SD:บทที่ 30 ของขวัญมูลค่ามหาศาล

 

“นี่-นี่-”

ฉากที่เห็นในตอนนี้มันเกินกว่าที่จะยอมรับความจริงได้แม้แต่ เซี่ยหรงหรง ที่อยู่ในอาการสงบนิ่งตลอดเวลายังคงตื่นตระหนก เธอพูดได้เพียงเท่านี่ ซู ฉิวไป่ พยักหน้าให้กับเธอ ดวงตาของเขาแสดงออกถึงกำลังใจและความอบอุ่น

“เป็นไปได้ยังไง!ไม่จริงใช่ไหม!”

แม้ว่า เซี่ยหรงหรง จะได้รับคำตอบจาก ซู ฉิวไป่ แล้วก็ตามแต่เธอยังคงไม่อยากจะเชื่อ

—–

ย้อนกลับไปตอนที่เธออยู่ที่โรงพยาบาล โสมอายุ 100 ปีของหลี่มู่ห่าวได้รับการปฏิบัติราวกับอัญมณีล้ำค่าเนื่องจากโสมเก่าแก่ได้รับการประกาศว่ามันสูญพันธุ์ไปแล้ว….แต่…สิ่งเหล่านี้ล่ะ!

สิ่งที่อยู่ภายในกระสอบใบเก่าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นนี้มันดูคล้ายกับหัวไชเท้า มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อที่จะคิดว่าพวกมันเป็นโสมที่มีมูลค่าสูง เธอไม่สามารถหาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่เหมือนกับหัวไชเท้าเหล่านี้กับโสมที่มีค่าระดับชาติได้

พวกมันดูเหมือนกันหมด….

เซี่ยหรงหรง ยังคงตกตะลึงอยู่เงียบๆแต่ เซี่ยเซียวมู่ นั่งลงกับพื้นแล้วหยิบโสมขึ้นมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย

“นี่คืออะไร”

ไม่มีใครตำหนิเขาที่จะไม่รู้จักโสมเนื่องจากไม่มีใครสามารถเชื่อมโยงหัวไชเท้ามากมายเหล่านี้เข้ากับโสมป่าที่หายากได้ในทันที

“โสมป่า…”เมื่อมองไปที่น้องชายของเธอในที่สุด เซี่ยหรงหรง ก็สงบลงและตอบอย่างช้าๆ

“โอ้ ..โสมป่า…โสมป่า!”ในที่สุด เซี่ยเซียวมู่ ก็รู้ทันทีว่าพี่สาวของเขาหมายถึงอะไร เขาจ้องมองเธออย่างตื่นเต้น

“มันมีอายุเท่าไหร่ พวกมันมีอายุได้ถึง 50 ปีหรือเปล่า?”เขาลังเลที่จะถามต่อด้วยเสียงอันสั่นเครือ เมื่อสูดหายใจลึกๆ เซี่ยหรงหรง มองไปที่หน้าตาผ่อนคลายของ ซู ฉิวไป่ ซึ่งอยู่ข้างๆเธอแล้วพูดว่า

“พวกมันไม่ได้มีอายุ 50 ปี”

เมื่อได้ยินคำนี้ เซี่ยเซียวมู่ รู้สึกสงบลงทันทีมันเป็นไปได้ยากที่พวกเขาจะได้รับโสมอายุ 50 ปีได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียดายแต่เขายังคงพูดว่า

“สิ่งเหล่านี้มีค่ามาก พี่ชายคุณใจดีมาก!”

เขาตั้งใจที่จะปลอบโยน ซู ฉิวไป่ แต่ประโยคต่อไปของ เซี่ยหรงหรงm ทำให้ปากของเขาอ้าปากค้าง

“โสมเหล่านี้ …ไม่ควรมีอายุน้อยกว่า 200 ปี..”เธอไม่แน่ใจในการสอบด้วยสายตาของเธอเองแต่ถึงอย่างนั้นเธอจึงคิดว่าคำตอบของเธอนั้นเป็นการคาดเดาที่ถูกต้อง

ซู ฉิวไป่ ที่ยืนอยู่ข้างเธอ เขาโบกมือและพูดว่า

“อา..สิ่งเหล่านี้มันไม่ได้มีค่าขนาดนั้น มีบางคนมอบมันให้กับผม คุณสามารถใช้พวกมันได้ทั้งหมด พวกมันอยู่ในรถของผมมาสักระยะหนึ่งแล้ว..ความจริงแล้วผมกังวลว่ามันอาจจะเริ่มเน่า แต่โชคดีที่สภาพของมันยังดีอยู่”

เมื่อ ซู ฉิวไป่ พูดจบเขาหยิบน้ำชาขึ้นมาจิบ พี่น้องทั้งสองคนต่างพูดไม่ออก ราวกับว่าสิ่งที่เขาเคยเห็นมาในโลกนี้ต่างพังทลายลง

มีคนแบบนี้ในโลกจริงๆหรอ!

“พี่ใหญ่…คุณเป็นเทพเจ้าที่ร่ำรวยจริงๆ!แบกโสมป่าทั้งหมดไว้ในรถแท็กซี่ตลอดทั้งวัน คุณไม่กลัวจะถูกปล้นอย่างนั้นหรอ?”

เซี่ยเซียวมู่ รู้สึกคอแห้งผากดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นจากพื้นและไปจิบน้ำ

“ใครกันจะปล้นของเหล่านี้ ผมไม่รู้ว่าจะเก็บมันไว้ที่ไหนดี พวกคุณไม่ได้บอกหรอว่าต้องการมันมาก” ซู ฉิวไป่ ยิ้มในขณะที่พูดกับสองพี่น้องอีกครั้ง

ความจริงแล้วเหตุผลเดียวที่เขาต้องการจะบอกก็คือเขาต้องการลดภาระของ เซี่ยหรงหรง แม้ว่าเขาจะพึ่งรู้จักเธอแต่เขาเข้าใจดีว่าเธอนั้นมีความภาคภูมิใจในตัวเองแค่ไหน เขาจะรู้สึกอับอายถ้าเธอปฏิเสธข้อเสนอของเขา

ทั้ง 3 คนนั่งอยู่บนโต๊ะและไม่พูดอะไร  เซี่ยเซียวมู่ มองไปที่ เซี่ยหรงหรง  เขาได้ยินอย่างชัดเจนว่า ซู ฉิวไป่ บอกว่าจะมอบโสมทั้งหมดให้กับพี่สาวของเขา  เซี่ยหรงหรง ยังคงเงียบในขณะที่ถือถ้วยน้ำชาอยู่ในมือ ไม่มีใครรู้ว่าในตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

“เอ่อ … เซี่ยหรงหรง คุณคิดว่าอย่างไรเกี่ยวกับของเหล่านี้”

ซู ฉิวไป่ รู้สึกละอายที่พูดกับเธอ ในตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับชายแก่ที่ร่ำรวยกำลังเปย์ให้กับสาวๆ

“ฉันไม่สามารถรับพวกมันเอาไว้ได้”แน่นอนว่า เซี่ยหรงหรง ปฏิเสธ

“ทำไมล่ะ เราเป็นเพื่อนกันและทั้งหมดนี้ผมก็แค่ต้องการจะช่วยคุณ” ซู ฉิวไป่ กลัวว่า เซี่ยหรงหรง จะคิดมากเรื่องนี้เกินไปเขาจึงรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว

“ฉันเข้าใจ แต่คุณช่วยฉันมามากแล้ว อีกอย่างของเรานี้มีราคาแพงเกินไป ฉันไม่สามารถรับมันได้”เสียงของ เซี่ยหรงหรง ยังคงสงบแต่ในใจของเธอกำลังดิ้นรนกับความคิดของเธอเอง

ซู ฉิวไป่ ไม่เข้าใจคุณค่าของโสมป่าเหล่านี้ แต่สำหรับเธอนั้นด้วยโสมกระสอบนี้ไม่เพียงแต่กลุ่มเซี่ยจะสามารถฟื้นขึ้นมาได้แต่ยังก่อให้เกิดผลลัพธ์ขึ้นมากมาย แต่มันยังคงมีค่ามหาศาลเกินไปที่เธอจะยอมรับ เธอไม่สามารถตอบแทนความเมตตาของเขาได้

“สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีค่าขนาดนั้น พี่รองของผมมาจากชนบท เขามอบมันให้กับผม ยังมีแบบนี้อีกมากที่อยู่กับเขา หากคุณคิดว่าแค่นี้ไม่พอผมจะขับรถไปเอามันเพิ่มอีก”

ซู ฉิวไป่ เป็นกังวลเขาต้องการช่วย เซี่ยหรงหรง จริงๆ

อย่างไรก็ตามหากไชจินได้ยินคำพูดของ ซู ฉิวไป่ เขาคงจะเป็นลม

โชคร้ายที่มีน้องชายแบบนี้ พี่รอง จากชนบทหมายถึงใครคุณยังคิดที่จะขับรถไปเอาเพิ่มอีก..คุณคิดว่าโสมป่าเป็นกะหล่ำปลีอย่างนั้นหรอ*?*

ในเวลาเดียวกัน เซี่ยหรงหรง และ เซี่ยเซียวมู่ ค่อนข้างสับสน

ซู ฉิวไป่มีพี่น้อง แบบไหนกัน เขาสามารถมอบโสมป่าเป็นกระสอบให้กับ ซู ฉิวไป่ ได้อย่างง่ายดาย

“ฉัน..”

“พี่สาว คุณคิดซะว่ามันเป็นการลงทุนของพี่ชายไป่ดีหรือไม่”

ในขณะที่ เซี่ยหรงหรง พูดออกมาได้คำเดียว  เซี่ยเซียวมู่ รีบขัดจังหวะ เขารู้ดีว่าแรงกดดันมากแค่ไหนที่พี่สาวของเธอได้รับจากกลุ่มเซี่ย ถ้าเธอยอมรับโสมเหล่านี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ด้วยเหตุนี้เองเขาต้องหาวิธีให้สองคนนี้เข้าใจกันให้ได้

คนหนึ่งต้องการให้โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมรับเพราะเธอรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการสิ่งตอบแทน..

ดังนั้น!เพียงแค่ทำให้มันเป็นข้อตกลงทางธุรกิจก็สิ้นเรื่อง!

คำพูดของ เซี่ยเซียวมู่ ทำให้ ซู ฉิวไป่ และ เซี่ยหรงหรง ตกตะลึง

ถูกต้อง!เพียงแค่คิดว่ามันเป็นการลงทุนก็พอ!

“ถูกแล้วเหมือนกับที่เสี่ยวมู่บอก คุณคิดเสียว่ามันเป็นการลงทุนของผมได้หรือไม่” ซู ฉิวไป่ ยิ้มกว้างและรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเรื่องนี้มันตึงเครียดเกินไปสำหรับเขา การแสดงออกของ เซี่ยหรงหรง เปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าเธอต้องการถามตัวเองหรือถาม เซี่ยเซียวมู่ ในขณะที่เธอพูดว่า

“เราจะทำอย่างนั้นได้จริงหรอ?”

“แน่นอนพี่สามารถแบ่งปันหุ้นให้กับพี่ชายไป่ได้หรือไม่?”

เซี่ยเซียวมู่ ไม่รู้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวที่แสนฉลาดและมีความสามารถของเขาในวันนี้กันแน่ดังนั้นเขาจึงตอบอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น เซี่ยหรงหรง ขบคิดอยู่สักครู่หนึ่งเธอก็มองไปที่ ซู ฉิวไป่ และประกาศว่า

“ตกลงฉันจะยอมรับพวกมันทั้งหมด แต่ในทางกลับกันฉันจะให้หุ้นส่วนกลุ่มเซี่ยกับคุณ 20%”

เซี่ยหรงหรง จับตาดู ซู ฉิวไป่ อย่างจริงจัง  เซี่ยเซียวมู่ ที่อยู่ถัดจากพี่สาวของเขากำลังสั่นเทา

พี่สาวฉันบ้าอย่างนั้นหรอ*? 20% ของหุ้นกลุ่มเซี่ย! นี่มันไม่ใช่แบ่งปันการลงทุนด้านยาที่เคยสัญญากันไว้ก่อนหน้านี้แต่มันคือเปอร์เซ็นต์หุ้นของกลุ่มเซี่ย!*

ซู ฉิวไป่ ตอบรับข้อตกลงนี้ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ของกลุ่มเซี่ยจะเป็นของเขา!

เมื่อเห็นการแสดงออกของ เซี่ยหรงหรง เซี่ยเซียวมู่ ไม่กล้าที่จะคัดค้านหรือต่อต้าน

ส่วน ซู ฉิวไป่ จะไปเข้าใจอย่างไรว่าหุ้นส่วนของกลุ่มเซี่ย 20 เปอร์เซ็นต์นั้นมีความหมายว่าอย่างไร ตราบใดที่ เซี่ยหรงหรง ยอมรับโสมของเขา เขาไม่ได้สนใจเรื่องหุ้นมากนักดังนั้นเขาจึงตกลงอย่างมีความสุข

“ตกลงเอาตามที่คุณพูด”

เซี่ยหรงหรง มองเข้าไปในดวงตาของ ซู ฉิวไป่  เธอรู้ว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องหุ้น เธอส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้โดยไม่ต้องอธิบายสิ่งใดเพิ่มเติม หลังจากนั้นทั้ง 3 คนก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไปพวกเขากินข้าวและพูดคุยด้วยกัน

หลังจากนั้นไม่นาน เซี่ยเซียวมู่ ก็ขอตัวกลับบ้านก่อนและให้ ซู ฉิวไป่ ส่งพี่สาวของเขากลับบ้าน ก่อนที่เขาจะกลับไปเขาได้นำโสมทั้งหมดไปกับเขาด้วยการกระทำของ เซี่ยเซียวมู่ ดูมีความหมายมันทำให้ ซู ฉิวไป่ หน้าแดงอีกครั้ง  เซี่ยหรงหรง รีบร้องถามเขาว่าเขาว่าเขาเจ็บแผลหรือไม่ ดังนั้น ซู ฉิวไป่ ได้เพียงแต่พยักหน้าอย่างเงียบๆ

มันมืดแล้วเมื่อทั้งสองคนออกจากร้านอาหาร  เซี่ยหรงหรง ถอดหมวกและถอนหายใจในขณะที่พวกเขาขึ้นรถแท็กซี่

“ฉันไม่ได้นั่งรถแท็กซี่มานานแล้ว คุณเชื่อไหม?”

เซี่ยหรงหรง เป็นเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆดวงตาโตกำลังมองมาที่ ซู ฉิวไป่ ทำให้หัวใจของเขากระสับกระส่าย เธอไม่ได้สังเกตเห็นอาการของ ซู ฉิวไป่ และคงพูดต่อไปว่า

“ตั้งแต่พ่อแม่ของฉันหายตัวไปกลุ่มเซี่ยก็ถูกส่งต่อมาให้กับฉัน ในเวลานั้นฉันต้องพยายามทำให้ดีที่สุดทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเซี่ยจะไม่ล้มลง และฉันเหลือเพียงเสี่ยวมู่เท่านั้น…”

เซี่ยหรงหรง ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงเปิดเผยความรู้สึกเหล่านี้ซึ่งเธอเก็บไว้เป็นความลับในใจมาเป็นเวลานาน เธอรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นให้พูดออกมาเมื่ออยู่ต่อหน้า ซู ฉิวไป่  เธอไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายแบบนี้มานานแล้ว

“ทำไมพ่อแม่ของคุณถึงหายไป?”นี่เป็นครั้งแรกที่ ซู ฉิวไป่ ได้ยินเกี่ยวกับพ่อแม่ของเธออย่างนั้นเขาอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา  เซี่ยหรงหรง มองไปด้านนอกเล็กน้อยเธอส่ายหัวเบาๆและพูดว่า

“ฉันไม่รู้..พวกเขาไปที่ไหนแม้แต่ปู่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ซู ฉิวไป่ ต้องการที่จะปลอบโยนเธอแต่เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร  ดังนั้นเขาจึงรีบคิดอย่างรวดเร็วและคิดอะไรบางอย่างได้เขารู้สึกตื่นเต้นทันที

“ผมจะช่วยคุณพาพวกเขากลับมา” เสียงของเขาดังขึ้นในหูของเธอ ทำให้เธอรู้สึกไว้วางใจจนไม่อาจบรรยายได้ความรู้สึกไว้วางใจของเธอนั้นทำให้เธอร้องไห้ เธอคิดว่า ซู ฉิวไป่ เพียงต้องการปลอบโยนเธอเท่านั้นดังนั้นเธอจึงพยักหน้าเงียบๆ

ทันใดนั้นเขาก็มีความคิดบางอย่างและสตาร์ทรถ

“ผมจะพาคุณไปที่ไหนสักแห่ง”

“ที่ไหน?”  เซี่ยหรงหรง ยังคงสับสนดังนั้นเธอจึงถามขึ้น

“คุณจะรู้เมื่อไปถึงที่นั่น…คุณเคยเห็นแม่น้ำชิงในตอนกลางคืนไหม?ผมจะพาคุณไปที่นั่น”

ซู ฉิวไป่ ยิ้มอย่างลึกลับและเหยียบคันเร่งออกไปทันที….

——————————————