ตอนที่ 132: สิ้นสุดแล้ว (1) โดย Ink Stone_Romance
เฉินเยี่ยนมองพ่อ เวลานี้เธอรู้สึกซาบซึ้ง คำพูดของพ่อคือคำพูดที่เธออยากพูด ไม่จำเป็นต้องทำตัวอ่อนน้อมเพราะเรื่องนี้ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าฝ่ายชายแคร์ ก็ถือว่าจบไป
เวยหลายชุนคิดไม่ถึงว่าเฉินจงจะพูดแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าเฉินจงจะเด็ดเดี่ยวแบบนี้ เราเริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมา เห็นๆ อยู่ว่าบ้านเฉินผิด เห็นๆ อยู่ว่าเฉินเยี่ยนมีชื่อเสียงแบบนั้น พวกเขาปกปิดไม่บอก อยากจะให้ตัวเองเสียเงินทองสู่ขอเฉินเยี่ยนโดยที่ไม่รู้เรื่องราวอะไร ตอนนี้เฉินจงท่าทีแบบนี้หมายความว่ายังไง? บังคับให้ตัวเองตัดสินใจหรือ?
ใช่ ถึงลูกสาวบ้านคุณจะดีแค่ไหน แต่ก็โดนผู้ชายคนอื่นโอบแล้ว กอดไปแล้วไหม? ยังกล้ามาบอกว่าบริสุทธิ์ คนอื่นพูดขึ้นมาจะหัวเราะเยาะกันใหญ่ ถึงเขาจะชอบเฉินเยี่ยน เขาก็ไม่มีทางที่จะยอมรับชื่อเสียงของเฉินเยี่ยนแบบนี้ได้
“คุณลุงพูดแบบนี้ ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย ผมแค่ถามเฉยๆ อย่างน้อยผมจะแต่งงานกับคนหนึ่ง ผมต้องรู้ว่าเธอเป็นคนยังไงสิครับ ต้องอยู่ด้วยกันทั้งชีวิตเลยนะ”
น้ำเสียงเวยหลายชุนฟังดูไม่ดี
“งั้นตอนนี้คุณรู้แล้ว รู้ว่าฉันเป็นคนยังไง ยังต้องการจะไปต่อหรือไม่?”
ในที่สุดเฉินเยี่ยนก็พูดแล้ว หวางนิวส่งสายตาให้เธอ รู้สึงว่าน้ำเสียงเฉินเยี่ยนแข็งเกินไป มีอะไรพูดกันดีๆ ไม่ได้หรือ ถ้าเวยหลายชุนโกรธแล้วไปจะทำยังไง
เฉินเยี่ยนไม่ได้มองหวางนิว มองแต่เวยหลายชุน
เวยหลายชุนมองไม่เห็นความละอายใจจากสีหน้าของเฉินเยี่ยน และไม่มีความเขินอายด้วย ไม่รู้สึกขายหน้า มองเขาแบบนี้ เหมือนมีความอวดดีและมีความไม่แคร์อยู่
เฉินเยี่ยนเป็นแบบนี้ทำให้เวยหลายชุนโกรธ เธอมีอะไรให้อวดดี เพราะว่าเธอสวยหรือ? เฉินเวยไม่สวยเหมือนกัน แต่เฉินเวยเหมือนเธอไหม!
เธอเป็นคนผิดแท้ๆ ทำไมเธอยังสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำแบบนี้!
เห็นเวยหลายชุนมองเธอไม่พูดอะไร เฉินเยี่ยนถอนหายใจออกมา เธอเข้าใจความคิดของเวยหลายชุน อันที่จริงก็ปกติ อย่าว่าแต่เวยหลายชุนเลย ผู้ชายคนอื่นก็เกรงว่าจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน
ตอนแรกที่ไม่รู้เรื่องอะไรได้เจอผู้หญิงสวยคนหนึ่ง คุณจะคิดว่าเธอดีงามขนาดไหน แต่ตอนที่รู้ว่าชื่อเสียงผู้หญิงคนนี้ไม่ดี มีตำหนิ คุณก็จะผิดหวัง จะถอยออกมากลางคัน จะแคร์ เป็นธรรมชาติของมนุษย์
ช่างเถอะ เธอจะไม่ฝืนคนอื่น ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามจะถอยเพราะเธอมีชื่อเสียงแบบนี้ ก็หมายความว่าเขาก็ไม่ใช่คนที่ตัวเองต้องการเหมือนกัน
“ช่างเถอะ วันนี้ไม่ต้องไปบ้านคุณแล้วล่ะ”
เฉินเยี่ยนพูดประโยคนี้ออกมา ในใจกลับรู้สึกผ่อนคลายลง บางทีกับเวยหลายชุนเธอเป็นคนถูกเลือก ไม่ใช่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ส่วนบ้านเวย เธอไม่เคยทำความรู้จักมาก่อน ไม่ต้องติดต่อกัน เธอก็รู้สึกเบาลง
แต่ประโยคนี้ของเฉินเยี่ยนพูดออกไป เวยหลายชุนกลับโมโหขึ้นมา เขาลุกขึ้นยืน เดินมาด้านหน้าเฉินเยี่ยน
“เฉินเยี่ยน คุณหมายความว่ายังไง? ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย ทำไมคุณพูดว่าไม่ไปบ้านผมแล้ว! หรือว่าคุณไม่คิดจะคบกับผมตั้งแต่แรก? หรือว่าคุณไม่ได้ชอบผมเลย? คุณถึงได้พูดแบบนี้! คุณมีจิตใจบ้างไหม คุณรู้หรือเปล่าว่าผมได้ยินเรื่องนี้แล้วเสียใจแค่ไหน? คุณรู้หรือเปล่าว่าหลายวันนี้ผมนอนไม่หลับ คุณรู้ไหมว่าผมสับสนมากแค่ไหน ผมคิดทุกวันว่าควรทำยังไง ผมหาข้ออ้างให้คุณ แล้วคุณล่ะ? ทำไมคุณถึงทำแบบนี้? จนถึงตอนนี้คุณไม่ละลายใจบ้างเลยเหรอ”
เวยหลายชุนถามเฉินเยี่ยนตรงๆ เขาคิดว่าเฉินเยี่ยนควรขอร้องเขา เฉินเยี่ยนควรจะรู้จักละลาย ถ้าเฉินเยี่ยนรู้จักละลายใจ รู้ว่าผิด บางทีเขาอาจจะพิจารณาให้อภัยเฉินเยี่ยน ให้เรื่องนี้ผ่านไป แต่เฉินเยี่ยนพูดอย่างล่องลอยว่าช่างเถอะ เขารับไม่ได้ ควรจะเป็นเขาที่เป็นคนเลือกไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้กลายเป็นเฉินเยี่ยน?
“คุณไม่ต้องสับสนแล้ว แล้วคุณก็ไม่ต้องเสียใจแล้วด้วย ชื่อเสียงฉันไม่ดี ฉันยอมรับ ฉันเลือกให้คุณแล้ว ดีแค่ไหน ส่วนฉันละอายใจไม่ละอายใจ นั่นเป็นเรื่องของฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องพูด”
เฉินเยี่ยนไม่อยากให้ยืดเยื้อ เธอเข้าใจคำพูดของเวยหลายชุนแล้ว ไม่กี่วันก่อนเวยหลายชุนก็รู้แล้ว วันนั้นที่เขามายังไม่รู้เรื่อง หมายความว่าเขารู้เรื่องเย็นวันนั้นตอนที่กลับไป ใครเป็นคนพูด?
ถ้าเป็นเฉินเวย แล้วเฉินเวยพูดในสถานการณ์ไหน? เธอนึกออกแล้วว่าเย็นวันนั้นเฉินเวยขาแพลง เกรงว่าจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเวยหลายชุน เฉิยเวยจะพูดอะไร เธอคิดก็รู้แล้ว ถ้าวันนี้เวยหลายชุนมาตรงเวลา ระหว่างทางไปบ้านเวยถามเธอตัวต่อตัว เธอต้องเล่าเรื่องนี้อย่างชัดเจนให้เวยหลายชุนฟัง จากนั้นจะถามความเห็นเวยหลายชุนอย่างจริงจัง ปรึกษากันสองคนว่าควรทำอย่างไร จะไม่เป็นแบบตอนนี้
ตอนนี้ท่าทางของเวยหลายชุนแสดงออกว่าเขารังเกียจ แล้วทำไมเธอยังต้องไปต่อ?
“เยี่ยนจื่อ ลูกพูดดีๆ เดิมทีเรื่องนี้พวกเราทำไม่ถูก ต้าชุน คุณอย่าถือสา เยี่ยนจื่อเราเป็นคนตรงๆ ไม่ค่อยอดทน แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ความผิดของเธอจริงๆ ขอแค่คุณไม่คิดมาก พวกเราจะชดใช้ให้แทนเยี่ยนจื่อ เยี่ยนจื่อต้องทำดีกับคุณ เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับคุณดีแน่นอน ถึงเวลานั้นพวกเราจะให้สินเดิมของเจ้าสาวกับเยี่ยนจื่อเยอะหน่อย ธุรกิจบุหรี่นี่ก็ให้พวกคุณ พวกเรารับรอง เรื่องนี้พวกเราก็คิดเสียว่าให้มันผ่านไปได้ไหม?”
หวางนิวเข้ามาขอร้องเวยหลายชุน เธอไม่อยากให้เรื่องนี้สูญเปล่าไปจริงๆ ชื่อเสียงลูกสาวไม่ดี หาลูกเขยดีๆ มันยากมาก เธอไม่อยากให้ลูกสาวหลุดมือไป
เวยหลายชุนมองหวางนิว แล้วมองเฉินเยี่ยน เขารอเฉินเยี่ยนพูด
“เฉินเยี่ยน ขอแค่คุณยอมรับว่าคุณผิด ขอแค่คุณยอมรับ…”
เวยหลายชุนพูดยังไม่ทันจบ เฉินเยี่ยนขัดเขาขึ้นมา “ผิดหรือ? ฉันทำผิดตรงไหน? น่าขำ! เวยหลายชุน บอกคุณให้ คนที่บอกเรื่องนี้กับคุณไม่ได้เล่าทั้งหมดใช่ไหม? เธอไม่ได้รับผิดแทนฉันหรือ?”
เห็นเฉินเยี่ยนยิ้มเยาะแบบนี้ เวยหลายชุนร้อนรน “คุณหมายความว่ายังไง? หรือว่าเรื่องนี้คุณไม่ผิดเลยสักนิด? ถ้าคุณเป็นคนดี ทำไมอวี๋เหวยหมินถึงไม่ชอบคุณ ต้องทำร้ายคุณ? ถ้าคุณเป็นคนดี แล้วทำไมอวี๋ชุนชานต้องไปสวนผลไม้? เห็นเขาทำไมคุณไม่วิ่งหนี? ต้องรอให้เขาทำแบบนั้นคุณถึงต่อต้าน เรื่องนี้คุณไม่ผิด? เกิดเรื่องแล้วคุณยังบิดพลิ้วอยู่อีก คิดว่าใครก็ทำผิดต่อคุณ ตอนนี้คุณยังเป็นอย่างนี้ ผมว่าที่คนอื่นพูดนั้นไม่ผิด คุณไม่มีเหตุผล คิดแต่ตัวเอง ไม่คิดถึงคนอื่น”
คำพูดเวยหลายชุนไม่รักษาน้ำใจเลย เขาคิดแบบนี้ในใจ
เฉินเยี่ยนฟังแล้วไม่โกรธแต่กลับขำ ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง คิดว่าคนอื่นก็เหมือนเวยหลายชุนกันหมด คิดว่าเธอคือคนผิดสินะ
“ในเมื่อแบบนี้แล้วคุณจะยังมาทำอะไร ฉันหน้าไม่อาย ทำไมคุณต้องลำบากมาถึงนี่ คุณไปเถอะ”
เฉินเยี่ยนขี้เกียจจะโต้แย้งกับเวยหลายชุนแล้ว เธอก็ไม่ได้เสียใจ เวยหลายชุนไม่เข้าใจเธอ ว่าเธอแบบนี้ เธอไม่สนใจ แต่ในใจไม่รู้สึกเสียใจสักนิดเลยหรือ? ทำไมในใจยังมีความรู้สึกอึดอัดอยู่
————–