ตอนที่ 136 เขากลับมาแล้ว / ตอนที่ 137 ต้องไว้ใจเขา

จอมใจจ้าวพิษ

ตอนที่ 136 เขากลับมาแล้ว 

 

 

ถังเฉียนอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะได้ใบไม้หยก เมื่อฝึกวรยุทธ์ จึงรู้สึกเจ็บปวดทั่วทุกกระเบียดนิ้วบนร่างกาย แต่ในใจกลับรู้สึกสะใจ ดีใจราวกับได้ของล้ำค่า กอดกระบี่ไม้ที่ฉู่จิ่งเหยาให้นางอย่างรู้สึกปลาบปลื้มใจ 

 

 

 “ยิ้มระรื่นอะไรหรือ” 

 

 

ถังเฉียนนอนบนเตียงหวนนึกถึงเรื่องในวันนี้ ทันใดนั้นก็มีคนลงมาจากฟ้า กระพรวนแดงส่งเสียงเบาๆ 

 

 

“เจ้ากลับมาแล้ว” 

 

 

“ว่าอย่างไรกำลังคิดถึงข้าอยู่หรือ อาจารย์บอกว่าเจ้าคิดถึงคุณชายอย่างข้าจนกินอะไรไม่ลงใช่หรือไม่” 

 

 

ถังเฉียนร้องหึ 

 

 

“ไม่สักนิด เจ้าคิดไปเองทั้งนั้น” 

 

 

ถังเฉียนกลับมานั่งที่ของตัวเอง ใช้หวีไม้หวีผม แล้วเห็นกล่องเล็กใบหนึ่งบนโต๊ะเครื่องแป้ง จึงถาม 

 

 

“นี่อะไร” 

 

 

เถิงเฟิงขยับเข้าใกล้ ลูบศีรษะนางเบาๆ แล้วว่า 

 

 

“ยังเจ็บหรือไม่ ขอโทษด้วยที่พ่อข้ารั้งตัวไว้ ปลีกตัวมาไม่ได้จริงๆ ลำบากแทบแย่กว่าจะมาเยี่ยมเจ้าได้ นี่เป็นยาวิเศษของเผ่าพีส่าเรา จะทำให้ไม่เหลือรอยแผลเป็น” 

 

 

เถิงเฟิงนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า 

 

 

“จริงนะ ถ้าเจ้าทายานี้จะหายปวด ให้ข้าดูหน่อยสิ แผลอยู่ไหน” 

 

 

เขาพูดจบก็เปิดกล่องยาหมายจะช่วยทาให้นาง นางผลักมือเขาออกแล้วบอกว่าเขาเป็นอันธพาลชอบฉวยโอกาส เขาหัวเราะแล้วพูดว่า 

 

 

“ได้ยินว่าซูซินเหลียนกลายเป็นผีดิบ เล็บยาวขนาดนี้ เจ้ายังต้านทานนางได้ถึงชั่วครึ่งก้านธูป อาหรูน่าของข้าเก่งจริงๆ ข้านับถือเจ้าเป็นผู้กล้า” 

 

 

เถิงเฟิงประสานมือคารวะถังเฉียน นางได้ฟังคำยกย่องเช่นนี้ก็รู้สึกตัวเบาหวิว ยิ้มปากไม่หุบ ท่าทางกระหยิ่มใจ 

 

 

“แน่นอน…” 

 

 

“นั่นเป็นเรื่องร้ายสำหรับเจ้าต่างหาก ก่อนไปข้ากำชับเจ้าอย่างไร บอกเจ้าแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับซูซินเหลียน ไปยุ่งกับคนอย่างนั้นได้หรือ เจ้าเกือบเอาชีวิตไม่รอดอยู่แล้ว คราวหน้าถ้าเจ้ากล้าไม่เชื่อฟังข้า ข้าจะตีเจ้า…” 

 

 

เถิงเฟิงตีหน้าผากถังเฉียน ตีไม่ออมมือ ท่าทางเหมือนจะตีให้นางรู้สำนึกจึงจะพอใจ ถังเฉียนกัดริมฝีปาก จ้องเขาด้วยสีหน้าโกรธขึ้ง เขาเห็นทรวงอกนางกระเพื่อมขึ้นเบาๆ ถัดมาก็ยกมือขึ้นกุมอกตนเอง เมื่อครู่นางฝึกวรยุทธ์กับฉู่จิ่งเหยาทำให้บาดแผลถูกดึงรั้ง พอเกิดโมโหเถิงเฟิงเลยรู้สึกเจ็บแผล 

 

 

“ข้าดูหน่อย เจ็บที่ใด” 

 

 

“ไปให้พ้น คนเลว ข้าไม่ใส่ใจเจ้าแล้ว” 

 

 

ถังเฉียนผลักเถิงเฟิงออกไปนอกห้อง แล้วลงกลอนประตู แต่พอนางมองที่เพดานห้องก็รู้สึกไม่ปลอดภัย จึงรีบยกเก้าอี้มายันประตูไว้ จากนั้นก็ไปที่ห้องน้ำ เห็นน้ำกำลังอุ่นดี จึงถอดเสื้อผ้าออกเช็ดตัวทำความสะอาดตนเอง 

 

 

ครั้งนี้นานแล้วแต่แผลยังไม่หาย หรือว่าเลือดยาของตัวเองพร่องลง ไม่อย่างนั้นก็คงเพราะเลือดยาใช้ไม่ได้ผลกับแผลนี้ 

 

 

ถังเฉียนคิดทบทวนหลายตลบ แล้วมองยาที่เถิงเฟิงให้มา แล้วหยิบมาทาโดยไม่ต้องคิด 

 

 

ตอนแตะถูกยาจะรู้สึกว่าเย็น แต่พอทาลงบนแผลกลับรู้สึกเจ็บปวดเหมือนหัวใจถูกควักออกมา ปากแผลที่สมานไปแล้วกลับฉีกออกใหม่ เลือดปนหนองสีดำไหลทะลักออกมา กลิ่นรุนแรงจนนางแทบจะอาเจียน 

 

 

“นี่ นี่อะไร” 

 

 

ถังเฉียนยืนอยู่ข้างถังอาบน้ำ มองเห็นแมลงปีศาจสีดำอยู่ในเลือดปนหนอง นางตกใจมาก 

 

 

“นั่นคือแมลงปีศาจสีดำ ถ้าไม่กำจัดให้หมด ไม่ช้าก็เร็วเจ้าจะต้องตายเพราะมัน” 

 

 

เถิงเฟิงยืนอยู่ข้างหลังฉากกั้น ได้ยินเสียงด้านในก็อดพูดไม่ได้ แต่ครั้งนี้เขาไม่มีน้ำเสียงล้อเล่นแม้แต่น้อย ถังเฉียนรู้สึกเจ็บหน้าอก นางหยิบเสื้อผ้ามาคลุมร่างไว้ 

 

 

“ใส่เสื้อผ้าหรือยัง” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 137 ต้องไว้ใจเขา 

 

 

ถังเฉียนถามด้วยความแปลกใจว่าเขาจะทำอะไร แม้เถิงเฟิงจะซุกซนบ้าง แต่เขาก็ไม่เคยทำอะไรนอกลู่นอกทาง สำหรับข้อนี้แล้วถังเฉียนจึงรู้สึกไว้ใจเขามาก 

 

 

“ยายังไม่ได้เข้าไปในร่างเจ้าทั้งหมด เจ้าใส่เสื้อตัวในก่อน ข้าค่อยเข้าไปช่วยเจ้ากำจัดให้สิ้นซาก อย่าลืมสิ เราเผ่าพีส่าคอยรับมือกับหมอผีดำโดยเฉพาะ” 

 

 

ถังเฉียนฟังที่เขาพูดแล้วรู้สึกว่าเป็นเพียงคำพูดล้อเล่น นึกอยากจะหัวเราะ แต่พอหัวเราะเลือดปนหนองก็ไหลออกมาจากแผลอีก แสดงว่าแผลนางไม่เคยหายเลย 

 

 

“รอข้าเดี๋ยว” 

 

 

ถังเฉียนฝืนยืนขึ้น เกาะถังอาบน้ำพร้อมกับเอาเสื้อห่มให้ตัวเอง แต่นางเจ็บแขนมาก ทำอย่างไรก็สวมเสื้อผ้าเองไม่ได้ นางลองดูหลายครั้ง แต่ทำไม่สำเร็จ เถิงเฟิงยืนติดกับฉากกั้น แล้วถามว่า 

 

 

“ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่ ข้าช่วยเจ้าได้นะ” 

 

 

“ไม่ต้อง…ข้าทำได้” 

 

 

เถิงเฟิงอยู่ข้างนอกได้ยินเช่นนี้ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แต่หายไปจากฉากกั้นแล้ว ถังเฉียนยังคงพยายามใส่เสื้อผ้า แต่ทำอย่างไรก็ใส่ไม่ได้ราวกับเสื้อผ้าไม่พอใจนาง 

 

 

“เจ้า เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” 

 

 

เถิงเฟิงมีผ้าดำผูกตาไว้ ยืนอยู่ข้างๆ ฉากกั้น มือข้างหนึ่งยันผนังห้องไว้ แล้วแกล้งพูดแหย่ว่า 

 

 

“หากข้าไม่เข้ามา ดูซิว่าแม่ตัวยุ่งอย่างเจ้าจะทำอย่างไร ช่วยบอกทางให้ข้าไปหาเจ้าดีกว่า” 

 

 

ถังเฉียนร้องหึ แล้วพูดว่า 

 

 

“มาทางซ้าย!” 

 

 

เถิงเฟิงยืนอยู่กับที่แล้วพูดว่า 

 

 

“เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ ข้างซ้ายเป็นผนังห้อง” 

 

 

ถังเฉียนบอกว่า 

 

 

“อย่างนั้นถ้าข้าบอกให้เจ้าหันไปมุดผนังทางซ้ายเจ้าจะทำหรือไม่” 

 

 

เถิงเฟิงไม่พูดอะไร เพียงแต่ขยับตัวแนบกับผนังห้อง โดยเฉพาะศีรษะแทบจะมุดผนังห้องจนกลายเป็นโพรง 

 

 

“ฮ่าๆ โง่จัง มาทางขวาแล้ว” 

 

 

เถิงเฟิงได้ยินก็ยืดตัวขึ้น คลำผนังห้อง ค่อยๆ ขยับเข้าหาถังเฉียน เขาประคองนาง ให้นางนั่งลงไปในถังอาบน้ำ แล้วค่อยๆ วางมือลงบนไหล่นาง 

 

 

“ข้าใส่ยาลงไปในถังอาบน้ำนี้ไม่น้อย เพื่อดึงดูดแมลงพวกนี้ พอพวกมันออกมาก็จะว่ายเล่น แต่เจ้าไม่ต้องกังวล พอพวกมันออกมาก็จะตาย ไม่กลับเข้าไปอีกเด็ดขาด เจ้าไม่ต้องกลัว” 

 

 

ถังเฉียนคิดว่าตนอยู่กับเสี่ยวจินทุกวัน ไม่เคยรู้สึกกลัว หรือเขาลืมไปแล้วว่าตนเองเป็นหมอผี แม้ในใจนางจะคิดมากมาย แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา เพียงแต่ร้อง “อืม” 

 

 

นางรู้สึกว่าระดับน้ำกำลังพอดีไม่ได้สูงเกินแผลตน ในน้ำเหมือนมีพลังที่อบอุ่น ทำให้นางรู้สึกคันแผล 

 

 

“เจ้าลองโคจรพลังทิพย์ของเจ้า ให้ป้องกันชีพจรหัวใจไว้ ส่วนเรื่องอื่นปล่อยให้ข้าจัดการ” 

 

 

ถังเฉียนฟังแล้วก็หลับตาทำสมาธิ ส่วนเถิงเฟิงล้วงด้ายแดงเส้นเล็กออกมาจากอกเสื้อ เขาดึงผมเส้นหนึ่งของนาง ผูกกับด้ายแดง จากนั้นวางลงบนน้ำ ถัดมาก็ขยับนิ้วมือทำท่าพลิกแพลงไปมา นางมองไม่ออกว่าเขากำลังทำอะไร แต่มีความรู้สึกว่าตนเองถูกตรึงไว้ 

 

 

“เถิงเฟิง ข้าขยับตัวไม่ได้แล้ว” 

 

 

เขาตบไหล่นางเบาๆ แล้วพูดว่า 

 

 

“ไม่ต้องกลัว ข้าจะใช้เข็ม เจ้าอย่าขยับตัว” 

 

 

พูดจบก็ปักเข็มเงินเล่มหนึ่งลงในแผลถังเฉียนโดยตรง แสงสีแดงบนนั้นเดี๋ยวก็สว่างวาบเดี๋ยวก็ดับลง นางเกือบจะหมดสติไปเพราะความเจ็บปวดที่รุนแรง 

 

 

เพราะความทรมานจากความเจ็บปวดทำให้สตินางเลื่อนลอย เหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้สึกเคลิบเคลิ้ม กระทั่งอยากตะโกนออกมาว่าอย่า ข้าไม่ต้องการ เถิงเฟิง เจ้าจะทำร้ายข้าให้ตายหรือ 

 

 

แต่…ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เมื่อเห็นฉากกั้น เห็นผนังห้อง ก็จะนึกถึงท่าทางเปิ่นๆ เมื่อครู่ของเขา เขาอาจทำเรื่องโง่เขลาเหล่านั้น ก็เพื่อยั่วให้นางหัวเราะ แต่นั่นเพราะนางพูดเอง เพราะอะไรนางถึงจะไม่ไว้ใจเขาเล่า 

 

 

“มา ทำต่อ!”