คนผู้นั้นยังคงอดกลั้นและถามซูจิ่นซีอีกครั้ง “แม่หนู ข้าขอถามเจ้าอีกครั้ง หยกชิ้นนี้เจ้าได้มาจากที่ใดกันแน่? ”
บัดซบ ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก!
ซูจิ่นซีอยากด่าคนอย่างมาก นางต้องการตบหน้าผู้ที่กำลังละเมิดความเป็นส่วนตัวของนาง
ทว่ามือทั้งสองของนางถูกรัดแน่น และหนักอึ้งราวกับตะกั่ว สติของนางค่อยๆ พร่ามัว ความคิดปกคลุมไปด้วยหมอกควัน นอกจากความเจ็บปวดทั่วร่างกายและกลิ่นเหม็นเน่าจากร่างกายของคนผู้นั้นแล้ว นางก็ไม่รับรู้อันใดอีกเลย และไม่มีกะจิตกะใจหรือสติให้ครุ่นคิดถึงเรื่องอื่น
“เจ้าเป็นใคร? ปล่อยแม่นางพิษน้อยเดี๋ยวนี้! ”
“เจ้า… เจ้าปล่อยแม่นางพิษน้อยเดี๋ยวนี้! ”
ครู่หนึ่ง เสียงของอู๋จุนก็ดังเข้ามาในหู
ก่อนหน้านี้ ตอนที่ซูจิ่นซีได้สติ นางไม่ทันได้สนใจอู๋จุน
เขากับซูจิ่นซีก็เป็นเช่นเดียวกัน ต่างหมดสติไปทั้งคู่ และเพิ่งฟื้นขึ้นมาในเวลานี้
เมื่อลืมตาขึ้น อู๋จุนเห็นซูจิ่นซีถูกคนผู้นั้นจับห้อยไว้ดั่งนกพิราบ เขายังไม่ทันได้สติดีนัก ก็ตะเกียกตะกายขึ้นมาและพุ่งเข้าหาโซ่เหล็กที่ขึงเป็นแหนั้น
ทว่าเขายังไม่ทันได้เข้าใกล้ซูจิ่นซี โซ่เหล็กเส้นหนึ่งก็ยื่นออกมากระแทกร่างจนล้มลงกับพื้น
อู๋จุนพยุงตัวลุกขึ้นมาและพุ่งเข้าหาซูจิ่นซีอีกครั้ง ก่อนจะถูกโซ่เหล็กกระแทกจนล้มลง
เขาลุกขึ้นมา และพุ่งเข้าไปอีกครั้ง
โซ่เหล็กกระแทกจนล้มลงอีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าเขาบาดเจ็บสาหัส บาดแผลทั้งเก่าและใหม่ต่างผสมรวมกัน จนเขาหมดสิ้นเรี่ยวแรงจะเข้าไปช่วยเหลือซูจิ่นซี ทว่าพลังของเขาราวกับไม่มีวันหมด เขายังคงพุ่งเข้าไปช่วยซูจิ่นซีอย่างบ้าคลั่ง เมื่อล้มลงก็พุ่งเข้าไปอีกครั้ง
ดูเหมือนว่า ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ เขาจะไม่ยอมล้มเลิก
แม่นางพิษน้อย!
แม่นางพิษน้อย!
แม่นางพิษน้อย!
เวลานี้ ดวงตาและหัวใจของเขา มีเพียงแม่นางพิษน้อย
ในที่สุด เฒ่าประหลาดที่อยู่ใจกลางโซ่เหล็กซึ่งเป็นดั่งใยแมงมุมก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น เขามองอู๋จุนที่นอนจมกองเลือด ทั้งยังคิดจะพุ่งเข้ามาด้วยความบ้าคลั่ง ก่อนจะยกมือขึ้นและโยนร่างของซูจิ่นซีออกไปด้านข้าง
“ดูแล้ว เจ้านี่มีใจให้เจ้าอย่างลึกซึ้ง เป็นคนรักของเจ้าหรือ? ”
ทันทีที่ซูจิ่นซีหล่นลงบนพื้น คนผู้นั้นก็ยกมือขึ้น ไม่รู้ว่าเขาใช้วิชาอันใดจึงดึงร่างของอู๋จุนเข้ามาหา
ตอนนี้ กลายเป็นอู๋จุนที่ถูกแขวนห้อยเหมือนนกพิราบ
เฒ่าประหลาดผู้นั้นมองซูจิ่นซีด้วยท่าทางข่มขู่
“นางหนู หากเจ้ายังไม่ยอมพูด ข้าจะสังหารเขาเดี๋ยวนี้! ”
บัดซบ สิ่งข้าเกลียดที่สุดคือการถูกผู้อื่นพูดจาคุกคามเช่นนี้!
ซูจิ่นซีพลิกตัวนอนบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง นางลืมตาอันหนักอึ้ง จากนั้นจึงหยุดนิ่งและไม่พูดอันใด
เฒ่าประหลาดเห็นท่าทางของซูจิ่นซี แววตาของเขาทวีความเย็นชา พลางใช้มือบีบคออู๋จุน
“เจ้าจะพูดหรือไม่พูด? ”
ซูจิ่นซียังคงไม่ขยับ ครู่หนึ่งจึงเอ่ยด้วยริมฝีปากซีดขาว
“อยากฆ่า… ก็ฆ่า พูดจาไร้สาระไปเพื่ออันใด… ทำตัวเหมือนสตรี! ”
ซูจิ่นซีไม่ใช่แม่พระ นางไม่มีความคิดที่จะสละชีวิตตนเองเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
นางไม่ใช่คนยิ่งใหญ่เช่นนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น สภาพของนางในตอนนี้ ไม่ได้ดีไปกว่าอู๋จุน
ซูจิ่นซีมั่นใจว่า กระดูกสันหลังของนางต้องหักอย่างแน่นอน ทั้งอวัยวะภายในยังเกิดความผิดปกติ นอกจากนั้น ยังมีพิษที่แม้แต่ระบบถอนพิษยังไม่สามารถตรวจสอบใด
จากสภาพของนางในตอนนี้ นางอาจตายก่อนอู๋จุนด้วยซ้ำ
อย่างไรเสีย ดิ้นรนไปก็ต้องตาย นางยังต้องการให้ศพของตนอยู่ครบสมบูรณ์
ดังนั้น หากอู๋จุนต้องการมีชีวิตรอด คงต้องขึ้นอยู่กับตัวเขาเองแล้ว
ขณะที่ซูจิ่นซีใกล้จะหมดสติอีกครั้ง กำไลปี่อั้นที่ข้อมือขวาของนางก็เปล่งประกายเจิดจ้า สัตว์เทพกิเลนออกมาจากอาคมกำไลปี่อั้น เมื่อตกลงบนพื้นก็กลายร่างเป็นร่างที่แท้จริง
เมื่อสัตว์เทพกิเลนเห็นสภาพของซูจิ่นซี แววตาพลันปรากฏความซับซ้อนเหมือนมนุษย์ โดยไม่มีผู้ใดออกคำสั่ง สัตว์เทพกิเลนยกกรงเล็บขึ้นมา และตะปบไปที่ขาอีกข้างของมันจนเกิดเป็นรอยแผลเล็กๆ
มันค่อยๆ เดินเข้าไปข้างกายซูจิ่นซี และป้อนเลือดจากขาให้ซูจิ่นซีดื่ม
โลหิตของสัตว์เทพกิเลนมีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บภายใน นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพียงซูจิ่นซีไม่ทันได้ฉุกคิดเท่านั้น
ยิ่งเลือดของสัตว์เทพกิเลนไหลเข้าสู่ร่างกายของซูจิ่นซีมากเท่าใด สติสัมปชัญญะของนางก็ยิ่งฟื้นตัวมากขึ้นเท่านั้น พลังภายในร่างกายกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
สัตว์เทพกิเลนเห็นซูจิ่นซีฟื้นคืนสติอย่างสมบูรณ์ จึงกลายร่างเป็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็กน่ารัก มันกระโดดขึ้นไปในอ้อมกอดของซูจิ่นซี และใช้ศีรษะถูไถหน้าอกของนาง จนนางจักจี้ไปทั้งตัว
ซูจิ่นซียกยิ้มมุมปากเล็กน้อย พลางโยนสัตว์เทพกิเลนไปด้านข้าง
“ไม่ต้องมาออดอ้อนหาความดีความชอบ ไปยืนด้านข้าง อย่าฉวยโอกาสลวนลามข้า”
“โฮก โฮก! ”
สัตว์เทพกิเลนร้องเสียงต่ำ มันกระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของซูจิ่นซีอีกครั้งอย่าง ‘ไร้ยางอาย’ และถูไถศีรษะกับหน้าอกของซูจิ่นซี
ซูจิ่นซีขมวดคิ้วแน่น นางจับสัตว์เทพกิเลนโยนออกไปด้านข้างอีกครั้ง
“อย่าคิดว่าข้าได้รับบาดเจ็บแล้วจะจัดการเจ้าไม่ได้ ถอยออกไปด้านข้างเดี๋ยวนี้! ”
“โฮก โฮก! ” สัตว์เทพกิเลนลุกขึ้น มันไม่กล้าเข้าใกล้ซูจิ่นซี ทว่ากลับมองนางด้วยใบหน้าบึ้งตึง
อย่าทำทารุณเช่นนั้น
อย่างไรเสีย วันนี้มันก็ทำความดีความชอบไปมาก
เจ้านายไม่เข้าใจกันบ้างเลย!
“โฮก โฮก… โฮก โฮก… ”
แม้โลหิตของสัตว์เทพกิเลนจะให้ผลลัพธ์ไม่เลว ทั้งยังฟื้นคืนสติสัมปชัญญะของซูจิ่นซีอย่างรวดเร็ว ทว่ากระดูกสันหลังที่หักไปแล้ว ไม่อาจประสานกันได้รวดเร็วถึงเพียงนั้น!
เพียงขยับร่างกายเล็กน้อย ซูจิ่นซีก็เจ็บปวดเจียนตาย นางขบฟันแน่นเพื่ออดกลั้นต่อความเจ็บปวด พลางหันไปมองอู๋จุนและเฒ่าประหลาดที่มีท่าทีตกตะลึงจากการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของสัตว์เทพกิเลน ทันใดนั้น ซูจิ่นซีก็โบกมือออกคำสั่งกับสัตว์เทพกิเลน
“เจ้ากิเลน จัดการมัน! จัดการเฒ่าประหลาดผู้นั้นและช่วยอู๋จุนออกมาให้ได้ ข้าจะตกรางวัลให้เจ้าเป็นสมุนไพรชั้นเลิศระดับสองจำนวนสองชิ้น! ”
ดวงตาของสัตว์เทพกิเลนพลันทอประกาย
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่มันไม่ได้ลิ้มรสสมุนไพรชั้นเลิศระดับสอง
แม้ก่อนหน้านี้มันจะเข้าไปในระบบถอนพิษ และแอบกินสมุนไพรจำนวนมากของเจ้านาย ทว่าที่นั่น มันหาสมุนไพรชั้นดีไม่พบเลย สมุนไพรที่มันกินล้วนอยู่ในระดับหนึ่งเท่านั้น
ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น เจ้านายก็ดูแลระบบถอนพิษอย่างเข้มงวด มันคิดจะกินสมุนไพรก็ไม่มีโอกาส เมื่ออยากจะกิน กลับมียาบำรุงสมรรถภาพทางเพศมากมาย
“โฮก โฮก… ”
สัตว์เทพกิเลนไม่รั้งรอให้เสียเวลา มันคำรามเสียงดังและพุ่งเข้าหาโซ่เหล็ก
ชั่วพริบตาที่มันพลิกตัว สัตว์เทพกิเลนก็กลายร่างเป็นร่างที่แท้จริงของมัน
เฒ่าประหลาดเห็นสัตว์ตัวใหญ่พุ่งเข้ามา แม้พลังของเขาจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่อาจอยู่เฉยไม่ตอบโต้ได้ เขาโยนอู๋จุนที่อยู่ในมือออกไป จากนั้นจึงใช้กระบวนท่าต่อต้านการโจมตีจากสัตว์เทพกิเลน
สัตว์เทพกิเลนพุ่งโจมตีซ้ายทีขวาที โซ่เหล็กของเฒ่าประหลาดป้องกันไม่ให้มันเข้าใกล้
ผ่านไปครู่ใหญ่ สัตว์เทพกิเลนรู้สึกราวกับถูกหยาม มันถอยหลังออกมายืนบนพื้นด้วยความขุ่นเคือง เมื่อหันกลับมาอีกครั้ง ก็พ่นเปลวเพลิงกิเลนโจมตีเฒ่าประหลาด
พื้นที่ภายในถ้ำทั้งเล็กและแคบ ทว่าพลังโจมตีของเปลวเพลิงกิเลนไม่ลดลงแม้แต่น้อย พลังทั้งหมดผนึกรวมกันและพุ่งเข้าโจมตีเฒ่าประหลาดกับโซ่เหล็กที่อยู่รอบตัวเขา
ชั่วพริบตา ทั้งถ้ำก็เปล่งประกายด้วยลำแสงสีน้ำเงินเย็นยะเยือกซึ่งเจิดจ้าราวกับยามกลางวัน ตำแหน่งของเฒ่าประหลาดและโซ่เหล็กถูกเปลวเพลิงกิเลนปกคลุมไว้ทั้งหมด
ถ้ำเริ่มสั่นสะเทือน เศษหินตกลงมาจากด้านบนอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มว่าผนังถ้ำด้านบนจะพังทลายลงมา
ซูจิ่นซีขมวดคิ้วเครียด นางถลึงตามองสัตว์เทพกิเลนที่กำลังมองมาทางนางด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ เพราะมันได้แสดงฝีมือทำความดีความชอบอย่างมาก
แสดงฝีมือจนเลยเถิดไปกันใหญ่แล้ว!
เจ้านายอย่างนางอาจถูกจัดการไปด้วย
ซูจิ่นซีกับอู๋จุนต่างได้รับบาดเจ็บ ไม่มีเรี่ยวแรงหลบหนี จากสถานการณ์และหินที่ร่วงลงมา อีกไม่นาน ถ้ำแห่งนี้คงพังทลาย ถึงเวลานั้น พวกเขาต้องถูกฝังทั้งเป็นแน่นอน