กระบี่ของ อยี่กู้ฮั่น พุ่งออกไปและแทงเข้ารักแร้ชายชุดดำผู้ที่แทงกระบี่ไปยังท้องน้อยของเขา ชายชุดดำออกแรงดึงกระบี่ออกจากร่าง อยี่กู้ฮั่น แต่ มันไม่ขยบแม้แต่น้อย อยี่กู้ฮั่นใช้กล้ามเนื้อของเขาบีบรัดกระบี่ของคนผู้นั้นไว้ !
นี่คือการต่อสู้ที่แท้จริง
กระบี่สีแดงฉานที่รักแร้มือสังหารเริ่มเคลื่อนขึ้นภายในเวลาอันสั้น ชายชุดดำหวาดกลัว จากนั้นจึงตัดสินใจละทิ้งกระบี่ไว้ที่ท้องน้อย อยี่กู้ฮั่น
เขาหลบหลีกเพื่อป้องกันมิให้ตายอย่างเวทนาด้วยร่างที่ขาดสองท่อน ช่างโชคร้าย ช้าไปเสียแล้ว แขนของเขามิอาจหลีกหนีพ้น กระบี่เลือดเคลื่อนต่อไปและแยกแขนเขาออกจากร่าง และหัวไหล่ กระบี่เคลื่อนต่อไปเล็กน้อยและฉีดขาดชั้นผิวของเขาไปจนถึงกล้ามเนื้อบนใบหน้า สิ่งที่เหลืออยู่ … น่าหวาดกลัวเมื่อเห็น กระดูกสีขาวของเขาเปลือยออก เส้นเลือดที่บิดเบี้ยวคล้ายหนอนปรากฏให้เห็นชัดเจน ตามมาด้วยหยดเลือดที่ไหลอยู่ภายใน
คนผู้นี้กรีดร้องบ้าคลั่งขณะล่าถอย น้ำเสียงคล้ายเดรัชฉานมากกว่ามนุษย์ ดวงตาของเขาเผยความตกตะลึงซึ่งมีอยู่เนื่องด้วยสติ
” มือข้า ! ใบหน้าข้า ! อ๊าาา ! “
แต่กระนั้น อยี่กู้ฮั่น ถอนกระบี่กลับรวดเร็วคาดไม่ถึง เขาใช้ประโยชน์จากเวลานั้นและแทงเข้าไปอีกหน รวดเร็วดั่งอสุนีบาต
การกระทำของ อยี่กู้ฮั่น เขาไม่ลังเลยที่จะถูกศัตรูโจมตี ทั้งหมดเพื่อช่วงเวลานี้
หนึ่งกระบวนนี้ …
อยี่กู้ฮั่นรู้ว่าความแข็งแกร่งของเขามิอาจทนต่อสู้ได้อีกแล้ว เขารู้ว่ามิอาจเผชิญหน้ากับมือสังหารสวรรค์เชวียนห้าคนนี้ได้อีก ดังนั้น เขาจึงต่อสู้ด้วยทุกสิ่งที่มี อย่างไรก็ตาม อยี่กู้ฮั่นนั้นมากประสบการณ์ต่อสู้ อาจบอกได้ว่าทั้งห้านั้นคือยอดฝีมือสวรรค์เชวียน แต่ เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าปราณเชวียนของศัตรูทั้งสองไม่คงที่ รู้ได้ชัดเจนว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงมาก่อน และยังมิได้ฟื้นฟู
ตัวเขาในตอนนี้ไม่มีพลังแล้ว ดังนั้น ทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้คือล้มพวกเขาทั้งสองลง แต่กระนั้น ที่เหลืออีกสามยังคงอยู่ในสภาพที่ดี ด้วยเหตุนี้ เขาไม่มั่นใจว่าจะต่อกรกับพวกเขาได้ไหม ดังนั้น ศัตรูที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสองนี้คือเป้าหมายหลัก ความจริง พวกเขาคือเป้าหมายเดียวของเขา
กระบี่ อยี่กู้ฮั่น แทงเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ มีฝ่ามือของศัตรูผู้หนึ่งปะทะเข้าหน้าอกเขา เขามีความสุขที่ได้จัดการศัตรูเช่นนี้ แต่ไม่คาดว่าซีโครงของเขาจะแตกหัก กระนั้น หน้าอกของเขาเป็นดังวังน้ำวน ที่ดูดฝ่ามือของศัตรูเอาไว้
คนผู้นั้นรู้ถึงอันตราย และเร่งร้อนทำให้ตัวเองเป็นอิสระจาก อยี่กู้ฮั่น เขาเกือบทำสำเร็จขณะที่กระบี่ของอยี่กู้ฮั่นเปล่งประกาย และพุ่งตรงไปยังหน้าอกของเขา
กระบี่แห่งความตาย !
เลือดพุ่งโค้งออกมาจากปากคนผู้นั้นขณะ พยายามหลบเลี่ยงการโจมตีที่กำลังจะมาถึง แต่กระบี่ของ อยี่กู้ฮั่น เคลื่อนไหว และแทงเข้าไปจนมิดด้าม มิได้ฝ่าทะลุหัวใจของเขา อย่าไรก็ตาม ปราณเชวียนที่อยู่ในกระบี่ทำให้ ห้าอวัยวะตันของเขานองด้วยเลือด !
แต่กระนั้น อยี่กู้ฮั่นหมดเรี่ยวแรงในที่สุด เขาแทงกระบี่เข้าใส่หน้าอกศัตรู แต่ไม่มีแรงจะเคลื่อนขยับกระบี่ในครั้งนี้
ฝ่ายตรงข้ามผู้หนึ่งตะโกน อย่างไรก็ตาม อยี่กู้ฮั่นไร้เรี่ยวแรงจะดึงกระบี่ออก มือขวาของเขาถูกตัดด้วยกระบี่ศัตรู แต่น่าประหลาดใจ ไม่มีเลือดไหลจากบาดแผลนั้น ตอนนี้เลือดในร่างของเขานั้นไหลออกมากแล้ว !
ใบหน้าเขาเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน ตอนนี้ ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความรักใคร่ ขณะมองไปยังทิศทางหนึ่ง …
…. ทิศของราชวัง
ชายชุดดำผู้หนึ่งกระโดดขึ้นและเตะ อยี่กู้ฮั่น อย่างรุนแรง ร่างของเขาล่องลอยไปในอากาศ ร่วงลงอย่างรุนแรง แต่กระนั้น อยี่กู้ฮั่นพลิกร่างอย่างดื้อรั้น ทันใดนั้น เสียงน่าหวาดกลัวดังก้อง เสียงซีโครงแตกหัก แต่กระนั้น ไม่ปรากฏร่องรอยความเจ็บปวดบนใบหน้าเขาแม้เพียงหนึ่ง
ดวงตาเขามิได้ภาคภูมิ มิได้อ้างว้าง …
เต็มไปด้วยอ่อนโยนและโหยหาไร้ที่สิ้นสุด …
ชีวิตเขาเหลืออีกไม่มาก แต่เขาไม่เห็นสุดที่รักของเขา ดังนั้นจึงมองไปยังสถานที่นางพักอยู่ … ทิศทางซึ่งนาง … จะต้อง …
เขาปิดบังความรู้สึกมาเป็นเวลานาน แต่แล้วทั้งหมดหลั่งไหลออกมา
. ข้าคิดถึงเจ้า ฉิวฉิ้ว ! ข้าคิดถึงเจ้า ! ข้า … คิดถึง … เจ้า …
สมองของ อยี่กู้ฮั่น โดนแสงอันเปล่งประกายปะทะ และความทรงจำเก่าก่อนเริ่มหลั่งไหล เขากำลังมึนงง แต่ภาพในหัวของเขานั้นราวมีชีวิต ความฝันนี้ดูคล้ายความจริง และจากนั้น เขาได้ยินเสียงอันนุ่มนวล มันเป็นเสียงอ่านบทกวีซ้ำแล้วซ้ำเล่า คล้ายจะไม่สิ้นสุด เหมือนสิ่งของชิ้นเล็กที่ล่องลอยไปในที่อันไพศาล ราวความฝัน
อย่าได้เสียใจกับความรักลึกซึ้งเช่นนี้
ข้าเต็มใจจะร่วงโรยด้วยความเดียวดาย
ความเสียใจของคนรักข้าอาจหลอกหลอนไปชั่วกัลป์
ข้าจักจำนนต่อสวรรค์แต่มิใช่คนรัก
นี่คือสิ่งที่ อยี่กู้ฮั่น เขียนให้ มูล่งฉิวฉิ้ว สิบแปดปีก่อน
ข้าจักจำนนต่อสวรรค์แต่มิใช่คนรัก
ข้าจักจำนนต่อสวรรค์แต่มิใช่คนรัก
อยี่กู้ฮั่น มิอาจเอ่ยวาจา แต่กระนั้น ริมฝีปากของเขา ยังอ้าและหุบแผ่วเบา และหากมองเข้าใกล้ จะพบว่ามันกำลังทวนซ้ำประโยคสุดท้ายในบทกวี
ฉิวฉิ้ว ข้าจากมาสิบแปดปี และสูญเสียเจ้าตลอดกาล ข้าลาเจ้าด้วยกวีนี้ … และเจ้าร่ำไห้ไม่หยุดหย่อนขณะได้อ่านบรรทัดสุดท้าย ข้าจดจำถึงวันนี้ … การที่ผมของเจ้าปลิวไสวตามสายลม …
ตอนนี้ข้าขอลาอีกครั้ง และข้าจะไม่กลับมาอีกแล้ว เจ้าอาจได้รู้ในภายหลัง .. ดั่งเช่นแต่ก่อน … ข้าจักจดจำบรรทัดสุดท้ายของกวีนี้ในช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิต …
ข้าจักจำนนต่อสวรรค์แต่มิใช่คนรัก
ฉิวฉิ้ว ข้ามิเคยหันหลังให้เจ้าเลยตลอดชีวิต ! ข้ามิเคยหันหลังให้เจ้า !
โจวเจียนหมิงคำรามดั่งคนบ้า ขณะรุดหน้าเข้าไปตัดร่างของ อยี่กู้ฮั่นให้เป็นชิ้น แต่ เล่ยเจียนฮ้ง เตือนสติเข้าเสียงดัง
” พอ ! ปราณเชวียนเขาหมดลงแล้ว และห้าอวัยวะตันเขาขาดสิ้น พวกเราจักต้องอุ้มน้องสี่และห้าที่บาดเจ็บ และจับด้วยสาวน้อยผู้นั้น ! เร็วเข้า เราจะต้องเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ! พวกเรามิอาจรั้งรอได้นาน ! “
โจวเจียนหมิง และ นักรบหญิงโกรธจัด พวกเขากรีดร้องผิดหวัง จากนั้น พวกเขาอุ้มน้องสี่และห้าขึ้น และเคลื่อนที่ไปยังทิศทางที่องค์หญิงหลิงเมิงหนีไปด้วยความเร็วแสง …
ในขณะนั้น องค์หญิงหลิงเมิง กำลังถูกพี่น้องทั้งสองฉุดกระชาก พวกเขาพยายามบังคับให้หนี แต่ นางยังคงมองย้อนกลับไปดูการต่อสู้ที่ดุเดือด แต่กระนั้น เมื่อนางเห็น อยี่กู้ฮั่น จมกองเลือด นางล้มลง องค์หญิงหันไปทางนั้นทันใด และร้องลั่น
” น้า อยี่ ! “
น้ำเสียงของนางโหยหวนและโศกเศร้าอย่างยิ่ง
เท้าองค์หญิงหยั่งลงพื้นขณะนางต่อต้านการเคลื่อนที่แม้แต่ก้าว ทันใดนั้น น้ำตาเอ่อล้นขึ้น และเริ่มหลั่งไหลฃ
น้า อยี่ปกป้องนางมาเสมอตั้งแต่ยังเล็ก สำหรับนาง … เขานั้นไม่มีผู้ใดเปรียบ นางรู้ว่าเขาอ้างว้างและสิ้นหวังในทุกวัน เขาคือชายผู้โศกเศร้าและเดียวดาย และวันนี้ … เขาต้องล้มลง … เพื่อปกป้องนาง …
องค์หญิงหลิงเมิง รู้สึกถึงความเจ็บแน่นที่หน้าอกทันใด นางรู้สึกราวกับปอดถูกฉีกออก
ไร้พันธะในสกุลเทียน
นางรู้ว่าพ่อของนาง อดีตจักรพรรดิ รักนางยิ่ง นาตั้งแต่วันที่นางโตพอจะเข้าใจสิ่งต่างๆ ความจริง เขาไม่ทำให้นางเสียใจและตามใจนาง แต่พ่อของนาง องค์จักรพรรดิ ช่างสง่างามยิ่ง แม้นว่านางคิดถึง และกระทำตัวนิสัยเสียเพื่อกอดเขา พ่อของนางก็มอบอ้อมกอดที่หวงแหนให้ … แต่มิเคยเนิ่นนาน เขามักจะมีบางเรื่องที่ต้องจัดการเสมอ จากนั้นเขาจะกลับไปเป็นองค์จักรพรรดิผู้สง่างามอีกครั้ง
ท่านพ่อ และ องค์จักรพรรดิ เมื่อทั้งสองรวมกัน จักรพรรดิจึงสำคัญกว่าพ่อ พ่อ องค์จักรพรรดิ … พ่อของนางจะก้าวขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเมื่อใดก็ตามที่ต้องการ จากนั้น นางก็มิอาจกระทำตัวดั่งเช่นลูกสาวได้แล้ว
อยี่กู้ฮั่น ให้ความรู้สึกยิ่งกว่าพ่อที่แท้จริงของนาง นางสามารถกระทำตัวเช่นเด็กน้อยต่อหน้าเขาได้โดยไม่มีสิ่งใดขัดขวาง และสามารถเกรี้ยวกราดใด้เมื่อใดก็ตามที่ใจนางปรารถนา ดังนั้น แม้นว่านางเรียกเขาว่าน้า นางก็ยังนับถือเขาเป็นพ่อ
เขามักเอาใจนางเสมอ อย่างไรก็ตาม เขาก็ตำหนิโดยไร้ปราณีเมื่อนางผิดพลาด
แต่เขานั้นดีกับข้าอย่างแท้จริง !
เขาปกป้องข้าอย่าเงียบๆเสมอ เขาไม่เคยเผยตัว เขาไม่เคยตอสู้เพื่อสิ่งใด เขาไม่เคยทำอันตรายต่อสิ่งใดเพื่อตัวเอง ! เขาเพียงแต่เฝ้าดูอยู่ในเงามืด และ ดูเหมือนว่าเขาพึงพอใจ
แต่เขาจะเป็นผู้แรกที่ปรากฏตัวและคุ้มครองเมื่อใดก็ตามที่นางประสบอันตราย !
เขาคือผู้แรกที่ขัดขวางพี่ข้าเมื่อเขากลั่นแกล้งข้า
เขาจะใส่ใจปกป้องข้า ! แม้กระทั่งตอนนี้ เขาต้องตายเพื่อข้า ในที่สุดเขาแตกสลาย … ต่อไปนี้ … เขาจะไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยอีกแล้ว ท่านน้าอยี่ ท่านต้องการพักกระนั้นหรือ ?
ท่านมิต้องการพบหลิงเมื่องน้อยแล้วกระนั้น ? ท่านมีหัวใจหรือไม่ที่ทิ้งหลิงเมิ่งตัวน้อยไป ? ท่านมีหัวใจ …? ท่านมีหัวใจหรือไม่ … ?
น้าอยี่ ท่านรู้หรือไม่ว่าในใจข้า … ท่านจักเป็นพ่อข้าเสมอ …
ท่านพ่อ ! อย่าทิ้งข้าไป ….
องค์หญิงหลิงเมิงยืนไม่ไหวติง นางไม่รู้ว่าจักต้องคิดหรือทำสิ่งใด ตู่กู้เซี่ยวอี้ และ ซุนเซี่ยวเหม่ยพยายามสุดกำลัง แต่นางยังคงนิ่งเงียบ …
เหตุใดพ่อของข้า องค์จักรพรรดิถึงยังไม่มาถึง ? เหตุใด ?! เหตุใดเขาจึงไม่แสดงตัวเมื่อท่าน้าอยี่ทำสุดความสามารถ ?! เขาควรมา !
หากน้าอยี่จากข้าไปจริงๆ … ข้าจักตอบโต้ ! ข้าจะเป็นบ้า และแก้แค้นทุกผู้คน !
ข้าจักอุทิศตนเพื่อแก้แค้น !
องค์หญิงหลิงเมิงคำรามในใจ และดูราวหน้าอกของนางจะระเบิดออกด้วยโทสะ แต่กระนั้น นางก็มิได้เอ่ยสิ่งใด น้ำตาพร่ามัวสายตานาง และดูเหมือนมีก้อนหินหนักอึ้งอุดความคิดนางไว้ มือเท้าเยือกเย็น ทั่วทั้งร่างสั่นกระตุกราวกับกำลังเดินทางไปยังโลกแห่งน้ำแข็งและหิมะ
สามมือสังหารชุดดำสวมหน้ากากตามพวกเขาทัน เล่ยเจียนฮ้ง พุ่งเข้าหาองค์หญิงเมิ่งโกรธเคืองเพื่อหวังจับตัว แต่กระนั้น องค์หญิงหลิงเมิง ยังคงยืนอยู่ไร้ซึ่งสีหน้า นางมิตอบโต้สถานการณ์นี้แม้เล็กน้อย
ตู่กู้เซี่ยวอี้ และ ซุนเซี่ยวเหม่ย กระโจนเข้าตรงหน้านาง ร่างของพวกเขาเปล่งแสงสีทอง
แท้จริงแล้วพวกเขาก้าวหน้าถึงขั้นเชวียนทองอย่างรวดเร็ว หากเทียบกับช่วงอายุของพวกนาง สองหญิงสาวชักมีดและกระบี่ออก ตระเตรียมต่อสู้
แต่กระนั้น ความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม ….
” หลบไปเสีย ! “
เล่ยเจียนฮ้งโบกมือ และสองหญิงสาวกระเด็นถอยหลัง
” ข้าไม่ประสงค์สังหารพวกเจ้า ! อย่าบังคับข้า ! “
” เจ้าคือผู้ใด ? เจ้าคือผู้ใด ?! “
ราวองค์หญิงตื่นจากฝัน นางมิได้ตระหนก … เนื่องประสงค์ล้างแค้นให้น้าอยี่
ดวงตานางเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
” พวเจ้าเป็นใคร ? เหตุใดข้าจึงสำคัญกับพวกเจ้านัก ? เจ้าสังหารท่านน้าอยี่ข้าเพื่อสิ่งใด ? ! “
องค์หญิงคำรามประโยคสุดท้าย
เสียงคำรามดังทำให้ เล่ยเจียนฮ้งเสียขวัญ
หญิงผู้อ่อนแอและเปราะบางเช่นนี้สามารถให้กำเนิดเสียงที่คมกริบและดังก้องถึงเพียงนี้ …