีมือคู่หนึ่งที่เต็มไปด้วยพละกำลังของผู้ชายอยู่บนนั้นแล้ว
“คุณรู้ได้ยังไง” สีหน้าที่กำลังโกรธเกรี้ยวจนเกือบจะเรียกได้ว่าดุร้ายของเขาเข้าใกล้เธอเข้ามา และถามขึ้นด้วยท่าทางที่ดูโหดร้าย
หล่อนจ้องมองไปที่ชายหนุ่มที่ตัวเองชอบ มันก็อดไม่ได้ที่อยากจะหัวเราะขึ้นมา “คุณคิดว่าคุณปิดบังได้ดีมากงั้นเหรอ ฉันรู้มาตั้งนานแล้ว ก็มีแต่ผู้ชายโง่ๆ อย่างคุณนั่นแหละที่เอาแต่คิดว่าสิ่งที่คนอื่นรู้มัน เป็นความลับ โง่!”
และหล่อนก็เลือกที่จะพูดออกไป ถึงอย่างไรหลังจากที่ได้สติก็นึกขึ้นมาได้ว่า ตัวรักเองก็เป็นคนตระกูลถัง ไม่ว่าเขาจะโมโหแค่ไหนก็คงไม่มีทางทำอะไรหล่อนแน่
ฉีหย่วนเหิงหรี่ตาลงเล็กน้อย “ที่เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
ยิ่งถังจิ้งเหวินเห็นท่าทางสีหน้าท่าทางของเขาแบบนั้นแล้วหล่อนก็ยิ่งอยากจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจของตัวเองออกไปให้หมด ความรู้สึกเหมือนถูกหยอกเย้าจนโกรธไปหมด
ก่อนหน้านี้หล่อนยังคิดว่าในที่สุดฉีหย่วนเหิงก็หลงใหลในตัวหล่อนและยอมรับความรู้สึกของหล่อนเสียที แต่ไม่คิดเลยว่าผ่านไปได้แค่ไม่กี่วันก็จะรู้สึกได้ถึงความไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าเขาจะดีกับหล่อนแต่มันก็จะเป็นอย่างนั้นก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาวแซ่เฉียวเท่านั้น พอเธอไม่อยู่ใบหน้าของเขาก็กลับมาเย็นชาเหมือนเดิม
บางครั้งที่ออกไปข้างนอกด้วยกันก็จะเป็นแบบนี้ จะต้องให้คนเอาเรื่องที่พวกเขาไปเที่ยวเล่นด้วยกันแพร่กระจายออกไป จากนั้นเขาก็จะเอาแต่รับโทรศัพท์ หล่อนไม่รู้หรอกว่าปลายสายพูดอะไร แต่ทุกครั้งหลังจากที่เขารับสายเสร็จก็มักจะอารมณ์ไม่ดีตลอด
จากนั้นการเดทก็จะจบลงอย่างไม่มีปีไม่มีขลุ่ย แม้แต่จะส่งหล่อนกลับบ้านเขาก็ยังไม่ยินดีเลยด้วยซ้ำ เขาสั่งให้ลูกน้องของตัวเองเป็นคนส่งหล่อนกลับบ้านตลอด
เรื่องแบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งสองครั้ง แต่มันเป็นแบบนี้ทุกครั้ง และมันก็ทำให้หล่อนที่ถึงแม้จะถูกความรักเข้าครอบงำสมองแต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะคิดมาก
เรื่องความสนิทสนมก็เหมือนกัน ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นมักจะสนมชิดใกล้กันตลอด มันทำให้หล่อนยิ่งรู้สึกลงรักเขาเข้าไปใหญ่ จากนั้นพอผู้หญิงคนนั้นเดินออกไป ท่าทางของเขาก็จะกลับมาเย็นชาเหมือนเดิม
หล่อนไม่ได้โง่ แต่แค่หล่อนเองก็เป็นผู้หญิงที่น่าสงสารคนหนึ่งที่ถูกความรักเข้าครอบงำหัวสมอง จนมาถึงตอนนี้ รวมกับสิ่งที่เขาพูดออกมาเมื่อสักครู่ ถ้ายังไม่เข้าใจอะไรอีกหล่อนก็คงจะโง่บริสุทธิ์ไปเลย
หล่อนถูกหลอกใช้ ถูกเขาเอามาใช้เป็นเครื่องลองใจกับคนที่อยู่ในใจของเขาอยู่แล้ว นั่นก็คือเฉียวซือมู่
หล่อนที่เป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลถังถูกผู้ชายที่ตัวเองชอบทำเป็นเหมือนแค่ของชิ้นหนึ่ง เป็นแค่เครื่องลองใจ
คนหยิ่งผยองอย่างหล่อนไม่มีทางยอมรับได้ จากความรักที่เคยมีให้เขาในตอนนี้มันได้กลับกลายเป็นความเกลียดชังไปหมดแล้ว ก่อนหน้านี้เขาดีกับเธอมากเท่าไหร่ ตอนนี้เธอก็ยิ่งเกลียดเขามากเท่านั้น ไม่เพียงเกลียดฉีหย่วนเหิงที่อยู่ตรงหน้า แม้แต่เฉียวซือมู่เองหล่อนก็เกลียดไปด้วย
ทำไมเธอถึงไม่รู้จักพอแบบนี้ ทั้งทั้งที่มีลูกกับผู้ชายคนอื่น แต่ก็ยังมาหลอกล่อฉีหย่วนเหิงอย่างนั้นหรือ
บนโลกนี้ยังมีผู้หญิงที่น่าไม่อายขนาดนี้อยู่ด้วยงั้นเหรอ!
เธอจะต้องแก้แค้นให้ได้!
แต่ทว่าตอนนี้สิ่งที่เธอทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือจ้องมองไปที่ผู้ชายตรงหน้าอย่างยั่วยุ เพื่อที่จะทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนที่หล่อนรู้สึกอยู่
หล่อนจ้องมองไปที่ฉีหย่วนเหิงอย่างเย็นชา “พวกผู้ชายอย่างพวกคุณก็เอาแต่คิดว่าผู้หญิงอย่างพวกเราจะเอามาล้อเล่นยังไงก็ได้จนกว่าจะพอใจ แต่ว่าคุณเคยคิดบ้างไหมว่าที่จริงพวกเราเองใช่ว่าจะไม่เข้าใจ แต่แค่ไม่อยากจะคิดเล็กคิดน้อยอะไรกับคุณเท่านั้นเอง เธอท้องแล้วนะ แล้วเด็กในท้องของเธอก็ไม่ใช่ลูกของคุณ เรื่องแค่นี้แค่ดูก็รู้แล้ว ฉันว่าผู้ชายอย่างพวกคุณน่ะมันเลวระยำสิ้นดี คนที่ชอบคุณจริงๆกลับไม่เอา แต่กลับเลือกที่จะเอาผู้หญิงที่ท้องไม่มีพ่อ ช่างน่าอับอายต่อวงศ์ตระกูลจริงๆ”
ตอนที่ 579 เธอฟื้นแล้ว
หล่อนถูกเลี้ยงอย่างตามใจมาตั้งแต่เด็กจนโต ถึงแม้ว่าจะถูกอบรมสั่งสอนอย่างเข้มงวด แต่ทว่าก็ยังคงไม่ละทิ้งความหยิ่งผยองลงอยู่ดี ถูกเขาหลอกใช้เอาแบบนี้ แน่นอนว่าไม่มีทางรับได้ เลยอดไม่ได้จริงๆที่จะแกล้งยั่วยุออกไปแบบนั้น
แต่พอหล่อนพูดจบก็ต้องรู้สึกเสียใจ เพราะหล่อนเห็นฉีหย่วนเหิงหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่หล่อนพูดแล้วสีหน้าของเขาก็ยิ่งมีความโหดเหี้ยมมากขึ้นกว่าเดิม ทำเอาหล่อนเกิดอาการหวาดกลัวขึ้นมาทันที
ลำคอของหล่อนถูกบีบแน่น มือใหญ่ที่อยู่บนลำคอของหล่อนออกแรงบีบจนหล่อนแทบจะหายใจไม่ออก สีหน้าดูแย่ขึ้นมาในทันที หล่อนร้องออกมาอย่างทรมาน มือทั้งสองข้างยกขึ้นจับอย่างทุรนทุราย จนกระทั่งหายใจไม่ออก ภาพตรงหน้าเริ่มพร่าเรือน สายตาเริ่มเลือนราง
หรือว่าหล่อนกำลังจะตายกันนะ?
ในตอนนี้หัวสมองเธอคิดออกเพียงอย่างเดียว
ในตอนที่กำลังสิ้นหวังนั้นเอง จู่ๆ หูของเธอก็ได้ยินเสียงขึ้นมาว่า “ไสหัวออกไป!”
จากนั้นก็รู้สึกได้ถึงแรงมหาศาลที่เหวี่ยงมา ร่างทั้งร่างของหล่อนปลิวไปตามแรงราวกับเมฆ จากนั้นก็หล่นลงบนพื้นลื่น ร่างทั้งร่างตกลงมาราวกับโครงกระดูกจนรู้สึกเจ็บปวดไปหมด
หล่อนกรีดร้องออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แรงบีบรัดที่อยู่บนลำคอคลายออกแล้ว อากาศที่มีค่าและบริสุทธิ์กลับเข้ามาในร่างกายอีกครั้ง เธอสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ โอดครวญออกมาอย่างเจ็บปวด น้ำตาก็ไหลลงมาไม่ขาดสาย
เพียงแค่ชั่วครู่เดียวสภาพของเธอก็ดูจนตรอกสุดๆ
ฉีหย่วนเหิงมองดูหล่อนที่กำลังคลานอยู่บนพื้นสายตาเย็นชาเสียจนน่ากลัว เขาค่อยๆ เดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าหล่อน แล้วใช้สายตาราวกับคนที่อยู่เหนือกว่ามองลงไปที่หล่อน ราวกับว่ากำลังจ้องมองสิ่งของที่ไม่มีชีวิต “เธอกล้ามากนะ ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ฉันคงจะมองเธอผิดไปสินะ”
หล่อนไอโขลกออกมาอย่างรุนแรง น้ำตาไหลเป็นสาย แต่มุมปากกลับยิ้มเหยียดขึ้นมา หล่อนช้อนตาขึ้นมองเขา “ฉันเองก็มอง…คุณผิดไปเหมือนกัน ที่แท้…ที่แท้คุณมันก็แค่ไอ้คนขี้ขลาด ฮ่ะๆ…”
ความกังวลที่อยู่ในใจของหล่อนมันบีบบังคับให้หล่อนรู้สึกแย่เกินไปแล้ว อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา แต่ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับลำคอของหล่อนมันทำให้ยากต่อการส่งเสียงออกมา สุดท้ายก็ทำได้แค่พูดออกมาอย่างไม่รู้เรื่องเพียงไม่กี่ประโยค
แต่แค่สองประโยคนั่นก็เพียงพอแล้ว ดวงตาของฉีหย่วนเหิงไหววูบ ย่อตัวลงแล้วมองหล่อน “คุณเชื่อไหมว่าถ้าคุณพูดมากกว่านี้อีกซักประโยค คุณจะไม่มีทางได้ออกจากที่นี่ตลอดไป”
พูดจบเขาก็จะมองหล่อนที่ขดตัวลง จากนั้นก็ลุกขึ้นตบมือ และหันไปสั่งลูกน้องที่ไว้ใจได้อย่างเจิ้งไห่ “พาเธอกลับไป”
พูดจบก็หันไปมองถังจิ้งเหวินที่ได้แต่ทรุดตัวอยู่บนพื้นพูดอะไรไม่ได้ “กลับไปแล้วคุณคงรู้ใช่ไหมว่าควรจะต้องพูดยังไง”
รวมกัดฟันมองไปที่เขาอยากเจ็บแค้นใจ และไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
ฉีหย่วนเหิงไม่สนใจอะไรอีก ยกมือขึ้นสั่งให้คนพาเธอออกไปทันที
ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมีความกล้า แต่กลับไม่ฉลาดเอาเสียเลย ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้เขาได้ให้ความสบายกับคนตระกูลถังมากไปแล้ว ต่อให้เธอกลับไปถึงบ้านแล้วไปพูดอะไรกับคนในตระกูลก็คงไม่มีใครกล้าที่จะมายุ่งกับเขาหรอก
และนั่นก็คือเรื่องจริง เพราะอย่างไรเสียเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาจริงๆ แล้วมันก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ เท่านั้น ถ้าหากว่าพวกนั้นจะหาคนมาช่วยจัดการมันก็คงจะดูแปลกไปสักหน่อย
เพราะฉะนั้นเขาจึงคิดกังวลอะไรทั้งนั้น
คนที่เป็นฝ่ายทำให้เรื่องทุกอย่างมันย่ำแย่ลงแบบนี้ไม่ใช่เขา แต่เป็นอีกฝ่ายต่างหาก
พอคิดว่าตอนนี้ศัตรูของตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับความยุ่งยากวุ่นวายอยู่ มุมปากของเขามันก็ยกยิ้มขึ้นด้วยความสบายใจ
แต่รอยยิ้มเพิ่งจะปรากฏอยู่บนใบหน้าได้ไม่เท่าไหร่ หันไปทีก็พบกับหลี่เส่าผู้ดูแลพิเศษที่จัดหามาให้ดูแลเฉียวซือมู่โดยเฉพาะวิ่งเข้ามาหา สีหน้าท่าทางตื่นตระหนกไม่น้อย “คุณชาย คุณเฉียวเธอ…เธอฟื้นแล้วค่ะ”
ฉีหย่วนเหิงเดินไปทันที ไม่ทันได้สนใจสีหน้าที่อยู่บนใบหน้าของหล่อนเลยสักนิด