ตอนที่ 686 พี่สาวน้องชายพบกัน / ตอนที่ 687 ต้องมีคนใกล้ชิดคอยเตือน

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 686 พี่สาวน้องชายพบกัน 

 

 

กู้หลียวนไม่ใช่คนตาบอด จึงมองออกว่าซูเหิงไม่ยินดีต้อนรับตน เจ้าเด็กนี่ยังมีอคติมาก เผยปิงปิงสีหน้างุนงง นางเพิ่งพบซูเหิงครั้งแรก ทำไมซูเหิงจึงไม่พอใจตน 

 

 

พอเห็นท่าทีของซูเหิง ซูจิ่วซือก็ขมวดคิ้ว “ซูเหิง หลียวนกับตระกูลกู้ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว เขาเป็นพี่ชายของเจ้า อย่าเสียมารยาท” 

 

 

“กู้หลียวน เจ้ามีเรื่องกับกู้จื่อหยวนหรือ” 

 

 

“ซูเหิง อย่างน้อยข้าก็เป็นญาติผู้พี่เจ้า ต้อนรับญาติผู้พี่อย่างนี้ได้หรือ” ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าซูจิ่วซือ กู้หลียวนไม่มาหาซูเหิงแน่ เจ้าเด็กนี่วางตัวเป็นปรปักษ์กับเขาตั้งแต่แรก เอาเรื่องนั้นมาใส่หัวเขาจนได้ 

 

 

“พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้เชิญข้างใน เมื่อกี้ขออภัยข้าไม่ได้ต้อนรับให้ดี” 

 

 

ซูเหิงไม่อยากให้ซูจิ่วซือไม่พอใจ นางอุตส่าห์มาหา จึงพูดกับกู้หลียวนและเผยปิงปิงด้วยน้ำเสียงเกรงใจมากขึ้น 

 

 

พูดจบ ซูเหิงก็หันไปบอกซูจิ่วซือต่อ “พี่ เข้าไปคุยกันในห้องเถอะ ห้องที่พี่เคยอยู่ข้าให้คนทำความสะอาดแล้ว พี่พักให้สบาย” 

 

 

“จื่อหลาน เจ้าพาหลียวนกับปิงปิงไปพักที่ห้องสำหรับแขกก่อน นั่งรถม้าเหนื่อยมาตลอดทาง พวกเจ้าก็เหนื่อย” 

 

 

ซูจิ่วซือรู้ว่าเวลานี้การงานในจวนอันผิงโหวจื่อหลานเป็นคนจัดการ จึงกำชับจื่อหลาน 

 

 

“คุณหนู บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้” จื่อหลานยังติดความเคยชินเรียกซูจิ่วซือเป็นคุณหนู นางรับปากอย่างร่าเริง 

 

 

กู้หลียวนไม่อยากพูดอะไรกับซูเหิง เขาเดินทางมาเหนื่อย จึงจับมือเผยปิงปิงตามจื่อหลานเข้าไปพักในห้องสำหรับแขก 

 

 

“ซูเหิง เจ้าสบายดีหรือไม่” 

 

 

สองพี่น้องเดินพลางพูดคุยกัน 

 

 

“ข้าสบายดี แต่คิดถึงพี่” คำพูดนี้ไม่ได้เกินเลย ซูเหิงคิดถึงซูจิ่วซือมาตลอด กลัวว่าซูจิ่วซืออยู่แคว้นเจียงจะลำบาก เรื่องราวของซูจิ่วซือขณะอยู่แคว้นเจียงเขาได้ยินมาเป็นระยะๆ 

 

 

ซูจิ่วซือเอียงหน้ามามอง แววตาอ่อนโยนเป็นพิเศษ “ข้าอยู่แคว้นเจียงสบายดี” 

 

 

“ได้ข่าวว่าพี่อยู่แคว้นจียงเป็นลูกสาวของตระกูลมู่ มีพี่น้องหลายคน ข้ากลัวว่าพี่จะลืมน้องชายอย่างข้า” 

 

 

ซูเหิงพูดอย่างอิจฉา พอรู้ว่าซูจิ่วซือกลายเป็นมู่ซือซือ สนิทสนมกับทุกคนในตระกูลมู่ เขารู้สึกเสียใจมาก ในโลกนี้เขาเหลือญาติคนเดียวคือซูจิ่วซือ 

 

 

“ตระกูลมู่ดีต่อข้ามาก แต่ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นน้องชายแท้ๆ ของข้า” 

 

 

พอได้ยินอย่างนี้ ซูเหิงจึงยิ้มออก “พี่อยู่แคว้นเจียงมีความสุข ข้าก็วางใจ” 

 

 

เวลานี้ซูเหิงสีหน้าอิ่มเอิบ เขารับราชการอย่างราบรื่น เพิ่งอายุสิบแปดปีก็ได้รับตำแหน่งสำคัญในราชสำนัก เป็นที่โปรดปรานของเฟิ่งอวิ๋นหล่าง ซูเหิงจึงมีสง่าราศีเป็นที่ชื่นชมของคนหนุ่มทั่วไป 

 

 

ขณะที่กำลังพูดคุยอยู่ มีเงาร่างอ่อนแอ้นเดินเข้ามา เป็นเด็กสาวอายุสิบห้าสิบหก สวมชุดสีชมพู หน้าตาสะสวย ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู 

 

 

“ท่านพี่ก็ ไม่เรียกข้าตื่น ปล่อยให้ข้านอนจนถึงยามนี้” 

 

 

เสียงของสาวน้อยอ่อนหวาน ออดอ้อนซูเหิงต่อหน้าคนอื่น 

 

 

ซูเหิงพูดเสียงอ่อนโยน “เมื่อคืนเจ้านอนดึก อยากให้เจ้านอนต่ออีกหน่อย” 

 

 

เฉี่ยวฉินปั้นปึ่ง “เป็นความผิดของท่านพี่” 

 

 

ซูจิ่วซือขมวดคิ้ว ผู้หญิงคนนี้ท่าทางเอาแต่ใจตัวเอง ซูเหิงทำไมจึงเอาผู้หญิงอย่างนี้มาไว้ใกล้ตัว 

 

 

“ท่านพี่ นางคือฮองเฮาแคว้นเจียงใช่หรือไม่” 

 

 

พอเห็นซูเหิงพยักหน้า เฉี่ยวฉินก็ถวายบังคมซูจิ่วซือ “ถวายบังคมฮองเฮาเพคะ” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 687 ต้องมีคนใกล้ชิดคอยเตือน  

 

 

“แม่นางเฉี่ยวฉิน ข้ากับซูเหิงมีเรื่องจะคุยกัน ในเมื่อเจ้าเพิ่งตื่น ก็ไปกินอะไรก่อนเถอะ!” 

 

 

“เฉี่ยวฉิน รีบไปเถอะ! เดี๋ยวข้าค่อยไปหาเจ้า” 

 

 

“เจ้าค่ะ ท่านพี่” 

 

 

เฉี่ยวฉินกระพริบตาให้ซูเหิงแล้วพาสาวใช้ออกไป 

 

 

“ซูเหิง แม่นางคนนี้เป็น…” 

 

 

แม้จะคาดไว้แล้ว แต่ซูจิ่วซือก็ยังถาม อยากฟังจากปากของซูเหิง 

 

 

พอพูดถึงเฉี่ยวฉิน ซูเหิงก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน “นางเป็นแม่นางที่ข้ารัก เดิมทีเป็นนางรำ หนีออกมาจากโรงฝึก พอดีมาเจอข้า ต่อมาข้าไถ่ตัวนาง พามาอยู่จวนอันผิงโหว 

 

 

แม้เฉี่ยวฉินไม่รู้จักแบบแผนอย่างคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่ก็เป็นคนซื่อๆ น่ารัก พี่ ข้าชอบเฉี่ยวฉินมาก วันหลังข้าจะรับนางเป็นเมียน้อย จะได้อยู่กับข้าตลอด” 

 

 

พอพูดความจริงออกมาอย่างนี้ ซูจิ่วซือยิ่งไม่ชอบเฉี่ยวฉิน พอเห็นซูเหิงชอบนาง จึงไม่พูดอะไรอีก นางไม่อาจก้าวก่ายเรื่องนี้เพียงเพราะตนไม่ชอบ หากเฉี่ยวฉินไม่มีปัญหาอะไร ก็ให้อยู่ได้ 

 

 

“ซูเหิงของพี่โตแล้ว มีคนรักแล้ว” 

 

 

“พี่อย่าล้อข้า” ซูเหิงรู้สึกขัดเขิน ยิ้มอย่างอายๆ 

 

 

ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องโถง สาวใช้รีบเข้ามายกชามาให้ ซูเหิงมองซูจิ่วซืออย่างละเอียด “พี่ ทำไมซีดเซียวอย่างนี้ ดูผอมลง ฟู่เฉินหรงดูแลพี่ไม่ดีหรือ” 

 

 

“ไม่ใช่ เขาดูแลพี่ดีมาก พี่อยากมาหาเจ้าเร็วๆ ก็เลยเร่งเดินทางมาเหน็ดเหนื่อย ไม่ได้พัก พักผ่อนสักสองสามวันก็คงดีขึ้น” 

 

 

“ถ้าเช่นนั้นวันนี้พี่พักก่อน ข้าไปทูลฝ่าพระบาท ให้พี่เข้าวังพรุ่งนี้” 

 

 

ซูเหิงเป็นห่วงพี่สาวคนนี้มาก 

 

 

“ก็ดี” 

 

 

ซูจิ่วซือพยักหน้า วันนี้นางเหนื่อยจริงๆ พรุ่งนี้ค่อยเข้าวังก็ดี 

 

 

“พี่ รู้ไหม กู้จื่อหยวนมีผู้หญิงคนหนึ่งไม่รู้เป็นใครมาจากไหน ข้าให้คนไปสืบแล้ว ผู้หญิงคนนี้ชื่อฟู่เย่ว์อี้ เป็นคนแคว้นเจียง จู่ๆ เขาก็รับองค์หญิงแค้นเจียงไว้ ไม่รู้ว่าวางแผนจะทำอะไร” 

 

 

“เรื่องนี้ข้ารู้มาก่อนแล้ว ตอนที่กู้จื่อหยวนไปแคว้นเจียงได้รู้จักกับฟู่เย่ว์อี้ เวลานี้ฟู่เย่ว์อี้กำลังลำบาก ไม่มีที่ไป จึงมาอาศัยกู้จื่อหยวน ฟู่เย่ว์อี้เป็นคนเจ้าเล่ห์ ไม่มีอะไรอย่าไปยุ่งกับนาง เวลานี้กู้จื่อหยวนคอยหาเรื่องเจ้าหรือไม่” 

 

 

ซูเหิงยิ้มหยัน “ข้ากับเขาไม่ถูกกันอยู่แล้ว แต่ข้าไม่กลัวเขา จวนอันผิงโหวกับตระกูลกู้แต่ไหนแต่ไรก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว” 

 

 

เรื่องนี้เฟิ่งอวิ๋นหล่างเห็น แต่กลับลืมตาข้างหนึ่งหลับตาข้างหนึ่ง คงไม่อยากให้ตระกูลหนึ่งเข้มแข็งเกินไป แต่ให้สองตระกูลควบคุมกันเอง 

 

 

กู้จื่อหยวนกับซูเหิงอายุใกล้เคียงกัน ต่างเป็นคนหนุ่มที่ห้าวหาญ ไม่รู้จักยืดหยุ่น ต่างมีความแค้นต่อกัน ไม่มีวันร่วมมือกันได้ เฟิ่งอวิ๋นหล่างรู้ดี 

 

 

เมื่อนึกถึงว่าเวลานี้ซูเหิงกำลังโดดเด่นในราชสำนัก ความจริงแล้วซูจิ่วซือเป็นห่วงซูเหิง เขาอายุน้อย ยังหนุ่มก็มีตำแหน่งสูง ยากที่จะหลีกเลี่ยงความลำพองใจ หากไม่ระวังอาจจะตกจากที่สูง จำเป็นต้องมีคนใกล้ชิดคอยเตือน 

 

 

แต่จะเลือกใครเป็นเรื่องยาก จื่อหลานไม่มีสายตายาวไกลพอ นางช่วยจัดการงานในจวนได้ แต่ไม่อาจเตือนซูเหิงได้ 

 

 

“พี่ คิดอะไรอยู่ ถ้าเหนื่อยก็ไปพักก่อนเถอะ ข้าจะไปทูลฝ่าพระบาท” 

 

 

“ก็ดี เจ้าไปเถอะ!” 

 

 

ซูจิ่วซือพูดจบก็ลุกเดินกลับเรือนที่เคยอยู่ นางเหนื่อยล้าจริงๆ