ถงเยียนเริ่มกระวนกระวาย นี่เป็นครั้งแรกที่คุณป้าของเธอพูดกับเธออย่างเย็นชาแบบนี้ เธอคิดว่าทุกคนจะรักและทะนุถนอมเธอตลอดไปเพราะนั่นเป็นสิทธิที่เธอได้รับมาตั้งแต่เกิด อย่างไรก็ตามแค่เพราะเซี่ยซิงเหอคนเดียว คุณป้าก็ไม่เข้าข้างเธอ เธอรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมและรู้สึกโมโหอย่างมาก
เมื่อไม่สามารถระงับความโกรธเคืองของตัวเองได้ เธอจึงคำรามด้วยความโมโห “คุณป้าทำแบบนี้กับหนูได้ยังไง ถ้าหนูเป็นคนลักพาตัวเธอแล้วยังไงล่ะ เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาที่น่ารังเกียจ เธอเทียบกับคนสำคัญอย่างหนูไม่ได้! ต่อให้หนูฆ่าเธอ มันก็เป็นเพราะเธอสมควรได้รับมัน…”
คุณนายประธานาธิบดีตบหน้าเด็กสาวอย่างแรงและรวดเร็วทีหนึ่ง ทั้งถงเยียนและเฉินหรูตกตะลึง
“พี่ทำอะไรคะเนี่ย!” เฉินหรูกรีดร้องขณะที่เธอขยับเข้าไปปกป้องลูกสาว เธอเรียกร้องด้วยความโกรธ “เสี่ยวเยียนก็บอกแล้วว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำ ทำไมพี่ถึงไม่เชื่อเธอละค่ะ เธอเป็นหลานคนเดียวของพี่นะ พี่ตบหน้าเธอได้ยังไงกัน”
ใช่แล้ว เธอทำแบบนั้นได้ยังไง
ตาของถงเยียนคลอไปด้วยน้ำตาและความไม่เชื่อ ในชีวิตนี้เธอไม่เคยโดนลงโทษด้วยการทำร้ายร่างกายมาก่อนเลย พวกเขาไม่กล้าพูดรุนแรงกับเธอด้วยซ้ำ ทุกคนต่างแก่งแย่งกันเพื่อที่จะได้เป็นที่ชื่นชอบของเธอ อย่างไรก็ตามคุณป้าของเธอกล้าตบหน้าเธอ ณ เวลานั้นถงเยียนรู้สึกว่าโลกของเธอกำลังพังทลาย อยู่ดีๆ มันก็รู้สึกแปลกประหลาดและน่าขัน
คุณนายประธานาธิบดีจ้องมองเธอด้วยความผิดหวังและพูดว่า “เป็นเพราะไม่มีใครกล้าสั่งสอนเธอ เธอถึงได้ทะนงตัวและดุร้ายอย่างนี้ ยาม ตรวจสอบข้าวของของเธอ รวมถึงมือถือและคอมพิวเตอร์ อย่าให้มีสิ่งใดเล็ดรอดไปได้!”
“รับทราบครับคุณนาย!” บอดี้การ์ดเริ่มเคลื่อนไหวทันที
“พี่คะ นี่มันหมายความว่ายังไง…”
“หยุดนะ พวกนายไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องของของฉัน! ฉันเป็นทายาทหญิงอันดับหนึ่งของตระกูลถง ฉันจะลงโทษคนที่กล้ามาแตะต้องของของฉัน!” ถงเยียนเตือนอย่างรุนแรงแต่มันก็เปล่าประโยชน์ ไม่มีบอดี้การ์ดคนไหนกล้าขัดขืนคำสั่งเธอภายใต้สถานการณ์ปกติ แต่เมื่อมีคุณนายประธานาธิบดีอยู่ที่นี่ คำขู่ของเธอก็เหมือนอากาศ ไม่เป็นอันตรายโดยสิ้นเชิง
ถงเยียนไม่เข้าใจว่าเหตุผลที่ผู้คนกลัวเธอและยอมทำตามทุกอย่างที่เธอเรียกร้องนั้นไม่ใช่เพราะอำนาจของเธอเองแต่เป็นเพราะชาติตระกูลของเธอ อย่างไรก็ตามถ้าคนที่อยู่เบื้องหลังเธอไม่ได้สนับสนุนเธออีกต่อไป เธอก็ไม่สำคัญอะไร
ตระกูลถงไม่กล้าขัดคำสั่งของคุณนายประธานาธิบดี แม้แต่คุณปู่ถงกับคุณย่าถงซึ่งเข้านอนไปแล้วก็ออกมาดูความวุ่นวายที่เกิดขึ้น พวกเขาพยายามที่จะหยุดเรื่องยุ่งเหยิงนี้แต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อพวกเขาได้รับรู้ความผิดเล็กน้อยของถงเยียน พวกเขาเองก็ตกใจจนพูดไม่ออก
“เสี่ยวเยียน บอกพวกเรามาเร็วเข้า ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน อย่าห่วงเลย ถ้าเธอยังปลอดภัย ปู่จะแก้ตัวแทนหลานเอง” คุณปู่ถงรีบแนะนำถงเยียน แม้กระทั่งในเวลาแบบนี้เขาก็ยังปกป้องหลานสาวอย่างเต็มที่ จากมุมมองของเขา นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ถ้าสุดท้ายแล้วคนๆ นั้นปลอดภัย ปัญหาก็จะถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดาย
มู่ไป๋ซึ่งถูกลืมอยู่ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายแสยะยิ้มทันที แก้ตัวแทนเธองั้นเหรอ ไม่มีใครสามารถปกป้องผู้หญิงคนนี้ได้ทั้งนั้น
เธอจะต้องชดใช้อย่างสาสมที่ลักพาตัวซิงเหอไป!
อาจไม่ใช่ตอนนี้แต่สักวันหนึ่งเธอจะต้องได้รับโทษ แต่เขา สีมู่ไป๋จะจดจำเรื่องเล็กน้อยนี้ตลอดไป
ด้วยการเกลี้ยกล่อมอย่างอ่อนโยนจากคุณปู่ถงและคุณย่าถง บวกกับความกลัวที่เพิ่มขึ้นของเธอ ในที่สุดถงเยียนก็ยอมบอกความจริง “หนูไม่ได้ทำอะไรเธอเลย หนูแค่ต้องการจะสั่งสอนเธอเท่านั้น หนูขังเธอไว้ก็จริงแต่หนูไม่ได้ทำอะไรเธอเลย…”
“เธออยู่ไหน!” คุณนายประธานาธิบดีถาม
…
ซิงเหอถูกทิ้งไว้ที่ห้องใต้ดินของคฤหาสน์ร้างในชนบท