จวินโม่เซี่ย จับมืออยี่กู้ฮั่น และถ่ายทอดปราณเชวียนบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างเขาอย่างรวดเร็ว อยี่กู้ฮั่น ไออ่อนแรง ราวกับเขากำลังสำลัก หยดเลือกเล็กๆเริ่มหยดออกจากมุมปากของเขา
” ไม่ดีแล้ว ! “
จวินโม่เซี่ยพยักหน้าและขมวดคิ้ว เขาเงยหน้ามองไปยัง จวินวูอี้
” ปัญหาใหญ่ และ ค่าใช้จ่ายในการช่วยเขานั้นสูงส่ง ! ข้าเกรงว่า ต้องใช้จ่ายอย่างมหาศาล … มหาศาลยิ่ง ! “
จากนั้นเขามอง ตู่กู้เซี่ยวอี้ และ ซุนเซี่ยวเหม่ย
” พวกเจ้าทั้งสอง มิเคยพบเจอ ? เร็วเข้า ไปที่นั่น รอก่อน ! “
เมื่อเขาเอ่ยว่า ที่นั่น … ชัดเจนว่าเขาหมายถึง ลานบ้านของ กวนเซียงฮั่น
จวินวูอี้ ได้ยิน และตระหนักได้ว่าเขาจำต้องยื่นมือเข้ามาไกล่เกลี่ย
” หลานเซี่ยวอี้ หลานเซี่ยวเหม่ย ไปหาพี่เซียงฮั่น พักผ่อนสักหน่อย ? เราทั้งคู่อยู่ที่นี่ พวกเจ้ามิได้กังวล ไม่มีสิ่งใดร้ายแรง ข้าจักบอกกล่าวสกุลของเจ้า ไม่นานจะมีคนมารับกลับ อยี่น้อยอาวุโสกว่าเจ้า … แต่เขายังเป็นชาย การมีพวกเจ้าอยู่ที่นี่ จะเป็นปัญหาขัดขวาง จวินโม่เซี่ยช่วยเหลือเขา “
ตู่กู้เซี่ยวอี้ บุ้ยปาก เนื่องจากไม่รู้สึกพอใจ นางยอมรับว่า น้าจวินสามนั้นมีเหตุผลยิ่ง แต่สิ่งนี้ทำให้นางเหมือนเป็นคนอื่น จากนั้นสาวน้อยส่ายเอว นางพ่นลมหายใจเพื่อแสดงความไม่พอใจและปฏิเสธ แต่กระนั้น นางก็ถูกลากออกไปโดย ซุนเซี่ยวเหม่ย ลูกสาวคนโตสกุลซุน สายตากว้างไกล นางตระหนักได้นานแล้วว่า สองน้าหลานนี้ มีภาษาลับที่สื่อสารกันเมื่อมี ผู้อื่นอยู่ร่วมด้วย
” เจ้าหาองค์หญิงไม่เจอจริงหรือ ? “
จวินวูอี้พ่นลมทางจมูกและยิ้ม
” เจ้าจะกลับมาได้อย่างไรหากเจ้าไม่เจอนาง สหายหนุ่ม ? เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือ ? เจ้าจะไม่สัญญาหากเจ้าไม่สามารถทำภารกิจนั้นให้สำเร็จได้ ! “
” เมื่อท่านรู้เหตุใดจึงถาม ? “
จวินโม่เซี่ยถ่ายลมปราณเข้าสู่ร่างอยี่กู้ฮั่นต่อไป และเริ่มการประสานกระดูก จากนั้นเขาถอนใจไร้หนทาง
” น้าสาม องค์หญิงเกลียดชังข้า แต่ข้ามิโทษนางเนื่องการกระทำข้าเป็นดั่งคนเลวทราม อยี่กู้ฮั่นอาจเยือกเย็น และ สันโดษ แต่เขาเป็นคนดี “
น้ำเสียงจวินโม่เซี่ยจริงจังขึ้นขณะเขาต่อ
” แต่อาจเป็นว่า … การตัดสินใจช่วยพวกเขาอาจมิใช่สิ่งถูก แท้จริงนั้น พวกเรามิควรช่วยเหลือพวกเขา ! น้าสาม ท่านต้องตระหนักว่า สกุลจวินเรามิได้มั่นคงในเวลานี้ … แล้วเรายังคงนำพาปัญหาอื่นมาใส่ตัว ! ข้าได้ตระเตรียมสำหรับเรื่องนี้ มั่นใจไม่มีผู้ใดคลางแคลงว่าข้ามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ข้าอาจทิ้งร่องรอยเล็กน้อยไว้ การมีอยู่ของ ซุนเซี่ยวเหม่ย และ ตู่กู้เซี่ยวอี้ สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นความเสี่ยงมหาศาล แท้จริงนั้น อาจเป็นรางวัลชิ้นใหญ่ได้เช่นกัน ! อย่างที่สอง ท่านและข้ารู้ว่าสถานะชายผู้นี้อ่อนไหวยิ่ง ! นั่นอาจก่อให้เกิดการต่อต้านเราได้ในภายหน้า … ซึ่งจักนำพาปัญหาใหญ่มาได้ “
จวินโม่เซี่ยมอง จวินวูอี้ เคร่งเครียด
” น้าสาม ท่านมิควรมองข้ามเรื่องนี้ การเกี่ยวข้องระหว่างสกุลจวินกับชายผู้นี้อาจะมิใช่สิ่งดี ! “
” ข้าคิดถึงสิ่งที่เจ้าเอ่ยมาแล้ว ! “
จวินวูอี้หันเพ่งมองล้ำลึกกลับไปยังจวินโม่เซี่ยและเอ่ยด้วยน้ำเสียงภูมิใจ
” เจ้าต้องรู้ว่าพ่อเจ้า น้าสอง และข้าเติบโตขึ้นและฝึกฝนกับคนมากมาย พวกเรามีกันสิบเก้าคน แต่กระนั้น นอกจาก อยี่กู้ฮั่น สามพี่น้องสกุลตู่กู้ มูล่งเฉิงหลงแห่งสกุลมูล่ง และข้า ซึ่งพวกเราเหลืออยู่เพียงหกเท่านั้น ! “
จวินวูอี้ถอนใจ
” ในเรื่องของวันนี้ ข้ารู้ว่าการที่ช่วยเหลือ อยี่กู้ฮั่น จะทำให้องค์จักรพรรดิไม่พอพระทัย แต่กระนั้น พระองค์เพียงรู้สึกไม่พอพระทัยแค่นั้น ! พระองค์อึดอัดใจกับ อยี่กู้ฮั่น มานานนับสิบปี เช่นนั้นนี่จึงมีใช่ครั้งแรก … แต่ข้าจักเผชิยหน้ากับพี่ทั้งสิบสามในโลกหน้าได้เช่นไร หากข้าเปลี่ยนการตัดสินใจตอนนี้ ? แม้แต่ทวดของเจ้าก็ไม่อภัยให้ข้า ! และหากเกิดสิ่งเหลือเชื่อ และ ทวดของเจ้าอภัยให้ข้า ข้าก็มิอาจมีชีวิตอยู่ได้หลังจากไตร่ตรองตัวเองแล้ว ! ดังนั้น ยังคงพยายามช่วยเขาต่อไป ! “
” จดจำไว้ในหัวใจเจ้า โม่เซี่ย จวินมิได้จำกัดความเพียงแต่ผู้ที่สูงส่ง ! พวกเรากตัญญูเสมอ ! ผู้ที่จะกระทำการบางอย่างเมื่อบางสิ่งไม่ถูกต้อง ผู้ที่ซื่อตรง ! ลูกหลานสกุลจวินสานต่อความภาคภูมิใจนี้มายาวนาน และมันจะเป็นเช่นนี้เสมอ ปู่ทวดของเจ้า ซึ่งคือ ปู่ของปู่เจ้า เป็นเพียงช่างตีเหล็กสามัญ แต่กระนั้น เขาส่งต่อบทเรียนสำคัญสู่ปู่ของข้าเมื่อท่านสิ้นใจลง …”
จวินวูอี้น้ำเสียงเคร่งขรึม
” สิ่งที่ปู่ทวดของข้าสอน ? “
จวินโม่เซี่ยกระหายใคร่รู้
” การมีลูกมิได้ทำให้เจ้าเป็นชาย ! แต่มันคือ จิตวิญญาณอันทรหดซึ่งใดเปรียบไม่ได้ ! “
จวินวูอี้เอ่ยสิบห้าคำนี้เชื่องช้า
เขาไร้ทางเลือกแต่ต้องถ่ายทอดคำสั่งสอนนี้ แม้นคำเหล่านั้นจะหยาบคาย และมิใช่การสั่งสอนที่สวยหรู
” …การมีลูกไม่ทำให้เขาเป็นชาย ! แต่คือจิตวิญญาณอันทรหดซึ่งใดเปรียบมิได้ … “
จวินโม่เซี่ยพึมพัมประโยคนี้ชั่วครู่ แรกเริ่มเขาต้องการหัวเราะ แต่แล้วเขาตระหนักได้ว่า คำเหล่านั้นกลับกลายเป็นคำที่เขาชื่นชอบยิ่ง
” ท่านปู่ทวดสอนได้ดี ! “
จวินโม่เซี่ยชื่นชมเสียงดัง และเริ่มตื่นเต้น จากนันเขาเอ่ย
” ดูเหมือนว่าเหล่าบรรพชนไม่บกพร่องแม้เมื่ออยู่หน้าประตูแห่งยมโลก ! เขายังคงเป็นบุรุษแท้จริง ! “
” แน่นอน ! ผู้คนมากมาย มีจิ๋มอยู่ใต้จู๋ของเขา แต่ บุรุษที่แท้จริงมีเพียงน้อยนิด ! บุรุษ ? บุรุษคือสิ่งใด ? “
จวินวูอี้มองหลานชายสีหน้าราวเหยี่ยว
” บุรุษคือผู้ที่ยืนหยัดสูงตระหง่า ! เขายังมีหัวใจที่ภักดีและประสงค์ของเหล็ก ! เขาคือผู้ที่มีจิตวิญญาณที่ทรหดอันหาที่เปรียบมิได้ ! “
จวินโม่เซี่ยหัวเราะลั่นขณะเขาเอ่ยอย่างไร้กังวล ประโยคที่เขาเอ่ยมานั้นออกจาจากใจ มันผ่อนปรนความกังวลต่างๆ
” แน่นอน ! หาเป็นคนขลาด เขาจะระมัดระวัง และรักชีวิต … และหากเขาเกรงกลัวความตาย .. เขาก็มิอาจถือได้ว่าเป็น บุรุษแท้จริง แม้นว่าเขาจะมีภรรยานับร้อย และเป็นพ่อของเด็กแปดร้อย ! “
จวินวูอี้หัวเราะเบิกบานใจ
” ประสงค์ของเหล็กและหัวใจที่ภักดี จะเป็นชายผู้ที่มีจิตวิญญาณที่ทรหดอันหาที่เปรียบไม่ได้ เอ่ยได้ดี ! “
” ข้าเพียงแค่ชื่นชมแปดคำสั่งสอนสุดท้ายของบรรพชน ! “
จวินโม่เซี่ย หัวเราะสบายใจ
” ประโยคนี้ข้าชื่นชอบยิ่งนัก ราวกับพระเจ้าเขียนตามที่ข้าชื่นชอบ ! ข้าสามารถใช้แปดคำนี้เพื่อดำเนินชีวิต และ คู่ควรแก่สกุลบรรพชน ! “
จวินวูอี้ยิ้ม
” ถูกแล้ว ! วาจาของเขาอาจดูหยาบคาย และ ไร้มารยาท แต่พวกเขาใจกว้างและมีความหมายอยู่ภายใน คำพูดของพวกเขานั้นเป็นเลิศอย่างแท้จริง ! “
” เพื่อไปต่อในเส้นทางของเขา และทำสิ่งที่ใจปรารถนา มันคือเส้นทางชั้นเลิศแห่งชีวิต ! “
จวินโม่เซี่ยรู้สึกเป็นสุขยิ่งอยู่ภายใน
คำสั่งสอนนี้เหมือนพวกเขาสร้างขึ้นเพื่อข้า !
” เจ้าชอบตีความคำเหล่านั้นเช่นนั้น แต่ข้าทำในสิ่งแตกต่าง บางทีนี่อาจเป็นความแตกต่างระหว่างนิสัยของเราทั้งสอง และ นั่นคือเหตุที่เรากระทำตัวแตกต่างกัน ! “
จวินวูอี้ยิ้มเชื่องช้า
” จิตวิญญาณที่ทรหดอันหาที่เปรียบไม่ได้ ! ข้าเข้าใจสี่คำเช่นนี้ มันคือสิ่งสำคัญที่จะมีชีวิตอยู่อย่างซื่อตรง โดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด ก่อนอื่นพวกเราต้องปิดกลั้นความผิดชอบชั่วดี และเพียงเท่านั้นพวกเราจึงมี จิตวิญญาณอันทรหด! “
” ความตายไม่ควรค่าแก่การหวาดกลัว เพียงแค่ความมั่งคั่ง และ รุ่งเรื่องไม่เพียงพอ ! ความมั่งคั่งจะต้องสำเร็จด้วยความปราดเปรื่องและเป็นธรรม ในขณะที่ยังมีมโนธรรมอยู่ ! “
จวินวูอี้เอ่ยแน่วแน่และเด็ดเดี่ยว
” ประสงค์ของปู่ทวดเจ้าคือ การเป็นคนดีและทำดีก่อน และจากนั้นจึงมีจิตสำนึกที่ชัดเจน สองสิ่งนี้จะต้องปฏิบัติตามก่อน เพียงแค่บุรุษเช่นนั้นเท่านั้นที่สามารถเอ่ยได้อย่างกล้าหาญในทุกสถานการณ์ ! “
จวินวูอี้ยิ้มกินใจ หลังจากเอ่ยคำสั่งสอนจบ
” เจ้าเข้าใจสิ่งที่บรรพชนของเราสั่งสอนได้แจ่มแจ้งหรือไม่ โม่เซี่ย ? เจ้าเข้าใจถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการที่ข้าตัดสินใจช่วยเขาหรือยัง ? “
” ขอรับท่านน้า ข้าเข้าใจ “
ตอบกลับสุภาพ
” สิ่งแรกท่านต้องเลือกเส้นทางที่ถูกต้อง จากนั้นใช่ความสามารถทำสิ่งที่ใจปรารถนา ! “
” ดี ! “
จวินวูอี้รู้สึกพอใจยิ่ง แต่กระนั้น เขามิได้ฟังอย่างถูกต้อง สิ่งที่เขาเข้าใจกับการเข้าใจของจวินโม่เซี่ยนั้นไม่เหมือนกัน แท้จริงแล้ว มันต่างกันสิ่งเชิง
จวินโม่เซี่ยเอ่ยว่า ค้นหาเส้นทางที่ถูกต้อง จากนั้นใช้ชีวิตไปตามปรารถนา ทว่า จวินวูอี้เอ่ยว่า ใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง และมีมโนธรรมอย่างชัดเจน สองสิ่งนี่ต่างกันสิ้นเชิง ความจริง สองคตินี้ขัดแย้งกัน และ มิได้ทำให้ความเหมายเหมือนกันแต่อย่างใด
จวินโม่เซี่ยยังไม่หยุดถ่ายทอดปราณให้ อยี่กู้ฮั่น และยังคงกระตุ้น เคล็ดปลดผนึกชะตาสวรรค์ แต่กระนั้น โลกนี้มีไม่ลมปราณมากพอจะเติมเต็มให้แก่ อยี่กู้ฮั่น เขายังคงไร้สติแม้นว่าลมหายใจจะคงที่แล้ว แต่ นี่คือสิ่งที่จวินโม่เซี่ยวสามารถทำได้แล้วในตอนนี้ ในที่สุดเขาสามารถทำให้ อยี่กู้ฮั่น มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่กระนั้น จวินโม่เซี่ยมิอาจทำให้จวินวูอี้ฟื้นคืนอย่างสมบูรณ์ … หรือทำให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้ …
จากนั้น มีผู้หนึ่งรายงานว่า แม่ทัพตู่กู้มาถึงพร้อมองครักษ์ พร้อมด้วย เสนาบดีซุน จวินวูอี้ เร่งรีบตระเตรียมการต้อนรับแขกของเขา ตู่กู้วูตี้ และ เสนาบดีซุน กำลังจะเข้าสู่จวนสกุลจวิน เมื่อได้ยินการประกาศการมาถึงของ องค์หญิงหลิงเมิง
ขุนนางเหวินนำพาองค์หญิงกลับสู่ราชวัง แต่แล้ว นางโวยวาย และ ร้องขอจะพบ อยี่กู้ฮั่น ประสงค์จะพบน้าอยี่ของนางนั้นรุนแรง จนองค์จักรพรรดต้องไปปลอบประโลมนางด้วยตัวเอง แต่นางเริ่มต่อต้านเมื่อพระองค์พยายามทำให้นางเย็นลง ยิ่งไปกว่านั้น ท่าทีของนางเยือกเย็น และ เหินห่างเขา …
เป็นเช่นนี้ต่อเนื่องไปชั่วขณะ แต่จากนั้น องค์จักรพรรดิก็ฝืนทำตามความต้องการของนาง
องค์หญิงสอบถามถึงที่อยู่ของ อยี่กู้ฮั่น หลังจากออกจาราชวัง ในที่สุดนางก็ได้รับรายงานว่า นายท่านสามจวิน จวินวูอี้ ได้ช่วยเหลือ อยี่กู้ฮั่น องค์หญิงหลิงเมิง เป็นสุดยิ่งเมื่อได้ยินข่าวนี้ และ มุ่งหน้ามายังสกุลจวินทันที …
ด้านหลัง องค์หญิงหลิงเมิง คือชายชราตัวสั่นเครือ หัวหน้าพวกเขาได้รับการยอมรับว่าเป็นเลิศทางการแพทย์ในนครเทียนเชียง ฟางฮุ่ยเฉิง ที่ตามพวกเขามาคือราชองครักษ์ผู้กำลังแบกหามอุปกรณ์การแพทย์ชั้นสูงไว้
” น้าอยี่ … “
องค์หญิงหลิงเมิงพุ่งตรงไปยังจวนสกุลจวิน ความจริงแล้ว นางวิ่งเข้าด้านในไปแล้วหากไม่มีผู้ใดเห็น นางตรงไปยัง จวินวูอี้ และถาม
” น้าสามจวิน น้าอยี่ข้าเป็นเช่นไรบ้าง ? เขาอยู่ที่ใด ? “
นางไม่รู้ตัวเลยว่านางเกือบจะตะโกนออกมา และ กริยาของนางอาจไร้เหตุผลกับคนส่วนใหญ่
จวินวูอี้ฝืนยิ้ม และพยักหน้า องค์หญิงเกือบล้มลง ราวกับนางสะดุดหลุมบนพื้นธรณี จากนั้น นางถามเสียงสั่น
” เขาจากไปแล้ว … “
” องค์หญิงมิควรคาดเดาเช่นนั้น อากรของเขาสู้ไม่ดี แต่อยี่กู้ฮั่นยังมีชีวิตอยู่ ท่านอย่าได้กังวล ข้าพบเขาที่ลานบ้านจวินโม่เซี่ย เอ่อ .. ข้ามิได้ตั้งใจปกปิดสุขภาพของอยี่กู้ฮั่นจากองค์หญิง เขาคงที่แล้ว แต่อาการนั้นยังไม่ใคร่ดี “
จวินวูอี้บอกนางถึงความก้าวหน้านี้ เนื่องจากเขาเชื่อว่านางจักต้องเตรียมใจเมื่อนางเห็นเขา
นายท่านสามจวินกระทำเช่นนี้เพียงเพราะนางคือลูกสาวจักรพรรดิ และสำคัญที่ต้องสง่างามเนื่องจากนางคือองค์หญิงแห่งอาณาจักร ไม่เหมาะสมหากนางจะเผยความรู้สึกห่วงใยและเป็นกังวลต่อยี่กู้ฮั่น และ แน่นอนต้องไม่สิ้นหวัง
เด็กสาวผู้นี้มีอารมณ์และตรงไปตรงมายิ่งนัก
เขาได้เห็นวิธีที่องค์ชายทั้งสามต่อสู้กัน แต่กระนั้น เขาได้เห็นความต่างในท่าที ที่องค์หญิงปฏิบัติต่ออยี่กู้ฮั่น จวินวูอี้มิอาจกลั่นความคิดว่านางเป็นคนดี
พวกเขาไปถึงยังเตียงของ อยี่กู้ฮั่น
ชายชราทั้งสามตรวจสอบการบาดเจ็บอย่างถี่ถ้วน จากนั้น ฟางฮุ่ยเฉิงยืนขึ้น ส่ายหน้าอย่างสิ้นหวังขณะเขาเอ่ยติดขัด
” องค์หญิง นายท่าน อยี่ ได้รับบาดเจ็บทางกายอย่างสาหัส อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บภายในหลายแห่ง และการบาดเจ็บเหล่านี้อยู่ในจุดที่ร้ายแรง เป็นการยากที่พวกเราจักจัดการสิ่งเหล่านี้ได้ แต่ สถานการณ์ของเขาแย่ลงเนื่องด้วยเสียเลือดมาก ร่างกายมนุษย์สามารถฟื้นตัวได้หากเสียเลือดไปครึ่งหนึ่ง แต่กระนั้น เป็นการยากจะรักษาผู้ที่สูญเสียเลือดไปเหลือเพียงหนึ่งในสาม ไม่มียาใดสามารถช่วยเขาได้ ความจริงแล้ว ตอนนี้เขาควรสิ้นใจไปแล้ว นายท่านอยี่รอดอยู่ได้เพียงเพราะการถ่ายทอดปราณบริสุทธิ์ของสองผู้ทรงพลัง แต่ปราณเชวียนบริสุทธ์นี้มิอาจประคับประคองร่างของเขาไว้ได้นาน ทุกสิ่งจะแย่ลงเมื่อเวลาผ่านพ้นไป พวกเราแนะนำให้องค์หญิง ตระเตรียมพิธีศพล่วงหน้า “
ปรากฏว่าชื่อเสียงอันน่าเกรงขามของพวกเขาในฐานะแพทย์นั้นไม่ได้ไร้เหตุผล พวกเขาสรุปถึงสถานการณ์ปัจจุบันของอยี่กู้ฮั่น และ ชะตากรรมที่มิอาจเลี่ยงได้ของเขา ความจริงพวกเขาคาดว่าร่างนีู้รักษาไว้โดยปราณเชวียนจากสองผู้ทรงพลัง ช่างน่าเศร้าที่ผู้เลื่องชื่อทั้งสามมิอาจรักษาชีวิตของเขาไว้ได้