บทที่ 603 หญิงหนึ่งในหมื่น
“อาาาาา”
ซุนจิงจิงครวญครางอย่างป่าเถื่อนขณะที่ซูหยางทิ่มแทงถ้ําคับแคบของเธอด้วยความเสน่หาเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงต่อเนื่อง รู้สึกเหมือนกับว่าร่างของเธอนั้นถูกแผดเผาจากความพึงพอใจ
“ข้ากําลังจะออกแล้ว ข้ากําลังจะออกแล้ว” เธอตะโกน
“อาาาาา”
ซุนจิงจินหอบหายใจหนักหลังจากนั้น เธอได้ไปสู่จุดสุดยอดไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งระหว่างเวลาหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาจนเธอลืมนับไปนานแล้ว
“ฮาาา… ฮาาาา… ฮาาา…”
ซูหยางหยุดเคลื่อนไหวเพื่อปล่อยให้ซุนจิงจิงได้พัก แต่ว่าการพักนั้นไม่ได้นานนัก และซูหยางก็เริ่มขยับสะโพกของเขาก่อนที่ซุนจิงจิงจะทันได้ฟื้นตัวได้เต็มที่จากการไปถึงจุดสุดยอดก่อนหน้า
“อาาาาาา” ซุนจิงจิงจิกผ้าปูเตียงแน่น ร่างของเธอสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ และเธอก็ปลดปล่อยปราณหยินออกมาอีกรอบสองสามอึดใจให้หลัง
แต่ว่าซูหยางไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวในรอบนี้ ยังคงทิมแทงแก่นกายของเขาเข้าไปในร่างของเธออย่างต่อเนื่อง กระตุ้นให้เกิดความสุขสมยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม
แม้ว่าซุนจิงจิงได้ปลดปล่อยปราณหยินของเธอออกมาทุกสองสามนาที แต่เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าเธอนั้นอยู่ที่จุดสุดยอดตลอดมาโดยไม่ได้พักแม้แต่น้อย แต่เธอก็ไม่ได้บอกให้ซูหยางหยุด ปลดปล่อยตัวเองให้จมอยู่ในห้วงหฤหรรษ์อันไม่รู้จบ
หลายชั่วโมงได้ผ่านพ้นไปนับตั้งแต่พวกเขาเริ่มร่วมเรียงเคียงคู่ แต่ทว่าพวกเขาทั้งสองคน ก็ยังคงอยู่บนเตียงกอดก่ายซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ตาม ซุนจิงจิงไม่ได้ครวญครางอีกต่อไป ในเมื่อเธอนั้นหมดเสียงของเธอไปจากการครวญครางมากเกินไป ร่างของเธอนั้นชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ราวกับว่าเธอเพิ่งขึ้นมาจากอ่างอาบน้ําที่มีน้ําเต็มเปี่ยม
สองสามนาทีให้หลัง ซุนจิงจิงก็ร้องออกมาด้วยเสียงอันดัง แต่คราวนี้ไม่ใช่เป็นเสียงแห่งความพึงพอใจเหมือนทุกครั้ง แต่เป็นเสียงร้องแห่งความเจ็บปวด
และเมื่อได้ยินเสียงร้องครางอย่างเจ็บปวด ซูหยางก็หยุดในทันทีและกล่าวขึ้นว่า “นี่เป็นขีดจํากัดของเจ้า ถ้าดําเนินต่อไปนั่นจะเป็นการทําร้ายร่างกายของเจ้า”
ซุนจิงจิงไม่ได้ตอบแต่เพียงพยักหน้าของเธอเล็กน้อย ในเมื่อนี้เป็นพละกําลังของเธอทั้งหมดที่รวบรวมได้ในขณะนั้น
ซูหยางจึงดึงเอาแก่นกายของเขาออกมาจากร่างของเธอและนําเอาแหวนมิติออกมา
สองสามอึดใจให้หลัง เขาก็กลับไปที่ด้านข้างซุนจิงจิงพร้อมกับเม็ดยาในมือ
จากนั้นเขาก็นําเอาเม็ดยาเข้าไปในปากของตนเองแล้วกัดมันออกเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนที่จะดื่มน้ําตามอีกเล็กน้อย แล้วประกบปากกับซุนจิงจิงป้อนตัวยาที่ละลายเข้าไปในปากของเธอให้ไหลไปตามลําคอของเธอ
เม็ดยาไม่ได้ช่วยซุนจิงจิงฟื้นตัวในทันที ดังนั้นเขาจึงนําเธอไปยังห้องน้ําเพื่อชําระล้างร่างกายในช่วงเวลานี้
หลังจากที่ชําระล้างเหงื่อและปราณหยางออกจากร่างของเธอแล้ว ซูหยางก็นําเอาเตียงสะอาดออกมาจากแหวนมิติและเปลี่ยนมันกับเตียงที่สกปรกก่อนที่จะวางตัวเธอบนนั้น
สองสามนาทีให้หลังเมื่อซุนจิงจิงฟื้นตัวมากพอที่จะพูดได้แล้ว เธอก็พูดกับเขาด้วยเสียงเบาๆว่า “ข้าคิดว่าข้าจะสามารถที่จะทําให้ท่านได้มีความสุขได้สักครึ่งวันเป็นอย่างน้อย แต่อนิจจา…”
“อย่ากังวลไปในเรื่องนั้น เจ้าได้ทําดีที่สุดแล้วสําหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับการฝึกแบบรุนแรง” ซูหยางกล่าวกับเธอด้วยรอยยิ้ม
“บอกกับข้าตามความเป็นจริง ซูหยาง…. ความสามารถที่แท้จริงของท่านที่ท่านใช้ในเมื่อกี้นี้เท่าไหร่กัน” เธอถามเขา
“ประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์ ซูหยางกล่าว
“สามสิบเปอร์เซ็นต์…” ซุนจิงจิงหัวเราะออกมาด้วยท่าทางทดท้อ แล้วทอดถอนใจหลังจากนั้น “ดูเหมือนข้าจักยังคงห่างไกลจากการยอมรับทุกอย่างจากท่านได้”
“อย่าคิดต่ําเกินไปนัก จากคนนับไม่ถ้วนที่ข้าเคยได้กอดมาในชีวิตก่อนของข้านั้น มีคนเพียงหยิบมือเดียวที่สามารถที่จะรองรับความสามารถ 90% ของข้าได้ อย่าว่าแต่ 100 % ตามความเป็นจริง มีเพียงหญิงหนึ่งในหมื่นคนที่สามารถที่จะรองรับความสามารถ 30 %ของข้า แม้ว่าจะรู้จักข้ามากว่าหนึ่งปีแล้ว”
ซุนจิงจิงมองดูเขาด้วยใบหน้าสับสน มีหญิงกี่คนที่เขาได้มีเพศสัมพันธ์ด้วยที่ทําให้เขาสามารถบอกออกมาเป็นเลขสถิติได้ นั่นจะต้องเป็นเลขหลักแสนขึ้นไป
“หลับให้ฝันดีคืนนี้ แม้ว่ามันจักต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่ในที่สุดเจ้าก็จักสามารถรองรับข้าได้อย่างดีที่สุด และเมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าก็จักให้เจ้าได้รับรู้ถึงประสบการณ์กับจุดสูงสุดของความสุข”
“จุดสูงสุดของความสุข” ซุนจิงจิงพึมพัมกับตนเองพร้อมกับหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง
“ข้าจะเข้มงวดในการฝึกฝนเช่นกันเพื่อที่ว่าข้าจักมีล้าหลังเมื่อยามพวกเราจากที่แห่งนี้ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพี่สาวลี่ชิงหรือว่าใครก็ตามในตระกูล ข้าจักมิยอมพ่ายแพ้พวกเขา” ซุนจิงจิงสาบานในใจพร้อมกับสีหน้าเด็ดเดี่ยว
ซูหยางออกไปจากที่แห่งนั้นหลังจากนั้นสักพัก และซุนจิงจิงก็หลับลงไปไม่นานหลังจากนั้น อย่างไรก็ตามเพราะว่าประสบการณ์หนักหน่วงในวันนี้ เธอจะต้องใช้เวลาสักพักเพื่อที่จะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ และจํากัดการฝึกฝนไว้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากที่ออกจากอาคารของซุนจิงจิงแล้ว ซูหยางก็ยังไม่ได้กลับคืนไปยังศาลาหยินหยางในทันที กลับกันเขาตรงไปที่ศาลาหยินหยาง
“ท่านผู้นํานิกาย”
ศิษย์ที่อยู่ในนั้นพลันทักทายเขา
“ท่านมาที่นี่เพื่อหาอาจารย์รี ตอนนี้เธออยู่ที่ชั้นบน” พวกเธอรีบกล่าวกับเขา
ซูหยางพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ครั้นเมื่อข้าเสร็จธุระกับเธอแล้ว ข้าจักฝึกกับพวกเจ้าหากว่าพวกเจ้าต้องการ”
“เอ๋”
เหล่าศิษย์ที่นั่นต่างพากันจ้องมองเขาด้วยสีหน้างงงัน
“ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ยังมิได้ทําตามคําสัญญาของข้าที่จะร่วมฝึกกับพวกสาวเจ้าเนื่องเพราะเหตุ การณ์กับนิกายล้านอสรพิษ ถ้าพวกเจ้ามิต้องการ นั้นก็มิเป็นไรเช่นเดียวกัน” ซูหยางกล่าวกับพวกเธอขณะที่เขามุ่งตรงไปที่บันได
“พ-พวกเราต้องการที่จะฝึกกับท่าน” เหล่าศิษย์พากันรีบตอบราวกับว่าพวกเธอกลัวว่าเขาจะพลันเปลี่ยนใจ
ซูหยางพยักหน้า “ข้าจักให้อาจารย์ของพวกเจ้ารู้หลังจากนี้”
ครั้นเมื่อซูหยางขึ้นไปยังชั้นบนแล้ว บรรดาศิษย์ทั้งหมดที่นั่นต่างพากันแสดงความยินดีด้วยการกระโดดขึ้นลง ทําให้สถานที่นั้นเต็มไปด้วยความสุขส่งเสียงหัวเราะกันดังลั่น
ในเวลานั้น เมื่อซูลี่ชิงได้ยินเสียงอึกทึกที่ชั้นล่าง เธอก็เตรียมที่จะลงไปเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากที่เห็นซูหยางอยู่ที่ประตู เธอก็รีบเลิกล้มความคิดนั้นและกล่าวกับเขาว่า “เจ้าพูดอะไรกับศิษย์ของข้าจนทําให้เกิดเสียงเอะอะวุ่นวายกัน”
“ข้าสัญญาพวกเขาว่าข้าจะฝึกร่วมกับพวกเธอหลังจากนี้” เขากล่าวพร้อมกับยิ้ม
“มิน่า” เธอหัวเราะกับคําของเขา
จากนั้นเธอก็พูดต่อไปอีกว่า “พวกเธอคาดหวังที่จะได้ฝึกกับเจ้านับตั้งแต่พวกเธอได้กลับมายังนิกาย แต่พวกเธอก็กลัวว่าเจ้าอาจจะปฏิเสธพวกเธอเพราะสิ่งที่เกิดขึ้น”
“ข้ามิทําอะไรเช่นนั้นหรอก” เขาส่ายหน้า
“ข้ารู้ และข้าก็ได้บอกพวกเธอไปแล้ว แต่พวกเธอก็ยังไม่ต้องการที่จะรับฟังข้า” ชูลี่ชิงถอนใจ “ว่าแต่ว่า อะไรที่นําเข้ามาถึงที่นี่ ซูหยาง”