ตอนที่ 678 จงมั่วเจียงทำอย่างนี้ได้อย่างไร
อาการปวดท้องรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซูจิ่วซือสีหน้าซีดขาว นางรู้สึกสังหรณ์ใจ
ครู่หนึ่งนางก็เห็นรอยเลือดสีแดงที่กระโปรง
เดิมทีนางสวมชุดสีขาวนวล รอยเลือดสีแดงจึงเห็นชัด เป็นเหมือนดอกไม้แสนสวยที่บานบนกระโปรง
พอเห็นรอยเลือด ซูจิ่วซือเข้าใจทันที แม้แต่อาหลานซึ่งอยู่ข้างๆ ก็ยังงง นางรู้สึกประหลาดใจและคาดไม่ถึง
ซูจิ่วซือกัดริมฝีปาก พูดเสียงดุ “อาหลาน ไปเรียกจงมั่วเจียงมานี่”
“ฮองเฮา …”
อาหลานเป็นห่วงซูจิ่วซือ ไม่กล้าออกไป
“รีบไป”
ซูจิ่วซือเน้นเสียงหนักแน่น ราวกับมีคนเอามีดมาแทงหัวใจนาง
ขณะที่อาหลานเพิ่งเดินมาที่หน้าประตู จงมั่วเจียงก็ก้าวเท้าเข้ามาหา เขาสวมชุดดำ ท่าทางหนักใจ ไม่กล้ามองหน้าซูจิ่วซือ
พอเห็นจงมั่วเจียงเข้ามา ซูจิ่วซือก็ลุกขึ้นอย่างยากเย็น จับเสื้อจงมั่วเจียงไว้ “ทำไม”
“จิ่วซือ เจ้าก็รู้ว่าการเอาเด็กไว้หมายความว่าอย่างไร ข้าเคยทุ่มเทช่วยชีวิตของเจ้า ไม่อนุญาตให้เจ้าทำอะไรโง่ๆ ”
จงมั่วเจียงยื่นนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ยังคงหลบสายตาซูจิ่วซือ เขาไม่อยากทำร้ายซูจิ่วซือ แต่ต้องการให้ซูจิ่วซือมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความสุข
“เจ้ามีคุณสมบัติอะไรมาตัดสินชีวิตลูกข้า จงมั่วเจียง ทำไมทำอย่างนี้”
ซูจิ่วซือซึ่งสงบมาตลอดเริ่มระงับอารมณ์ไม่อยู่ นางเบิ่งตากว้าง จ้องมองจงมั่วเจียง สายตามีทั้งความเจ็บปวดและสิ้นหวัง
จงมั่วเจียงไม่รู้จะพูดอย่างไร เขาไม่มีคุณสมบัติจริงๆ คิดแต่จะปกป้องชีวิตของซูจิ่วซือ เขาไม่รบกวนนางไปตลอดชีวิตก็ได้ มองดูนางแต่งงานกับคนอื่นก็ได้ แต่ไม่อาจทนเห็นนางตาย ไม่ว่าอย่างไรเขาทำไม่ได้เด็ดขาด
ซูจิ่วซือดึงปิ่นบนผมออกมาแทงใส่อกของจงมั่วเจียง
ปิ่นแหลมคมแทงเข้าหัวใจจงมั่วเจียงพอดี เลือดสีแดงสดซึมออกมาทันที
จงมั่วเจียงยังคงไม่ขยับเขยื้อน เบนสายตาหันกลับมา มองซูจิ่วซือด้วยความสงสาร ตั้งแต่เขาเห็นซูจิ่วซือครั้งแรกจนถึงเวลานี้ ไม่เคยเห็นนางคุมสติไม่อยู่
จงมั่วเจียงพยายามควบคุมตัวเอง พูดขึ้น “ข้าเป็นคนฆ่าลูกของเจ้าเอง ถ้าเจ้าทำอย่างนี้แล้วสบายใจขึ้น ก็ฆ่าข้าได้เลย ซูจิ่วซือ ข้าหวังแต่ว่าเจ้าจะอยู่อย่างมีความสุข”
ปิ่นปักเข้าไปไม่ถึงครึ่ง หน้าอกของจงมั่วเจียงมีเลือดสดๆ ซึมออกมาตลอดเวลา ซูจิ่วซือหยุดแทง นางหันหลัง จับมุมโต๊ะ นั่งลง น้ำเสียงเย็นชาลงมาก นางหันหลังให้จงมั่วเจียงแล้วพูดขึ้น “เจ้าไปได้แล้ว! ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก”
ก่อนลงมือทำครั้งนี้จงมั่วเจียงรู้แล้วว่าซูจิ่วซือต้องโกรธเขาแน่ วันหลังคงไม่ยอมให้เขาใกล้ชิดอย่างแต่ก่อน แต่เขาไม่เสียใจ ขอแต่ได้รักษาชีวิตนางไว้ แม้นางโกรธเขาตลอดชีวิต เขาก็จะทำอย่างนี้
ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการมีชีวิตอยู่
“อาหลาน เจ้าเอายานี้ให้ให้จิ่วซือกิน อีกสักครู่ฟู่เฉินหรงคงจะมาแล้ว ยานี้ช่วยปกป้องจิ่วซือไว้”
จงมั่วเจียงวางขวดเคลือบสีดำบนโต๊ะ พูดจบก็ออกไปจากห้อง
ก่อนฟู่เฉินหรงมา เขาจะไม่ออกจากเรือน เขาอยากเห็นนางไปอย่างปลอดภัยจึงจะวางใจ
“ฮองเฮา…”
อาหลานรู้สึกเสียใจ แต่ไม่รู้จะพูดอย่างไร นางเองก็อยากทำอย่างนี้ แต่ไม่กล้า
“อาหลาน เจ้าออกไปก่อน”
“ฮองเฮา บ่าวจะอยู่กับฮองเฮา”
อาหลานเป็นห่วงซูจิ่วซือ เห็นที่กระโปรงมีรอยเลือด นางอยากเตือนซูจิ่วซือให้กินยา
“ออกไป”
ตอนที่ 679 จิ่วซือ ข้าไม่กล้าเสี่ยง
ซูจิ่วซือสีหน้าไร้ความรู้สึก สายตาเย็นชา พูดเสียงวางอำนาจ นางยิ้มแย้มพูดคุยกับอาหลานมาตลอด เวลานี้นางอารมณ์ไม่ดีเลย
อาหลานไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่ออกจากห้องอย่างเงียบๆ
ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ฟู่เฉินหรงกับกู้หลียวนก็มาถึง เผยปิงปิงก็มาด้วย
ฟู่เฉินหรงเข้าไปหาซูจิ่วซือที่ห้อง เผยปิงปิงกับกู้หลียวนไปหาจงมั่วเจียง
ฟู่เฉินหรงเปิดประตูห้อง ซูจิ่วซือนั่งที่พื้น กระโปรงสีขาวนวลมีรอยเลือดสดๆ วงใหญ่ นางนั่งที่พื้นโดยไม่รู้สึกตัว
รอยเลือดสีแดงทำให้ฟู่เฉินหรงปวดร้าวใจ รีบเข้าไปนั่งที่พื้นด้วย แล้วจับไหล่ซูจิ่วซือ พูดเสียงแหบ “จิ่วซือ กลับบ้านเถอะ!”
“ลูกไม่มีแล้ว”
“ข้า…”
“เฉินหรง ถ้าเจ้าตามข้าเจอ เจ้าคงจะทำอย่างนี้เหมือนกัน”
“จิ่วซือ ข้าไม่กล้าเสี่ยง” ฟู่เฉินหรงยังคงพูดเสียงแหบ แขนที่โอบซูจิ่วซือยิ่งกระชับแน่น “ข้าพาเจ้ากลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย เจ้าเคยรับปากข้า จะอยู่กับข้าไปตลอดชีวิต อย่าเสียสัญญา”
ซูจิ่วซือเข้าใจความหมายของฟู่เฉินหรง ถ้าจงมั่วเจียงไม่ทำก็ยังมีฟู่เฉินหรง เขาคงทำอย่างนี้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าถ้าฟู่เฉินหรงทำ นางจะยิ่งปวดร้าวใจ
นางเข้าใจเจตนาของคนทั้งสอง รู้ว่านางไม่อาจโทษพวกเขาได้ แต่เวลานี้นางไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับฟู่เฉินหรงอย่างไร
จุดหมายของปิงอวิ๋นจะบรรลุหรือไม่
นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดความบาดหมางกันนับตั้งแต่นางรู้จักฟู่เฉินหรง ได้แต่ปล่อยให้เกิดขึ้นไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
“ข้าอยากกลับไปแคว้นเว่ย อยากไปเยี่ยมซูเหิง”
ฟู่เฉินหรงรู้ว่าเวลานี้ที่ซูจิ่วซือบอกว่าจะกลับแคว้นเว่ยก็เพราะไม่อยากพบเขา แม้นางไม่เคยโทษเขา แต่เขาก็รู้สึกถึงความห่างเหินในคำพูดของซูจิ่วซืออย่างชัดเจน
“รอเจ้ารักษาตัวให้แข็งแรง ข้าจะให้คนพาเจ้ากลับแคว้นเว่ย เจ้าไปพักที่นั่นสักระยะหนึ่งก็ดี ซูเหิงเห็นเจ้ากลับไปคงดีใจมาก”
แม้ไม่อยากอยู่ห่างจากซูจิ่วซือ แต่เขาก็รู้ว่าระหว่างเขากับซูจิ่วซือเกิดปมในใจแล้ว เขาเองก็อยากให้ซูจิ่วซือออกไปผ่อนคลายข้างนอก นางคงจะสบายใจขึ้นมาก
เรื่องระหว่างเขากับซูจิ่วซือคงจะค่อยเป็นค่อยไป เขายินดีรอคอย รอกระทั่งซูจิ่วซือลืมเรื่องนี้ไปแล้ว วันนี้ถ้าจงมั่วเจียงไม่ทำ เขาก็จะทำ
การกระทำของจงมั่วเจียงเป็นเรื่องที่ฟู่เฉินหรงคาดไม่ถึง นี่ไม่ใช่คำสั่งของเขา เขาเดินทางมาจึงรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปากของเผยปิงปิง เขาเข้าใจเจตนาของจงมั่วเจียง
เมื่อก่อนเขาเคยหึงหวงจงมั่วเจียงบ้าง เวลานี้กลับรู้สึกนับถือจงมั่วเจียง แม้จงมั่วเจียงจะชอบซูจิ่วซือ แต่ไม่ได้แย่งชิงด้วยวิธีการต่ำช้า กลับคิดหาทางช่วยเหลือซูจิ่วซือตลอดเวลา
ฟู่เฉินหรงอยากคบหาเป็นสหายกับจงมั่วเจียง
ฟู่เฉินหรงอุ้มซูจิ่วซือขึ้นจากพื้น นางไม่พูดไม่จาและไม่ขยับเขยื้อน ปล่อยให้ฟู่เฉินหรงอุ้มขึ้นรถม้า
จงมั่วเจียงยืนที่หน้าต่างมองดูฟู่เฉินหรงพาซูจิ่วซือจากไป เผยปิงปิงกับกู้หลียวนยืนอยู่ข้างหลังเขา บาดแผลที่อกจงมั่วเจียงเอาผ้าพันไว้แล้ว เขาสวมชุดดำ ไม่เห็นรอยเลือดชัดเจน
“มั่วเจียง ครั้งนี้ลำบากเจ้าแล้ว”
เผยปิงปิงพูดขอโทษด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เรื่องนี้ให้ข้าเป็นคนทำดีที่สุด นางโกรธข้ายังดีกว่าโกรธฟู่เฉินหรง เพราะปกติข้าไม่ได้พบหน้านางอยู่แล้ว”
“บาดแผลของเจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่”
“ไม่เป็นไร เรี่ยวแรงเล็กน้อยของจิ่วซือจะฆ่าข้าได้หรือ ช่วงนี้นางอารมณ์ไม่ดี ปิงปิง ช่วยพูดให้จิ่วซือสบายใจหน่อย”
จงมั่วเจียงไม่เคยเห็นซูจิ่วซือในสภาพอย่างนี้ จึงเป็นห่วงซูจิ่วซือ เขารู้ว่านางสนิทกับเผยปิงปิง จึงอยากให้เผยปิงปิงช่วยพูดให้ซูจิ่วซือสบายใจขึ้น
“ถึงเจ้าไม่บอกข้าก็จะทำ จิ่วซือไม่ใช่คนที่ดึงดัน ให้เวลานางสักระยะหนึ่ง นางคงจะคิดขึ้นได้”