ซือกงวู่จี๋อยู่ในอาการตกใจและแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตาตัวเองเห็น แต่เหลิ่งหยางชูซึ่งอยู่ข้างๆเขานั้น กลับมีท่าทีแตกต่างกัน
  หลังจากตกใจเพียงแค่ช่วงสั้นๆจากนั้นหัวใจของเหลิ่งหยางชูก็ถึงกับเต้นแรง และเย็นวาบไปทั่วทั้งร่างกาย และหัวใจ..
  นั่นเพราะเหล่ายอดฝีมือชุดแรกที่บุกเข้าไปในบ้านเลขที่-1นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นกำลังสำคัญของสำนักแดนใต้ เหลิ่งหยางชูใช้เวลาหลายปี และผ่านความยากลำบากมามาก กว่าที่จะสร้างสำนักเล็กๆขึ้นมาจนกลายเป็นสำนักแดนใต้อย่างทุกวันนี้ แต่เวลานี้ศิษย์สำนักแดนใต้กลับถูกสังหารตายจนหมด มีหรือที่เหลิ่งหยางชูจะไม่รู้สึกเศร้าโศกเสียใจ..
  แต่นอกเหนือจากยอดฝีมือทั้งสามสิบหกคนนี้ก็ยังมีกงซุ่นหลี่ที่ได้นำยอดฝีมือทั้งแปดคนของสำนักแดนใต้ขึ้นไปบนยอดเขาหลงเหมิน และเวลานี้เหลิ่งหยางชูก็กำลังภาวนาให้กงซุ่นหลี่นำยอดฝีมือทั้งแปดคนกลับมาในสภาพที่สมบูรณ์
  แต่น่าเสียดายที่เหลิ่งหยางชูผู้น่าสงสารนั้นกลับไม่รู้ว่าเวลานี้ทั้งเก้าคนรวมทั้งกงซุ่นหลี่ ได้ถูกคมกระบี่ของหลิงหยุนทำให้วิญญาณออกจากร่างไปหมดแล้ว พวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะส่งข่าวมาบอกเหลิ่งหยางชูด้วยซ้ำไป..
  และเวลานี้..เจ้าสำนักแดนใต้จึงเหลือเพียงตัวคนเดียวโดดเดี่ยว!
  “ที่แท้ลูกเหล็กใหญ่เหล่านั้นก็คือค่ายกลที่ทรงพลังยิ่งนัก..”
  ซือกงวู่จี๋หายจากอาการตกใจภายในเวลาอันรวดเร็วและกลับสู่ความเป็นปกติในที่สุด เลือดภายในกายของเขาเย็นเฉียบ แต่ถึงกระนั้นยอดฝีมือที่ตายไปเวลานี้ ก็ไม่ใช่คนของตัวเอง เขาจึงไม่ได้ใส่ใจนัก..
  ซือกงวู่จี๋พึมพำกับตัวเองในขณะที่หันไปมองรอบๆ“ดูเหมือนสาวน้อยหน้าตางดงามผู้นี้จะมีฝีมือไม่ธรรมดาเลยทีเดียว.. เยี่ยมมาก! แบบนี้ข้าชอบนัก!”
  “ในเมื่อเป็นเช่นนี้..พวกท่านทั้งสองยังจะนิ่งเฉยอยู่อีกรึ ยังไม่รีบหาวิธีทำลายค่ายกลนั่นอีก ไม่เช่นนั้นคนของสำนักโลหิตมารก็คงต้องสูญเสียอย่างมากเช่นกัน..”
  เฉี่วยหยิงกงซึ่งเป็นถึงยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-8แห่งสำนักโลหิตมารนั้น ภารกิจของเขาในวันนี้ก็คือการช่วยเฉินเจี้ยนกุ่ย และแม้ว่าจะไม่สามารถช่วยเฉินเจี้ยนกุ่ยได้สำเร็จ แต่อย่างน้อยเขาก็ต้องนำประคำโลหิตจากเฉินเจี้ยนกุ่ยกลับคืนมาให้ได้ เพราะมันคือวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของสำนักโลหิตมาร..
  แต่เมื่อเฉี่วยหยิงกงได้เห็นค่ายกลสังหารที่ทรงพลังและไป๋เซียนเอ๋อที่เก่งกาจ เขาก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมาทันทีเมื่อคิดว่าศิษย์สำนักโลหิตมารจะต้องเข้าไปในบ้านเป็นกลุ่มต่อไป..
  สำนักโลหิตมารนั้นเป็นหนึ่งในสำนักเล็กๆของพรรคมาร พวกเขาจึงต้องฟังคำสั่งของโอรสพรรคมาร – ซือกงวู่จี๋ และไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งของเขา!
  “น้อมรับคำสั่ง..”
  หลังจากที่เฉี่วยหยิงกงรับคำสั่งแล้วจึงรีบลงจากเนินเขาไปทันที ในขณะที่เหลิ่งหยางชูยังคงมีท่าทีลังเล..
  แม้สำนักแดนใต้จะเป็นลัทธิมารแต่ก็ไม่ได้ขึ้นตรงกับพรรคมาร และคืนนี้เหลิ่งหยางชูก็เลือกที่จะเดิมพันทั้งสองฝั่ง โดยให้รองเจ้าสำนักเป็นผู้พายอดฝีมือส่วนหนึ่งไปยังเขาหลงเหมิน ในขณะที่ตัวเขาเองก็พายอดฝีมือส่วนหนึ่งมาที่บ้านของหลิงหยุนพร้อมกับซือกงวู่จี๋..
  แต่เวลานี้เหลิ่งหยางชูกลับไม่ได้รับข่าวคราวจากเขามังกรบ้างเลยทำให้เขาซึ่งอยู่ตัวคนเดียวทางนี้ ยากที่จะประเมินความได้เปรียบเสียเปรียบของทั้งสองฝั่งได้..
  แต่มีหรือที่ซือกงวู่จี๋จะไม่รู้ว่าเหลิ่งหยางซูกำลังดีดลูกคิดประเมินอยู่ในหัวเขาจึงยิ้มออกมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า
  “ท่านเหลิ่ง..ท่านรู้หรือไม่ว่างานของข้าในคืนนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ อย่างน้อยๆ ก็ห้าพันล้านหยวนเชียวนะ!”
  “ข้าไม่รู้หรอกว่าตระกูลซันเสนอเงื่อนไขอะไรให้กับท่านบ้างแต่หากคืนนี้ข้าสามารถยึดบ้านหลังนี้ได้ ข้าจะให้ส่วนแบ่งกับท่านเป็นจำนวนเงินหนึ่งพันล้านหยวน..”
  “เงินหนึ่งพันล้านหยวนเชียวนะ!ข้ารู้ว่าท่านต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจไปมาก กว่าจะสามารถทำให้สำนักแดนใต้เข้าไปเป็นแขกของตระกูลซันได้ และต่อให้ท่านทำเช่นนี้ไปอีกแปดหรือสิบปี ท่านคิดว่าจะสามารถหาเงินจำนวนหนึ่งพันล้านได้งั้นรึ”
  “อีกทั้งเงินจำนวนหนึ่งพันล้านนี้..จะทำให้ท่านสามารถซื้อตัวยอดฝีมือที่เก่งกาจ มาแทนยอดฝีมือกระจอกๆ สามสิบกว่าคนนั่นได้ไม่ใช่รึ”
  เหลิ่งหยางชูเม้มริมฝีปากแน่นและคำว่าหนึ่งพันล้านหยวนก็ได้กัดลึกลงไปในจิตใจของเขาจนยากที่จะถอนออกแล้ว เขาจึงหันไปมองซือกงวู่จี๋พร้อมกับถามย้ำเพื่อความมั่นใจ
  “โอรสพรรคมาร..นี่ท่านพูดจริงรึ”
  ซือกงวู่จี๋ยิ้มหยันเล็กน้อยก่อนจะตอบไปว่า “พรรคมารของเราแข็งแกร่งเพียงใด ท่านเองย่อมรู้อยู่แก่ใจดี.. มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะไม่รักษาสัญญาเรื่องเงินหนึ่งพันล้านนี้ด้วยเล่า”
  เหลิ่งหยางชูครุ่นคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้งและในที่สุดเขาก็ไม่อาจทนต่อแรงยั่วยวนของจำนวนเงินหนึ่งพันล้านหยวนได้ จึงได้แต่กัดฟันพร้อมกับตอบไปว่า
  “ได้..ข้าจะทำตามที่ท่านสั่ง แต่หวังว่าโอรสพรรคมารจะรักษาคำพูดด้วย!”
  จากนั้น..เจ้าสำนักเหลิ่งหยางชูก็กระโดดตามเฉี่วยหยิงกงที่อยู่ด้านหน้าลงเขาไปทันที
  ซือกงวู่จี๋จ้องมองตามร่างของเหลิ่งหยางชูไปและได้แต่พูดเย้ยหยันไล่หลัง “ช่างโง่เขลายิ่งนัก.. เพียงเพราะเงินหนึ่งพันล้าน เจ้าถึงกับยอมเอาชีวิตไปทิ้งได้!”
  หลังจากที่เฉี่วยหยิงกงและเหลิ่งหยางชูลงเขาไปแล้วก็รีบตรงเข้าไปยังบ้านเลขที่-1 ทันที
  ในเวลานั้น..ยอดฝีมือทั้งสามสิบสามคนของสำนักโลหิตมาร ก็ได้ไปยืนรออยู่นอกกำแพงบ้านแล้ว ทั้งหมดกำลังยืนมองลูกเหล็กขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้..
  การตายของเหล่ายอดฝีมือสำนักแดนใต้นั้นล้วนแล้วแต่น่าสยดสยองยิ่งนัก ทำให้เหล่ายอดฝีมือของสำนักโลหิตมารได้แต่หวาดกลัว และไม่กล้าที่จะกระโดดเข้าไป!
  เฉี่วยหยิงกงจ้องมองลูกเหล็กขนาดใหญ่อยู่เนิ่นนานแต่ก็ไม่เข้าใจกลไกการทำงานของค่ายกลสังหารนี้ และยังไม่สามารถมองออกว่าต้องเข้าออกทางใหน จึงได้แต่หันไปทางเหลิ่งหยางซูพร้อมกับพูดขึ้นว่า
  “ท่านเหลิ่ง..พวกเราคงต้องร่วมมือกันแล้วล่ะ.. ไม่ทราบท่านคิดเห็นเช่นใด”
  เหลิ่งหยางชูเองก็เป็นถึงยอดฝีมือระดับเริ่มต้นขั้นเซียงเทียน-8เขาพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมกับตอบไปว่า
  “ถึงแม้เราจะไม่เข้าใจกลไกของค่ายกลสังหารนี้แต่ข้าเชื่อว่าด้วยความแข็งแกร่งของเราสองคน น่าจะรับมือกับลูกเหล็กขนาดใหญ่ตรงหน้าได้ หากเราสามารถทำลายลูกเหล็กลูกใดลูกหนึ่งได้ กลไกนี้ก็น่าจะถูกทำลายไปด้วย..”
  เฉี่วยหยิงกงพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเหลิ่งหยางซูแล้วทั้งสองคนก็หันไปมองหน้ากัน จากนั้นจึงกระโดดเข้าไปในค่ายกลนวสังหารพร้อมกัน!
  แต่ดูเหมือนสิ่งที่ทั้งคู่คิดนั้นจะไม่ถูกต้อง..ในเมื่อนี่คือค่ายกลนวสังหาร การที่จะทำลายลูกเหล็กเพียงลูกใดลูกหนึ่ง แล้วค่ายกลจะหยุดทำงานนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้! และการการะทำเช่นนั้นก็เท่ากับเป็นการเสียสละชีวิต เพื่อล่อให้ลูกเหล็กขนาดใหญ่เหล่านั้นพุ่งออกจากตำแหน่งของมันนั่นเอง..
  และดูเหมือนว่า..สิ่งที่ทั้งสองคนเลือกนั้น น่าจะเป็นวิธีที่โง่เขลาสิ้นดี!
  และทันทีที่ยอดฝีมือทั้งสองคนกระโดดข้ามกำแพงบ้านไปลูกเหล็กขนาดใหญ่ทั้งเจ็ดลูก ก็ลอยขึ้นกลางอากาศ แล้วพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของพวกเขาทั้งสองคนทันที!
  “พลังโลหิตมาร..”
  “พลังภูติแดนใต้..”
  เฉี่วยหยิงกงและเหลิ่งหยางชูต่างก็ใช้วิชาของสำนักตนเองทั้งสองคนต่างก็ยกมือขึ้นปัดป้องลูกเหล็กขนาดใหญ่ที่พุ่งตรงเข้ามาทางด้านหน้า แต่เพราะลูกเหล็กนั้นมีขนาดใหญ่ และหนักถึงสองสามร้อยกิโลกรัม พลังและความรุนแรงของมันนั้นจึงมหาศาลอย่างมาก แม้ทั้งคู่จะสามารถต้านทานลูกเหล็กไว้ได้ แต่ก็ถึงกับต้องกัดฟันแน่น..
  และในเวลาเดียวกันนั้นเองลูกเหล็กขนาดใหญ่อีกหลายลูกก็พุ่งเข้าใส่ยอดฝีมือทั้งสองคนอย่างไม่ปราณี ทำให้แต่ละคนต่างก็ต้องรับลูกเหล็กถึงคนละสองลูกพร้อมๆกัน
  เฉี่วยหยิงกงและเหลิ่งหยางซูถึงกับร้องตะโกนออกมาพร้อมกันถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีพลังปราณปกป้องร่างกายอยู่ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บภายในทันที.novel-lucky.
  แต่ความพยายามของพวกเขาทั้งคู่ก็ทำให้สามารถต้านทานลูกเหล็กขนาดใหญ่ทั้งสี่ไว้ไม่ให้ตกทับร่างของตนเองได้ จากนั้นจึงออกแรงส่งลูกเหล็กขนาดใหญ่สองลูกออกไปนอกกำแพงก่อน..
  ตูม!ตูม!
  เสียงดังสนั่นติดต่อกันสองครั้งและลูกเหล็กขนาดใหญ่ทั้งสองลูกก็ถูกกระแทกออกไปในป่าลึกกว่าสิบเมตร..
  แต่ถึงกระนั้น..ค่ายกลก็ยังคงทำงานอยู่เช่นเดิม แต่เพราะลูกเหล็กได้หายไปถึงสองลูก จึงทำให้พลังของค่ายกลอ่อนกำลังลงไปมากเช่นกัน
  เวลานี้ทั้งเฉี่วยหยิงกงและเหลิ่งหยางซูได้แต่ส่งสายตาให้กัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถทำลายลูกเหล็กอย่างที่คิดไว้ได้ แต่การโยนลูกเหล็กออกนอกกำแพงบ้านไปนั้น ก็สามารถลดพลังที่รุนแรงของค่ายกลลงได้ พวกเขาจึงกำจัดลูกเหล็กทั้งแปดลูกทีเหลือทันที!
  และในที่สุด..ค่ายกลนวสังหารของหลิงหยุนก็ถูกทำลายลงได้แล้ว!
  แต่ถึงแม้เฉี่วยหยิงกงกับเหลิ่งหยางชูจะสามารถทำลายค่ายกลนวสังหารได้แต่พวกเขาทั้งสองคนก็ได้รับบาดเจ็บภายในค่อนข้างมาก และเวลานี้ก็รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมากด้วย
  แต่ในระหว่างที่คนทั้งคู่ต่างก็รู้สึกโล่งใจที่ค่ายกลถูกทำลายไปแล้วและกำลังจะหยุดพักหายใจนั้น จู่ๆ ก็มีตัวอะไรไม่รู้สีทองๆ พุ่งลงมาจากท้องฟ้าที่มืดสนิท และกัดเข้าที่แขนของพวกเขาสองคนอย่างรวดเร็ว!
  และมันคือเจ้าทองอ้วน!ดักแด้ทองคำที่มีฤทธิ์เดชร้ายกาจของเหมี่ยวเสี่ยวเหมานั่นเอง..
  หลังจากที่จู่โจมทำรายศัตรูได้แล้วมันก็กระพือปีกเล็กๆ บินกลับไปเกาะที่ไหล่ของเหมี่ยวเสี่ยวเหมาทันที เหมี่ยวเสี่ยวเหมาถึงกับเอ่ยชมออกมา..
  “เจ้าทำดีมาก!ไว้ข้าจะให้น้ำลายมังกรเป็นรางวัลกับเจ้า..”
  ทุกคนในบ้านต่างก็รู้ว่าศัตรูที่อยู่นอกบ้านนั้น แต่ละคนล้วนแล้วแต่แข็งแกร่งทั้งนั้น มีหรือที่จะยอมให้พวกมันเข้ามาในบ้านได้อย่างง่ายดาย
  เหมี่ยวเสี่ยวเหมาจึงได้สั่งให้เจ้าทองอ้วนบินรออยู่บนท้องฟ้าและรอจนกว่ายอดฝีมือทั้งสองคนนี้จะทำลายค่ายกลได้สำเร็จ แล้วค่อยอาศัยจังหวะจู่โจมตอนที่พวกมันเผลอ และหมดเรี่ยวแรง..
  หลายวันมานี้เจ้าทองอ้วนดื่มน้ำลายมังกรเข้าไปไม่น้อยมันจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว และสามารถบินได้เร็วกว่าเดิมถึงสองเท่า..
  เฉี่วยหยิงกงและเหลิ่งหยางชูเริ่มรู้สึกชาที่แขนทั้งคู่ก้มลงมองแขนตัวเองก็ถึงกับร้องออกมาอย่างตกใจ!
  “แย่แล้ว”
  นี่คือดักแด้ทองคำที่สมบูรณ์ที่สุดและมีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก เมื่อทั้งคู่เห็นแขนของตนเองเริ่มกลายเป็นสีทองจางๆ จึงรีบทำการสกัดจุดยับยั้งพิษไม่ให้แพร่กระจายไปทั่วร่างกาย แล้วจึงร้องตะโกนสั่งการอย่างเดือดดาล..
  “ทุกคนฟังคำสั่งของข้า..จัดการสังหารพวกมันให้หมด!”
  ศิษย์สำนักโลหิตมารเห็นค่ายกลถูกทำลายไปแล้วจึงรีบกระโดดข้ามกำแพงมา เพื่อหมายสังหารผู้คนที่อยู่ในบ้านตามคำสั่ง
  ไป๋เซียนเอ๋อที่นั่งรออย่างอดทนมาเนิ่นนานเมื่อเห็นศัตรูบุกเข้ามาในบ้านได้อีกครั้ง จึงรีบพุ่งร่างออกไปด้วยความเร็ว และจัดการใช้ดัชนีจิ้งจอกทำการสังหารพวกมันทันที..
  “อ๊าก..”
  “โอ้..”
  “โอ๊ย..”
  สิ้นเสียงกรีดร้อง..ต่างกคนต่างก็ร่วงลงไปกองกับพื้น แม้ว่าคนของสำนักโลหิตมารจะเข้ามาในบ้านได้สำเร็จ แต่ภายในพริบตาเดียวก็ถูกไป๋เซียนเอ๋อสังหารตายไปสิบกว่าคน
  เฉี่วยหยิงกงกับเหลิ่งหยางซูจึงเข้าไปสกัดไป๋เซียนเอ๋อไว้ และศิษย์สำนักโลหิตมารที่เหลือ ก็พุ่งเข้าไปยังกลุ่มของหนิงหลิงยู่ทันที!
  “ทองอ้วน..จัดการกับพวกมัน!”
  เหมี่ยวเสี่ยวเหมายังคงอยู่ในอาการสงบนิ่งและร้องสั่งเจ้าทองอ้วนให้ลงมือ ส่วนตัวเธอเองก็พุ่งตรงไปหายอดฝีมือสองสามคน พร้อมกับพ่นควันสีขาวใส่หน้าพวกมัน..
  ทางด้านตี้เสี่ยวอู๋เองก็โคจรดาราคุ้มกายขั้นสุดแล้วพุ่งตรงเข้าหาศัตรูเช่นกัน และต่างฝ่ายต่างก็ตรงเข้าฟาดฟันใส่กัน
  ด้านกลุ่มของหนิงหลิงยู่ซึ่งมีตัวเธอเหยาลู่ หลินเมิ่งหาน หนิงน้อย เกาเฉินเฉิน และถังเมิ่ง ทั้งหกคนต่างก็วิ่งเข้าไปรวมอยู่กับหวังเฟยฮู๋และลูกน้องของเขา!
  และเวลานี้ภายในบ้านเลขที่-1ก็กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด!