” เจ้ามิจำเป็นต้องรู้พวกเราคือใคร   และแน่นอน มิจำเป็นต้องรู้ถึงเหตุผลเบื้องหลังการกระทำนี้  เจ้าไร้โอกาสมีชีวิตต่อไปแล้ว ! “

เล่ยเจียนฮ้งไม่รู้เหตุใดเขาจึงเผยเจตนากับหญิงผู้นี้

 

” ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าไม่ไร้โทษทัณฑ์เป็นแน่ !  ข้าจะสังหารเจ้าและสกุลของเจ้า !  ข้าจะสังหารเจ้า ! “

น้ำตาร่วงหล่นจากดวงตาองค์หญิงหลิงเมิง  แต่กระนั้น นางยังคงฝืนลืมตาเพ่งมองไปโดยไม่กระพริบ

” ข้าจักไม่เหลือไว้แม้นวิญญาณของเจ้า ! “

 

ราวกับเสียงกรีดร้องโหยหวนและเศร้าโศกของนางจะแบ่งแยกโค้งหลังคาแห่งสรวงสวรรค์  สายลมสาทรฤดูพลิ้วไหว  ผมของนางเริ่มล่องลอยประหนึ่งใบไม้แห้งขณะที่เสียงแห่งสายลมดังขึ้นและดังขึ้น  แต่กระนั้น นางยังคงปลดปล่อยความงดงาม

 

ทันใดนนั้น รูม่านตาของ เล่ยเจียนฮ้ง หดลงเบื้อหลังหน้ากากของเขา  ความรู้สึกเยือกเย็นแล่นผ่านร่าง เขาสั่งเล็กน้อยเมื่อสัญชาตญาณร้องเตือน  เขารู้สึกละอายใจและผวาปนเป

ข้าคือยอดฝีมือสวรรค์เชวียน  แต่เพียงไม่กี่คำของหญิงสาวผู้นี้ทำให้ข้าเป็นกังวล ?  ไร้เหตุผลสิ้นดี !

 

” ปั้ง ! “

เล่ยเจียนฮ้ง พุ่งไปด้วยโทสะเนื่องเพราะความอัปยศ และตบเข้าใส่ องค์หญิงองหลิงเมิง  จากนั้นต่อว่า

” นางสาบโสเภณี !  ความตายของเจ้ากำลังจะมาถึง และยังจะเอ่ยวาจาเช่นนี้ ?!  อย่าได้เชื่อมั่นความในตัวเจ้ามากนัก มิเช่นนั้นข้าจักสังหารเจ้าเสียเดี๋ยวนี้ ! “

 

ใบหน้าองค์หญิงบวมด้วยรอยฝ่ามือชายหนุ่มและผมของนางยุ่งเหยิงด้วยแรงลม  แต่กระนั้น นางยังคงจ้องมองเขามิหยุดหย่อน  แล้วแววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

 

เล่ยเจียนฮ้ง มองไปยังความชั่วร้ายบนใบหน้าขององค์หญิงหลิงเมิงอีกหน  ความโกรธที่ซ่อนเร้นอยู่พุ่งทยานขึ้นภายใน เมื่อเขาตระหนักว่าองค์หญิงยังไม่ยอมแพ้  ยิ่งไปกว่านั้น องค์หญิงผู้นี้เชื่อมโยงกับผู้ที่ปามีดบิน ซึ่งสังหารสหายทั้งสี่ของเขา  และค่ำคืนนี้ ผู้คุ้มกันของหญิงผู้นี้ทำให้ศิษย์พี่น้องอีกสองบาดเจ็บสาหัส  ความโกรธพุ่งทะยานไม่ถอยร่อนในใจเวลานี้ และความเกลียดชังก่อบังเกิดความกล้า เมื่อเขาคิดจะสังหารองค์หญิงลงเสียขณะนี้

 

ศิษย์หญิงสาม เห็นศิษย์พี่ของนางเต็มไปด้วยความอาฆาตร  นางจึงเอ่ยเร่งรีบ

” ศิษย์พี่ หญิงผู้นี้มีความสัมพันธ์กับคนผู้นั้น  มันจะเป็นการดีหากพวกเราไม่สังหารนางจนกระทั่งคนผู้นั้นมาช่วยนาง “

 

เล่ยเจียนฮ้ง ขบฟัน  จากนั้นเขาสับลงบนต้นคอขององค์หญิงอย่างรวดเร็ว นางหน้ามืดดำวูบลง  เขายกนางขึ้นและโยนให้กับศิษย์สาม  จากนั้น ออกคำสั่งทุกคนจากไป

 

” วางองค์หญิงลง ! “

ตู่กู้เซี่ยวอี้  และ ซุนเซี่ยวเหม่ยรุดมาหยุดศัตรู  จากนั้นจึงได้รู้ว่าพวกนางมิอาจเทียบชั้นพวกเขาได้  แต่กระนั้น พวกนางมิอาจปล่อยให้ศัตรูจับตัวองค์หญิงหลิงเมิงไปได้

 

เล่ยเจียนฮ้ง คำรามทางจมูกเยือกเย็น  จากนั้น ศิษย์สาวขึ้นหน้ามาเผชิญพวกนางและ

” ปั้ง !  ปั้ง ! “

หญิงสาวทั้งสองโดนฝ่ามือปะทะเข้า  พวกนางลอยถอยหลังไปพร้อมหยดกระเด็นออกจากมุมปาก  คนชุดดำทั้งสามเหาะขึ้นจากนั้นหายตัวไป

 

มิใช่ว่า เล่ยเจียนฮ้ง มิได้ประสงค์จะไม่สังหารหญิงทั้งสอง แต่เขาไม่สามารถ

 

ความเกลียดชังของเขานั้นไม่มีหนทางอื่นในเรื่องขององค์หญิง  แต่กระนั้น สำหรับหญิงสาวทั้งสอง ผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากสกุล ซุน และ สกุลถัง ในขณะอีกผู้หนึ่งมีสกุล ตู่กู้อยู่เบื้องหลัง  สามสกุลยิ่งใหญ่ จะร่วมมือกันหากมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับทั้งสอง  พวกเขาจักกลายมาเป็นปัญหาใหญ่หลวง เพียงพอจะทำให้นายน้อยสกุลลี่ ตกเป็นเบี้ยล่าง

 

ไม่นานหลังจากนั้น …

 

ร่างของเจ้าขาวน้อยเปล่งประกายผ่านไป  ตามมาด้วยกีบเท้าของสัตว์ เสียงของมันเลื่อนลั่นดั่งสายฝน  กีบเท้าสัตว์ส่งเสียงต่อมาไม่นาน และปรากฏม้ากำยำเลี้ยวตรงมุมถนนเข้าสู่ฉากการต่อสู้  เงาร่างปรากฏเป็นชายสองคนบนหลังม้า

 

มีแอ่งเลือดบนธรณี  ร่างอันเดียวดายของ อยี่กู้ฮั่น นอนแผ่อยู่ตรงกลาง

 

” อยี่น้อย !  อยี่กู้ฮั่น ! “

จวินวูอี้ ร้องขึ้นตื่นตระหนก  เขาก้มลงด้านข้างร่างของ อยี่กู้ฮั่น  เขาควรจะปิดบังขาที่ได้รับการฟื้นฟูแล้ว แต่ตอนนี้เขาได้ละทิ้งความคิดนั้นไป  เขาคุกเข่าข้าง อยี่กู้ฮั่น และวางมือซ้ายบนแขนของเขา  จากนั้น ปราณเชวียนบริสุทธิเริ่มลอยจากจวินวูอี้ เข้าไปยังร่างที่บาดเจ็บสาหัส  ไม่มีพลังชีวิตเหลืออยู่มากในร่างของ อยี่กู้ฮั่น

 

เขาสูญเสียเลือดจำนวนมาก  อีกทั้งร่างของเขายังได้รับบาดเจ็บสาหัส  กำลังสำรองของเขาหมดสิ้น  โอกาสรอดชีวิตริบหรี่ยิ่ง  หากมิใช่ความกังวงในหัวใจ บางทีเขาอาจไม่รอดชีวิตจนถึงเวลานี้  แต่กระนั้น สีหน้าของเขาเริ่มแผ่วลง ราวกับดวงวิญญาณเริ่มล่องลอยจากร่าง  เขามีพลังจิตที่รุนแรงมิอาจเปรียบ แต่เป็นการยากที่จะยับยั้งพลังชีวิตที่ล่องลอยไปเมื่อ ยมทูต เสด็จลงมา

 

จากนั้น สติของ อยี่กู้ฮั่น ชัดเจนขึ้น เนื่องด้วยปราณเชวียนบริสุทธิ์ที่หลั่งไหลจากร่าง จวินวูอี้ สู่เขา  เขาบังคับตาตัวเองให้เปิดขึ้น และเห็นใบหน้าบางๆของ จวินวูอี้  ดวงตาของเขาเล่งประกายขณะสีหน้าร้อนรนปรากฏขึ้น

 

ความกระวนกระวาย …. ร้อนรน … อยี่กู้ฮั่นอัดแน่นด้วยความรู้สึกเหล่านี้

 

” เกิดอันใดขึ้นที่นี่ ? “

จวินวูอี้ถามด้วยความรู้สึกร้อนรน แต่ อยี่กู้ฮั่น มิอาจเอ่ยวาจาได้  จากนั้น จวินวูอี้ มองไปรอบๆ

ถนนเส้นนี้ควรจักเต็มไปด้วยผู้คน  แต่กลับไม่มีผู้ใด เงียบงันยิ่งนัก !

 

ไม่แปลกเกินไปหรือ ?  ผู้คนหายไปที่ใดหมด ?

 

” มีผู้ใดบ้างรู้ว่าเกิดอันใดที่นี่ !? “

จวินวูอี้คำรามด้วยโทสะ  ทั่วทั้งท้องถนนก้องสะท้อนด้วยเสียงตะโกน

 

แต่กระนั้น … ไร้ผู้ใดตอบกลับ

 

อยี่กู้ฮั่น และ จวินวูอี้ รุ่นราวคราวเดียวกัน  ความจริง นายท่านสามแห่ง สกุลจวิน แก่กว่า อยี่กู้ฮั่น ไม่มากนัก  สกุลอยี่และจวินเคยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน  ด้วยเหตุนี้ จวินวูอี้ และ อยี่กู้ฮั่น จึงเคยเป็นสหายกัน  จากนั้น อำนาจสกุลอยี่เสื่อมถอย  ดังนั้น จวินวูอี้ และ อยี่กู้ฮั่น จึงมิได้พบกันแต่นั้น  สิ่งต่างๆเกิดมาราวสิบปีก่อน  สิบปีผ่านพ้น จวินวูอี้ มิคาดฝันจะได้พบสหายรัก … และเช่นกัน ขณะที่ชายผู้นี้กำลังจะเดินทางสู่ความตาย

 

อยี่กู้ฮั่น สัมผัสได้ถึง ปราณเชวียนบริสุทธิ์ของ จวินวูอี้เข้าสู่ร่างของเขา  เขาประหลาดใจ ที่ได้รู้ว่า จวินวูอี้ บรรลุไกลเกินกว่าเขา  จวินวูอี้ก้าวหน้าไปถึงขั้นสวรรค์เชวียนกลาง  อัศจรรย์ยิ่งนัก  กระนั้น อยี่กู้ฮั่นก็สัมผัสถึงชีวิตของเขาที่เริ่มจางหายไปในเวลาเดียวกัน  ด้วยเหตุนี้ ดวงตาของเขาร้อนรนมากขึ้น ขณะที่ปราณเชวียนบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างของเขา …. แต่ไม่นานถูกแทนทีด้วยสีหน้าโกรธเคือง

 

จวินวูอี้ เฝ้าดู ขณะ กลิ่นไอของ อยี่กู้ฮั่น เริ่มอ่อนลงเรื่อยๆ  จากนั้นเขาเงยหน้า

” โม่เซี่ย … เจ้า … ช่วยเขาได้หรือไม่ ? “

 

จวินโม่เซี่ยถอนใจ

ท่านน้าสามขอร้องให้ข้าทำสิ่งนี้ … แม้แต่เขาเองก็มิอาจทำได้

หรือจะเอ่ยว่า นายน้อยจวินศรัทธาเต็มเปี่ยมในความสามารถของ เจดีย์หงษ์จวิน  เขามั่นใจว่า สามารถฟื้นฟูทุกผู้ได้ไม่ว่าจะบาดเจ็บเช่นไร  เขาเคยขับพิษที่เป็นภัยในร่างของน้าชายมานับสิบปีได้  แท้จริงแล้ว มันก็ใช้การได้แม้ในตอนที่ ไฮ่เฉินเฟิง ทำลายจุดดันเถียนและปราณเชวียนแตกซ่าน

 

สถานการณ์ของ อยี่กู้ฮั่น นั้นน่ากลัวยิ่ง ความจริง เขาเกือบจะจากไปเสียแล้ว  แต่กระนั้น จวินโม่เซี่ยมิเคยคิดว่าตัวเองคือผู้ ไถ่บาป ยิ่งไปกว่านั้น เขามิได้เห็นประโยชน์ของ องค์หญิงหลิงเมิง และ อยี่กู้ฮั่น ความจริง การช่วยเหลือพวกเขาจะยิ่งนำพาความเดือดร้อนมาให้  ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีประโยชน์อันใดที่จะช่วยเหลือเขา ธุรกิจนี้มีเพียงผลเดียวคือขาดทุน

 

แต่กระนั้น นี่คือการขอความช่วยเหลือจากน้าสาม จึงเป็นการยากที่ปฏิเสธน้าสามในสถานการณ์เช่นนี้  ดังนั้น จวินโม่เซี่ย จึงก้มลงข้าง น้าชายของเขา ไม่รีบร้อนและไม่เต็มใจนัก  เขายื่นมือไปและจับมือ อยี่กู้ฮั่น มาจาก จวินวูอี้  จากนั้นเขาค่อยหลับตาเชื่อช้า  ต่อไป เขาเริ่มกระตุ้น เคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์  ปราณเชวียนบริสุทธิ์ เริ่มหลั่งไปออกมาคงที่  อย่างไรก็ตาม เขามิอาจฝืนคิ้วที่กระตุกได้

 

นายน้อยจวิน ผวากับการบาดเจ็บของ อยี่กู้ฮั่น

มิใช่เล็กน้อย  การบาดเจ็บของเขานั้นคล้ายคลึงกับ ไฮ่เฉินเฟิง  เขาจักต้องตายจากการบาดเจ็บนี้อย่างแน่นอน  แท้จริง ช่างปาฏิหาริย์ที่เขายังรับมือไหว และได้ตายไปด้วยบาดแผลเหล่านี้ !  ราวกับว่าไม่มีแม้แต่ลมหายใจเพียงนิดหลงเหลืออยู่  ดูเหมือนว่าความศรัทธาคือสิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ในร่างของเขา

 

กลิ่นอายของจวินโม่เซี่ยปกคลุมการบาดเจ็บบนร่างกายของเขา  เขาได้รับบาดเจ็บหลายตำแหน่ง  อย่างน้อยจักต้องมีประมาณ สามสิบบาดแผล … หรือยิ่งกว่านั้น  ท้องน้อยถูกแทง หัวไหล่ของเขาเสียหายรุนแรงจากกระบี่ ด้านข้างร่างกายฉีกออก รอยฝ่ามือประทับทำลายซี่โครงแตกละเอียด … และห้าอวัยวะตันถูกทำลาย  เขากำลังอยู่ในจุดที่เลวร้ายยิ่ง

แม่เจ้าเอย !

 

จวินโม่เซี่ยมั่นใจใน เคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์ มากยิ่งเมื่อพบเจอกับสถาณการณ์เช่นนี้  แต่กระนั้น เขายังไม่เห็นโอกาสแม้แต่น้อยในการรักษา อยี่กู้ฮั่น … จวินโม่เซี่ยสามารถรักษาชีวิตชายผู้นี้ได้เพียงการรักษาการบาดเจ็บมิให้เลวร้ายลง ซึ่งมั่นใจว่าเขาจะไม่ตายจากเหตุนั้น  อย่างไรก็ตาม เขามิอาจรับประกันในการฟื้นฟูชายผู้นี้ …

 

ตู่กู้เซี่ยวอี้  และ ซุนเซี่ยวเหม่ย โซเซมาจากไกลๆ  พวกนางร้องเรียกเสียงดัง

” พี่โม่เซี่ย องค์หญิงถูกลักพาตัว !  พวกเราจักต้องช่วยเหลือนางโดยเร็ว ! “

 

จวินโม่เซี่ย บอกได้ว่า หญิงทั้งสองก็ได้รับบาดเจ็บหนักหนาเช่นกัน  เขากำลังจะทักทายพวกนาง  แต่กระนั้น เขายังคงนั่งอยู่หลังจากได้ยินวาจาพวกนาง  เขาคิด

โชคชะตาองค์หญิงข้องเกี่ยวข้องกับข้าอันใด ?  เหตุใดโลกหล้าจึงร้องเรียกให้ข้าทำสุดความสามารถเพื่อนาง ?  ข้ามิได้ข้องเกี่ยวกับนาง  และ เจ้าไม่เห็นสภาพของ อยี่กู้ฮั่น กระนั้น ?  และตอนนี้เจ้าต้องการให้น้าสามของข้ากระทำสุดสามารถอีกหรือ ?  เหตุใดกัน ?  และมีเหตุผลอันใด ?

 

อย่างไรก็ตาม ทั่วทั้งร่างของ อยี่กู้ฮั่น เริ่มสั่นเมื่อได้ยินสิ่งนี้  ใบหน้าของเขาเขาซึ่งซืดเผือก เปล่งสีขึ้นมาเล็กน้อยอย่างรวดเร็ว  ดวงตาของเขาเปล่งประกายอย่างอบอุ่นเล็กน้อยด้วยความหวัง  เขามองไปยัง จวินโม่เซี่ย และ จวินวูอี้ วิงวอนให้พวกเขาช่วยนาง

 

อยี่กู้ฮั่น ตะเกียกตะกาย  เขารู้ว่าระดับขั้นของ จวินวูอี้ นั้นเกินกว่าเขา และ เขาอยู่ในระดับสวรรค์เชวียนกลางขั้นสูง  ดังนั้น จึงยังมีโอกาสช่วยเหลือองค์หญิงได้

 

จวินวูอี้ครุ่นคิดชั่วขณะ และถามอย่างนุ่มนวล

” เจ้าต้องการให้พวกเราช่วยเหลือองค์หญิง ? “

 

ดวงตาของ อยี่กู้ฮั่น เผยถึงเศษเสี้ยวความสุขตอบสนอง

 

” อย่าได้มากความ  เจ้าคิดว่าความแข็งแกร่งเช่นพวกเราจะช่วยเหลือนางได้เช่นไร ?  เอ่ยตรงไปตรงมา เจ้าต้องการให้พวกเราเอาชีวิตไปทิ้ง ! “

จวินโม่เซี่ย ยังคงใช้ เคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์ต่อ  เขาไม่เลิกคิ้วแต่น้อย

” ปราณเชวียนของน้าสามไปถึงขั้งสูง  แต่ร่างกายยังคงอ่อนแอ  สุขภาพยังกพร่อง และมิอาจเดินได้  และพวกเขาแข็งแกร่งจนทำให้เจ้าเป็นเช่นนี้ เจ้ามิได้เพียงร้องขอท่านน้า … แต่เจ้าร้องขอแม้แต่ผู้ที่อ่อนแอเช่นข้า ?  ยิ่งไปกว่านั้น ข้าไม่มีประสงค์จะช่วยนาง แม้นข้าจะมีความแข็งแกร่ง  ดั่งเช่นบรรพชนเอ่ยกล่าว ชีวิตและความตาย คือโชคชะตาสวรรค์ลิขิต สิ่งนี้คือโชคชตานำพา “

 

เจ้าคิดว่าข้าเขลากระนั้น ?  ทำงานหนักไร้ประโยชน์ … มีสิ่งใดดีกับพวกเราหากช่วยเหลือองค์หญิงโง่ผู้นั้น ?  การฟื้นฟูของน้าสามจักถูกเปิดเผยพร้อมความแข็งแกร่งของเขา  ไม่เพียงแค่นั้น ความแข็งแกร่งของข้าจักถูกเปิดเผยเช่นกัน ช่วยเจ้ามิให้ตายยังไม่เพียงพออีกหรือ ?  เพียงเท่านั้นเจ้ายังไม่สำราญ ?  แม้นผู้อื่นมาแทนที่ข้า … แม้แต่ แปดยอดปรมาจารย์ ก็มิอาจใช้เคล็ดนี้ได้ แม้แต่ หยุนเป้ยเฉิน !

 

ลมหายใจ อยี่กู้ฮั่น ที่แผ่วเบาลง แต่เวลานี้กลับเริ่มรุนแรงและ รวดเร็วเนื่องด้วยเขาเริ่มหอบอย่างรุนแรงจากโทสะ  จวินโม่เซี่ย สัมผัสได้ถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นในชีพจร  หน้าอกของเขากระตุกขณะสูดอากาศ  และด้วยเหตุนั้น กระดูกบริเวณนั้นจึงแตกหัก ก่อเกิดเสียงที่แจ่มชัด …

 

อยี่กู้ฮั่น มองจวินโม่เซี่ยดื้อรั้น  สีหน้ของเขาโมโหในตอนแรก … จากนั้นโศกเศร้าก่อนจจะอ้อนวอน  หัวใจจวินโม่เซี่ยสั่นกระตุก ขณะได้เห็นสีหน้าโศกเศร้าเช่นนั้น  เขามั่นใจว่า อยี่กู้ฮั่น จะไม่ละทิ้งการเคารพตัวเอง และ ความภาคภูมิหากเขาเอ่ยวาจาได้ และจะอ้อนวอน นายน้อยจวิน ให้ช่วยเหลือองค์หญิง

 

ทันใดนั้น ใบหน้า อยี่กู้ฮั่น แดกก่ำ และ มีเสียงโครกดั่งจากคอหอย  ราวกับเขาใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มีเพื่อพยายามเป็นครั้งสุดท้าย  ปากของเขาอ้าออก แต่เขาเพียงแต่เอ่ยออกมาได้เพียงสองคำอย่างอ่อนแอ

” ขอร้อง … ช่วย … “

 

จากนั้น หัวเขาตกลง และสลบไปไร้เสียงใด

 

อยี่กู้ฮั่นเลือกแผดเผาพลังชีวิตสุดท้ายเพื่อเอ่ยสองคำนี้

 

เขามิอาจเอ่ยได้จบประโยค  แต่กระนั้น จวินโม่เซี่ย และ จวินวูอี้เข้าใจความหมายของเขาอย่างชัดเจน

” ข้าขอร้องเจ้า ช่วยเหลือหลิงเมิง ! “

เขาใช้ช่วงเวลาสุดท้าย และพลังชีวิตสุดท้ายเพื่อร้องขอสิ่งนี้ …

 

” เขา … ตายหรือไม่ ? “

จวินวูอี้ถาม โศกเศร้าและห่วงใย

 

” เขายังมิตาย … แม้นจะใกล้แล้ว  เขาถูกรักษาไว้ในสภาพใกล้ความตาย “

มือของจวินโม่เซี่ยยังคงปล่อยปราณบริสุทธ์ใส่ อยี่กู้ฮั่น

” แต่กระนั้น สิ่งต่างๆอาจะแย่ลงหากสภาพของเขายังเป็นเช่นเดิม “

 

” การช่วยเหลือผู้คนเป็นดั่งการดับไฟ เจ้ายังมิได้ช่วยเหลือผู้ใด ! “

ตู่กู้เซี่ยวอี้ พุ่งเข้ามา  นางครวญครางขณะคว้าหน้าอกของ จวินโม่เซี่ย

” เร็วเข้า ไปช่วยองค์หญิง เจ้ากำลังรออันใด ?! “

 

” เกี่ยวอันใดกับข้า ? “

จวินโม่เซี่ยมองไปอย่างลึกลับ

” เหตุใดเจ้าต้องการให้ข้าช่วยองค์หญิง ?  องค์ชายหรือใครซักคนต้องรับมือกับเรื่องนี้  เจ้าต้องการให้ข้าเอาชีวิตไปทิ้งกระนั้นหรือ ?  อยี่กู้ฮั่น คือยอดฝีมือสวรรค์เชวียน  เจ้าไม่เห็นที่พวกเขาทำให้เขาจมกองเลือดกระนั้นหรือ ?  ข้ามิอาจเทียบความแข็งแกร่ง แล้วเจ้ายังต้องการให้ข้าไปช่วยนางอีกกระนั้น ?  วาจาเหล่านั้นออกมาจากปากของเจ้าได้เช่นไรกัน ?”

 

จวินโม่เซี่ยสถบในใจ

องค์หญิงหลิงเมิงมิใช่เจ้า เหตุใดโลกต้องให้ข้าเสียแรงในเรื่องโง่เขลาเช่นนั้น ?  ข้ารีบมาเพราะเจ้า ผู้ใดจะคิดว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ …

 

” เจ้า … อือ .. แล้วพวกเราควรทำสิ่งใด ? “

ตู่กู้เซี่ยวอี้ จำได้ว่า จวินโม่เซี่ยนั้นทรงอำนาจ  ความจริงแล้ว เขามิอาจเทียบนางได้  แล้วเขาจะรับมือกับยอดฝีมือสวรรค์เชวียนหลายคนได้เช่นไร ?  นางเพิ่งเอ่ยสิ่งใดออกไป ?  ทันใดนนั้นนางเสียใจในวาจาที่เอ่ยและโศกเศร้า

” เหตุใด … เหล่าราชองครักษ์ยังมาไม่ถึง ? “

 

คำเหล่านั้นมิได้ทำให้ผู้ใดสนใจ  จวินวูอี้และจวินโม่เซี่ยมองหน้ากันเข้าใจ

 

” โม่เซี่ย เพื่อแสดงความเมตตาของ อยี่กู้ฮั่น … พวกเราควรช่วยเหลือ  และอย่างไรก็ดี … นางคือองค์หญิง “

จวินวูอี้เอ่ยด้วยท่าทีมีไหวพริบ  เขารู้ว่าหลานชายของเขามิได้สนใจองค์หญิงหลิงเมิง  เขาตระหนักดีว่าหลานของเขาจะนั่งดูอย่างเฉยเมย

 

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจใช้ชื่อเสียงของ อยี่กู้ฮั่น แทนชื่อเสียงองค์หญิง  เขาเอ่ยเช่นนี้เนื่องด้วยเขาคาด ไม่ว่าอย่างไรหลานชายของเขาก็มิได้สนใจจะช่วยเหลือนาง

 

เขารักจักหลานชายเป็นอย่างดี  เขารู้ว่าหลานชายสามารถทำเช่นนั้นได้  ความจริงแล้ว สิ่งนี้คือนิสัยของเด็กหนุ่ม และเขามีสติชัดเจนเช่นกัน

 

” ข้าจักไม่ทำ !  ข้าไม่ประสงค์ ! “

จวินโม่เซี่ยปฏิเสธน้าสาม  เขารู้สึกหดหู่

ดูเหมือนนี่จะมิใช่เรื่องของเด็ก … การเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของข้ามัน … เกินกว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย …

 

ข้าจักไม่ทำสิ่งใดเนื่องจากไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับข้า แม้นนางจะเป็นลูกของเทพเจ้า ไม่ต้องเอ่ยอ้างว่านางเป็นองค์หญิง ข้าอยากจะใช้เวลาว่างนี้เพื่อหยอกล้อเจ้าขาวน้อย …

 

แต่กระนั้น … ยอดมือสังหารจวินไม่ต้องการทำธุรกิจที่ไร้ผลกำไร …

 

” ข้าจักไป แม้นว่าเจ้าจะไม่ ! “

จวินวูอี้ลุกขึ้นจากพื้นอย่างโกรธเคือง และกระโดดขึ้นหลังม้า

” ข้ามิได้ไปเพื่อองค์หญิง แต่เพื่อ อยี่กู้ฮั่น!  อยี่กู้ฮั่นจะฆ่าล้างนครเพื่อองค์หญิง ดั่งเช่นที่ปู่ของเจ้า ทำเพื่อเจ้า !  พวกเราจะนิ่งเฉยต่อสิ่งนี้ได้เช่นไร ?! “