” อะไร ? ท่านกำลังบอกว่าสถานการณ์ของน้าอยี่สิ้นหวัง ? ข้าไม่เชื่อเช่นนั้น ! หมอหลวง ข้าขอร้อง … โปรดหาหนทาง ! “
ร่างอันบอบบาง และใบหน้างดงามขององค์หญิงเริ่มซีดขาวราววิญญาณ เมื่อนางได้ยินการวินิจฉัยของสามผู้มีฝีมือ นางสำลัก ราวกับปากน้อยๆของนางเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าของนางมัวหมองสุดซึ้ง แต่กระนั้น นางยังไม่ยอมแพ้ ดังนั้นนางจึง อ้อนวอนต่อหน้าของทั้งสาม ฟางฮุ่ยเฉิง เพื่อหาหนทาง
” องค์หญิง ให้ข้าได้รายงาน … นอกจากการเสียเลือดมากแล้ว นายท่าน อยี่ ยังได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย กระดูหน้าอกแตกหัก ห้าอวัยวะตันได้รับความเสียหายอย่างมาก และเขาได้รับบาดเจ็บภายในที่รุนแรงกว่าสิบจุด ได้ฟังเช่นนั้นไม่น่ารื่นรมย์นัก … แต่ไร้ซึ่งหวังแม้น้อยนิดที่จะช่วย อยี่กู้ฮั่น … “
น้ำเสียง ฟางฮุ่ยเฉิงจริงจังยิ่งขณะอธิบาย
” แม้แต่สิ่งเหนือธรรมชาติก็พบว่าตัวเองนั้นไร้สามารถเมื่อต้องเผชิญกับสิ่งนี้ พวกเราสามารถค้ำจุนเขาได้เพียงชั่วคราว และท่านสามารถหาความเห็นจากผู้อื่นได้จนกว่าจะพอใจเกี่ยวกับ … กับเขานั้นมันยากยิ่ง … “
องค์หญิงหลิงเมิง มิอาจพยุงตัวเองได้อีกต่อไป นางตัวสั่นชั่วครู่ และล้มลง
ฟางฮุ่ยเฉิงถอนใจ และ พยักหน้าพร้อมกับแพทย์อีกสอง เขาไม่ประสงค์จะรบกวนองค์หญิง ดังนั้น เขาจึงจัดเก็บอุปกรณ์แพทย์เป็นระเบียบและจากไป
” น้าอยี่ … “
องค์หญิงหลิงเมิง พึมพัมเลื่อนลอย ความงดงามบนใบหน้าของนางสามารถทำลายล้างบ้านเมืองได้ … แต่กระนั้น สีผิวของใบหน้ากลับเป็นเช่นเดียวกับ อยี่กู้ฮั่น ผู้ใกล้สิ้นใจ
จากใบหน้าของ ตู่กู้วูตี้ ดูราวมิอาจทนทานได้อีก เขาถอนใจ และ พยักหน้า ไม่ประสงค์จะรบกวนทั้งสอง ดังนั้น จึงออกจากลานบ้าน และตรงไปยัง โถงใหญ่ในจวนสกุลจวิน
ตู่กู้เซี่ยวอี้ และ ซุนเซี่ยวเหม่ยยังคงอยู่ในลานบ้าน เพื่อเคียงข้าง องค์หญิงหลิงเมิง พวกนางกลัวว่าจักมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับพี่น้องอีก
ซุนเซี่ยวเหม่ย ไม่อาจเห็นหัวใจที่แตกสลายขององค์หญิง นางลังเลชั่วครู่แต่มิอาจอดทนได้ จากนั้น นางจึงกระซิบเบาและรวดเร็วไปยังหูของ องค์หญิงหลิงเมิง
จวินโม่เซี่ย สามารถช่วย นายท่านอยี่ได้ “
ซุนเซี่ยวเหม่ย มิใช่หญิงงาม แต่กระนั้น นางมากความสามารถ และ ปราดเปรื่องล้นเหลือ ความรอบรู้ของนางเปรียบได้ดั่ง ลี่โย่วหลาน นางได้ยินการสนทนาระหว่าง จวินโม่เซี่ย และ จวินวูอี้ สัมผัสเลือนรางว่า จวินโม่เซี่ยอาจสามารถช่วย อยี่กู้ฮั่น ได้ แต่กระนั้น นางยังไม่เข้าใจ เหตุใด จวินโม่เซี่ยจึงไม่ยอมรับงานนี้ … ยิ่งไปกว่านั้น นางใจอ่อนกับองค์หญิง ซุนเซี่ยวเหม่ย มิอาจห้ามความรู้สึกอ่อนใจเมื่อได้เห็นจวินโม่เซี่ยเงียบปากลง เมื่อได้เห็นท่าทางที่เสียใจของ องค์หญิง ด้วยเหตุนี้ นางจึงตัดสินใจบอกกล่าวองค์หญิงหลิงเมิงถึงความสามารถของจวินโม่เซี่ย
องค์หญิงเชื่อสิ่งที่ได้จากพี่สาวที่ดีของนาง โดยไม่คลางแคลงใจ นางมิเชื่อถืออันใดในตัวจวินโม่เซี่ย แต่กระนั้น นางไม่เคยสงสัยใจ ซุนเซี่ยวเหม่ย
องค์หญิงจะคิดว่านี่คือเรื่องไร้สาระในสถานการณ์ปกติ อย่างไรก็ตาม เวลานี้นางไร้หนทางอื่น นางจะคว้าฟางทุกเส้นที่สามารถหาได้ … หากมันเป็นเพียงหนทางเดียวที่จะช่วยชีวิตอยี่กู้ฮั่นได้ ดังนั้น นางจึงจำเป็นต้องลอง … แม้นว่าโอกาสในการช่วยเหลือเขาด้วยวิธีการนี้จะน้อยนิด
ไม่ว่าอย่างไร … ข้าต้องช่วยชีวิตน้าอยี่ให้ได้ !
ทุกคนจากไปแล้ว แต่ จวินโม่เซี่ยยังคงอยู่ที่นี่ ลานบ้านเล็กๆนี้คือที่พักของเขา และดูเหมือนว่า อยี่กู้ฮั่นที่บาดเจ็บจะยึดที่อยู่เขาไว้ ความจริงนั้น อยี่กู้ฮั่นกำลังนอนอยู่บนเตียงของเขา จวินโม่เซี่ย จักละทิ้งรังของเขาได้เช่นไร ? นั่นจึงเป็นเหตุผลเดียวที่เขายังอยู่ …
จวินโม่เซี่ยนั่งไขว้ขาบนเก้าอี้ในห้องของเขา ดวงตาปิดลง นายน้อยจวินกำลังครุ่นคิดสิ่งต่างๆ
ข้าจักต้องช่วย อยี่กู้ฮั่น เนื่องจากข้าสัญญากับท่านน้าสามว่าข้าจักช่วยเขา ! แต่กระนั้น สถานการณ์ของเขายากยิ่งจะรับมือ เช่นนั้น ข้าจักไปเกี่ยวข้องกับการรักษาได้เช่นไร ?
อยี่กู้ฮั่นเสียเลือดจำนวนมา และนั่นคือปัญหาใหญ่สำหรับหมอผู้เป็นเลิศทั้งสาม แต่กระนั้น สิ่งนี้มิใช่ปัญหาของ นายน้อยจวิน เนื่องจากเขามีความรู้ทางยาจากชีวิตก่อนอยู่ในหัว การถ่ายเลือดไม่เป็นปัญหากับฝีมือและพลังของจวินโม่เซี่ย ตราบใดที่เขาสามารถหาผู้ที่มีเลือดตรงกันได้ จากนั้นเขาสามารถช่วยถ่ายเลือดด้วยพรสวรรค์แต่กำเนิดของเขา ดังนั้น เขาจึงมิได้ถือว่าอาการนี้เป็นปัญหาใหญ่
จวินโม่เซี่ย มั่นใจว่าเขาสามารถรักษาแผลภายในที่เกิดจากกระบี่ได้ เขามีขุมสมบัติแห่งส่วนผสมทางการแพทย์ และ พวกมันมีสรรพคุณในการบำรุงจิตวิญญาณ สิ่งนี้จะช่วยในกระบวนการรักษา อยี่กู้ฮั่น จักไม่มีชีวิตที่สะดวกสบายมากนัก แม้นว่าเขาจักเหลือแขนอยู่เพียงข้างเดียวหลังจากการฟื้นฟู … เสร็จสิ้น
แต่กระนั้น ซี่โครงของคนผู้นี้คือปัญหาที่แท้จริง สถานการณ์ของเขารุนแรงยิ่งนัก และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก น่าฉงน ที่ซี่โครงทั้งสิบห้าแตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ด้วยเหตุนี้หน้าอกของเขาจึงเป็นหลุมลงไป ความจริงแล้ว ซี่โครงของเขาแตกหักราวก สามสิบห้า ถึง สี่สิบห้าชิ้น …
นี่คือปัญหาที่ยากยิ่ง !
ปัญหานี้ไร้ซึ่งวิธีการแก้ไข !
มันจักไม่เป็นปัญหาแม้แต่น้อยหากเป็นเพียงการบาดเจ็บที่กระดูกธรรมดา การบาดเจ็บนั้นจักหายอย่างเชื่องช้า ตราบใดที่เขาสามารถอดทนได้ แต่กระนั้น พลังชีวิตของเขาอ่อนแอนักในตอนนี้ และเขายังได้รับบาดเจ็บทั้งภายในและภายนอกมากมาย … ดังนั้น การเชื่อมกระดูกจะทำให้สูญเสีย อยี่กู้ฮั่น ไป มันจะทำให้โอกาสรอดชีวิตของเขาน้อยลงไปอีก !
อยี่กู้ฮั่นหลงเหลือพลังชีวิตในร่างเพียงน้อยนิด และ และปราณเชวียนในร่างของเขาเป็นของผู้อื่น เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว และ จวินโม่เซี่ย ชะโลมร่างของเขาด้วยปราณเชวียนบริสุทธิระดับสูงอย่างมหาศาล แม้นว่ามันจักไปถึงขีดจำกัดแล้วก็ตาม การใช้วิธีการเดิมนี้ก็มิอาจยื้อเขาไว้ได้ระหว่างการรักษา
อย่างไรก็ตาม หากข้ารักษาบาดแผลบนเนื้อหนังก่อน และเสริมปราณเชวียนเข้าสู่ร่างของเขา … อาจจะมีพลังชีพมากเพียงพอในร่างจนสามารถรักษากระดูได้บางส่วน … ข้าคาดว่า กระดูกของอยี่กู้ฮั่นจักเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี
จวินโม่เซี่ย ขมวดคิ้ว ดวงตายังคงปิดอยู่ ความคิดเขาหนักอึ้งด้วยความสับสน แต่มิอาจหาเงื่อนงำในการแก้ไขได้ …
เวทนายิ่งนัก ที่โลกนี้ไม่มียาชา ! การรักษา อยี่กู้ฮั่น จะไม่ยากเช่นนี้หากข้ามียาชา …
เดียวก่อน … ยาชา ?!
จวินโม่เซี่ยตื่นตัวขึ้นทันใดพร้อมกับตบต้นขา จากนั้นเขาลืมตาด้วยความอัศจรรย์ เนื่องจากเขาไม่รู้สึกถึงมือตัวเองเมื่อตีลงไป …
ชัดเจนว่ามือของเขารู้สึกถึงการตี แต่ขาอ่อนของเขานั้นไม่รู้สึก ประหลาดยิ่งนัก …
หลังจากลืมตา นายน้อยจวิน เห็นองค์หญิงเอามือปิดหน้า น้ำตาจำนวนหนึ่งหลั่งไหลออกจาดวงตา ใบหน้าอันงดงามของนางมีรอยนิ้วทั้งห้าเป็นสีแดง และเริ่มบวม …
น่างฉงน ฝ่ามือปะทะเข้ากับใบหน้าองค์หญิง !
เขาตบหน้านางรุนแรงจนมิอาจหาสิ่งใดเปรียบ …
” เจ้าทำสิ่งใด ? เหตุใดเจ้าจึงหมอบคลานเช่นนี้ ?! เจ้าเดินมาที่นี่เงียบงันเช่นวิญญาณ ? ไม่ส่งเสียงหน่อยหรือ ? ข้ามิรู้เลย …. จ้าชอบหลอกหลอนผู้อื่นให้ตายหระนั้น ? “
หัวจวินโม่เซี่ยระเบิดด้วยความทุกข์ยาก เขากำลังครุ่นคิดอย่างหนัก และ มองหาวิธีแก้ปัญหา เขาจมจ่อมอยู่กับความคิดนั้นจนไม่ทันสังเกตุเมื่อองค์หญิงเข้ามา
… เขาตบใบหน้าอันงดงามของนางแทนที่จะตบหน้าขาตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ และนั่นคือใบหน้าอันงดงามของ องค์หญิง !
โชคของเขากับหญิงสาวช่าง … สิ้นหวังแท้จริง …
ชัดเจนว่าองค์หญิงเจ็บปวด และใบหน้าเล็กๆของนางเริ่มแดง แต่ผิดจากความคาดหวังของนายน้อยจวิน นางดูราวกับไม่มีโทสะแต่น้อย ความจริง ดวงตาของนางคล้ายดั่งอ้อนวอน นางเอ่ยปากถาม
” นี่ … ข้าขอร้องคุณชายน้อยจวิน … เจ้าช่วยน้าอยี่ของข้านะ ? “
จวินโม่เซี่ยตกตะลึงเมื่อมองใบหน้านาง จากนั้นเขาจึงเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น และ เริ่มมีโทสะ สีหน้าของเขาเริ่มคล้ายดั่งมีอสุนีบาตรุนแรง ราวกับยอดหอก สายตาเขาเหลือบไปยัง ตู่กู้เซี่ยวอี้ และ ซุนเซี่ยวเหม่ย รวดเร็ว และสายตาประหนึ่งคมมีดของเขา ทำให้พวกนางอยากจะหนีและตัวสั่น …
สาวน้อยผู้นี้มีความอดกลั้นอยู่บ้าง แต่กระนั้น หัวใจของลูกสาวคนโตแห่งสกุลซุนสั่นไหวเนื่องจากสิ่งที่อุบัติขึ้นนี้มีสาเหตุจากนาง นางมิได้พบกับจวินโม่เซี่ยบ่อยนัก แต่ชัดเจนจากพฤติกรรมของเจ้าเสเพลจวินนั่น …
เขาจักคิดบัญชีจากเรื่องที่เกิดวันนี้ ?
นางหวังว่าเขาจักตอบโต้อย่างรุนแรง เนื่องจากนางคือคู่หมั้นของเจ้าอ้วน …
” ช่วยเขา ? ข้าจักช่วยเข้าได้อย่างไร ? หมอชั้นนำสามลำดับแห่งอาณาจักรยังมิอาจทำสิ่งใดได้ แล้ว เสเพลเช่นข้าจักทำสิ่งใดได้ ? พระองค์ ท่านร้องขอผิดคนแล้ว ! เรื่องตลกของท่านไม่น่าขัน ไม่น่าขันแท้จริง ! “
จวินโม่เซี่ยจมูกบานออกขณะเขาพ่นลมทางจมูก เขาคิดหาวิธีช่วยชีวิต อยี่กู้ฮั่น ไว้หมดแล้ว แต่กระนั้น ตอนนี้เขาทิ้งความคิดนั้นไป
ไม่มีสิ่งใดจะทำกับองค์หญิงผู้นี้
หากข้าประสงค์จะช่วยผู้ใด … แม้นว่ามีผู้คนมากมายพยายามจะหยุดข้า ! แต่ องค์หญิงหลิงเมิงไม่รู้เห็นในฝีมือข้า แต่นางยังมาร้องขอความเมตตาจากข้า ผู้ที่บอกนางหากมิใช่ ตู่กู้เซี่ยวอี้ ก็ต้องเป็น ซุนเซี่ยวเหม่ย แม้ข้ามิอาจคิดว่าสาวน้อยจักเปิดเผยข้อมูลนั้น ดังนั้นจึงเหลือเพียงแต่ ซุนเซี่ยวเหม่ย ลูกสาวคนโตแห่งสกุลซุน
จวินโม่เซี่ยรู้สึกราวถูกหักหลัง
ความรู้สึกนี้แปรเปลี่ยนความรู้สึกเป็นเป็นโกรธเคือง … ในเวลาเพียงเสี่ยววินาที
การเผยความลับ ในสายตาจวินโม่เซี่ยคือการทรยศอย่างแท้จริง
มีหนึ่งสิ่งที่จวินโม่เซี่ยมิอาจยอมรับได้ ผู้ที่ขู่เข็ญเขา
จวินโม่เซี่ยมักจะเกลียดชังผู้มีนิสัยหลอกลวง
องค์หญิงหลิงเมิงมิอาจอดกลั้นความรู้สึกสิ้นหวังหลังจากได้ยินคำตอบที่เยือกเย็นและไม่ประสงค์ของเกี่ยวของ จวินโม่เซี่ย นางขบฟันทันใด และ ดวงตาของนางเผยแววหนักแน่น นางลุกขึ้นเชื่องช้ากระทั่งยืนตัวตรงต่อหน้า นายน้อยจวิน จากนั้น คุกเข่าลงทันที
นางคุกเข่าอย่างมั่นคง
” ข้าขอร้องเจ้า ! ข้าขอร้องเจ้า ได้โปรดช่วยท่านน้าอยี่ของข้า ! ข้าขอร้อง ได้โปรด ข้าขอร้อง … “
องค์หญิงหลิงเมิง หมอบคำนับ สีหน้าของนางบ้าบิ่นและบ้าคลั่ง แต่มันแสดงถึงความทุกข์อันไร้สิ้นสุด
” น้าอยี่ของข้าประสบกับความโศกเศร้ามากมายเพราะความดื้อรั้นของข้า … เขาต้องพบเจออันตรายมากมายเนื่องจากข้านั้นไร้เหตุผล … ข้าไม่มีสิ่งใดตอบแทนเขา แต่ตอนนี้เขากำลังจะตาย … และข้าจักสะละสิ้นทุกสิ่งอย่างเพื่อเขา ! “
” จวินโม่เซี่ย ข้า … ข้าคำนับต่อหน้าเจ้า ! “
องค์หญิงหลิงเมิง ก้มลงพื้นอย่างรุนแรง กำเนิดเตียง ตุ๊บ ! ดังก้อง เป็นการพิสูจน์ว่านางใช้กำลังทั้งหมดเพื่อคำนับต่อหน้าเขา มิใช่ความพยายามที่ไม่จริงจัง
ตู่กู้เซี่ยวอี้ และ ซุนเซี่ยวเหม่ย ได้รับการกระทบความรู้สึก
กริยาอันสูงส่งขององค์หญิงแห่งนคร ! นางคุกเข่าลงต่อหน้าผู้ต่ำต้อย และอ้อนวอนเขา … เพียงเพื่อการช่วยชีวิต ผู้คุ้มกันของนาง !
ราชวงศ์ ต่อสู้เพื่ออำนาจมาตั้งแต่โบราณกาล แน่นอนว่ามีผู้คนมากมายในสกุลผู้ที่เที่ยงธรรม แต่กระนั้น การกระทำขององค์หญิงคือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น
ราชวงศ์ จักต้องประพฤติอยู่ในเกียรติ แต่ องค์หญิงหลิงเมิง ละทิ้งหมดสิ้น องค์หญิง คุกเข่าต่อหน้าจวินโม่เซี่ยราวกับกำลังคุกเข่าต่อหน้าผู้อาวุโสที่น่าเคารพนับถือ
ทุกผู้สามารถรู้ถึงความตั้งใจจากท่าทางการคุกเข่าขององค์หญิง
ไม่ว่าต้องเสียเท่าใหร่ … หรือมีโอกาสสำเร็จหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นความหวังที่ลมแล้ง … นางก็ไม่ลังเล
สีหน้าภายนอกของจวินโม่เซี่ยสงบนิ่งดั่งผืนน้ำ แต่เขารู้สึกแย่อยู่ภายใน เขาไม่คาดว่า องค์หญิงหลิงเมิง จะกระทำเช่นนี้เพื่อ อยี่กู้ฮั่น
ตู่กู้เซี่ยวอี้ ก้าวยาวขณะนางเอ่ยทั้งน้ำตา
” คนเลว เหตุใดเจ้าจึงชักช้า ? องค์หญิงคุกเข่าต่อหน้าเจ้าและร้องขอ เจ้าต้องการสิ่งใดอีก ? ทำอะไรสักอย่างเร็วเข้า หากเจ้าสามารถ ! พวกเราสองคนคุกเข่าต้องหน้าเจ้ายังไม่เพียงพออีกหรือ ? “
สีหน้าจวินโม่เซี่ยเยือกเย็นขณะยื่นมืออกไปกัน ตู่กู้เซี่ยวอี้ ออกด้านข้าง จากนั้นเขามองไปยัง องค์หญิงหลิงเมิง ด้วยท่าทีต่างออกไป แล้ว เขาเอ่ยอย่างไร้อารมณ์
” ข้าเสียใจ .. ไม่มีสิ่งใดที่ข้าสามารถทำได้ “
ซุนเซี่ยวเหม่ย สั่นเทาทั้งตัว นางคาดการทุกอย่างได้รวดเร็ว นางตระหนักได้ว่ากำลังทำความผิดอันไม่น่าให้อภัยโดยการบอกกล่าวองค์หญิงถึงความสามารถของจวินโม่เซี่ย …