ตอนที่ 688 สืบสภาพ / ตอนที่ 689 เลิกเด็ดขาด

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 688 สืบสภาพ 

 

 

ทันทีที่เข้าไปในเรือน สาวใช้ในเรือนก็รีบถวายบังคม 

 

 

ซูจิ่วซือโบกมือ ให้สาวใช้ลุกขึ้น แล้วให้อาหลานเข้าไปในห้อง ซูเหิงให้คนมาทำความสะอาดเรือนเรียบร้อยแล้ว ในห้องไม่มีฝุ่นละออง การตกแต่งทั้งหมดยังคงเดิม ทุกอย่างเหมือนเมื่อตอนที่นางจากไป 

 

 

ซูจิ่วซือนั่งที่ริมหน้าต่าง เห็นหนังสือที่นางเคยวางไว้ริมหน้าต่างยังคงอยู่ จึงหยิบมาอ่าน 

 

 

อาหลานมองไปรอบๆ ถามด้วยความประหลาดใจ “ฮองเฮา นี่เป็นห้องที่ฮองเฮาเคยประทับหรือ” 

 

 

“ใช่” 

 

 

ซูจิ่วซือตอบอย่างเรียบๆ 

 

 

“ในนี้ปัดกวาดสะอาดเรียบร้อย ท่านโหวมีน้ำใจจริงๆ ดูออกว่าท่านโหวรักฮองเฮามาก” 

 

 

ซูจิ่วซือได้แต่ยิ้ม ไม่ได้พูดตอบ ซูเหิงเป็นคนมีน้ำใจ สำหรับซูเหิงแล้ว โลกนี้เขามีญาติคนเดียวคือนาง ส่วนตระกูลกู้ เขารู้สึกเกลียดชังมาก 

 

 

ซูเหิงเป็นลูกชายคนเดียวของซูหมิง และเป็นหลานคนเดียวของนาง เมื่อเห็นเขากอบกู้ดูแลจวนอันผิงโหวตามลำพัง นางชื่นชมเขามาก 

 

 

ประตูห้องถูกผลัก จู่ๆ จื่อหลานก็เดินเข้ามา นางมาหาซูจิ่วซือ แล้วคุกเข่าถวายบังคม ซูจิ่วซือรีบวางหนังสือในมือลงแล้วประคองจื่อหลานให้ลุกขึ้น 

 

 

ตอนที่นางจากไปได้มอบหมายจื่อหลานให้ช่วยดูแล ความจริงพิสูจน์แล้วว่านางดูคนไม่ผิด จื่อหลานจัดการงานในจวนอันผิงโหวได้ดีมาก 

 

 

“คุณหนู กลับมาก็ดีแล้ว บ่าวนึกว่าชาตินี้คงไม่ได้พบคุณหนูอีก” 

 

 

จื่อหลานขอบตาแดง ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางมีอยู่ซูจิ่วซือเป็นคนมอบให้ ถ้าไม่มีซูจิ่วซือก็ไม่มีนางในวันนี้ นางจึงสำนึกในบุญคุณของซูจิ่วซือมาตลอด 

 

 

“อย่าพูดอะไรโง่ๆ ข้ากลับมาแล้ว จื่อหลาน ขอบใจเจ้า” 

 

 

“เป็นเรื่องที่บ่าวสมควรทำ บ่าวต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่คุณหนูมอบหมาย “จื่อหลานพูดน้ำเสียงเหมือนละอายใจ 

 

 

ซูจิ่วซือยิ้มให้จื่อหลาน “จื่อหลาน เจ้าทำได้ดีมาก ใช่สิ จื่อหลาน เฉี่ยวฉินมาได้อย่างไร เจ้าเล่าให้ข้าฟังหน่อย” 

 

 

ซูเหิงชอบแม่นางคนนี้ ซูจิ่วซือจึงสนใจเรื่องของเฉี่ยวฉิน อยากเข้าใจเฉี่ยวฉินมากขึ้น 

 

 

“บ่าวก็คิดจะบอกคุณหนูเรื่องของเฉี่ยวฉิน เมื่อก่อนเคยคิดจะเขียนจดหมายบอกคุณหนู แต่รู้ว่าเรื่องราวในแคว้นเจียงก็มีมากมาย เกรงว่าจะทำให้คุณหนูลำบากใจ” 

 

 

ซูจิ่วซือเข้าใจลำบากใจของจื่อหลาน รู้ว่าเฉี่ยวฉินไม่ใช่คนที่น่าวางใจ สีหน้าของนางเริ่มเครียด “เรื่องราวเป็นอย่างไร” 

 

 

“เฉี่ยวฉินเป็นคนที่ท่านโหวพาเข้าจวน ท่านโหวชอบเฉี่ยวฉินมาก อยู่แต่ในห้องของเฉี่ยวฉินทุกวัน หลงใหลเฉี่ยวฉินเป็นพิเศษ เรื่องนี้บ่าวไม่อาจพูดอะไรได้ 

 

 

ก่อนหน้านี้บ่าวเคยเห็นแม่นางเฉี่ยวฉินพาเป่าเอ๋อร์สาวใช้ใกล้ชิดไปเดินเล่น บังเอิญได้ยินแม่นางเฉี่ยวฉินพูดว่าผงเสน่ห์ใช้ได้ผลจริงๆ ให้เป่าเอ๋อร์เตรียมไว้อีก 

 

 

บ่าวรีบไปสืบถามข้างนอก ได้ความว่าผงเสน่ห์เป็นยากระตุ้นอารมณ์เพศอ่อนๆ แม่นางเฉี่ยวฉินเอายานี้มาให้ท่านโหวกิน ถ้านานเข้า บ่าวเกรงว่าร่างกายท่านโหวจะรับไม่ไหว” 

 

 

เมื่อได้ยินอย่างนี้ ซูจิ่วซือก็ขมวดคิ้วแน่น ถ้าอย่างนี้ เฉี่ยวฉินก็ไม่ได้ชอบซูเหิงอย่างจริงใจ นางใกล้ชิดกับซูเหิงด้วยจุดหมายบางอย่าง 

 

 

“แม่นางเฉี่ยวฉินเป็นคนออดอ้อนเอาใจเก่ง มักจะตามติดท่านโหว ช่วงนี้บ่าวเห็นหมอในจวนไปตรวจท่านโหวหลายครั้ง 

 

 

ช่วงก่อนรู้สึกว่าท่านโหวจะเรี่ยวแรงถดถอย เวลานี้ร่างกายดูไม่ออกว่ามีอะไรผิดปกติ ไม่รู้ว่าหมอรักษาท่านโหวอย่างไร” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 689 เลิกเด็ดขาด 

 

 

จื่อหลานยิ่งพูดยิ่งอาย นางเป็นผู้หญิง ไม่อาจพูดเรื่องนี้กับซูเหิงโดยตรง เดิมทีนางอยากบอกซูจิ่วซือ แต่คิดแล้วก็ไม่กล้าเอ่ย เวลานี้ซูจิ่วซือมาที่จวนอันผิงโหว จึงอดพูดไม่ได้ 

 

 

“จื่อหลาน เจ้าให้คนไปเชิญหมอฟางมานี่” 

 

 

จื่อหลานพยักหน้า ให้สาวใช้ไปเชิญหมอฟางทันที 

 

 

ครู่หนึ่งหมอฟางก็หิ้วหีบยาเข้ามาอย่างเร่งรีบ เขาอยู่ที่จวนอันผิงโหวมาตลอด จึงคุ้นเคยกับซูจิ่วซือ และยำเกรงซูจิ่วซือ ความร้ายกาจของนาง เขาเคยเห็นกับตามาแล้ว 

 

 

หมอฟางพอพบซูจิ่วซือก็ไม่รู้ว่าจะเรียกนางอย่างไร เขาลังเลครู่ใหญ่ สุดท้ายก็ตัดสินใจเรียกองค์หญิง 

 

 

“หมอฟาง ได้ข่าวว่าช่วงนี้เจ้าตรวจอาการให้ซูเหิงหลายครั้ง สุขภาพของซูเหิงมีปัญหาอะไร” 

 

 

“เอ่อ…” หมอฟางอึกอัก ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี ซูเหิงเคยกำชับไว้ ไม่ให้บอกใคร 

 

 

“พูดมาตามตรง หมอฟาง ข้าไม่มีความอดทนมากนัก รีบบอกมา” 

 

 

ซูจิ่วซือพูดเน้นเสียง หมอฟางเข่าอ่อน ตอบตามความจริง “ช่วงนี้ท่านโหวร่างกายอ่อนแอ เกรงว่าถ้าองค์หญิงมาเห็นเข้าจะเป็นห่วง จึงให้ข้าสั่งยาบำรุง 

 

 

ยานี้ทำลายสุขภาพ ดูภายนอกเหมือนไม่มีอะไร ความจริงภายในถูกทำลายอย่างรุนแรง จำเป็นต้องพักผ่อนให้ดี ถ้ายังไม่รู้จักควบคุมอย่างแต่ก่อน ร่างกายของท่านโหวคงทรุดแน่ ข้าเคยเตือนท่านโหว แต่…” 

 

 

แต่ซูเหิงเชื่อหรือไม่ เขาไม่รู้ เขาเป็นเพียงหมอคนหนึ่ง ไม่กล้าพูดอะไรมาก 

 

 

“ฮองเฮา ในเมื่อแม่นางที่ชื่อเฉี่ยวฉินนั่นมีแผนร้าย บ่าวไปจัดการนางเอง นางจะได้ไม่ทำร้ายท่านโหวอีก” 

 

 

อาหลานพอได้ยินอย่างนี้ ก็นึกออกทันทีว่าต้องสังหารเฉี่ยวฉิน จึงจะขจัดปัญหาอย่างสิ้นเชิง 

 

 

“ทำอย่างนี้ไม่ได้ ท่านโหวเอาใจใส่เฉี่ยวฉินจริงๆ แม้เฉี่ยวฉินไม่มีฐานะอะไรในจวนอันผิงโหว แต่นางก็ถือตัวเป็นนายหญิงของจวน ท่านโหวตามใจนาง รักและเอาใจนางมาก ไม่อาจขาดเฉี่ยวฉินได้ ถ้าจู่ๆ ฆ่านาง เกรงว่าจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูกับท่านโหว” 

 

 

จื่อหลานเห็นอย่างชัดเจนว่าซูเหิงรักเฉี่ยวฉินมาก ดูแลนางอย่างที่คาดไม่ถึง ถ้าเฉี่ยวฉินตาย ซูเหิงไม่ใช่คนโง่ เขาคงโทษซูจิ่วซือแน่ 

 

 

“อาหลาน เจ้าไปสืบเรื่องของเฉี่ยวฉินให้ดี ดูว่าก่อนนางมาจวนอันผิงโหวเคยใกล้ชิดกับใครมาก่อน และอีกอย่างหนึ่ง เจ้าไปที่ห้องของเฉี่ยวฉิน เอายาที่นางใช้มาด้วย จะได้ตรวจสอบ ดูว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่” 

 

 

อาหลานพยักหน้า แล้วออกจากห้องทันที 

 

 

พอได้ยินคำพูดของจื่อหลาน ซูจิ่วซือก็สงสัยเฉี่ยวฉิน รู้สึกว่าเฉี่ยวฉินมาใกล้ชิดกับซูเหิงด้วยจุดหมายบางอย่าง ไม่เช่นนั้นคงไม่วางยาซูเหิง ที่นางทำอย่างนี้ แสดงว่าต้องการเอาชีวิตของซูเหิงโดยไม่เหลือร่องรอย 

 

 

นางไม่ยอมให้คนอย่างนี้อยู่ใกล้ชิดซูเหิงแน่ ต้องหาวิธีให้ซูเหิงเลิกกับเฉี่ยวฉินอย่างเด็ดขาด จึงจะเป็นทางออกที่ดี 

 

 

ขณะนั้นเฉี่ยวฉินกำลังเอนตัวนอนบนเก้าอี้นุ่มอย่างผ่อนคลาย เป่าเอ๋อร์คุกเข่าอยู่ที่พื้นรับเม็ดหยางเหมยที่นางคายออกมา 

 

 

“แม่นาง ได้ข่าวว่าฮองเฮาแคว้นเจียงร้ายกาจมาก เวลานี้นางกลับมาที่จวนอันผิงโหวแล้ว เราจะทำอย่างไรดี” 

 

 

แม้เป่าเอ๋อร์จะกลัวซูจิ่วซืออยู่บ้าง เรื่องราวของซูจิ่วซือ นางเคยได้ยินมาไม่น้อย ดูซูจิ่วซืออยู่ห่างๆ ก็รู้ว่าซูจิ่วซือไม่ใช่คนที่จะแหย่ได้ง่ายๆ