Dual Cultivation บทที่ 602 ฝากฝังร่างกายให้กับเขา
“อาาา”
“อาาาา
“โอออ”
ซุนจิงจิงครวญครางดังลั่นขณะที่มีบางสิ่งที่ใหญ่กว่าปกติถูไถไปบนผนังด้านในของถ้ําลับของเธออย่างคลั่งไคล้รู้สึกเหมือนกับว่าผนังด้านในนั้นยืดออกจนถึงขีดจํากัด
สองสามนาทีให้หลัง เมื่อซุนจิงจิงมาถึงขีดจํากัด ซูหยางก็ได้ปลดปล่อยปราณหยางของเขาเข้าไปในร่างของเธอ เติมเต็มทุกตารางนิ้วของถ้ําของเธอด้วยสารข้นเหนียวสีขาว
“อาาาาา”
ซุนจิงจิงครวญครางเสียงดังลั่งอย่างต่อเนื่อง จากนั้นกลีบดอกไม้ฉ่ําเยิ้มของเธอจึงค่อยปลดปล่อยปราณหยินออกมา
“ฮาาา… ฮาา… ฮาาา…” ซุนจิงจิงครวญครางเสียงดังลั่น รู้สึกเหมือนกับว่าเธอกําลังจะสูญเสียสัมปชัญญะ
หลังจากที่หายใจได้ทันแล้วในเวลาหลังจากนั้น เธอก็ถามเขาด้วยเสียงงงงันว่า “เกิดอะไรขึ้นเมื่อกี้นี้ซูหยาง”
“ทําไมเจ้ามิดูด้วยตัวเจ้าเอง” ซูหยางกล่าวกับเธอ
ซุนจิงจิงผงกหัวขึ้นเล็กน้อยมองไปยังแก่นกายที่อยู่ตรงหว่างขาของเขา
“อ-อะไรกัน สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน” ปากเธออ้ากว้างหลังจากที่เห็นขนาดของแก่นกายของเขาที่ใหญ่กว่าที่เธอจําได้
“ถ้าเจ้าประหลาดใจกับเรื่องแค่นั้น ก็จงดูว่าข้าสามารถทําอะไรได้บ้าง…”
ซูหยางกล่าวขึ้น และทันใดนั้นต่อหน้าต่อตาของเธอ แก่นกายของเขาก็เริ่มขยายตัวใหญ่และยาวขึ้น
ซุนจิงจิงจ้องมองโดยมีดวงตาที่กลมโตราวจานรองถ้วยชา ดูราวกับว่าเธอกําลังเป็นรู้ เห็นเป็นพยานของบางสิ่งบางอย่างที่เป็นไปไม่ได้
“อะไรกัน… ได้อย่างไร…” เธอพูดไม่ออกเมื่อเธอไม่สามารถแม้กระทั่งที่จะหาคํามาถามเขาเกี่ยวกับมัน
“วิชานี้เรียกว่า “เปลี่ยนรูปนับอนันต์” และมันเป็นวิชาที่ข้าคิดค้นขึ้นมาหลังจากที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิชาการแปลงโฉมอื่น ด้วยวิชานี้ ข้าสามารถที่จะยืดยาวหรือเพิ่มขนาดของส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายของข้าได้ตามใจปรารถนา ทั้งยังสามารถเปลี่ยนรูปทรงของมันได้อีกด้วย” ซูหยางอธิบายต่อเธอ
“ม-มีข้อจํากัดของวิชานี้หรือไม่” ซุนจิงจิงถามเขาด้วยเสียงงุนงง
“ข้าก็ไม่รู้” ซูหยางส่ายหน้า
ซุนจิงจิงพูดไม่ออก นี้หมายความว่าเขาสามารถเปลี่ยนได้ทั้งขนาดและรูปทรงของน้องชายของเขาได้ตามที่เขาต้องการอย่างนั้นใช่ไหม นั่นหมายความว่าเขาสามารถที่จะสร้างความพึงพอใจให้หญิงคนใดก็ได้ในโลกนี้โดยมิมีขีดจํากัด ในเมื่อเขาสามารถเปลี่ยนแปลงอวัยวะเพศของเขาให้เข้ากับภายในถ้ําแบบใดก็ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นจุดสูงสุดของวิชาการฝึกคู่สําหรับผู้ชาย
“เจ้าต้องการที่จะรับรู้มันอีกครั้งหรือไม่” ซูหยางพลันกล่าวกับเธอที่ยังคงจ้องไปยังแก่นกายของเขาด้วยสายตาโหยหา
“ช-ใช่” ซุนจิงจิงไม่เสียเวลา พยักหน้าและกางขาของเธอออก
ซูหยางยิ้มและสอดใส่แก่นกายของเขาเข้าไปในถ้ําของเธออีกครั้ง
จากนั้นเขาก็ใช้วิชาเปลี่ยนรูปนับอนันต์ปรับความยาวและขนาดของแก่นกายจนกระทั่งมันเข้ากันกับถ้ําของซุนจิงจิงได้อย่างสมบูรณ์ ไม่เหลือที่ว่างที่ไม่ถูกสัมผัส
ซุนจิงจิงสามารถรู้สึกได้ถึงน้ําที่หยาดเยิ้มอย่างควบคุมไม่ได้ของน้องสาวของเธอ หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“โอ้ สวรรค์”
เมื่อซูหยางเริ่มขยับ ซุนจิงจิงก็เกือบกลายเป็นบ้าจากความสุขที่เข้มข้นที่มาจากภายในถ้ําของเธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอเพิ่งเข้าสวรรค์ เป็นความสุขแบบใหม่อีกระดับหนึ่งที่เธอไม่เคยได้ประสบมาก่อน
อย่างไรก็ตามเพราะว่าความสุขที่ท่วมท้น เธอจึงได้แต่สามารถเสพสุขอยู่ได้เพียงนาทีก่อนที่ซูหยางจะต้องดึงเอาแก่นกายของเขาออกจากร่างของเธอ
“ท-ทําไมท่านจึงหยุด ซูหยาง” เธอถามเขาด้วยสีหน้าสับสน เสียงของเธอเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ฟังดูเหมือนกับว่าเด็กแร้นแค้นที่เพิ่งถูกแย่งลูกอมไปจากปากของเธอ
“เจ้ามิสามารถที่จะรองรับวิชานี้ได้เกินกว่าหนึ่งนาที่ในสถานะปัจจุบัน มิเช่นนั้นมันจะมีผลกระทบกับจิตใจของเจ้าอย่างถาวร ถ้าเจ้าต้องการที่จะได้รับประสบการณ์กับวิชานี้นานกว่านี้เจ้าต้องพัฒนาความอดทนของเจ้า”
“เช่นนั้นมีวิธีไหนบ้างที่
กช่วยข้าพัฒนาความอดทนของข้าได้อย่างรวดเร็ว” เธอรีบถามเขา
ซูหยางพยักหน้าและกล่าวว่า “โดยปกติแล้วมีวิธีที่จะเพิ่มความอดทนของเจ้าได้อย่างรวดเร็วแต่ว่าข้ามขอแนะนําให้ทําเช่นนั้นในเมื่อนั้นจะเป็นการทําร้ายร่างกายของเจ้าในระหว่างกระบวนการนั้นอย่ากังวลไป จิงจิง ตราบเท่าที่เจ้าสามารถที่จะฝึกฝนกับข้าได้อย่างปกติ ความอดทนของเจ้าจะพัฒนาไปตามธรรมชาติอยู่แล้ว และก่อนที่เจ้าจะทันได้รู้ตัว เจ้าก็จะสามารถที่จะรับมือกับเปลี่ยนรูปนับอนันต์ได้กว่าชั่วโมงโดยมิต้องพัก”
“แต่นั่นมิต้องใช้เวลายาวนานหรอก” ซุนจิงจิงถอนหายใจ “ตอนนี้ข้าได้ประสบกับวิชาเทพเช่นนั้นแล้วข้าย่อมมิพึงพอใจกับอย่างอื่นอีก…”
เมื่อได้ยินคําพูดของเธอ ซูหยางก็ยิ้มและกล่าวว่า “ถ้าเจ้าคิดว่าเปลี่ยนรูปนับอนันต์เป็นจุดสุดยอดของความสามารถของข้า เช่นนั้นแล้วข้าก็จักต้องทําให้เจ้าต้องผิดหวัง เปลี่ยนรูปนับอนันต์เป็นเพียงแค่ปลายยอดของภูเขาน้ําแข็งเท่านั้น และเมื่อความทนทานของเจ้าพัฒนาขึ้นข้าก็จักเพิ่มความสุขที่เจ้าจักรู้สึกได้”
“จริงรี” ซุนจิงจิงมองดูเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“ทําไมข้าต้องโกหกเจ้าด้วย” ซูหยางกล่าวกับเธอ จากนั้นเขาก็จับมือของเธอไว้แล้วตรึงร่างของเธอเข้ากับเตียง
“แต่ในเมื่อเจ้าต้องการพัฒนาความอดทนของเจ้ามากนัก ข้าก็จักช่วยเจ้าในเรื่องนั้น แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ถือว่าง่ายนัก ตามความเป็นจริง มันอาจจะทําให้เจ้าบาดเจ็บอยู่บ้าง”
เมื่อเห็นรอยยิ้มซาดิสม์บนใบหน้าของซูหยาง ซุนจิงจิงก็กลืนน้ําลายอย่างเป็นกังวล
อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังคงยิ้มและกล่าวว่า “ข้ารู้ว่าท่านพยายามอย่างที่สุดที่จะยับยั้งความสามารถที่แท้จริงของท่าน ซูหยาง แม้ว่าท่านได้สร้างความพึงพอใจให้กับคู่เคียงของท่านตลอดมาแต่ท่านก็มสามารถที่จะได้สร้างความพึงพอใจให้กับตนเองได้อย่างเต็มที่เพราะว่าท่านกลัวที่จะทําร้ายพวกเรานั่นจึงเป็นเหตุที่ข้าต้องการที่จะพัฒนาตัวข้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่ข้าจะได้ช่วยบรรเทาสิ่งที่ท่านได้อดกลั้นไว้ไปได้บ้าง”
“จิงจิง” สีหน้าอบอุ่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของซูหยาง และเขาก็พูดว่า “ถึงแม้ว่านี่จะเป็นความจริงข้าก็มิได้ปรารถนาที่จะเห็นเจ้าต้องทําร้ายตัวเจ้าเองเพื่อประโยชน์ของข้าถ้ามีอะไรข้าก็ควรจะเป็นคนที่แบกรับความรับผิดชอบนั้น”
“ได้โปรดซูหยาง ข้าขอคัดค้าน ข้าเชื่อว่าท่านมิทําร้ายข้า” เธอกล่าวกับเขา
หลังจากครุ่นคิดชั่วขณะ ซูหยางก็พยักหน้า “ก็ได้ เช่นนั้นเราก็มาเริ่นกันเถอะถ้าหากว่ารู้สึกเจ็บปวดเกินทนก็บอกให้ข้ารู้ด้วย”
“ถ้าเช่นนั้น ข้าก็ขอฝากฝังร่างกายนี้กับท่านด้วย ซูหยาง” ซุนจิงจิงกล่าวขณะที่เธอผ่อนคลายร่างกายยอมให้ซูหยางดําเนินการกับร่างของเธอได้อย่างเต็มที่
เวลาต่อจากนั้นซูหยางก็สอดใส่แก่นกายของเขาเข้าไปในร่างของซุนจิงจิงและเริ่มขยับสะโพก