ลืมเรื่องหนึ่งไป นางมิได้นำนิสัยของจวินโม่เซี่ยมาพิจารณา
เขาแตกต่างจากผู้อื่นยิ่ง คนผู้นี้มิได้เผยตัวเองต่อผู้ใด ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับกฏนั้น !
เขาจักทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ !
นางเจตนาจะช่วยเหลือ องค์หญิงหลิงเมิง และ มอบความหวังให้นาง กระนั้นกลับทำให้จวินโม่เซี่ยโมโห ซึ่งทำลายทุกความหวังที่จักช่วยชีวิต อยี่กู้ฮั่น ได้
ตำแหน่งในการบ้านเมืองของ องค์หญิง และ อยี่กู้ฮั่น อ่อนไหวนัก ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ในสกุลจวินก็ย่ำแย่เช่นกัน สิ่งนี้ ทำให้จวินโม่เซี่ยไม่ประสงค์จะช่วยเหลือคนผู้นี้
” เหตุใดกัน ? สิ่งใดอีกที่เจ้าต้องการให้ข้าทำ ? สิ่งใดในโลกที่เจ้าต้องการจากข้า ? เจ้าจงบอกข้า ! ข้าจักให้คำมั่น ข้าจักมอบทุกสิ่งที่เจ้าร้องขอ ! “
องค์หญิงหลิงเมิงยังคงคุกเข่าลงพื้นอย่างสิ้นหวัง สีหน้าเหม่อลอย แต่กระนั้น นางยังคงคว้าความหวังสุดท้าย ขณะนางถามจวินโม่เซี่ย
” ไม่ว่าเจ้าจะพยายามเช่นไรก็ไร้ซึ่งความต่าง ข้าไม่เชื่อเจ้า “
จวินโม่เซี่ย เงยหน้าขึ้น มองไปยังท้องนภา เขาถอนใจยาว จากนั้นเอ่ยท่าที่เด็ดเดี่ยว
” องค์หญิง ข้าประสงค์จะช่วยเข้าอย่างแท้จริง แต่เจ้าจักต้องเข้าใจถึงสถานการณ์ของสกุลจวิน … อาจจะบอกว่ามันล่อแหลม … ก็มิน้อยไป และหากข้าสามารถรักษาอาการที่หมอชั้นยอดทั้งสามในนครมิอาจทำได้ สิ่งนั้นจะหมายถึง … “
จวินโม่เซี่ย ทอดถอนใจ
” ตอนนี้ … ผู้คนเพียงคลางแคลงใจ … และสงสัยในตัวข้า แต่กระนั้น มันจักกลายเป็นเรื่องจริง หากข้าสามารถช่วยชีวิต อยี่กู้ฮั่น ได้ ! องค์หญิง อยี่กู้ฮั่น คือหนึ่งในราชชื่อต้องห้ามสำหรับ องค์จักรพรรดิ การรักษาเขาอาจเทียบได้กับการต่อต้านองค์จักรพรรดิ ! เพียงหนึ่งเรื่องนี้ อาจเกี่ยวพันถึงชีวิตของสมาชิกสกุลจวินนับพัน … และผู้ติดตามนับหมื่น ในสถานการ์เช่นนี้ … เอ่อ … องค์หญิง … ท่านไม่คิดหรือว่า การสละชีวิต อยี่กู้ฮั่น จะเป็นความคิดที่ดี ? องค์หญิงจักทำในสิ่งที่แตกต่างไปหรือไม่ หากอยู่ในที่นั่งเดียวกับข้า ?
องค์หญิงคาดหวังให้ข้าเชื่อใจท่านได้เช่นไร ?! ในเมื่อ สกุลเทียน ยังมิอาจซื่อสัตย์ต่อผู้ใด องค์หญิงไม่รู้เรื่องนั้นกระนั้น ?”
จวินโม่เซี่ยเอ่ยไม่หยุดหย่อน
” ข้าสามารถปฏิญาณรักษาความลับของเจ้า … เจ้า … เจ้าถามว่าเจ้าจักเชื่อข้าได้ …. เช่นไร … ? … “
องค์หญิงหลิงเมิงกุมหัวคอตก นางรู้ว่ามิมีคำมั่นใดที่นางสามารถทำได้เพียงพอ นางไม่รู้ว่าจักอธิบายได้ว่า คำมั่นของนางนั้นแตกต่างจากผู้อื่นในสกุล เช่นนั้น นางจึงไร้วาจาไปชั่วขณะ
ตู่กู้เซี่ยวอี้ ขบริมผีปาก ราวกับนางประสงค์จะเอ่ยบางสิ่ง แต่ ท้ายที่สุดนางยังคงเงียบปากไว้
ซุนเซี่ยวเหม่ย ถอนใจในใจ คำพูดของนางน้อยจวินนั้นสมเหตุผล นางรู้ว่า นางเองก็จักปฏิเสธการร้องของความช่วยเหลือใดๆ ในสถานการณ์เช่นนี้ นางตระหนักได้ว่า พฤติกรรมของนางนั้นอ่อนเยาว์และโง่เขลา
จักรพรรดิองค์ปัจจุบัน ปราดเปรื่องย่ิง แต่จุดอ่อนบางอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้นั้นคือ พระองค์ขี้ระแวง …
ซุนเซี่ยวเหม่ยจมลงไปในความคิด จากนั้น นางเห็นองค์หญิงลุกขึ้นรวดเร็ว ร่างอันบอบบางของนางเปลี่ยนทิศไป และคุกเข่าลงอีกครั้ง องค์หญิงหลิงเมิงกัดริมฝีปากรุนแรง และ หยดเลือดเริ่มซึมจากมุมปาก จากนั้น มันเริ่มไหลลงไปตามใบหน้าของนาง และหยดลงสู่พื้น
นางลังเลชั่วครู่ แต่แล้ว ในที่สุดนางวางมือซายของนาลงบนหน้าอก จากนั้น นางเอ่ยวาจาน้ำเสียงนุ่มนวล และ เด็ดเดี่ยว
” สวรรค์เบื้องบน และนรกเบื้องล่าง พระเจ้าแห่งโลกนี้ และเหล่าบรรพชนของข้า จงรับฟังคำสาบาน ! ข้า หลิงเมิง ขอให้คำมั่น … “
นางหยุดชั่วขณะ ใบหน้าของนางกระตุกทันที จากนั้น นางต่อ …
” หากจวินโม่เซี่ย สามารถช่วยชีวิตน้าอยี่ของข้าได้ … จากนั้นข้า หลิงเมิง จักกลับไปยังราชวัง และ จักพยายามร้องขอท่านพ่อข้า … ว่าข้าจักแต่งเข้าสู่สกุลจวิน ไม้ว่าจะเป็นภรรยา หรือสนม … ข้าจักยินยอมตามปรารถนา ไม่ขัดขืน ข้าจักใช้ชีิวิตที่เหลือ เพื่อเป็นหญิงผู้ภักดีกับจวินโม่เซี่ย ข้าจักปิดบังทุกความลับของเขา และข้าจักไม่เผยสิ่งหนึ่งใดแก่ผู้ใด หากข้าผิดต่อคำสาบานนี้ … ข้าขอให้ทั้งสกุลข้าต้องสูญสิ้น ! และ เหล่าบรรพชนของข้าจักไม่พบกับความสงบสุข ! ตัวหลิงเมิงเองจักถูกลงโทษโดยการสับเป็นชิ้นๆ และสายฟ้าฟาดใส่ห้าหน … ไม่มีผู้สืบทอดคนใดในสกุลของข้าจักมีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกนี้ ! ข้าสาบานเลือดนี้ต่อหน้าสรวงสวรรค์ โลก และ พระเจ้าแห่งโลกนี้ ! “
องค์หญิงชักมือกลับหลังจากพูดจบ นางกำมีดบินอันประณีตไว้ในมือ ใบมีดเปล่งประกาย ราวอสุนีบาต ขณะนางวางมันลงบนแขน และ เฉือน นางไม่สะดุ้งแม้แต่น้อย … เลือดหลังไหลออกมาดั่งน้ำพุ จากนั้น องค์หญิงวาดวงกลมตรงหน้านางด้วยเลือด และคุกเข่าลง และ ก้มหัวคำนับลงไปยังกึ่งกลางของวงกลมนั้น ผมอันงดงามประหนึ่งวารีร่วงไหลลงสู่ธรณี นางไม่เงยหน้าขึ้นมาเป็นเวลาเนิ่นนาน …
พร้อมด้วย สวรรค์และโลกเป็นพยาน และในนามของพระเจ้าและบรรพชน .. ดวงวิญญาณและเลือดของนาง ได้ซึมซาบเข้าสู่คำสาบานนี้ !
นี่คือการสาบานที่โหดร้ายและศักดิสิทธิ์ที่สุดในดินแดนเชวียนเชวียน ไม่มีผู้ใดอาจหาญผิดคำสาบานนี้ และ องค์หญิงหลิงเมิง ได้โขกหัวตัวเองเข้าตรงกลางของวงกลมเรียบร้อยแล้ว
คำสาบานถูกประทับแล้ว
มิอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดชีวิต
ตู่กู้เซี่ยวอี้ กรีดร้องเตือน นางจ้องเขม็งขณะมือของนางกุมปากไว้ ในขณะที่น้ำตาเจิ่งนองรวดเร็ว
องค์หญิงหลิงเมิง ยืนขึ้น ใบหน้าของนางปกคลุมไปด้วยน้ำตา หากแต่นางมิได้ร่ำร้อง จากนั้น หันไปทางจวินโม่เซี่ย และเอ่ย
” ข้าทำให้เจ้ามั่นใจได้แล้วหรือยัง … จวินโม่เซี่ย ? “
จวินโม่เซี่ย ตกตะลึงไร้วาจา
นายน้อยจวิน ไม่คาดว่า องค์หญิงจักกระทำสาบานเช่นนี้ แม้แต่ในความฝัน
เจ้ากำลังเอ่ยสิ่งใด ?
ก่อนหน้านี้ จวินโม่เซี่ยตัดสินใจจะช่วยชีวิต อยี่กู้ฮั่น แต่กระนั้น เขายังมิอาจเริ่มการรักษาได้เนื่องจากมีปัญหายุ่งยากบางอย่าง จากนั้น การมาถึงขององค์หญิงหลิงเมิงพร้อมด้วยผู้ที่ไม่สามัญ ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
อย่างไรก็ตาม เขาจักช่วยชีวิต อยี่กู้ฮั่น อย่างลับๆ ในนามของ ยอดฝีมือลึกลับที่ไม่มีอยู่จริง บางผู้อาจคลางแคลงใจ แต่มันจักไม่เป็นอุปสรรค์ใหญ่อันใด แต่กระนั้น เขามิได้คาดคิดว่า องค์หญิงจะมายังจวนของเขา หลังจากกลับไปยัง ราชวังโดยคนผู้นั้น ยิ่งไปกว่านั้น นางได้นำพา สามหมอหลวงมาด้วย และ ทั้งสามคือผู้เชี่ยวชาญการรักษาใน นครเทียนเชียง
การที่มีผู้คนมากมายเช่นนี้ทำลายแผนการของจวินโม่เซี่ย เขาจักมิอาจช่วยชีวิตคนผู้นี้ได้ แม้นว่าเขาจักสามารถ เนื่องจาก องค์จักรพรรดิอาจล่วงรู้ฝีมือของเขา หากองค์หญิงหลุดปากเอ่ยความลับของเขาเข้าสู่หูองค์จักรพรรดิ ฝีมือของ นายน้อยจวินมิอาจนำมาตัดสินได้ง่ายดาย …
สิ่งแรก ปู่ของเขาได้ใช้อิทธิพลของสกุลจวินอย่างไม่เหมาะสมในการกวาดล้าง จากนั้น น้าชายที่บาดเจ็บของเขา ได้รับการรักษาอย่างลึกลับ และตามมาด้วยการเกิดขึ้นอย่าลึกลับของ หอชนชั้นสูง ทุกการคาดการถึงข้อเท็จจริงจะชี้ตรงมายังสกุลจวิน และ จักเริ่มวุ่นวาย ….
ด้วยเหตุนี้ จวินโม่เซี่ย จึงปฏิเสธการรักษา อยี่กู้ฮั่น
อย่างไรก็ตาม องค์หญิงหลิงเมิง ได้ให้การสบานเลือด เพื่อให้จวินโม่เซี่ยไว้วางใจ …
นางได้กระทำปฏิญาณ นี้เพื่อผ่อนปรนสถานการณ์ของนางและจวินโม่เซี่ย…
ร่างขององค์หญิงสั่นเทา สีหน้าดุร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าขณะนางมองไปยังจวินโม่เซี่ย
นางรู้ว่า จวินโม่เซี่ย ได้รบเร้าให้ ปู่ของเขา ร้องขอให้เขาแต่งกับองค์หญิงแห่งราชวงศ์เมื่อปีก่อน แต่แล้ว นางปฏิเสธเขา และพ่อของนางก็มิได้สนใจในสกุลจวิน เรื่องทั้งหมดจางหายไปหลังจากนั้น
การตัดสินใจขององค์หญิงถูกบดบังด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน นางมิสนใจวาจาของจวินโม่เซี่ยถี่ถ้วน นางได้ยินว่า
” ข้าไม่เชื่อเจ้า “
และตีความว่ามันคือความต้องการ ความสัตย์จากนางโดยการแต่งงาน
สิ่งนี้เผยถึงเป้าหมายที่แท้จริงของ เจ้าเสเพลผู้นี้ ! แต่กระนั้น ข้าเกรงว่า เขาจักไม่ช่วยชีวิตน้าอยี่ หากข้าไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขของเขา …
ข้าทำได้เพียง มองดูน้าอยี่จากไปอย่างสิ้นหวังกระนั้นหรือ ?
ในที่สุดองค์หญิงหลิงเมิงตัดสินใจหลังจากสำรวจจิตวิญญาณ
ดังนั้น นางจึงตัดสินใจกระทำสาบานเลือดนี้ หลังจากลังเลเล็กน้อย
ข้าจักสละชีวิตที่เหลืออยู่ตราบใดที่ น้าอยี่ สามารถมีชีวิตรอด มันคงไม่เป็นการเสียสละที่มากไป ? แต่กระนั้น ผู้ใดจักบอกได้ว่า พ่อข้าจักไม่ใช้การแต่งงานของข้า เพื่อผูกมัด ท่าเสนาบดีในอนาคต ? แต่ไม่มีการรับประกันว่า ข้าจักได้รับอนุญาติให้แต่งงานจากผู้ที่ข้าเลือก ความจริง เขาอาจจะส่งข้าให้จวินโม่เซี่ย เนื่องจาก เขานั้นทรงอิทธิพล …
น้าอยี่กระทำการมากมายเพื่อช่วยชีวิตข้า ข้าจักทำเช่นนี้เพื่อเขามิได้เลยหรือ ?
ด้วยเหตุนี้ ในที่สุด องค์หญิงหลิงเมิง ได้ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวนี้
มีดบินที่เปื้อนเลือดของนาง ยังคงอยู่ในมือ
อย่างไรก็ตาม ความคิดของ องค์หญิงเยือดเย็นราวน้ำแข็ง
เจ้าต้องการสิ่งใดอีก ? จงบอกในสิ่งที่เจ้าต้องการมา …
แต่กระนั้น นางยังคงมึนงง
องค์หญิงหลิงเมิง มองจวินโม่เซี่ย และ จวินโม่เซี่ย มองไปยัง องค์หญิงหลิงเมิง ความคิดของพวกเขาสับสน ซุนเซี่ยวเหม่ย สามารถเข้าใจความคิดของพวกเขาได้ และ ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความตะลึง …
ทันใดนั้น ตู่กู้เซี่ยวอี้ สะอื้นเสียงดังท่ามกลางความเงียบสงบนี้ … จากนั้น นางเริ่มร่ำไห้ … นางเสียใจสุดซึ้ง
ท่านน … ฮือออ … พี่โม่เซี่ยยย.. ข้าชอบเขาก่อน … และเจ้ากระทำสาบานเช่นนั้นโดยไม่บอกข้าก่อน ! เจ้าแย่งเขา ! ไม่มีทาง ! ท่านพี่ไม่แม้แต่คุยกับข้า ! เจ้ามันขี้โกง !
ตู่กู้เซี่ยวอี้ รู้สึกผิด นางโศกเศร้ายิ่ง และ เมื่อนางมองไปยังทั้งสองผู้ ซึ่งเพ่งมองกันและกันเงียบงัน … นางคิดว่าพวกเขามองหน้ากันด้วยความรัก ด้วยเหตุนี้ นางมิอาจกลั่นน้ำตาได้
ตู่กู้เซี่ยวอี้ รู้สึกตื่นตาในความจริง นางเพียงคิดไปเองดั่งเช่นองค์หญิงหลิงเมิง ไม่มีสิ่งอื่นใด สิ่งที่นางเห็นว่าเป็นแววตาแห่งความรักระหว่างสองผู้นั้น … แท้จริงแล้ว จวินโม่เซี่ย รู้สึกตกตะลึง และตระหนก มีร่องรอยแห่งความลำบากใจ ในภาษากายของเขา และ เขากำลังลำบากในการควบคุมโทสะ และ องค์หญิงกำลังเสียใจกับการ เสียสละ ที่นางเพิ่งทำไป
สายตาของคู่รักทั้งสองนั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
” ดีละ ! ข้าสัญญาณเจ้า ! ข้าจักช่วยเขา ! “
จวินโม่เซี่ยสูดหายใจยาว
” แต่กระนั้น ข้าไม่ยอมรับในคำสาบานของเจ้า ! เจ้าและข้าไม่คู่ควรกัน ! ดังนั้น แม้นการเอ่ยถึงการแต่งงานของเราทั้งสองนั้นไร้สาระ ! “
” อยี่กู้ฮั่น จักยังอยู่ที่นี่อีกเนิ่นนาน ข้าสามารถฟื้นฟูสุขภาพของเขาได้อย่างเชื่องช้า และข้ามิอาจประกันได้ว่าเขาจะฟื้นฟูได้เพียงใดเขา เจ้า … เข้าใจความหมายของข้าหรือไม่ ? “
ข้าสามารถช่วยเข้า หรือสังหารเขาได้
เจ้าเอาคำสาบานนั่นไป แม้นว่าเจ้าจักสาบาน .. มันควรจักเกี่ยวกับเรื่องที่เจ้าจักไม่แพร่พรายความลับ ข้าสามารถยึดแผนการเดิมของข้าได้ โดยการใช้เรื่องราวของ ยอดปรมาจารย์ลึกลับบังหน้าเพื่อช่วยชีวิต อยี่กู้ฮั่น และเจ้าจักเป็นเครื่องมือชั้นเลิศเพื่อให้ทั้งโลกเชื่อในสิ่งนี้ เพียงเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ! แต่เจ้ายังไปเพิ่มส่วนที่ จะแต่งกันข้า .. หรือ มาเป็นสนมของข้า และปฏิบัติตามความปรารถนาของข้า ! เป็นการสาบานบ้าบอใดกัน !
ชิ ! แม้นว่าเจ้าประสงค์จะแต่งกับข้า .. ข้าก็ไม่อยากแต่งกับเจ้า ! ข้าไม่สนใจจักทำเช่นนั้น ! เจ้ามิได้งดงามเลิศเลอ เจ้าเปรียบกับแม่สาวน้อยผู้นั้นได้หรือ ?! และ เจ้าสามารถเปรียบกับ สาวน้อยจาก นครพายุหิมะสีเงิน ได้กระนั้น ? …. มิสำคัญว่าหญิงผู้นี้เป็นเช่นไร … นางนั้นได้เปรียบในเรื่องนี้ ความงดงามของเจ้านั้นเป็นเพียงลมตดสำหรับข้า !
แต่กระนั้น จวินโม่เซี่ย ตกตะลึงด้วยความรุนแรงของคำสาบานที่องค์หญิงได้กระทำลงไป เขาประหลาดใจกับสิ่งที่นางเสียสละเพื่อ อยี่กู้ฮั่น ความจริง เขามั่นใจว่าจักไม่ตัดสินใจที่รุนแรงเช่นนี้ หากอยู่ในสถานการณ์เดียวกับนาง !
” เมื่อทำสบานเลือดแล้ว … มันมิอาจเปลี่ยนได้ แม้นเจ้าไม่ยินยอม ! นี่คือความจริงที่รู้กันดี ! “
หัวใจขององค์หญิงหลิงเมิงอัดแน่นด้วยความสำราญเมื่อนางได้ยินว่าเขายินยอมช่วยชีวิต อยี่กู้ฮั่น แต่นางยังคงสงบนิ่งต่อไป
” ข้าหวังเพียงความจริงของเรื่องนี้ จักไม่ไปถึงหูของ น้าอยี่ของข้า “
” ข้าเพียงแต่รับรองได้ว่า จักพยายามอย่างเต็มที่ในรื่องนี้เท่านั้น “
จวินโม่เซี่ยถอนใจด้วยความมึนงง
อะไรกัน ? เหตุใดข้าจึงรู้สึกราวกับบังคับให้หญิงสาวผู้ใสซื่อขายตัวเอง … ?