” เป็นมีดที่ดี ! “

องค์หญิงหลิงเมิงมองมันด้วยริษยา ราวกับไม่เต็มใจจะแยกจากมัน จากนั้นนางยอมรับ ชายลึกลับในใจ แต่กระนั้น นางยังไม่พร้อมเผยเรื่องนี้แก่ผู้ใด

 

นางรู้สึกว่า ….

จวินโม่เซี่ย เสแสร้งเสเพล และโอ้อวดพฤติกรรมชั่วช้าทุกหนแห่ง  คงมิใช่เพื่อปิดบังตัวตนแท้จริง ?

 

เขาสามารถทำในสิ่งอัศจรรย์ ที่ต้องการความ ความกล้า และห้าวหาญ  ความรู้ทางยารักษาที่สั่นสะเทือนโลกาของเขา สามารถสร้างความโกลาหลให้แก่เมืองหลวงได้ !  เขาควรยืนอยู่บนจุดสูงสุดแห่งโลกนี้  เขาสำราญไปกับคำชื่นชนของทุกผู้นาม นั่นคือความต้องการของคนรุ่นใหม่  แต่กระนั้น เขาเลือกเส้นทางเพื่อประโยชน์ของสกุล …

 

เช่นนั้น สิ่งที่เขาเอ่ยก่อนหน้านี้คือความจริง ?  หัวใจของเขามิได้รอคอยข้า !

 

เขาและข้ามิได้เหมาะสม แม้นเขามิคู่ควรกับข้า มันคือข้าที่คู่ควรกับเขา !

 

ชีวิตของเขา จะต้องไม่พบเจอแต่ความยากลำบาก !

 

ผู้ที่ความสามารถเป็นเลิศนั้นคู่ควรแก่ความภาคภูมิใจ  แต่กระนั้น เขาจำต้องทนทุกข์ที่ทุกผู้เฝ้ามองเย้ยหยัน แต่เขายังคงแสดงท่าทางที่น่ารังเกียจต่อผู้อื่นต่อไป !  มิอาจแสดงถึงความสำเร็จ … เขาจักต้องทนทุกข์ทรมาณต่อไป !

 

สิ่งนี้ จำต้องมองการไกลอย่างมาก  เหตุใด ผู้ที่ใจกว้าง สงบ และ มากฝีมือจำต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้ … ?

 

ผู้ใดไม่ประสงค์จะเป็นที่ต้องการ ?  ผู้ใดไม่ประสงค์จะให้ผู้อื่นเชิดชู ?  ผู้ใดไม่ต้องการจะยืนอยู่บนจุดสูงสุด ?  แต่กระนั้น จวินโม่เซี่ยไร้ทางเลือกจำต้องประสบกับความอัปยศแห่งโลกล้าด้วยสถานการ์ของสกุล …

 

องค์หญิงหลิงเมิง รู้สึกเสียใจขึ้นทันที

 

อายุเขามิได้ห่างไกลจากข้า … แต่ประสบการณ์ของเขานั้นล้ำเลิศยิ่งกว่า … ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ประสงค์จะได้รับการยกย่องกับการกระทำที่ดีของเขา …  ไม่เคยร้องขอสิ่งใดตอบแทน  ความจริง เขายังต้องทนกับการดูถูกของผู้ที่เขาช่วยไว้ …

 

คนเช่น ลี่โย่วหลาน จักเปรียบกับผู้นี้ได้อย่างไร ?!

 

ทันใดนนั้น ภาพของจวินโม่เซี่ย เปลี่ยนไปจากตัวร้ายผู้ที่ไม่ห่างหายจากเรื่องเลวทราม มาเปลี่ยน บุรุษผู้สูงส่งที่ร่างอาบได้ด้วยลำแสงที่เปล่งประกายภายในใจองค์หญิง

 

คล้ายกับการเปลี่ยนจาก ก้นบึ้งแห่งนรกชั้นสิบแปด ไปยัง สวรรค์ชั้นสามสิบสาม  อย่างรวดเร็วยิ่ง !

 

องค์หญิงหลิงเมิงสัมผัสได้ทันทีว่า สาบานเลือดของนางนั้น … มิได้ยอมรับไม่ได้อีกแล้ว … แท้จริงนั้นมีความเลือนลาง … ของความปิติในใจนาง

 

น่าเสียดาย จวินโม่เซี่ยมิอาจรับรู้ความรู้สึกนี้  มิเช่นนั้น เขาคงหัวเราะลั่น

” จิตใจแปรปรวนยิ่ง ! “

เขาถอนใจ

” สวรรค์และโลกา !  จินตนาการขององค์หญิงล้ำเลิศยิ่ง  นางติดอยู่ในจินตนาการซึ่งข้ามิกล้าแม้นหยั่งลง ! “

 

ในความจริง จวินโม่เซี่ย ไม่เคยแสร้งทำตัวเสเพล และอันธพาล  เขานั้นไร้ค่าอย่างแท้จริง  ไม่ใช่การเข้าใจผิด สำหรับ คุณชายน้อยจวิน … เขาจักทำสิ่งต่างๆในแบบตัวเองเสมอ  ไม่สนใจว่าผู้อื่นจะมองเช่นไร ..

 

หากสรุปว่า การเปลี่ยนภาพ ของ จวินโม่เซี่ย จากเสเพลไร้ความดี ไปยังผู้สูงสิ่งและตระหง่าน ในหัวใจอันบริสุทธิ์และไร้เดียงสาของ องค์หญิงหลิงเมิง … ถือได้ว่า มันคือความเข้าใจผิดที่สมบูรณ์อย่างงดงาม …

 

ตู่กู้เซี่ยวอี้ มองเห็นท่าทางหลงไหลขององค์หญิงขณะถือมีดเล่มนั้น ราวกับนางชอบมั่นยิ่งจนมิอาจลาจากมันไปได้  หัวใจของเด็กสาวจึงวุ่นวาย  จากนั้น นางส่งเสียงทางจมูก

ท่านไม่คิดถึงความรู้สึกของน้องสาว ข้าจะไม่เอามีดเล่มนี้ให้ท่านดูอีก !

 

นางมองและเม้มปากด้วยโทสะ  จากนั้นเอ่ย

” ข้าคาดว่า พี่เมิ่งดูมันเพียงพอแล้ว ?  มันเป็นเพียงมีด มิใช่สิ่งหายาก “

จากนั้นนางยื่นมือไปคว้ามีด  จากนั้น ตู่กู้เซี่ยวอี้ หรี่ตาภูมิใจ และ ยิ้ม

” มีดเล่มนี้มิใช่สิ่งหายาก … แต่พี่โม่เซี่ยบอหว่า มีนั้นมีเพียงหนึ่งและไร้ใดเปรียบ ไม่ว่าลักษณะ หรือคุณภาพ … “

 

” มีเพียงหนึ่ง ?  ไม่จริง ? “

องค์หญิงหลิงเมิงไม่รู้ว่าเหตุใดนางจึงรู้สึกอึดอัดเมื่อเห็นตู่กู้เซี่ยวอี้พึงพอใจเช่นนี้  นางมิอาจกลั้นตัวเองไม่ให้เอายวาจาท่าทางเยาะเย้ย

” ข้ามีมีดที่คล้ายคลึงเช่นนี้หลายเล่ม  เพียงแต่มันมีขนาดเล็ก … “

 

” เจ้ามีมีดเช่นนี้หลายเล่ม ?  ข้าไม่เชื่อ  เจ้าวายร้ายผู้นั้นบอกว่ามีดประดับอัญมณีเล่มนี้ทำมาเพื่อข้า เพียงแค่ข้า ! “

ตู่กู้เซี่ยวอี้ ร้องออกมา  ดวงตากลมโตของนางเบิกกว้าง

” เป็นไปได้อย่างไร ? “

 

” เหตุใดจะเป็นไปไม่ได้ ?  เหตุใดจึงมีมีเช่นนี้หลายเล่มมิได้ ? “

องค์หญิงหลิงเมิงยิ้มลึกลับ

” เจ้าต้องการดูมันสักหน่อยไหม ? “

 

องค์หญิงหลิงเมิง มิอาจกลั้นตัวเองไม่ให้แสดงอัตตาได้  นางรู้ว่า มีดบินที่นางมีอยู่นั้น ถูกสร้างโดย คุณชายน้อยจวิน แต่กระนั้น นางได้มันมาโดยบังเอิญ มิใช่ในฐานะของขวัญ ไม่ต้องพูดถึงว่ามันทำมาเพื่อนางโดยเฉพาะ  ความจริง นางรู้ว่าอาจมีหลายอย่างคล้ายเช่นที่นางครอบครอง  และ นางรู้ว่ามิอาจนำมันออกมาเวลานี้ได้เนื่องจากจวินโม่เซี่ยอยู่ไม่ไกล  นางรู้ว่าเขามิได้สนใจเมื่อเห็น ป้ายตราแห่งความสัตย์ของเขา  หากนำมันออกมานางอาจทำให้เขาขุ่นเคือง  แต่นั่นคือเรื่องรอง  นางจักเสียหน้า ต้องหน้าน้องสาวได้เช่นไร ?

 

” แน่นอนเรามีเวลาเพื่อชมสมบัติของพี่หลิงเมิง ! “

ตู่กู้เซี่ยวอี้ ยิ้มขณะประกายแสงคมกริบปรากฏขึ้นในดวงตา  องค์หญิงหลิงเมิง มีรอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าเช่นเดียวกัน  พี่น้องเหล่านี้ยิ้มแย้มดั่งปุบผา แต่ทุกคนสามารถสัมผัสถึงความปรปักษ์อย่างรุนแรงระหว่างทั้งสอง

 

การเผชิญหน้าครั้งนี้ เกินกว่าหญิงสาวแรกรุ่น แต่มันเกินไปถึงหญิงสาวที่เติบโตแล้ว  อิสตรี สามารถกระทำเรื่องเลวร้ายได้อย่างไร้ยางอายเพื่อปกป้องตำแหน่งในชีวิตรัก  พี่น้องคู่นี้กำลังอยู่ในเส้นทางนั้น ..

 

ซุนเซี่ยวเหม่ย เห็นถึงความต่อต้าน และหึงหวงระหว่างเด็กสาวทั้งสอง  แต่กระนั้น ซุนเซี่ยวเหม่ย ผู้ปราดเปรื่องมิอาจกลั้นความประหลาดใจ

 

ความหลงไหล จวินโม่เซี่ย ของ ตู่กู้เซี่ยวอี้ นั้นเป็นที่รู้กัน  ดังนั้น ท่าทีของนางจึงไม่แปลกประหลาด  แต่ หลิงเมิง .. ท่าทีของนางกับ คุณชายน้อยจวิน เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและรวดเร็ว  ไร้ซึ่งคำอธิบายโดยแท้จริง

 

องค์หญิงหลิงเมิงได้ทำสาบานเลือดเพื่อแต่งกับจวินโม่เซี่ย  แต่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น มิใช่เต็มใจ  องค์หญิงหลิงเมิง ไม่เคยประทับใจ จวินโม่เซี่ย ตามที่ ซุนเซี่ยวเหม่ยเข้าใจ  แท้จริงแล้ว นางชิงชังเขา

เช่นนั้น เหตุใดฉับพลันสองพี่น้อง จึงกลายมาเป็น คู่แข่งความรักในตำนานกัน ? ยิ่งหว่านั้น เหตุใด ความรู้สึก ปรปักษ์จึงรุนแรงแม้นพวกเขาจักมีความผูกพันธ์พี่น้อง ?  เกิดอันใดกัน ?

 

สับสนนัก สับสน ..

 

ซุนเซี่ยวเหม่ย ถือว่าตัวเองมากสามารถเสมอ  นางสามารถใช้สมองอันมหึมาของนางในทุกสถานการณ์ได้  แต่ มันกลับนิ่งงันในเวลานี้

 

จวินโม่เซี่ยสูดหายใจลึก  เขาหมดแรงในที่สุด  เขาจับมือ อยี่กู้ฮั่น และ ถ่ายลมปราณเป็นเวลาเนิ่นนาน ตอนนี้เขาถ่ายทอดมันไปจำนวนมหาศาล  แต่ อาการของ อยี่กู้ฮั่นยังคงที่  ปราณเชวียนของ อยี่กู้ฮั่น ถูกขับออกจากร่าง และถูกแทนที่ด้วยลมปราณทรงพลังของจวินโม่เซี่ย

 

ยิ่งกว่านั้น กระดูกที่แตกหักถูกห่อหุ้มด้วยลมปราณของ คุณชายน้อยจวิน

 

จึงไร้ซึ่งปัญหาตราบใดที่ไม่มีผู้ใดเคลื่อนไหวร่างของเขาหรือยุ่งเกี่ยวกับกระดูกเหล่านั้น

 

จวินโม่เซี่ย เหนื่อยอ่อนยิ่ง  เขาลืมตามองไปยังสามเด็กสาว และถอนใจด้วยทีท่าสลด  เขาไม่ประสงค์จะเอ่ยวาจา หญิงสาวเพียงหนึ่งเปรียบดั่งเป็ดนนับพันในสายตาของ มือสังหารจวิน … วุ่นวายและสับสน  แต่เขาต้องเผชิญพวกนางถึงสาม …

 

นี่เป็นปัญหาที่น่ากลัวยิ่ง !  และหากมีชายเพียงหนึ่งท่ามกลางพวกนาง … โชคชะตาของชายผู้นั้นจำต้อง น่าสลดยิ่งนัก

 

” เขาเป็นเช่นไร ? “

องค์หญิงหลิงเมิง ถามขณะนางตรงเข้ามา  สีหน้านางมีร่องรอยประจบสอพลอ

 

” เขาเป็นเช่นไร ? “

หัวของ ตู่กู้เซี่ยวอี้ ยื่นเข้ามา จมูกเรียวงามของนางบานออก ขณะคิ้วกระตุกไม่หยุดหย่อน  จวินโม่เซี่ยสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจของนาง  จนสามารถได้กลิ่นอันหอมหวาน

 

” เจ้าเหนื่อยไหม ? “

ซุนเซี่ยวเหม่ยไม่กล้าเข้าร่วมวง  แต่กระนั้น นางยังคงเอ่ยปากหลังจากนั่งลง

 

หญิงทั้งสามต่างสอบถามถึงความเหน็ดเหนื่อยของจวินโม่เซี่ย  เขามิอาจตะโกนออกมาได้ แต่สิ่งเหล่านั้นเต็มเปี่ยมอยู่ในดวงตา  เขาคิดจะเอ่ยบางสิ่งขณะลืมตา  เขาพยายามทำสีหน้าไร้อารมณ์ขณะมองไปยังหญิงทั้งสาม มันเยือกเย็นยิ่ง ดั่งน้ำแข็งพันปี

 

เขาเพ่งมองเย็นชาไปที่พวกนาง ทั้งสามจึงสั่นเทาด้วยความกังวล  พวกนางรู้สึกอับอายไร้เหตุผล  ราวกับพวกนางทำสิ่งผิดพลาด  แม้นแต่สาวน้อยก็ไม่เว้น …

 

” หญิงสาว เฮ้อ หญิงสาว ! “

ปากจวินโม่เซี่ยโค้งลงต่ำ  เขายกมือขึ้นเหนือหัวด้วยพยายามส่งสาร  ใบหน้ากระตุกด้วยฉุนเฉียว

” ข้าไม่ประสงค์จะสนทนาไร้สาระกับเจ้า แต่ตอนนี้ข้าคิดว่ามันจำเป็น !  มิเช่นนั้น พวกเจ้าจักทำให้นายน้อยผู้นี้ วุ่นวายจนตาย ในไม่ช้า ! “

 

” อะไรนะ ?! “

หญิงทั้งสามประหลาดใจ  พวกนางมองหน้ากันครู่หนึ่ง  และ โศกเศร้า

 

” อย่างแรก … เจ้า !  เจ้าทำความผิดพลาดยิ่งใหญ่ ! “

จวินโม่เซี่ยชี้นิ้วไปยัง องค์หญิงหลิงเมิง ไร้ร่องรอยอ่อนโยนใน อากัปกริยาของเขา

” ยกตัวอย่างเช่นเรื่องในวันนี้  ไม่จำเป็นต้องสังเวยทุกสิ่ง  แต่ เจ้ากลับสร้างทุกสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา !  ทั้งหมดเพราะการกระทำของเจ้า !  อยี่กู้ฮั่น ไม่ควรบาดเจ็บเช่นนี้ !  เขาสามารถล่าถอยไปได้ด้วยการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย !  แต่ทุกสิ่งกลับกลายเป็นเช่นนี้เนื่องด้วยความเขลาของเจ้า !  น้าอยี่ของเจ้า เสียสละครั้งยิ่งใหญ่เพื่อเจ้า  และตอนนี้เจ้าได้ทำสัญญาเลือดเพื่อรักษาเขา  น่าประทับใจยิ่ง ข้ารู้สึกผิดหวังยิ่งสำหรับ อยี่กู้ฮั่น อาการของเขาน่าสลดยิ่ง  และ ทั้งหมดนั้นเพื่อบางสิ่งที่ไร้ค่า !  น่าเศร้ายิ่งนัก !

 

ข้าได้รู้เรื่องนี้จากน้องสาวของเจ้า  องค์หญิงหลิงเมิง เจ้าอยู่ในขั้นเชวียนทอง  อาจดูว่าเจ้าเป็นยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งในหมู่คนทั่วไป  แต่กระนั้น เจ้ามิอาจต่อสู้กับมือสังหารผู้ทรงพลังได้  แต่ อยี่กู้ฮั่นได้ขัดขวางศัตรูไว้แล้ว  แล้วเจ้าไม่มีความสามารถที่จะหนีไปกระนั้น ?  ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเมืองหลวง  เหตุใดเจ้าไม่ส่งเรื่องนี้ไปยัง เหล่าจวนสกุลใหญ่ ใกล้ๆ ?  เจ้าคิดว่าการหลั่งน้ำตามันสำคัญยิ่งกระนั้น ?  สิ่งลวงตาเหล่านั้นสร้างความเสียหายแก่ อยี่กู้ฮั่นมากยิ่ง !

 

” สิ่งเดียวที่เจ้าสามารถทำได้ เมื่อสิ่งเช่นนี้กำเนิดขึ้น แท้จริงแล้วคือสิ่งเดียวที่เจ้าควรทำ คือหาโอกาส หลบหนีไป !  ยิ่งเจ้าวิ่งไปไกล และเร็วเท่าใหร่ … อยี่กู้ฮั่น จักผ่อนคลายลงเท่านั้น  เจ้ามิควรกังวลเดี่ยวกับความปลอดภัยของ อยี่กู้ฮั่น หรือคิดว่าเจ้าละทิ้งเขา  เจ้าควรคิดเพียงแต่พาตัวเองหนีไป !  เจ้าควรคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเอง เนื่องจาก อยี่กู้ฮั่น ต่อสู้เพื่อเหตุผลเพียงหนึ่ง !  อยี่กู้ฮั่น จักล่าถอยเมื่อเจ้าปลอดภัย  เขาอาจจะไม่หนีไปได้โดยไร้ซึ่งบาดเจ็บ  แต่ มันจะไม่ก่อให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ !  แต่เจ้าทำเช่นนั้น ?  ไม่  เจ้ามิได้ทำ  เจ้าเพียงแค่มองกลับมากระทั่ง อยี่กู้ฮั่นบาดเจ็บรุนแรง จนใกล้ความตาย ความจริง เจ้าวิ่งไปไม่ถึงสามร้อยหลา  และเจ้าจักไม่ไปไกลเช่นนั้น หากมิใช่เพราะ เซี่ยวอี้ และ ซุนเซี่ยวเหม่ย ฉุดลากเจ้าไป … เจ้าไร้สมองหรือ ?  เจ้ากำลังคิดสิ่งใดกัน ? “

 

จวินโม่เซี่ยตำหนิ องค์หญิง หยาบคายและโหดร้าย  ดวงตาองค์หญิงหลิงเมิงเริ่มแดง นางกำลังจะร่ำไห้

 

” ห้ามร้อง  ข้าจะโยนเจ้า และ น้าอยี่ของเจ้าออกไปเสีย หากวันนี้ได้เห็นน้ำตาร่วงหล่นมาจากดวงตาของเจ้าอีก ข้าไม่เคยขอให้เจ้ากระทำสัญญาเลือดบ้าบอนั่น !  เป็นการกระทำที่โง่เขลายิ่ง !  หากน้ำตาใช้ได้กับน้าอยี่ของเจ้า …. !  น้าอยี่ของเจ้าคงสิ้นอายุไข เพราะน้ำตาเคราะห์ร้ายของเจ้า !  แต่มันจะทำให้ข้าต่อสู้กับศัตรูได้ ?  การร่ำไห้มีค่าเพียงผายลม !  เจ้าสามารถทำสิ่งอื่นนอกจากร่ำไห้ได้หรือไม่ ?  เจ้าลองพยายามร้องออกมาอีกหนสิ และดูว่าสิ่งใดจักเกิดขึ้น ! “

จวินโม่เซี่ย คำรามรุนแรง