ทั้งร่างองค์หญิงเริ่มสั่นเทา  สีหน้าชั่วร้ายของจวินโม่เซี่ยทำให้นางผวา  ยิ่งกว่านั้นนางมิกล้าร่ำไห้ออกมา

 

” ความจริง เจ้ามิได้พยายามหลบหนีไปเลย เมื่อ อยี่กู้ฮั่น กำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส !  แน่นอน มันคือสิ่งดีสำหรับเจ้า ! เจ้าน่ากลัวยิ่ง !  พระองค์ ท่านผูกพันธ์กับเขามาก  เจ้าเต็มใจทำทุกสิ่งเพื่อ น้าอยี่ของเจ้า !  น่างประทับใจยิ่งนัก !  ข้ามากยิ่งนับถือเจ้า ! “​

 

จวินโม่เซี่ย ขบฟันขณะพยักหน้าไม่หยุดหย่อน  จากนั้นเขาคำรามสะเทือนเลื่อนลั่น

” เจ้ามิได้คิดถึงผู้อื่นเลย !  เจ้ามิได้คิดถึงสองพี่น้องสาวผู้แสนดี !  เจ้านั้นเอาแต่ใจมากยิ่งจนไม่ยอมหนีไปไม่ว่าอย่างไรก็ตาม  แต่เจ้าคิดว่า พวกเขาจักทิ้งเจ้าและหนีไป ?  เจ้าอาจเป็นเหตุให้พวกเขาประสบอันตรายใหญ่หลวง แท้จริง เจ้าอาจทำให้พวกเขาถูกสังหาร !  พวกเจ้าทั้งสามจักถูกสังหาร และกลายเป็นกองเนื้อเน่าหากมือสังหารต้องการฆ่าแทนการลักพาตัวเจ้า !  ความงามของเจ้ามิอาจะใช้ประโยชน์อันใดได้ !  ความตายของเจ้า อาจไม่เป็นเรื่องน่าเศร้า หากเจ้าคือเป้าหมายของศัตรู  แต่ เจ้าทำให้พี่น้องทั้งสองของเจ้ามาเกี่ยวพัน !  เจ้าจักรู้สึกเช่นไร หากมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับพวกนาง ? “

 

” แต่ … “

องค์หญิงหลิงเมิง นางรู้สึกถึงลางสังหรณ์ลึกในใจ  อีกทั้งยังละอายใจ  ด้วยเหตุนี้ นางจึงไม่กล้าสบตาจวินโม่เซี่ย  ยิ่งกว่านั้น นางมิกล้ามองพี่น้องที่ยืนอยู่เคียงข้าง

 

” แต่อันใด ?! “

จวินโม่เซี่ยน้ำเสียงรุนแรง

” แต่กระนั้น เมื่อ อยี่กู้ฮั่น ล้มลงสู่พื้น … จวนเจียนความตาย  เกิดอันใดขึ้นในหัวของเจ้า ?  เป็นวิธีคิดที่ยุ่งเหยินยิ่ง !

 

” เว้นเสียแต่  อยี่กู้ฮั่น มิได้ตายขณะปกป้องเจ้า .. และเจ้าปลอดภัย และไร้ปัญหาอื่นใดในสถานการณ์นั้น  แท้จริงแล้ว หาก อยี่กู้ฮั่น สิ้นไปในการปกป้องเจ้า มันจะเป็นการตายที่เต็มใจ !  แต่เขาเอาชีวิตตัวเองเข้าขวางทางให้เจ้าหนี การหลบหนีของเจ้าคือราคาที่เขาจ่ายด้วยชีวิต !   แต่ไม่เพียงเจ้าไม่หนีไป … เจ้ายังยืนนิ่ง !  เจ้าทำให้การตายของเขาไร้ซึ่งความหมาย !  ไร้ประโยชน์อันใด !  เขาใช้ชีวิตเข้าแลกเพื่อโอกาสให้เจ้าหนี  แต่เขาจักสิ้นชีพอย่างขุ่นเคืองเพราะเจ้า !

 

” หญิงโง่ !  แต่เจ้าจักเข้าใจได้อย่างไร ?  สมองเจ้าเต็มไปด้วยโคลนตม !  หึ  เจ้าโง่เขลายิ่ง … เกินกว่าจักช่วยเหลือ !  เจ้าเชื่อว่าสองของเจ้ามิได้แย่ ?  และเจ้ายังโอ้อวดความปราดเปรื่อง  เจ้าคิดว่าว่าเจ้าเป็นสิ่งที่ข้าไม่ควรดูแคลนสินะ …. ชิ ! “

เขารู้สึกปิติ และกลั่นแกล้งนางได้สำเร็จ  สิ่งนี้เป็นเพียงเรื่องปกติเนื่องจาก ก่อนหน้านี้ องค์หญิง นิ่งเฉย และรังเกียจการมีตัวตนของเขา

 

” และเจ้า ! “

เขาชี้ไปยัง ตู่กู้เซี่ยวอี้

” มีดที่ข้าให้ เจ้าคิดว่าการผูกมันไว้ที่แขนเป็นเรื่องน่าขัน ?  …. เหตุใดเจ้าจึงไม่ผูกมันไว้ในกางเกาง ?!  เจ้าไม่รู้หรือว่าเคล็ดมีดเหมาะสมกับเจ้า ?  และใช้มันกับมีดเล่มนี้จะส่งผลที่ยอดเยี่ยม ?!  แต่การผูกมันไว้ที่แขนจะมีประโยชน์อันใด ?  เจ้าโดนลาเตะหัวมากระนั้นหรือ ? “

 

จวินโม่เซี่ยหอบรุนแรง แต่เขาดุด่าต่อ

” เหตุใดเจ้าไม่เต็มใจทำ ?  เจ้าว่าแผนจักทำอันใดกับมันอีก ?  มันคือมีด !  มันใช้ทำสิ่งใด ?  มีดมิได้ใช้เป็นเครื่องประดับ หรือ ของตกแต่ง  มีดใช้เพื่อฟันแทงผู้คน ฟาดฟันและสังหารศัตรู !  ผูกไว้กับแขนเจ้าจักให้การมันได้เช่นไร ?  ข้าหล่อหลอมมันด้วยความพยายามมากยิ่ง  เจ้าไม่คิดว่า เหงื่อและกลิ่นตัวของเจ้า อาจทำให้มีเล่มนี้เป็นสนิม เนื่องจากผูกไว้ตรงแขนกระนั้นหรือ ?  เจ้ารู้หรือไม่ว่าต้องใช้ความพยายามทางกายและจิตใจ เวลา และกำลังมากเท่าใด เพื่อตีมีดที่สวยงามเล่มนี้ขึ้นมา ?  เสียของ !

 

” โง่เขลา !  เจ้าโง่เขลามิอาจแก้ไข !  หากหัวของนางเต็มไปด้วยดินโคลน … ของเจ้าจักต้องท่วมท้นไปด้วยน้ำ !  ต้องมีบางผู้ เทเรื่องไร้สาระเหล่านั้นออกมาจากหัวของเจ้า ! “

จวินโม่เซี่ยชี้ไปยัง ตู่กู้เซี่ยวอี้  น้ำลายเขาเกือบกระเด็นโดนหน้านาง  ใบหน้าของ ตู่กู้เซี่ยวอี้  เริ่มซีดลง ขณะนางหลบเลี่ยง

 

” ยิ่งกว่านั้น เป้าหมายของพวกเขามิใช่เจ้า !  องค์หญิงหลิงเมิง ไม่ประสงค์จะหนี แต่เจ้าทั้งสองยังไม่รีบเร่งวิ่งไปหากองกำลังเสริม  เจ้ามองอย่างโง่เขลากระทั่งศัตรูมาถึง !  ศัตรูเป็นยอดฝีมือสวรรค์เชวียน !  เจ้าเข้าใจหรือไม่ว่าสวรรค์เชวียนคืออันใด ?  เจ้าเป็นดั่งขอทานที่ประสงค์ก่อกบฏกับเจ้าเหนือหัว เจ้าเป็นเช่นนั้นต่อหน้าพวกเขา !  ศัตรูสามารถซีกร่างของเจ้าเป็นชิ้นได้ด้วยปลายนิ้ว  พวกเขาสามารถบดขยี้เจ้าทั้งสองเป็นชิ้นได้เพียงบีบนิ้ว !  ไม่ !  ร่างของเจ้าจักไม่เหลือเพียงเศษเสี้ยว !  เจ้าเป็นดั่ง มดที่พยายามเขย่าต้นไม้  เพียงการยกย่องเดียวที่ข้ามอบให้เจ้าทั้งสองคือ … กระทำการโจมตีศัตรูขั้นสวรรค์เชวียนเหล่านั้น ! “

 

” เจ้าเป็นหญิงเขลาคนที่สองในกลุ่มนี้ ! “

จวินโม่เซี่ยสูดหายใจยาวขณะเขาจบ

 

” และเจ้า !  เจ้าคิดว่าความปราดเปรื่องเจ้าเป็นเลิศ ? “

จวินโม่เซี่ยไม่ปล่อย ซุนเซี่ยวเหม่ย ไป

” พวกเขาไม่เข้าใจ … แต่เจ้าก็โง่เขลาเช่นกัน ?  เจ้ามิอาจมือได้ ?  เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าควรหนี … และ ไม่ต้องเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ท้องถนน ?  เจ้าไม่ควรหนีเพื่อชีวิตของเจ้า ?  และเส้นทางหลบหนีที่เจ้าเลือก เป็นเพียงเส้นทางที่คนไร้มันสมองเท่านั้นที่เลือก  เจ้าจะไม่พบถนนคดเคี้ยวหลากหลายเส้นเบื้องหน้า  แต่ที่นั้นมีบ้านมากมายขนาบข้างถนน  และ บ้านเหล่านั้นมีประตูหน้า ซึ่งรวมไปถึงประตูหลัง  ซึ่งนำพาเจ้าไปยังซอยด้านหลัง  ซึ่งจักปลอดภัยยิ่งขึ้น ?  แต่คาดไม่ถึง เจ้าวิ่งอย่างบ้าคลั่งไปบนถนนสายหลัก !  เจ้าคิดว่า เจ้ามีความเร็วเกินกว่ายอดฝีมือสวรรค์เชวียน ?!

 

” ข้ารู้ว่าหน้าตาเจ้ามิได้ดีเด่น  ดังนั้น พฤติกรรมของเจ้าจึงผิดเพี้ยน  เจ้ามองปัญหา  เจ้ามองไปยังผู้คน และ เจ้ามองไปยังเรื่องต่างๆอย่างคมคาย !  ดังนั้นเจ้าจึงอวดดีในเรื่องนี้ !  แต่ความอวดดีของเจ้านั้น ไร้ค่า !  มันมีประโยชน์อันใด ?  เจ้าไม่เคยมองกลับตัวเอง  เจ้าทำเพียงพินิจผู้อื่น และส่วนใหญ่มิใช่แท้จริง !  เจ้ามีสมองหรือไม่ ?  เซี่ยวอี้ไร้เหตุผลในเรื่องนั้น และ สมอง องค์หญิงหลิงเมิงเต็มไปด้วยดินโคลน  เจ้าเป็นเพียงผู้เดียวที่ปราดเปรื่องท่ามกลางพวกนาง  เช่นนั้น เหตุใดเจ้าจึงไม่ ทำให้องค์หญิงสลบและหนีไปกับนาง ?  ข้ามั่นใจว่าเจ้าสามารถหลบหนีไปได้อย่างง่ายดาย หากเจ้าทำให้หญิงโง่เขลาผู้นั้นสลบอย่างรวดเร็ว  และแม้แต่ อยี่กู้ฮั่น ก็จักหนีออกมาได้ หากเจ้าสำเร็จส่วนนั้น  เจ้าบอกข้า ข้าผิด หรือถูก ?!

 

” อย่าได้คิดว่าเจ้าสามารถเข้าใจผู้อื่นได้ โดยไม่เข้าใจตัวเอง ! “

จวินโม่เซี่ย ทุบโต๊ะ

” และอย่าได้คิดว่าเจ้าฉลาดล้ำจนสามารถเข้าใจเจตนาของผู้อื่นได้ !  เจ้าคิดว่าเจ้าเข้าใจจิตใจของบุรุษ และความอ่อนแอของสตรี ?  ให้ข้าได้บอกกับเจ้า !  ความคิดของบุรุษและอิสตรีเป็นของพวกเขา และ ไม่มีผู้ใดต้องการให้ผู้อื่นควบคุม  อย่าได้ชั่งทีท่าผู้อื่นด้วยความรอบรู้อันเวทนาของเจ้า !  ดูเหมือนว่าเจ้ายังขาดแคลนอยู่มากมายยิ่ง !  แม้นเรื่องบังเอิญเล็กน้อยสามารถเป็นอันตรายจนสังหารผู้คนได้  และสิ่งที่เกิดกับ อยี่กู้ฮั่น คือตัวอย่างชั้นเลิศในเรื่องนั้น !

 

” ไม่เป็นไรที่เจ้าโง่เขลา  แต่ เจ้ามิควรลากผู้อื่นมาเกี่ยวข้อง  โดยเฉพาะผู้ที่ใกล้ชิดเจ้า ! “

จวินโม่เซี่ย คำราม

 

จากนั้น เขาหยุดการดุด่าดั่งสายฝน  น้ำลายเขากระเด็นไปทั่ว  แม้นในใจจะสำราณ  เขาก็ได้ตำหนิองค์หญิง และ เหล่าลูกสาวของสกุลใหญ่ดั่งสั่งสอนหลานชาย

 

” แต่ … เป็นดั่งที่เจ้าเอ่ยมา … พวกเราอยู่ในขั้นเชวียนทอง … ห่างไกลจากขั้นสวรรค์เชวียน  ยิ่งกว่านั้น พวกเราก็ได้แก้ไขทุกสิ่งภายใต้ความแข็งแกร่งที่แตกต่างอย่างมหาศาล  และพวกเราสามารถพึ่งพาได้เพียงตัวเองเท่านั้น  เช่นนั้น ข้าควรทำเช่นไร ? “

ซุนเซี่ยวเหม่ยพ่นลมหายใจทางจมูกขณะนางชี้ไปที่จมูก  นางยืดคือและตอบกลับ ค่อนข้างขุ่นเคือง  หญิงผู้นี้ไม่เหมือน องค์หญิง และ เซี่ยวฮั่น  นางทะนงยิ่ง  ดังนั้น นางจึงโต้แย้งกลับ

 

” เจ้าคิดว่าความแข็งแกร่งร่วงหล่นจากฟากฟ้า ? “

เสียงคำรามพ่นออกมาจากจมูกจวินโม่เซี่ย

” เจ้ามิได้แต่งองค์ทรงเครื่องทุกวันหรือ แทนที่จะฝึกฝนความแข็งแกร่ง ?  เจ้าคิดว่าความแข็งแกร่งเจ้าจะเป็นเลิศหากเจ้า กระทำตัวดั่งแจกันดอกไม้งามที่ละเอียดอ่อนและได้รับการปกป้อง ?  เจ้ารู้จักทุนรอนของการเป็นยอดฝีมือชั้นเลิศจริงๆหรือ ?  ชันเจนว่ามันคือสิ่งซึ่งสาวน้อยอย่างเจ้ามิอาจตระหนักถึง  ผู้นั้นจักอุทิศชีวิตและจิตวิญญาณเพื่อฝึกฝัน แม้นแต่คนสามัญยังเข้าใจได้ ! “

 

จวินโม่เซี่ยยิ้ม

” เจ้ายังเด็กนัก แต่เจ้าเป็นยอดฝีมือเชวียนทอง !  แท้จริงแล้ว ถือได้ว่าฝีมือเจ้าไม่สามามัญท่ามกลางคนรุ่นเดียวกัน  มากมายผู้คนจักนับถือว่า การบรรลุไปยังขั้นเชวียนทองขณะยังเด็กนั้นคือผู้ที่แสนประเสริฐ  และข้ายอมรับว่าเป็นจริงเช่นนั้น  การฝึกฝนปราณเชวียนเป็นสิ่งที่ขัดกับธรรชาติ  และ เพื่อเดินไปบนเส้นทางอันยากลำบากนี้ หมายความว่าจักต้องใช้กำลังมากมาย  และ สิ่งสำคัญที่สุดคือการยอมแพ้แต่โลก  เจ้าจักต้อต่อสู้กับร่างของเจ้าทุกวี่วัน !  แต่ เจ้าอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดในชีวิตหญิงสาว !  มีสตรีมากฝีมือมากมายอยู่เสมอ !  แต่ เพียงหญิงที่ไม่สนใจรูปลักษณ์และความเยาว์วัยเท่านั้นที่จะสำเร็จเป็นยอดฝีมือชั้นเลิศ  พวกนางมีเพียงน้อยนิดในระหว่างหลายปีนี้ จากอดีตจนปัจจุบัน !

 

” ข้าเอ่ยสิ่งเหล่านี้เพื่อมั่นใจว่าเจ้ามิได้ทำความผิดพลาดอันโง่เขลาดั่งเช่นวันนี้ !  ความแข็งแกร่งเจ้าอ่อนด้อย  และ ข้ามั่นใจสิ่งที่เกิดเช่นวันนี้จักเกิดขึ้นอีก !  แต่ข้ามั่นใจว่า ไม่มีผู้ใดประสงค์ให้การเสียสละของ อยี่กู้ฮั่น ไร้ค่า เจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าเอ่ยวาจา ? “

 

จวินโม่เซี่ยพึมพำชั่วครู่  เขาไม่สนใจจะระบายความรู้สึก จวินโม่เซี่ยเดินไปยังเก้าอี้และโค้งตัวเข้าหามัน  จากนั้น หลับตา  จากนั้นเอ่ยกระวนกระวาย

” อย่าได้โต้แย้งความจริง ที่ข้าเอ่ยกับเจ้า  มันไร้ประโยชน์ !  อาจดีหากเจ้าสามารถใช้มันโต้เถียงเพื่อโน้มน้าวศัตรู  หากไม่ … เงียบไปเสีย  คุณชาย ทำงานหนักมาเนิ่นนาน เขาประสงค์พักผ่อน “

 

สามหญิงสาวเดือดดาลด้วยโทสะในตอนแรก  จากนั้น ตระหนักได้ว่าคำพูด จวินโม่เซี่ย มีเหตุผลยิ่ง แม้พวกนางไม่ประสงค์รับฟัง  พวกนางมิอาจกลั่นไม่ให้ก้มหัว และพินิจคำพูดของเขา

 

ตู่กู้เซี่ยวอี้  ตีปากตัวเอง และหันไป  จากนั้น จมูกนางพ่นลม และวางท่าที นางย่นจมูกและพึมพำ

” เจ้าไร้เหตุผลยิ่ง !  ฮึ่ม !  เมื่อข้าขุ่นเคือง … ข้าจักเอามีดออกมา … ทำให้รู้สึกเหมือนข้ากำลังมองเจ้า … “

 

ฉับพลันนั้น พวกเขาได้ยินเสียงฝีเท้าหนักหน่วงดังจากภายนอก  ตอนแรก คล้ายดั่งปิศาจขนาดเท่าช้ากระทืบเท้าตรงมายังทิศทางพวกเขา  ความเร็วของมันน่าหวาดกลัว  มิได้รวดเร็วจนน่ากลัว แต่เชื่องช้า

 

สามหญิงสาวมองหน้ากัน  อ้าปากค้าง  จากนั้น ได้ยินเสียงร้องขึ้นจากด้านนอก

” คุณชายน้อยข้า … เจ้าทำให้ข้าต้องวิ่งจนขาหัก!  น่าสงสาร … ข้าต้องแบกของราวห้ากิโลกรัมในการเดินทางครั้งนี้  สำคัญอันใดที่เจ้าต้องใช้ยาเหล่านี้เร่งด่วน ?  ยิ่งกว่านั้น เหตุใดจึงสำคัญที่ข้าต้องนำพามาด้วยตัวเอง ?  ข้าควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษในเรื่องนี้ !  ไปยัง ทะเลสาปหมอกวิญญาณ เย็นนี้ !

 

“ชิ ชิ … เพียงคิดถึงหญิงสาวผู้งดงามเหล่านั้น ท่านพี่ !  ปากของข้าเลอะไปหมดเมื่อคิดถึง !  ข้าประสงค์มองหาพวกนางสักเล็กน้อย จากนั้น ข้าจักลองพยายาม หากจ้าไม่จ่ายเจ้าไม่ได้ แต่มันมีกลวิธี  แท้จริง คุณชายปราดเปรื่องแท้จริง  น้องเล็กผู้นี้ยอมรับเจ้า เขาโค้งแก้เจ้า ! “

 

ไม่ต้องบอกว่าผู้มาใหม่คือผู้ใด …

 

สีหน้าของหญิงสาวในห้องแปรเปลี่ยนเป็นสีดั่งก้นหม้อ  มันมืดมน และ น่ากวาดกลัว  ใบหน้าหญิงสาวทั้งสามแสดงเจตนาเดียวกัน สังหาร !

 

เป็นความตั้งใจที่กดขี่ยิ่ง !

 

คุณชายน้อยสกุลถังลากพุงใหญ่ๆของเขาไปยังธรณีประตูขณะเขาโหยหวน  พร้อมด้วยเสียงร้องและการเยินยอ  จากนั้นเขาส่งเสียงดัง แทบจะเอามือโกยท้องตัวเองจนผ่านประตูมาได้ในที่สุด  ทันใดนั้น เขาตกตะลึงเมื่อเห็นสามหญิงสาวเพ่งมองชั่วร้ายมาที่เขา  เขากลืนน้ำลายคำใหญ่ และกลืนลงท้องไป  จากนั้นมองไปรอบๆด้วยท่าทางใจลอย และกรีดร้องตกใจสุดขีด

” อ๊ากกกกกก !  … “

 

เขาปล่อยยาและพวกมันหกลงพื้น  จากนั้น เขาวิ่งและหายไป