จวินโม่เซี่ยไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่น้าของเขาเอ่ยมา เว้นแต่เขาอ้างถึงเหตุการณ์นั้น  และสิ่งนี้ทำให้นายน้อยจวินดิ่งลึก

 

จวินโม่เซี่ยผงกหัว  ทันใดนนั้นเขาจึงได้ถึงท่วงท่าซึ่ง จวินจ้านเทียนก่อสงคราม ท่าทางซึ่งปู่ของเขานำพากองกำลังออกกวาดล้างในนครหลวง  ความทรงจำนี้อบอุ่นหัวใจเขาทันที

 

ความทรงจำนี้ส่งผลกับ จวินโม่เซี่ย อย่างมาก

 

มือสังหารจวินรู้ว่าการตัดสินใจของน้าสามนั้นมีผลจากความรู้สึกมากกว่าเหตุผล  แต่กระนั้น มันจะนำพาอันตรายใหญ่หลวงมาสู่สกุลจวิน หาก จวินวูอี้ ทำงานนี้จริงๆ โดยไม่คำนึงว่าจักช่วยองค์หญิงสำเร็จไหม  อยางไรก็ตาม สวรรค์จักหาทางจนได้เมื่อผู้ที่ทรงคุณธรรมเริ่มต้นทำงานที่ชอบธรรม

 

เป็นการยากที่จะปิดบังการมีส่วนของน้าเขาหาก แม่ทัพผู้มีชื่อเสียงเกี่ยวพันกับเรื่องนี้  แต่กระนั้น หากจวินโม่เซี่ยรับงานนี้ด้วยตัวเอง แล้วละก็ …

 

” ดีละ ข้าจักไป !  แม่เจ้าเอ้ย! “

จวินโม่เซี่ยสูงหายใจลึก  จากนั้นเร่งรีบส่งกระแสปราณเชวียนบริสุทธิ์เข้าสู่เส้นลมปราณอันแห้งผากของ อยี่กู้ฮั่น เพื่อรักษาชีวิตเขาเอาไว้

” แต่ท่านจักต้องไม่ตามข้ามาท่านน้า ข้าเพียงหนึ่งก็เพียงพอ  เช่นนั้นท่านจงกลับบ้านไปก่อน  แต่ต้องแน่ใจว่า ร่างของเขาจักไม่ขยับเขยื้อนมากนักระหว่างทางกลับ … “

 

” ข้าเข้าใจกระบวนการช่วยเหลือเหล่านี้ ไม่เหมือนเช่นเจ้า “

จวินวูอี้ขัดจังหวะ

” แต่ข้าจักล่าถอยไปอย่างไม่เต็มใจ “

 

” ท่านถูกที่เชื่อมั่นในข้า … แต่กระนั้น ทั้งห้าคือยอดฝีมือสวรรค์เชวียน “

จวินโม่เซี่ยยิ้มขื่นขม  เขาขึ้นขี่ม้า  จากนั้น กดเท้าลงไปด้านข้างม้า และพร้อมเร่งความเร็วออกไป

 

” เจ้ามัน …. วายร้าย !  เจ้า … ระวังตัวด้วย ! “

หัวใจ ตู่กู้เซี่ยวอี้  พองโตขึ้นเนื่องด้วยความเสน่หาจวินโม่เซี่ย  นางรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของจอมวายร้ายจวิน  นางรู้สึกอยากขวางทางมิให้เขาจากไป  ตู่กู้เซี่ยวอี้ กระวนกระวายอย่างหนัก  ยิ่งไปกว่านั้น  นางก่อเกิดความคิดเห็นแก่ตัว  ….

เป็นการดีที่จะให้เจ้าวายร้ายนี่ปลอดภัยแทนที่จะไปช่วยองค์หญิง

 

จวินโม่เซี่ย ขึ้นขี่ม้าและหยุดชั่วคราว  เขาตัดสินใจไม่หันกลับไปเนื่องจากเขาเลือกกระทำเช่นนี้  ม้าของเขาร้อง และ ยกกีบเท้าขึ้น  จากนั้นควบออกไปด้วยความเร็วชั้นเลิศ

 

ร่างบอบบางของ ตู่กู้เซี่ยวอี้ สั่นเทา  ซุนเซี่ยวเหม่ย มายืนข้างนางและกุมมือนางเชื่องช้า  จากนั้นเอ่ย

” มิต้องเป็นกังวลไป ไม่มีสิ่งใดเกิดแก่เขาเป็นแน่ “

 

” พี่เซี่ยวเหม่ย ข้าบังคับเขา … มากเกินไป … ข้าควรทำเช่นไรหากมีบางสิ่งเกิดแก่เขา ? “

ตู่กู้เซี่ยวอี้ถามไม่รีบร้อน   นางเป็นกังวล

 

” เขาไม่เป็นไร อย่ากังวล ! “

ซุนเซี่ยวเหม่ยคิด

เจ้าบังคับเขาได้อย่างไร ?  มันคือวาจาของนายท่านสามจวิน  เขาคงมิได้ฟัง แม้นว่าเจ้าพยายามบังคับเขาเป็นพันครั้ง  เจ้ามิอาจบังคับเขาได้  ข้าเกรงว่าตอนนี้เจ้ามิอาจบังคับให้เขาทำสิ่งใดได้ …

 

แต่กระนั้น คำพูดเหล่านั้นทำให้ ตู่กู้เซี่ยวอี้ เสียใจ  ด้วยเหตุนี้ ซุนเซี่ยวเหม่ย คิดได้เพียงหนึ่งสิ่ง

 

มันเป็นโอกาส … การจู่โจม องค์หญิงหลิงเมิง เมื่อ อยี่กู้ฮั่นมาถึง เขาต่อสู้อย่างดุเดือด สุดท้ายเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เล่ยเจียนฮ้งจับตัวองค์หญิงและหนีไป ทั้งหมดนี้ถูกจับตาด้วยผู้ที่หลบซ่อนในเงามืด

 

คนผู้นี้มิใช่ใครอื่นนอกจาก ขุนนางเหวิน  เขาติดตามองค์หญิงหลิงเมิงเข้าไปสู่ หอชนชั้นสูง ในฐานะชายชุดดำ  หอชนชั้นสูง  อนุญาติให้ผู้ได้รับเชิญมีผู้ติดตามไปสองคน องค์หญิงหลิงเมิงเป็นผู้หนึ่งในคณะของ องค์หญิงหลิงเมิง ขุนนางเหวินคือแขกของนางคนที่สอง

 

จากสถานะของเขา ขุนนางเหวินครอบครองความแข็งแกร่งมหาศาล  ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่ ไฮ่เฉินเฟิง ก็มิอาจต่อกรกับเขาได้  ทุกสิ่งจักต่างไปสิ้นเชิงหากเขาตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วย

 

น่าเศร้าที่เขามิได้ทำ

 

ขุนนางเหวินชื่นชมความภักดีและความรักซึ่ง อยี่กู้ฮั่นแสดงออกมา  เขารู้สึกอยากช่วย อยี่กู้ฮั่น หลายหนระหว่างเกิดการต่อสู้  แต่แล้ว น่าเสียดายที่เขามิอาจทำได้  องค์จักรพรรดิวางแผนการเพื่อให้ ปรมาจารย์ลึกลับเผยตัว และแผนการนี้จักล้มเหลวหากเขาโจมตี

 

ยอดฝีมือสวรรค์เชวียนผู้นั้นจักกลายมาเป็นฝันร้ายขององค์จักรพรรดิแห่งนครเทียนเชียง หลังจากเขาช่วยองค์หญิงสำเร็จ !  องค์จักรพรรดิจักมิยอมให้ยอดฝีมือสวรรค์เชวียนลึกลับและทรงพลังเช่นนั้นอยู่ในอาณาจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขามิอาจจับตาพวกนั้นได้

 

จักมิใช่เรื่องสำคัญหากคนผู้นี้คือนักบวช  แต่กระนั้น เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์หญิงหลิงเมิง และอาจเกี่ยวพันกับการพิพาทระหว่างอาณาจักร  การเกี่ยวพันของผู้ทรงพลังเช่นนี้ในเรื่องของอาณาจักรมิใช่ข่าวดีในสายตาของ องค์จักรพรรดิ  ดังนั้น องค์จักรพรรดิจึงมิยอดให้เขามีชีวิตอยู่

 

เจตนาเขาอาจเป็นสิ่งดี  แต่เป็นเรื่องสำคัญที่จะเข้าใจชายผู้นี้  องค์จักรพรรดิจะไม่ทรงอุ่นพระทัยจนกว่าสถานะของคนผู้นี้จักชัดเจน

 

ยอดฝีมือสวรรค์เชวียนลึกลับคือเรื่องหนึ่ง  แต่คนลึกลับผู้อยู่เบื้องหลัง หอชนชั้นสูง  ก็กลายเป็นฝันร้ายของ องค์จักรพรรดิ

 

ขุนนางเหวินรู้สึกขัดแย้งในตัวเอง … เป็นครั้งแรกนับแต่เกิดมา

 

เขามองอยี่กู้ฮั่นอย่างไร้หนทาง ขณะเขาล้มลงสู่พื้น และนอนนิ่งเงียบ  ขุนนางเหวินมักสงบเสงี่ยม … แต่กระนั้น เขาขบฟันแน่นจนเกือบหัก

เขาคือยอดบุรุษ !  เขาแผดเผาพลังทั้งผมดเพื่อช่วยเหลือองค์หญิง  และ ผู้ที่สามารถช่วยเหลือองค์หญิงได้ กลับถูกบังคับให้นั่งมองอยู่ด้านข้าง !

 

ผิดชอบชั่วดี ?  ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ?  อาห์ !

 

แต่กระนั้น องค์หญิงถูกจับตัวไปแล้ว  ยอดฝีมือสวรรค์เชวียนลึกลับผู้นั้นจักต้องเผยตัวออกมา  และไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นกับองค์หญิง !

 

องค์จักรพรรดิมอบงานนี้แก่เขา

 

จักทำสิ่งใดกับ อยี่กู้ฮั่น ?  เขามีลมหายใจเพียงเฮือกสุดท้าย !

 

ขุนนางเหวินไม่มีทางเลือก  เขามิได้ไร้หัวใจในเรื่องนี้  แต่กระนั้น ก็มิอาจทำสิ่งใดได้  ดังนั้น เขาจึงเฝ้ามองร่างอยี่กู้ฮั่นร่วงลงลู่ธรณี และถอนใจรู้สึกผิด  จากนั้น เขาจึงพุ่งตัวออกไปยังทิศที่มือสังหารเหล่านั้นหลบหนีไปพร้อมกับองค์หญิง และเริ่มไล่ตาม

 

สายลมปะทะใบหน้าเขารุนแรง ขณะเริ่มตามหาคนเหล่านั้น  และในเวลานั้น เขาตระหนักได้ถึงบางสิ่ง  แผนการเหล่านี้ถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อให้ยอดฝีมือลึกลับแสดงตัว และค้นหาผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีองค์หญิงหลิงเมิง  แต่กระนั้น เขารู้จักองค์จักรพรรดิเป็นอย่างดี

องค์จักรพรรดิอาจมีเหตุผลอื่นเบื้องหลังเรื่องนี้ !

 

พวกเขามิเคยพูดถึงเรื่องนี้ เนื่องด้วย องค์จักรพรรดิผู้ปราดเปรื่องและเป็นเลิศจักต้องยอมรับอย่างอับอาย  แต่กระนั้น ขุนนางเหวินเข้าใจ การมีอยู่ของ อยี่กู้ฮั่น เป็นเรื่องที่องค์จักรพรรดิกังวล   ความจริง มันเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง

 

ไม่มีชายใดทนต่อการมีผู้อื่นเฝ้ามองภรรยาของเขาได้นานนับทศวรรษ  มิอาจละทิ้งสถานการณ์เช่นนี้ได้แม้นจะเป็นหัวขององค์จักรพรรดิ  ท้ายที่สุด จักรพรรดิก็คือ มนุษย์  แท้จริงแล้ว ความปรารถนาที่จะควบคุมของเขานั้นมากล้นกว่าผู้ใด แน่นอนว่ามิอาจอ่อนแอได้กว่านี้

 

ไม่สำคัญว่าชายผู้นั้นมิได้ล้ำเส้น  ตราบใดที่ความคิดนั้นยังคงอยู่ … มันยังคงเป็น ความผิดใหญ่หลวงมิอาจละเว้นโทษประหารได้

 

จึงสำคัญที่ อยี่กู้ฮั่น จักต้องตาย

 

สิ่งนี้คือคือจุดประสงค์แท้จริงท่ามกลางเรื่องเร่งด่วนมากมาย  แท้จริงแล้วองค์จักรพรรดิสังหารเขาด้วยมีดผู้อื่น

 

เขาจัดเตรียมแผนการนี้ !

 

ไม่ประหลาดใจที่ ราชองครักษ์องค์หญิงอ่อนแอยิ่งนัก และไม่ปรารถนาที่กระทำ … ไม่น่าประหลาดใจที่เขาส่งเพียงแค่ข้าเพื่อช่วยเหลือองค์หญิง !  ไม่น่าแปลกใจ !  เป็นดั่งการห้ามผู้อื่นมิให้ช่วยเหลือ … นั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้น !

 

ขุนนางเหวินไร้ตัวเลือกเพียงแต่ชมเชยการกระทำขององค์จักรพรรดิแห่งนคร  แผนการของเขาละเอียดและเที่ยงตรง  ความคิดของเขา รอบคอบและ พิถีพิถัน

อุบายข้ามิอาจร้ายกาจเทียบเท่าเขา

 

เขามองเห็นสามคนอยู่เบื้องหน้า  แต่กระนั้น ขุนนางเหวินมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเพื่อเข้าใจในอารมณ์ของเขา

 

จวินโม่เซี่ยควบม้าข้ามถนนหลายเส้นว่องไว  เขา เฆี่ยนม้าอย่างดุร้าย และเดินทางรวดเร็วดั่งเกาทัณฑ์  มุมปากของม้าอันทรงพลังเริ่มมีฟอง  นายน้อยจวินมองไปรอบๆเพื่อแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดอยู่แล้ว  จากนั้น เขาใช้ขาขนามข้างม้าแน่น  โยนสายบังเหงียนไป  แล้ว เงาร่างสูงตระหง่านของจวินโม่เซี่ยจางหายไปจากหลังม้า …

 

ม้าร้องยาว และหยุดลงขณะที่ นายน้อยจวิน หายตัวไป  สายบังเหงียนที่ถูกโยนออก เข้าไปพันกับต้นไม้ใกล้ๆ เป็นวงแน่น

 

ไม่ว่าเขาจักทำสิ่งใดหรือไม่  แต่เมื่อกระทำ เขาจักทำมันอย่างเด็ดเดี่ยวว่องไว  เขาจักทำสุดกำลัง

 

นี่คือจรรยาบรรณของมือสังหาร จวิน  ไม่ว่าเรื่องใดเมื่อเขาตัดสินใจแล้ว

 

มิใช่เรื่องสำคัญเลย หากองค์หญิงหลิงเมิงถูกสับเป็นชิ้นต่อหน้า หากเขาตัดสินใจไม่ช่วยเหลือนาง  มือสังหารจวินจักเพียงเฝ้าดูอย่างสงบ  ความจริง เขาอาจวิจารณ์หากเคล็ดมีดนั้นไม่ดีพอ … หรืออาวุธนั้นไม่คมพอ  แต่กระนั้น เนื่องด้วยเขาตัดสินใจช่วยเหลือนาง เขาจึงรับประกันว่า แม้แต่เส้นขนบนร่างนางจักต้องไม่ได้รับอันตราย  เขาจักช่วยชีวิตนาง และหนีไป

 

กลิ่นอายรุนแรงล่องลอยในอากาศ  ราวกับฝนดาวตก กระแทกเข้ากับท้องทะเลเต็มกำลัง และก่อเกิดคลื่นมหึมาบนนภา  คลื่นนี้ม้วนตัวไปทั่วทิศทาง ไร้ที่สิ้นสุด

 

จวินโม่เซี่ย กระตุ้น เคล็ดอิสระหยินหยาง ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นมหาศาลจากปกติ  เป็นดั่งภาพมายา เขาไปยังสถานที่หนึ่งเพียงช่วงระยะกระพริบตาและจากนั้นย้ายไปอยู่ในสถานที่ต่อไป  ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นเหตุการณ์อันลึกลับนี้ แต่กระนั้น นายน้อยจวินเพลิดเพลินอย่างแท้จริง

 

จวินโม่เซี่ย ตระหนักได้ว่าเขาควบคุมเคล็ดอิสระหยินหยางได้ชำนาญมากขึ้น ตั้งแต่เขาปลดล็อคเข้าสู่ชั้นที่สองของเจดีย์หงส์จวินได้  ความจริงนั้น ตอนนี้เขาสามารถใช้มันได้ตามประสงค์  เวลานี้จวินโม่เซี่ยใช้ทักษะนี้ได้อย่างเต็มที่ เขารู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับโลก และรู้สึกถูกแบ่งแยกจากเรื่องทางโลกทั้งหมด  ราวกับเขาสามารถไปได้ทุกที่ในโลกหล้านี้ หากเขาปรารถนาไม่มีที่ใดไม่สามารถ …

 

เคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์หลั่งไหลราวกับ แม่น้ำแยงซีเกียง ภายในร่างของเขา ไม่มีที่สิ้นสุดและไร้ขีดจำกัด  ลมปราณปลดปล่อยออกจากเจดีย์หงส์จวินอย่างต่อเนื่อง เคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์ทำงานได้ไร้สะดุด  ลมปราณในร่างหลั่งไหลไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่เขาขับ เคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์  และลมปราณเหล่านี้พุ่งกลับเข้าสู่เจดีย์หงส์จวินอีกครั้ง …

 

สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนวงจร วงรอบที่สมบูรณ์

 

จวินโม่เซี่ยอดคิดถึง เคล็ดวิชาเต๋า จากชีวิตก่อนของเขามิได้ แม้นว่าเขายังมิอาจเข้าใจมันได้ในจุดนี้ ชีวิตเป็นเหมือนทะเลแห่งความทุกข์ยาก และร่างกายของมนุษย์เป็นเพียงแพที่ลอยข้าม

 

จวินโม่เซี่ยรู้สึกว่าคำเหล่านั้นเชื่อมโยงกับสถานการณ์ของเขาในตอนนี้อย่างมาก

 

นายน้อยจวิน ประสงค์จะอยู่กับช่วงเวลาอันอัศจรรย์นั้นต่ออีกเนิ่นนาน  แต่กระนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ยอมให้เขาอยู่ในสถานะนั้นต่อได้  น่าเสียดายอย่างแท้จริง …

 

ความเป็นจริงจักเติมเต็มความคาดหวังของผู้คนได้เช่นไร ?

 

ทันใดนนั้น มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเบื้องหน้า

 

จวินโม่เซี่ย วูบผ่านไป อย่างเงียบๆในระยะ สามสิบหลาเพียงแค่ก้าวเดียว  เขาทิ้งไว้เพียงลมวนเบื้องหลังภาพมายานั้น  และลมหวนนี้ค่อยๆจางหายไปอย่างเชื่องช้า …

 

ทั้งสามแปรเปลี่ยนเส้นทางต่อเนื่อง ขณะพวกเขาเคลื่อนที่ตรงไปนอกนคร  ดั่งควันไฟ การเคลื่อนไหวของพวกเขารวดเร็ว ว่องไว  จังหวะแขนขาราดเปรียว  แต่กระนั้น เขาเห็นทั้งสามคนนั้นน่าเกรงขาม คนเหล่านี้รู้ได้หากมีผู้ใดอยู่ด้านหน้า  จากนั้นพวกเขาจักเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงผู้คน  คนเหล่านี้จักไม่เผชิญหน้ากับผู้ใดเลยตลอดเส้นทาง เว้นแต่คนสามัญบางผู้เท่านั้น

 

คนคนสามัญเหล่านั้นมิอาจสังเกตุเห็นพวกเขาได้จากความเร็วเช่นนี้  เขาจักรู้สึกเพียงมีลมหนาวเย็นพุ่งตรงมา และปะทะร่างโดยไร้ร่องรอยสิ่งใด