” ตู้ม ! “
เสี่ยงระเบิดดังขึ้นตามด้วยความก้องกังวาน อยี่กู้ฮั่น โซเซถดถอย เขาล่าถอยไปสองสามก้าว ปาfเลือดที่ปรากฏตรงมุมปาก แต่ยังคงใช่ประโยชน์จากการล่าถอย และพุ่งขึ้นท้องฟ้าเพื่อหยุดยั้งสองมือสังหารสวมหน้ากากที่ติดตามองค์หญิงหลิงเมิงไป กระบี่ยาวของเขาดูคล้ายดั่งศิลาขนาดใหญ่ซึ่งปิดกันเส้นทางผ่านหุบผา
ผู้นำมือสังหารชุดดำคำรามทางจมูก
” อยี่กู้ฮั่น เดิมทีเป้าหมายพวกเรามีเพียงองค์หญิงหลิงเมิง แต่ตอนนี้ น้องชายของพวกเราไม่มีหนทางอื่นเว้นแต่สังหารเจ้า เนื่องด้วยเจ้าประสงค์จะได้รับการตัดสิน ! “
เขาโบกมือ ชายทั้งห้า หายไปพร้อมกันในห้าทิศทางที่แตกต่าง จากนั้น โจมตี อยี่กู้ฮั่นพร้อมเพรียงดั่งลมพายุฝนอันยิ่งใหญ่
กระบี่ของ อยี่กู้ฮั่น รวดเร็วประหนึ่งงู เปล่งประกายส่องแสงท่ามกลางสายฝน เขาอ้าปากตะโกน
” เจ้าคือผู้ใด ? อย่าหลบซ่อน ! เอ่ยชื่อเจ้ามา ! “
” ชื่อพวกเรา ? พวกเราสวมใส่หน้าปากเพื่อปิดบังตัวตน อยี่กู้ฮั่น น่าประหลาดใจที่เจ้ามีความต้องการไร้เดียงสา ด้วยแท้จริงเจ้าคือยอดฝีมือสวรรค์เชวียน ข้าจักบอกสิ่งหนึ่ง เหตุใดเจ้าไม่เอาหน้าขาวเผือกของเจ้าลงสู่อเวจี ? จากนั้นไถ่ถามพญามัจจุราชด้วยตัวเองเล่า ! “
ผู้นำมือสังหารยิ้มชั่วร้าย จากนั้น จากนั้นร่างของเขาพุ่งตรงไปอย่างรวดเร็ว และเสื้อผ้าของเขาโบกสะบัดในอากาศ … ราวกับจะปกคลุมทุกแสงสว่างในโลกหล้า
” สาม ! เจ้าจักต้องเร่งรีบไปจับตัวสาวน้อยผู้นั้น ! ทุกความล่าช้าจักสร้างความยุ่งยาก พวกเรามิอาจปล่อยให้เกิดปัญหาเช่นนี้ ปล่อย อยี่กู้ฮั่น ให้พวกเราที่เหลือ ! “
เกิดเสียง ฟู่ ดั่งลั่น และร่างของเขาร่วงหล่นลงดั่งเป็นโรคร้าย เขาอ้าแขนกว้าง และประกายแสงสีครามเฉียบคมปรากฏขึ้นที่นิ้วทั้งสิบของเขา ราวกับว่าเขามีกระบี่สีฟ้าสิบเล่มในมือ เป็นภาพที่ประหลาดยิ่ง ขณะที่เขาร่วงลงมาด้วยเสียง ตู้ม พร้อมแรงปะทะมหาศาล !
หนึ่งในห้ามือสังหาร ผู้ที่มีรูปร่างเพรียวบาง ฉีกตัวไปรอบๆโดยไม่เอ่ยวาจา คนผู้นี้กำลังจะหายร่างไปไล่ล่าองค์หญิงหลิงเมิงอย่างดุเดือด
อยี่กู้ฮั่นเห็นสิ่งนี้ และร้องตะโกนลั่นสุดเสียง เสียงครวญของเขาสั่นสะเทือนสรวงสวรรค์ กระบี่ของเขาดูคล้ายมังกรโกรธา และดูราวกับฝนโปรยปราย เมื่อกระบี่นับสามร้อยพุ่งไปยังศัตรูของเขาในทันทีในคราเดียว อีกสี่คนที่เหลือล่าถอยไป แม้นว่าไหล่ของผู้นำพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บ พร้อมเสียงเดือดดาล ไม่คาดฝัน เลือดสองสายพุ่งออกจาหลังของเขา
แม้นจะบาดเจ็บ อยี่กู้ฮั่น คำรามอีกหน ! คนผู้หนึ่งถูกส่งขึ้นสูงในอากาศ ยี่สิบห้าหลา เขาร่วงลงธรณีและเริ่มมีเลือดหยด อีกผู้หนึ่งหมุนไปในอากาศ และยังไม่ร่วงหล่น การโจมตีของ อยี่กู้ฮั่นคล้ายดั่งฝนกระบี่ มันปกคลุมรอบร่างของมือสังหารร่างเพียวบาง
อีกสี่ผู้ไล่ตามมาทัน แต่ดูเหมือนว่า อยี่กู้ฮั่น ไม่เกรงกลัวความตาย แท้จริงแล้ว ดูเหมือนเขาตระเตรียมกระบี่ และพร้อมจะตายท่ามกลางศัตรู เขาเตรียมตัวเพื่อต่อสู้ตาต่อตากับโชคชะตา ราวกับปรารถนาจะลงไปยังขุมอเวจี เขาโจมตีอย่างเฉียบคมไม่หยุดหย่อน เป็นดั่ง ผู้พราชีวิต พร้อมด้วยกระบี่ในมือ เขาวางตัวปิดกั้นถนนทั้งหมด
ยอดฝีมือระดับสวรรค์เชวียนห้าคนนั้นมิอาจบุกฝ่าการปิดกั้นนี้ได้
ความพยายามครั้งสุดท้ายของยอดฝีมือสวรรค์เชวียนจักอ่อนแอได้เช่นไร ?
ชัดเจนจากภาษกายของ อยี่กู้ฮั่น ว่าเขาพร้อมจะเสี่ยงชีวิตตัวเอง …
” หากเจ้าต้องการ หลิงเมิง เจ้าจักต้องก้าวข้าวร่างไร้วิญญาณของข้า ! “
อยี่กู้ฮั่น ใช้พลังชีวิตทั้งหมดเพื่อเอ่ยคำเหล่านี้ขณะเขาแสดงให้เกิดขึ้น
ทุกการเคลื่อนกระบี่คลอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่ มันภาคภูมิ และอ่างว้าง
ทุกการโจมตีด้วยกระบี่ของเขา นั้นตราตรึง … ความโดดเดี่ยวและบ้าคลั่ง
ทุกการจู่โจมเผยถึงบางสิ่ง …
ความเดียวดาย และอ้างว้างที่กำลังมาถึง …
สถานที่อันห่างไกลซึ่งเขากลบฝังความรู้สึก …
ชีวิตอันเดียวดาย ที่ตัวเขาต้องโดดเดี่ยว …
เขาฝึกฝนกระบี่อย่างโดดเดี่ยว ….
อยี่กู้ฮั่น ฟาดฟันกระบี่อย่างโดดเดี่ยวใส่คู่ต่อสู้ และแสดงให้เห็นว่าเขานั้นโชกโชน แต่กระนั้น ชายผู้นี้มีเพียงหนึ่งความคิด เขามิเคยปล่อยให้พวกเขาเป็นภัยต่อหลิงเมิง
นอกจากการเสียสละนี้ … อยี่กู้ฮั่น ก็พร้อมจะเข้าสู่ขอบเขตแห่งความบ้าคลั่งเสียสติ
กระบี่ข้าคือความอมตะ !
ลกและสวรรค์ไร้ที่สิ้นสุด ลมกระบี่จะเพิ่มขึ้นและพัดไป !
กระบี่นี้จะสลักเส้นทางอันโดดเดี่ยวสู่ วังพญามัจจุราช !
กระบี่นี้จะสร้างหายนะให้แก่โลก และมิอาจมีผู้ใดยับยั้งได้ !
สังหาร !
ความตาย !
องค์หญิงหลิงเมิงถูกชัดพาให้หนีห่างออกไป โดย ตู่กู้เซี่ยวอี้ และ ซุนเซี่ยวเหม่ย ผู้นำมือสังหารตะโกนลั่น แต่กระนั้น ไม่มีทางใดที่เขาสามารถกระทำได้ในตอนนี้ เขาอดมิได้กัดปาก และเอ่ย
” เร็วเข้า จัดการกับทาสรับใช้ผู้นี้ก่อน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ! “
อยี่กู้ฮั่นหัวเราะลั่น เสียงหัวเราะเขาอ้างว้าง … ดั่งเช่นแต่ก่อน กระบี่ยาวของเขาพุ่งออกไปและทิ่มแทง มันแทงเข้าไปด้านข้างของชายสวมหน้ากาก และถอยกลับหลังออกมาราวความเร็วดแสงเมื่อเข้าไปครึ่งหนึ่ง ฝ่ายตรงข้ามถูกบังคับให้ล่าถอยด้วยความสับสน เนื่องด้วยดูราวกับว่ามันถูกหล่อขึ้นบนสวรรค์
อยี่กู้ฮั่น ต่อสู้มาเกือบตลอดชีวิต และเขาถูกห้อมล้อมไปด้วยศัตรูมากมายในการต่อสู้ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงมากด้วยประสบการณ์ฟาดฟัน ชัดเจนว่าเขากำลังแสดงถึงความแข็งแกร่งสูงสุด เมื่อเป็นสถานการณ์เป็นตายของหลิงเมิงล้ำค่าของเขา
อยี่กู้ฮั่น สามารถรับมือกับ ยอดฝีมือในระดับสวรรค์เชวียนเดียวกันกับเขาได้อย่างไรโดยไม่ตกเป็นรอง แม้นว่าเขาจะเพลี่ยงพล้ำ ?! หากเขาสามารถทุ่มเทกกายใจ และได้รับชัย … ก็เพียงพอที่จะรับมอบมุงกุฏแห่งนักรบผู้หยิ่งผยองในรุ่นเดียวกันได้
ไหล่ของเขาเลือดไหล แต่เขากระทำประหนึ่งไม่สนใจ น่าประหลาดใจ ที่มันมิได้ส่งผลกับความกล้าหาญในการต่อสู้ของเขาเลยแม้แต่น้อย
” ตู้ม ! “
กระบี่ยาวของเขาปะทะเข้าด้านข้างของชายชุดดำผู้ซึ่งกำลังหนีร้อนรน
อยี่กู้ฮั่น คำรามทางจมูก ร่างของเขาเปล่งประกายเล็กน้อย เขาใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นั้นและเหวี่ยงกระบี่เป็นวงกล้าง แสงสีครามเปล่งประกายออกมา และแผ่กระจายไปทั่วพื้นที่ เขาไม่ขยับแม้แต่น้อยขณะขณะต่อสู่กับศัตรูสามคนพร้อมกันไม่หยุดหย่อน พลังกระบี่สุดท้ายของเขากำลังหมดสิ้นลง … แต่เขายังคงกดดันคู่ต่อสู้ต่อไป ร่างของเขาลอยขึ้น และร่อนลงมาอย่างรุนแรงด้วยเสียง ตุ๊บ เขาจู่โจมชายสวมหน้ากากอีกคน ขณะที่ขาทั้งสองสัมผัสกับพื้นประหนึ่งเสาหลัก เขาคว้าตัวผู้นั้นไว้แน่น และสะบัดอย่างงรุนแรง
เขาคำรามทางจมูกขณะยกคนผู้นั้นขึ้น อยี่กู้ฮั่น เป็นดั่งว่าวที่ไร้เส้นเชือก มิอาจหวนคืนแล้ว หยดเลือดพุ่งกระจายออกจากจมูกของเขา ชายชุดดำยังคงมีพลังมากพอให้ใช้ อย่างไรก็ตาม อยี่กู้ฮั่นเผชิญหน้าชายทั้งสี่ และยังคงมีพลังเหลือพอให้สะบัดคนผู้นั้นอย่างรุนแรง ความเป็นเลิศของเขาแจ่มชัด
กระนั้น อยี่กู้ฮั่น ยังคงไม่ยอดมแพ้ เขายืดตัวและเหาะขึ้นสู่อากาศ แต่ เขาหยุดลงทันใด และหลบเลี่ยงการโจมตีของชายสวมหน้ากากอีกคนด้วยความยากลำบาก
คนผู้นี้คือ ศิษย์สองของ ลี่วูเบ้ย โจวเจียนหมิง อีกทั้งมีนิสัยรุนแรงก้าวร้าว เขาเห็นว่า อยี่กู้ฮั่น นั้นไม่ง่ายที่จะสังหาร และเอาชีวิตรอดได้อย่างยาวนาน โจวเจียนหมิงจึงมิอาจทนได้อีกต่อไป เขาตะโกนลั่น และยกกระบี่ขนาดใหญ่ของเขาขึ้นเพื่อฟาดลงบนหัวของเขา กระบี่เล่มนั้น มีปราณเชวียนบรรจุไว้ ดังนั้น จึงสำคัญที่ อยี่กู้ฮั่น ต้องหลบเลี่ยง เป็นไปได้ว่า อยี่กู้ฮั่น จะถูกสังหาร หากเขาไม่หลบหลีกการโจมตีนั้น
ดวงตาของเขาแดงก่ำ และเยือกเย็นขณะล่าถอย โจวเจียนหมิงเห็นดังนั้น และ ร้องออกมาอย่างยินดี ขณะเขาพุ่งเข้าไปเพื่อใช้ประโยชน์จากการล่าถอยนี้ แต่กระนั้น อยี่กู้ฮั่น กลับไปยังจุดเดิมของเขาทันทีหลังล่าถอย จากนั้น เขาฟันเข้าใส่กระบี่ขนาดใหญ่ของ โจวเจียนหมิง อย่างต่อเนื่องสามครั้งจากด้านบน
อยี่กู้ฮั่นกำลังต่อสู้โดดไร้เรี่ยวแรง เขาเหนื่อยอ่อนยิ่งหลังจากฟันเข้าใส่ โจวเจียนหมิงสามครั้ง เนื่องจากชายผู้นั้นออมแรงไว้ แต่กระนั้น โจวเจียนหมิง รู้สึกประหนึ่งโดนโจมตีด้วยค้อนนับพันถึงสามครั้ง อย่างโหดเหี้ยม เขามิอาจปิดบังสีหน้าขาวซีดได้ขณะล่าถอยร้อนรน และกระอักเลือดออกมา
โจวเจียนหมิง มิได้อ่อนแอหากเทียบกับ อยี่กู้ฮั่น อย่างไรก็ตาม เขาได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆด้วยอาจารย์เขาเป็นส่วนใหญ่ และเพิ่มพูนประสบการณ์โดดยการต่อสู่กับสหายศิษย์เท่านั้น แต่กระนั้น ตอนนี้เขากำลังสู้รบกับ อยี่กู้ฮั่น ผู้ที่ต่อสู้หลังชนฝาประหนึ่งคนคลั่ง ชัดเจนว่าเขามิอาจทนต่อไปได้ ความต่างระหว่างทั้งสองฝ่ายยิ่งใหญ่มากเมื่อมาถึงการต่อสู้ในขั้นเป็นตาย แม้นแท้จริงแล้วพวกเขาจะมีฝีมือในระดับเดียวกัน ดังนั้น จึงเป็นธรรมดาที่ โจวเจียนหมิง จะต้องพ่าย
อยี่กู้ฮั่นได้รับบาดเจ็บรุนแรง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงมิอาจกระทำผลีผลามได้ อีกทั้งยังใช้ ปราณเชวียนจำนวนมากในการต่อสู้ มิเช่นนั้น การโจมตีของเขาสามารถทำให้ โจวเจียนหมิง เผชิญกับความเป็นตายได้
อยี่กู้ฮั่นคิด นี่ช่างเวทนา เขาจักฉีกคู่ต่อสู้เป็นชิ้น หากการโจมตีของเขาเป็นไปด้วยดี จากนั้น ก็จู่โจมคนที่เหลือ … หรืออาจจะมีโอกาสที่ดีในการล่าถอยและฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม อยี่กู้ฮั่นก็มิอาจทำเช่นนั้นได้อย่างง่ายดาย แม้นว่าการโจมตีก่อนหน้านี้จะทำให้เขาได้เปรียบ ปราณเชวียนของคู่ต่อสู้เขาตีกลับ และเป็นการยากที่เขาจะควบคุมการเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตาม เขามีพลังเพียงพอเพียงแค่รับมือการโจมตี ตอนนี้เขาเหนื่อยหอบ เขามิอาจแสดงกระบวนท่าและการเคลื่อนไหวที่ว่องไวได้
การต่อสู้ที่รุนแรงทำให้เขา ใช้กำลังจนหมด ทำให้ความแข็งแกร่งของ อยี่กู้ฮั่น เกือบสิ้นไป ความจริง อยี่กู้ฮั่น ได้รับความกดดันจากยอดฝีมือ สวรรค์เชวียน ทั้งห้าจากทุกด้านเพียงลำพัง … และจัดการพวกเขาได้เช่นนี้ก็เป็นปาฏิหาริย์แล้ว
กระบี่ที่คล้ายคลึงดั่งสายรุ้งโค้งลงเพื่อเหนี่ยวนำชีวิตไป มือสังหารทั้งห้ามิได้แข็งแกร่งเช่น อยี่กู้ฮั่น โชคร้ายที่ตอนนี้มิใช่เรื่องสำคัญ เวลานี้เขาอยู่ในจุดที่ ต้องเผาน้ำมันในตะเกียงตัวเองแล้ว เพราะเขาเกือบไม่เหลือความแข็งแกร่งใดอีก
เสียงดัง ” ปั้ง ” มือสังหารอีกสี่คน อดตกใจมิได้ที่ได้เห็น โจวเจียนหมิง กำลังจะถูกพรากชีวิตไป ดวงตาแดงกำดั่งเลือดของพวกเขามองตรงไปยังกระบี่อันทรงพลัง ดวงตาของพวกเขาปะปนไปด้วยความโกรธและอับอาย พวกเขาสั่นเทาขณะปลดปล่อยประกายสังหาร ในหมู่พวกเขามี ยอดฝีมือสวรรค์เชวียนห้าคน แต่ถูกล้มไปเพียงหนึ่ง นี่คือความอัปยศที่สุดไปตลอดกาล
ตอนนี้คือเวลาตัดสินชัยชนะ !
อยี่กู้ฮั่น ยิ้มเจ็บปวด
ดูราวกับชีิวิตอันแสนสั้นของข้าจะจบลงวันนี้ ! ข้ามิรู้ว่า หลิงเมิ่งน้อยจะหนีไปได้ไกลเพียงใด …
แสงสีน้ำเงินเข้มเปล่งขึ้นอีกครั้งรอบร่างของเขา ราวกับดวงดาวมหึมาเผยตัวขึ้นท่ามกลางท้องฟ้าค่ำคืน อยี่กู้ฮั่น รวบรวมปราณเชวียนที่เหลือของเขาไปยังการโจมตีครั้งสุดท้าย
โจวเจียนหมิงละอายและโกรธเคือง เขาร้องครวญอย่างตระหนกขณะกระโจนขึ้นสู่อากาศอย่างบ้าคลั่ง และมีสหายสี่คนติดตามมา พวกเขาประสงค์จะสังหารอยี่กู้ฮั่นบนท้องฟ้า
อยี่กู้ฮั่นคิดคำนวนอาวุธของศัตรูอย่างแม่นยำ และเฝ้ารอโอกาสอันดี เขามิรู้ว่าเมื่อใดที่สีแดงดั่งเลือดหายไปจากดวงตาของเขา แต่ตอนนี้เขาสงบดั่งทะเลสาปลึกอันเยือกเย็นซึ่งถูกละทิ้งไว้โดยไม่ถูกรบกวน
สิ่งเดียวที่เขามิอาจเข้าใจ เขาต่อสู้มากมายในช่วงเวลานี้ เหตุใดยังไม่มีผู้ใดมาช่วยเหลือ ? ราชองครักษ์องค์หญิงหลิงเมิ่งอยู่ที่ใด ? เหตุใดจึงยังไม่มียอดฝีมือจากราชวังแสดงตัว ?
แต่ นี่มิใช่เวลาที่จะคิดเช่นนั้น
อยี่กู้ฮั่นหันไปทางตัวเมืือง เขาแสดงสีหน้าที่ลึกซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย
สีหน้านี้เต็มไปด้วยความรู้สึก … มหาสมุทรแห่งอารมณ์อันไร้จุดสิ้นสุดและโดดเดี่ยว สัมผัสได้ถึงความฝืนใจอย่างรุนแรง
ฉิวฉิว … ข้ากลัวว่าข้ามิอาจปกป้อง หลิงเมิ่งของเจ้าได้อีกแล้ว !
ข้ารู้ว่าข้ามิเคยเข้าใจเจ้า … ข้าพยายามมีชีวิตมาเนิ่นนาน … ข้ารู้ว่าเจ้ามิอาจเป็นของข้าแม้นในช่วงเวลาเป็นตายนี้ … ข้ามิอาจปล่อยเจ้าไปได้ … ข้าเกลียดการต้องจากเจ้า ….
เจ้าคือส่วนที่อ่อนแอที่สุดในหัวใจอันเจ็บปวดของข้า ….
ฉิวฉิ้ว !
เจ้าจะโดดเดี่ยวไหมหากข้ามิได้อยู่ในโลกมนุษย์นี้ ? เจ้าจะหลั่งน้ำตาให้ข้าหรือไม่ ?
อยี่กู้ฮั่นไม่มีเวลามากมายให้คิด เนื่องจากกระบี่ทั้งห้าของศัตรู โจมตีมายังเขาดั่งพายุ และปักมันลงไปในร่างของเขา
อยี่กู้ฮั่นหัวเราะลั่นไม่หยุดหย่อน …
เขากำกระบี่ยาวแน่นอน ใบหน้าของเขามั่นคง สงบ และ ยินดี …
ความทรงจำอันหอมหวานในอดีตแสดงขึ้นในหัวเขาอย่างรวดเร็ว มันสดใสและบริสุทธิ์ … ผมยาวสลวยลอยขึ้นในอากาศ … รอยยิ้มดั่งบุปผา และใบหน้าที่มันวาวนั้นเต็มไปด้วยความหวังและความคาดหวัง ในที่สุด ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตามองมาที่เขาอย่างฝืนใจ … พวกมันเลือนลาง และจางหายไป …
ชีวิตของอยี่กู้หั้นยี่สิบปีที่ไร้ความรู้สึก พุ่งผ่านสมองของเขา … ทั้งหมดนั้นเกิดจากความรักอันอ่อนโยนที่ตราตรึงในหัวใจของเขา ….
….