บทที่ 1514 ซุ่มโจมตี

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1514 ซุ่มโจมตี

แปลโดย iPAT

 

“โฮก!”

 

ในขณะที่ฟางหยวนกับฟางอันเล่ยกำลังพูดคุย อสูรวิญญาณแรกกำเนิดที่มีร่างกายเป็นวัวกระทิงหางเสือดาวก็วิ่งเข้ามาหาพวกเขา

 

แทบจะในเวลาเดียวกันที่เสียงกรีดร้องดังลงมาจากท้องฟ้า อสูรวิญญาณร่างอสรพิษที่มีสองปีกทะยานร่างลงมาด้วยความเร็วสูง

 

“อสูรวิญญาณแรกกำเนิดสองตัว!” ร่างของฟางหยุนสั่นสะท้านขึ้น การโจมตีที่รุนแรงนี้ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวและแทบไม่สามารถควบคุมตัวเอง

 

“ไม่ มีสามตัว” ฟางอันเล่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม นางยังสามารถรักษาความสงบ

 

ดังคาด ในวินาทีต่อมา พื้นดินเกิดการสั่นสะเทือนเมื่อมือขนามดใหญ่โผล่ขึ้นมาและต้องการคว้าจับหอดอกไม้ร่วงโรยเอาไว้

 

นี่คืออสูรวิญญาณแรกกำเนิดตัวที่สาม

 

“ไป!” ในช่วงเวลาสำคัญ ฟางอันเล่ยตะโกนขณะที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะบินขึ้นสูท้องฟ้าราวกับสายรุ้ง

 

มือขนาดใหญ่คว้าได้เพียงอากาศและปะทะกับอสูรวิญญาณแรกกำเนิดร่างกระทิงหางเสือดาว

 

อย่างไรก็ตามอสูรวิญญาณแรกกำเนิดอสรพิษมีปีกยังสามารถกลับตัวกลางอากาศและไล่ล่าหอดอกไม้ร่วงโรย

 

ดวงตาของฟางอันเล่ยส่องประกายขึ้น นางบังคับหอดอกไม้ร่วงโรยพุ่งชนศัตรูโดยตรง

 

“บึม!”

 

เสียงระเบิดดังขึ้น ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับความเสียหาย

 

หอดอกไม้ร่วงโรยเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว ดอกไม้ร่วงหล่นลงมาต่อเนื่อง

 

ในขณะเดียวกันอสูรวิญญาณแรกกำเนิดอสรพิษมีปีกก็ตกลงกระแทกพื้นและสร้างหลุมขนาดใหญ่เอาไว้

 

ใบหน้าของฟางอันเล่ยกลายเป็นซีดขาวขณะที่นางเร่งสร้างเสถียรภาพให้กับหอดอกไม้ร่วงโรย

 

หลังจากนั้นหอดอกไม้ร่วงโรยก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ราวกับการกำเนิดใหม่

 

‘โอ้ นางสามารถซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณอมตะได้ด้วยความเร็วสูง นี่ค่อนข้างน่าประทับใจ ข้าสงสัยว่าพวกเขาทำอย่างไร พวกเขาใช้วิญญาณดวงอื่นเข้าแทนที่หรือพวกเขาหลอมรวมวิญญาณทันที?’

 

ฟางหยวนพยายามหาคำตอบ

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะสร้างขึ้นโดยวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วน การซ่อมแซมตัวเองด้วยความเร็วสูงไม่ใช่สิ่งที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะส่วนใหญ่สามารถทำได้

 

หากวิญญาณที่ถูกทำลายถูกแทนที่ด้วยวิญญาณดวงอื่นอย่างรวดเร็ว มันคือวิธีบนเส้นทางแห่งค่ายกล หากมันหลอมรวมวิญญาณดวงใหม่ขึ้นมาแทนที่ในทันที นั่นคือวิธีบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

 

แต่ดูเหมือนหอดอกไม้ร่วงโรยจะใช้ทั้งสองวิธี

 

น่าเสียดายที่ฟางหยวนมีข้อมูลน้อยเกินไป การอนุมานของเขาพบอุปสรรค ดังนั้นเขาจึงต้องยอมแพ้ต่อเรื่องนี้

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ผีเฒ่าไป่จุนหัวเราะเสียงดัง “แม้พวกเจ้าจะมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะแล้วอย่างไร? ยอมจำนนอย่างเชื่อฟัง ข้าอาจไว้ชีวิตพวกเจ้า!”

 

หลังผีเฒ่าไปทจุนกล่าวจบประโยค อสูรวิญญาณแรกกำเนิดอสรพิษมีปีกก็บินขึ้นมาจากหลุมทรายอีกครั้ง

 

อสูรวิญญาณแรกกำเนิดมีพลังการต่อสู้ระดับแปด พวกมันมีร่างกายที่แข็งแกร่ง การโจมตีของหอดอกไม้ร่วงโรยก่อนหน้านี้ไม่มีผลมากนัก

 

ฟางอันเล่ยไม่แปลกใจ สิ่งนี้อยู่ในความคาดหมายของนาง

 

การปะทะกันก่อนหน้าเป็นเพียงการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามตอนนี้นางตระหนักแล้วว่าศัตรูแข็งแกร่ง

 

หอดอกไม้ร่วงโรยต่อสู้กับอสูรวิญญาณแรกกำเนิดอสรพิษมีปีกอยู่บนท้องฟ้า

 

สำหรับอสูรวิญญาณแรกกำเนิดอีกสองตัว พวกมันทำได้เพียงคำรามอยู่บนพื้นเท่านั้น

 

ผีเฒ่าไป่จุนผิวปากเรียกอสูรวิญญาณแรกกำเนิดทั้งสองให้กลับไปหาเขา

 

‘โอกาสมาแล้ว!’ ดวงตาของฟางอันเล่ยส่องประกายขึ้น นางตัดสินใจโจมตีผีเฒ่าไป่จุนโดยตรง

 

อสูรวิญญาณแรกกำเนิดทั้งสามแข็งแกร่งมาก นางไม่สามารถต่อสู้กับพวกมันได้นานนัก วิธีที่ดีที่สุดคือการจับหัวหน้าศัตรู

 

แต่ในจังหวะนี้ฟางหยวนกลับเย้ยหยัน “อย่ารีบร้อน ข้าอนุมานได้ว่ามันคือกับดัก”

 

“โอ้?” ความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของฟางอันเล่ย

 

เนื่องจากความลังเล นางจึงเสียโอกาสนั้นไป อสูรพิษมีปีกกลับมาพัวพันหอดอกไม้ร่วงโรยเอาไว้อีกครั้ง

 

ขณะเดียวกันอสูรวิญญาณแรกกำเนิดอีกสองตัวก็กลับไปอยู่ข้างกายผีเฒ่าไป่จุนและกลายเป็นแนวป้องกันที่แข็งแกร่ง

 

การแสดงออกของผีเฒ่าไป่จุนกลายเป็นเคร่งขรึม

 

‘ข้าจงใจล่อให้ศัตรูโจมตี แต่ผู้ใดจะคิดว่าฟางอันเล่ยจะสามารถอดทนต่อแรงกระตุ้นที่จะฉวยโอกาสโจมตีนี้ได้!’

 

‘ลืมมันไปซะ การกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณทำให้รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว ข้าไม่สามารถปล่อยให้การต่อสู้ยืดเยื้อ!’

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ผีเฒ่าไป่จุนก็คำรามและส่งอสูรวิญญาณแรกกำเนิดตัวที่สี่เข้าโจมตีหอดอกไม้ร่วงโรย

 

อสูรวิญญาณแรกกำเนิดตัวที่สี่เหมือนแมงมุมที่มีหนานมแหลมอยู่รอบตัว มันสามารถบินได้และมีขนาดเล็กที่สุดท่ามกลางอสูรวิญญาณแรกกำเนิดทั้งหมด

 

แต่มันเร็วมาก มันพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับลูกศร

 

ฟางหยุนอุทาน “เกือบไปแล้ว นี่คือแผนการล่อลวงของผีเฒ่าไป่จุน!”

 

ฟางอันเล่ยมองฟางหยวนด้วยสายตาสำนึกขอบคุณก่อนที่นางจะกลับไปเผชิญหน้ากับศัตรูอีกครั้งด้วยหอดอกไม้ร่วงโรย

 

อสูรวิญญาณแรกกำเนิดแมงงมุมเหินสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับผู้อมตะตระกูลฟาง

 

อสูรวิญญาณแรกกำเนิดอสรพิษมีปีกทรงพลัง แต่อสูรวิญญาณแรกกำเนิดแมงมุมเหินรวดเร็วราวกับสายฟ้า ทั้งสองทำงานร่วมกัน หนึ่งช้าและหนึ่งเร็ว หนึ่งใหญ่และหนึ่งเล็ก ทั้งสองร่วมมือกันปราบปรามหอดอกไม้ร่วงโรย

 

“ผู้ใดจะคิดว่าผีเฒ่าไป่จุนจะสามารถควบคุมอสูรวิญญาณแรกกำเนิดได้จริงๆ!”

 

“วิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณช่างน่าประทับใจนัก มันทำให้เขาสามารถควบคุมอสูรวิญญาณแรกกำเนิดได้ในระยะเวลาสั้นๆงั้นหรือ?”

 

ฟางหยุนและฟางเล้งต้องการล่าถอย

 

ฟางหยวนหัวเราะ “ข้าอนุมานได้ว่าเขาถึงขีดจำกัดแล้ว การใช้การบ่มเพาะระดับเจ็ดควบคุมอสูรวิญญาณแรกกำเนิดสี่ตัวเกินขีดความสามารถของเขา อีกไม่นานสถานการณ์จะพลิกกลับ”

 

“โอ้?” ดวงตาของฟางอันเล่ยส่องประกายขึ้น นางตัดสินใจเชื่อคำกล่าวของฟางหยวน

 

ดังคาด เมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไป แรงกดดันก็ลดน้อยลง

 

การเคลื่อนไหวของแมงมุมเหินและอสรพิษมีปีกแย่ลง

 

บนพื้น ใบหน้าของผีเฒ่าไป่จุนกลายเป็นซีดขาว ร่างกายของเขาสั่นคลอน กลิ่นอายของเขาอ่อนแอลงอย่างมาก

 

เมื่อเวลาผ่านไปอาการของผีเฒ่าไป่จุนก็แย่ลงเรื่อยๆ

 

“วันนี้ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า! พบกับคราวหน้า ข้าจะฉีกพวกเจ้าเป็นชิ้นๆ!” เขาข่มขู่และเริ่มล่าถอยพร้อมกับกองทัพอสูรวิญญาณ

 

“เจ้าจะไปที่ใด?” หลังจากต่อสู้มาเป็นเวลานาน ฟางอันเล่ยไม่เต็มใจที่จะปล่อยผีเฒ่าไป่จุนไป

 

การไล่ล่าดำเนินต่อไปขณะที่อสูรวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนเสียชีวิต

 

อย่างไรก็ตามอสูรวิญญาณแรกกำเนิดแมงมุมเหินและอสรพิษมีปีกยังพยายามโจมตีหอดอกไม้ร่วงโรยอย่างหนัก

 

ผีเฒ่าไป่จุนปกป้องตัวเองอย่างแน่นหนา แม้อาการของเขาจะเลวร้ายลง แต่เขายังไม่เปิดช่องว่าง

 

ฟางหยุนตะโกน “ผีเฒ่าไป่จุน ความเย่อหยิ่งของเจ้าหายไปที่ใด?”

 

ผีเฒ่าไป่จุนตะโกนตอบ “หากไม่ใช่เพราะข้ายังไม่คุ้นเคยกับวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณ พวกเขาจะรอดชีวิตได้อย่างไร?”

 

“เดี๋ยว มีบางสิ่งผิดปกติ” ฟางหยวนขมวดคิ้วเบาๆ

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงของนกอินทรีย์ดังขึ้น

 

ร่างที่เหมือนภูตผีปรากฏขึ้นจากเมฆสีดำ

 

มันเป็นผู้อมตะหญิง

 

นางสวมชุดรัดรูปสีดำ ใบหน้าซีดขาว มือของนางเปลี่ยนเป็นกรงเล็บอินทรีย์ ร่างกายปลดปล่อยควันสีดำออกมา

 

ปีศาจอมตะระดับเจ็ด สนมอินทรีย์!

 

“ปัง!”

 

สนมอินทรีย์โจมตีหอดอกไม้ร่วงโรยอย่างกะทันหัน

 

หอดอกไม้ร่วงโรยได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีรอยกรงเล็บสามจุดปรากฏอยู่บนหลังคาและเกือบทะลุเข้าไปข้างใน

 

“มีผู้ช่วยงั้นหรือ?” ฟางอันเล่ยขมวดคิ้วเมื่อเห็นสนมอินทรีย์

 

นางกล่าวกับฟางหยวน “ข้าต้องการความช่วยเหลือจากท่าน สหาย ข้าไม่สามารถจัดการสถานการณ์นี้เพียงลำพัง”

 

แม้นางจะกล่าวเช่นนั้นแต่ในความเป็นจริงนางยังไม่ได้ออกไปต่อสู้ อย่างไรก็ตามฟางหยวนต้องการทำงานกับตระกูลฟาง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมองดูอยู่ข้างสนามรบ

 

เขาพยักหน้า “ข้าจะจัดการผีเฒ่าไป่จุน ข้าหวังว่าท่านจะสามารถหยุดผู้อมตะหญิงผู้นี้”

 

ฟางอันเล่ยตกลง “ไปเถอะ ข้าจะทำอย่างดีที่สุด!”

 

ในเวลาต่อมาประตูคฤหาสน์วิญญาณอมตะก็เปิดออก ฟางหยวนก้าวเข้าสู่สนามรบ

 

ท่าไม้ตายอมตะความคิดอุกกาบาตเพลิง!

 

ฟางหยวนชี้นิ้วออกไปขณะที่อุกกาบาตเพลิงพุ่งลงจากท้องฟ้า

 

ผีเฒ่าไป่จุนใช้อสูรวิญญาณแรกกำเนิดสองตัวเป็นโล่ป้องกันตนเอง

 

“บึม บึม บึม…”

 

อุกกาบาตเพลิงพุ่งชนพื้นทรายและทำให้เกิดทะเลเพลิงที่ครอบคลุมรัศมีหลายลี้ อย่างไรก็ตามมันไม่มีความร้อน

 

มันเป็นเปลวเพลิงที่จะเผาทำลายจิตวิญญาณของศัตรู

 

ผีเฒ่าไป่จุนรู้สึกขมขื่น เขาต้องการหลบแต่เขาไม่สามารถทำได้

 

“หือ?” เมื่อเห็นสิ่งนี้หัวใจของฟางหยวนก็เต้นเร็วขึ้น

 

เขารู้สึกผิดปกติ

 

“บึม!”

 

วินาทีต่อมาพื้นทรายก็แยกออก

 

ถัดมาวังขนาดใหญ่ที่ส่องแสงสีเขียวก็ทะยานขึ้นมาจากรอยแยกและพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอย่างดุเดือด

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์!