มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 754

นั่นคือไดอารี่ของเควต้า

หลายปีที่ผ่านมานี้ เธอมักจะมีนิสัยชอบจดบันทึกอยู่เสมอ

เซร่าพลิกไปหน้าแรก และมันก็เป็นตั้งแต่ก่อนเควต้าพบเจอรัลด์

“ฉันได้มาเป็นครูอนุบาลแล้วในวันนี้ ฉันค่อนข้างพอใจเพราะฉันจะได้เห็นเด็ก ๆ มีความสุขและร่าเริงในทุก ๆ วัน ฉันไม่เคยมีแม่ตั้งแต่ฉันยังเด็กแล้ว บางทีฉันอาจจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวขนาดนี้ก็ได้เมื่อได้อยู่กับเด็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและร่าเริงกลุ่มนี้”

“วันนี้ฉันแอบได้ยินเพื่อนร่วมงานพูดลับหลังฉัน ครูคนนั้นพูดว่าฉันเติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและฉันก็ถูกพ่อแม่ทิ้งเมื่อฉันยังเด็ก ฉันแกล้งทำเป็นราวกับว่าฉันไม่ได้ยิน แต่ฉันก็เศร้าและเสียใจมาก ฉันหวังว่าฉันสามารถพบพ่อแม่ของฉันในวันหนึ่ง ดังนั้นฉันจะได้ถามพวกเขาใ่าทำไมถึงทิ้งฉันไป ทำไมพวกเขาไม่สามารถมอบวัยเด็กที่สวยงามและมีความสุขให้ฉันได้? ทำไมกัน?”

“…”

“ฉันทำงานในร้านอาหารตอนนี้ ฉันทำบางอย่างผิดพลาดไป ดังนั้นฉันจึงถูกหัวหน้าดุ มีชายหนุ่มร่ำรวยคนหนึ่งมาช่วยฉันไว้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันรู้ว่าเขามีจิตใจที่ดีทันทีที่ฉันเห็นเขา”

“ฉันพบเขาอีกครั้ง และเขาช่วยฉันไว้อีกครั้งแล้ว แต่ฉันเริ่มประหม่าทุกครั้งที่ฉันเห็นเขา เป็นเพราะเขาร่ำรวย และฉันเป็นแค่ผู้หญิงที่ยากจนคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เขาบอกฉันว่าเขามีประสบการณ์แบบเดียวกับฉัน ฉันไม่รู้ว่าทำไมแต่ฉันยังคงมีความรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายใจดีและเป็นมิตร ฉันรู้สึกถึงความรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่ฉันอยู่เคียงข้างเขา!”

“ฉันคิดถึงการพบเขามาก ฉันอยากจะพบเขาอีกครั้ง วันนี้ฉันพบเขาอีกครั้ง ฉันอยากจะอยู่กับเขาและดูแลเขา ฉันอยากจะดูแลเขาในทุก ๆ ทางที่เป็นไปได้ แต่ฉันรู้ว่าเขามีผู้หญิงที่เขารักอยู่แล้ว ผู้หญิงคนนั้นสวยและใจกว้างมาก เจอรัลด์อาจจะไม่ตกหลุมรักฉัน แต่ฉันก็ยังคงเต็มใจที่จะทำอะไรก็ตามเพื่อเขาอยู่ดี”

“ถ้าฉันมีครอบครัวของตัวเอง ฉันจะบอกเจอรัลด์ว่าฉันขอบเขา แต่ฉันไม่มีอะไรเลยตอนนี้ ฉันเป็นเด็กกำพร้า ฉันไม่มีแม้แต่ครอบครัวด้วยซ้ำ ดังนั้นฉันสงสัยว่าฉันยังสมควรได้รับความรักอยู่ไหม”

เซร่าพลิกดูไดอารี่ที่ลูกสาวตัวน้อยที่น่าสงสารของเธอเก็บเอาไว้ โดยไม่รู้ตัว ทุก ๆ หน้าของไดอารี่กลายเป็นเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของเซร่าแล้ว

“เป็นเวลานานกว่ายี่สิบปีแล้ว ฉันไม่แม้แต่จะรู้ด้วยซ้ำว่าลูกสาวของฉันต้องเผชิญกับความคับข้องใจและความขมขื่นแบบไหน เธอยังเด็กมากเกินไปที่จะเผชิญกับความทุกข์ยากเช่นนี้”

เซร่าถือไดอารี่และร้องไห้

“เจอรัลด์ นายกลับมาแล้ว! ฉันออกไปซื้อพวกผักมาน่ะ ฉันจะไปทำอะไรอร่อย ๆ เดี๋ยวนี้แหละ!”

ทันใดนั้น เซร่าก็ได้ยินเสียงแจ่มชัดของเด็กสาวคนหนึ่ง

เซร่าถึงกับตกตะลึงไปเมื่อเธอได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้น

เธอวิ่งออกไปจากห้องอย่างรีบร้อน

เป็นเควต้าที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

“คุณ…คือ?”

เควต้าถามคำถามทันทีที่เธอเห็นคนแปลกหน้าเดินออกมาจากห้องนอนของเธอ

“ฉันเป็น…”

มือทั้งสองข้างของเซร่ากำลังสั่นเทา

“เควต้า เธอคือ คุณอาเฟนเดอร์สัน เธอจะทำอาหารให้พวกเราในบ้านตั้งแต่นี้ไป เธอสามารถไปซื้อผักและทำอาหารกับเธอในครัวได้!”

เจอรัลด์ตอบกลับทันที

เซร่าพยักหน้าเล็กน้อย

ทันใดนั้น เควต้าก็มีสีหน้าเห็นใจเมื่อเธอเห็นใบหน้าของเซร่าซึ่งเต็มไปด้วยแผลเป็น

เธอเริ่มมีความรู้สึกแปลก ๆ ทันทีที่เธอเห็นเซร่า มันเป็นความรู้สึกของความคุ้นเคยซึ่งเธอไม่เคยรู้สึกมานานมากแล้ว

เควต้ายิ้มและพยักหน้า “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณอาเฟนเดอร์สัน ฉันเควต้า สมิธ! พวกเราจะรับผิดชอบในเรื่องอาหารและชีวิตประจำวันของเจอรัลด์ตั้งแต่นี้ไป!”

จริง ๆ แล้ว เจอรัลด์จะไม่มีวันปล่อยให้เควต้ารับใช้เขาหรอก

แต่เควต้าเป็นคนปฏิเสธที่จะมีชีวิตที่ปราศจากการงาน หลังจากช่วงเวลายาวนานที่พยายามโน้มน้าวเธอ เจอรัลด์จึงตัดสินใจว่ามันไร้ประโยชน์ที่จะหยุดเธอจากการทำงานให้เขา

เซร่าเป็นอาที่แท้จริงของเขา หมายความว่ามันจะเป็นการล่วงเกินที่ให้เธอรับใช้เขา

แต่ขณะนั้น เจอรัลด์ก็ไม่ได้พูดอะไรมากนัก

หลังจากนั้น เซร่าและเควต้าก็เข้าไปในครัวเพื่อเริ่มเตรียมมื้ออาหารถัดไป

เจอรัลด์รู้สึกปิติยินดี

แต่ในขณะที่เขาอารมณ์กำลังดีอยู่นั้น มาร์ตัดสินใจโทรหาเขา

“เจอรัลด์ มีบางอย่างผิดปกติ!” เขากล่าว

“อืม มีบางอย่างผิดปกติกับนายแน่! เกิดอะไรขึ้นล่ะ?” เจอรัลด์ถาม

“แม่งเอ้ย! นายไม่ควรให้ผู้หญิงขับรถจริง ๆ นะ! ให้ตายเถอะ! พวกเราเพิ่งมีประสบการณ์เฉียดตายน่ะสิ!”

มาร์เวนกลัวมากจนเขาเริ่มคร่ำครวญออกมา

‘หืมม…’

เจอรัลด์ค่อนข้างทำอะไรไม่ถูก ความจริงก็คือว่า สเตลล่าเป็นคนเดียวจากกลุ่มที่มีใบขับขี่ นอกจากนั้น มันจะไม่เป็นการสะดวกสำหรับเขาที่จะอธิบายให้พวกเขาฟังว่า ทำไมเซร่าถึงจะไปด้วยกัน นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเขาถึงขอให้สเตลล่าขับรถ และกลับไปกันเอง

“นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“อืม พวกเราไม่เป็นไร แต่พวกเราไปชนท้ายรถคนอื่นน่ะสิ ตอนนี้ ผู้หญิงบ้าคนนั้นกำลังสติแตกอยู่ เธอจะไม่ให้พวกเราไปไหน ไม่ว่าพวกเราจะบอกเธอว่ายังไงก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการให้เจ้าของรถมาที่นี่!”