กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1028

หรือจะถูกขังอยู่ในนี้จนเสียสติ? และเห็นนางเป็นนางฟ้าที่เข้ามาโปรด?

กู้ชูหน่วนคิดไปคิดมาก็มีเพียงเหตุผลนี้เท่านั้น

“น้องสาว เซี่ยวอวี่เซวียนคือใครหรือ?”

“เพื่อนคนหนึ่ง?”

“เพื่อนสนิทคนหนึ่ง?”

“ใช่”

“แล้วข้าเป็นเพื่อนของเจ้าด้วยหรือไม่?”

“แน่นอนสิ”

“ระหว่างข้าและเซี่ยวอวี่เซวียน ใครสำคัญกว่ากัน?”

กู้ชูหน่วนมองไปยังอี้หยุนเฟยด้วยความสงสัย

ผู้ชายคนนี้หมายความว่ายังไง หรือว่าจะสนใจนางเข้าอย่างนั้นหรือ?

อี้หยุนเฟยก็มองไปที่กู้ชูหน่วนเช่นกัน

นี่ข้าหาเรื่องใส่ตัวอีกแล้วหรือเนี่ย?

ไม่สิ หน้าตาของเขาเหมือนกับอี้เฉินเฟยออกขนาดนี้?

“เจ้า…..เจ้าคือใคร?”

เจี้ยงเสวี่ยมองไปยังอี้หยุนเฟยด้วยความตกตะลึง

เขาเห็นกับตาตัวเองตอนที่อี้เฉินเฟยสละชีพตัวเองและตายลงอย่างน่าอนาถภายในเตาปรุงกลั่นยาอายุวัฒนะ

เหตุใดถึง….

เหตุใดถึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้?

“ข้าชื่ออี้หยุนเฟย เป็นเพื่อนของนาง เป็นเพื่อนสนิทของนาง” อี้หยุนเฟยพูดคำว่าเพื่อนสนิทอย่างชัดถ้อยชัดคำเพื่อแสงดให้เห็นว่านางเป็นผู้หญิงของเขา

“อี้หยุนเฟย? เจ้าเป็นอะไรกับอี้เฉินเฟย?”

“อี้เฉินเฟยอะไรกัน ข้าไม่รู้จัก และก็ไม่รู้ด้วยว่าเจ้ากำลังพูดอะไร”

“แม่….แม่นางมู่ เขา….”

“เขาเป็นเพื่อนของข้า”

เขารู้ว่าอี้หยุนเฟยเป็นเพื่อนของนาง

แต่เขาอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงมีหน้าตาเหมือนกับอี้เฉินเฟย? เป็นพี่น้องฝาแฝดกันหรือ?

ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าอี้เฉินเฟยมีพี่น้องฝาแฝดด้วย

เขายังอยากถามอะไรบางอย่าง แต่เมื่อนึกถึงว่านางสูญเสียความทรงจำไปและจำอะไรไม่ได้ ทำให้เจี้ยงเสวี่ยไม่กล้าถามออกมา

ไม่ใช่เพราะเขาไม่บอกนางเรื่องประวัติความเป็นมาของนาง แต่เพราะกองกำลังของเผ่าเพลิงฟ้าในดินแดนวิญญาณเยือกแข็งแห่งนี้นั้นมีความแข็งแกร่งอย่างมาก

หากบอกนางไปและเกิดว่าคนของเผ่าเพลิงฟ้ารู้ประวัติความเป็นมาของนางเข้า เกรงว่าเหวินเส่าอี๋และคนอื่นๆ ไม่มีทางปล่อยนางไปแน่

บอกนายท่านก่อนดีกว่าแล้วค่อยว่ากัน

อี้หยุนเฟยกล่าว “ได้ยินหรือไม่ น้องสาวบอกแล้วว่าข้าเป็นเพื่อนของนาง เพื่อนสนิทด้วยนะ”

เจี้ยงเสวี่ย “……”

เขามั่นใจได้ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่มีทางใช่อี้เฉินเฟยแน่นอน

อี้เฉินเฟยเป็นผู้ชายรูปงาม อ่อนโยนและสุภาพ แถมยังมีพรสวรรค์อันน่าทึ่ง

แต่เขา…..

อย่างมากแล้วคงพูดได้ว่าเขาเป็นคนที่ร่าเริงและซื่อตรงเท่านั้น

เขาไม่ใช่อี้เฉินเฟย นายท่านก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลใจ

“น้องสาว เจ้าขี่หลังข้า?”

“เจ้า? พอเถอะ ข้ากลัวว่าเจ้าจะแบนเสียก่อน”

“เจ้าดูถูกข้าเกินไปแล้ว ข้ามีแรงมากขนาดนี้ ขึ้นมาเถอะ”

“ข้อแรก ห้ามเรียกข้าว่าน้องสาวอีก ข้าอายุมากกว่าเจ้า ข้อสอง แขนขาของเจ้าบีบแบนขนาดนี้ หากหักลงจะเป็นเรื่องใหญ่ แถมข้ายังต้องแบกเจ้าอีก เจ้าปล่อยข้าไปเถอะ”

“แต่….”

“เจี้ยงเสวี่ย เจ้ามาแบกข้า”

“ขอรับ”

กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว

เจี้ยงเสวี่ยตอบตกลงอย่างง่ายดายขนาดนี้?

เจี้ยงเสวี่ยแบกกู้ชูหน่วนเดินเข้าไปในถ้ำใต้ดินย่างทุลักทุเล

อี้หยุนเฟยคว้าแขนเสื้อของกู้ชูหน่วนและเดินบ่นตลอดทาง

เดินไปนานพอสมควร ในที่สุดทั้งหมดก็มาถึงสถานที่ที่ชิงเฟยพักอยู่

เจี้ยงเสวี่ยอธิบาย “ชิงเฟิงได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก ข้าเกรงว่าผู้หญิงคนนั้นจะไล่ตามมาทันก็เลยพาชิงเฟิงมาแอบในนี้ โชคดีที่นางตามมาไม่ทัน”

“ภายในได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนติดเชื้อเป็นหนองแต่ไม่ถึงตาย ทุบยาเหล่านี้ให้ละเอียดให้ป้อนให้เขากินเข้าไป”

“ขอรับ”

เสียงบ่นข้างหูเงียบลง กู้ชูหน่วนคิดว่าเขาบ่นจนเหนื่อยเลยว่าคิดจะให้อี้หยุนเฟยพักผ่อนสักหน่อย

คิดไม่ถึงเลยว่าอี้หยุนเฟยจะหน้าซีดเผือดและแสดงท่าทีประหม่า ราวกับกำลังกังวลอะไร

“เกิดอะไรขึ้น กลัวหรือ?”

“น้องสาว เมื่อไรเราจะออกจากที่นี่ ข้าลืมไปเลยว่าเวลาของข้าใกล้จะมาถึงแล้ว”

“เวลาอะไรใกล้จะมาถึงอย่างนั้นหรือ?”

“ไม่ได้ ข้าต้องรีบออกไปให้เร็วที่สุด ข้าจะอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้”

กู้ชูหน่วนคว้าตัวเขาเอาไว้

“สูงเกินไป หากไม่มีใครมาช่วย เราไม่มีทางปีนขึ้นไปได้ ฝูกวงและคนอื่นๆ ใกล้จะมาถึงแล้ว รอต่อไปก่อน”

“รอไม่ได้แล้ว ใกล้จะเช้าแล้ว”

อี้หยุนเฟบผลักกู้ชูหน่วนและวิ่งออกไปโดยไม่สนใจว่าข้างหน้าจะมืดมากแค่ไหน

กู้ชูหน่วนคิดจะวิ่งตามเขาไป ทว่าเมื่อปีนขึ้นไปก็ตกลงมาและเจ็บปวดจนร้องโอดครวญ

“เจี้ยงเสวี่ย เร็วเข้า ไปตามเขากลับมาเดี๋ยวนี้”

“ขอรับ”

แม้ว่าความสามารถของเจี้ยงเสวี่ยจะไม่โดดเด่นเท่าไรนัก แต่ในดินแดนเยี่ยอวี่นั้นถือว่าพอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง และการจะจัดการกับอี้หยุนเฟยนั้นก็เป็นเรื่องง่ายดายมาก

“ปล่อยข้า ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ข้าบอกให้เจ้าปล่อยข้าไปไม่ได้ยินหรือไง”

อี้หยุนเฟยพยายามผลักโดยหวังจะหลุดพ้นจากพันธนาการให้ได้อย่างรวดเร็ว ทว่าเจี้ยงเสวี่ยกลับคว้าเขาแน่นและไม่ว่าเขาจะดิ้นรนมากแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์ เขาทำได้เพียงคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่งเท่านั้น

“แม่นางมู่ ข้าพาเขามาแล้ว”

เดิมทีเจี้ยงเสวี่ยคิดจะปล่อยเขา ทว่ามือที่จับเขาอยู่ก็สั่นสะท้านเหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็งยังไงยังงั้น

และอี้หยุนเฟยก็หลุดจากพันธนาการไปได้

โชคดีที่กู้ชูหน่วนคว้าตัวเขาไว้ได้ทัน ทำให้อี้หยุนเฟยไปไหนไม่ได้

กู้ชูหน่วนตกตะลึงเช่นกัน

เขาเหมือนเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง ร่างกายของเขาเยือกเย็นจนไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด

จากนั้นร่างของเขาก็ค่อยๆ โปร่งแสง ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองคงนึกว่าตาฝาดหรือเป็นภาพลวงตาแน่ๆ

“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ หยุนเฟย บอกข้ามาว่าเจ้าไม่สบายตรงไหนหรือไม่”

“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ขอร้องล่ะ ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้”

สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการที่คนอื่นเห็นเขากลายเป็นคนโปร่งแสง

โดยเฉพาะนาง

ทว่าเขากลับไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ จากนั้นตัวของเขาก็ค่อยๆ เลือนหายไปด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

อี้หยุนเฟยไม่กล้ามองหน้ากู้ชูหน่วนอีกต่อไป

เขากลัวว่าจะเห็นนางแสดงสีหน้ารังเกียจหรือหวาดกลัว

เขาได้เห็นการจ้องมองด้วยสายตาแปลกประหลาดแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก

เมื่อได้ยินน้ำเสียงสะอึกสะอื้นของอี้หยุนเฟย

กู้ชูหน่วนเข้าไปกอดเขาโดยไม่สนใจว่าร่างกายของเขาจะเย็นมากแค่ไหน นางกอดเขาแน่นเพราะกลัวว่าเมื่อปล่อยมือเขาจะหายไป

“บอกข้ามาว่าข้าช่วยอะไรเจ้าได้บ้าง”

“ช่วย….ช่วยไม่ได้ หนาว….หนาวเหลือเกิน เจ้ารีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ข้าขอร้องล่ะ”

“เจ้าสงบสติอารมณ์ก่อน ไม่ว่าเจ้าจะเปลี่ยนไปเป็นเช่นไร เจ้าจะยังเป็นอี้หยุนเฟยเพื่อนของข้าเสมอ ข้าจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับเจ้า”

กู้ชูหน่วนจับมือเขาแน่นและปลดเสื้อคลุมของนางเพื่อสวมใส่ให้เขา

มีเสียงแว่วของฝูกวงและลั่วอิ่งดังมาแต่ไกล

“นายท่าน นายท่านอยู่ข้างในหรือไม่?”

“ฝูกวง…..ข้าเอง”

นางไม่ต้องการให้ฝูกวงและคนอื่นเข้ามาในตอนนี้ เพื่อว่าอี้หยุนเฟยจะได้ไม่เสียสติคลุ้มคลั่งอีก

ไม่รู้ว่าอี้หยุนเฟยจะกลัวว่าคนอื่นเห็นเขาในสภาพเช่นนี้หรือเพราะอะไร

เขากัดมือของกู้ชูหน่วนอย่างแรงแล้ววิ่งหลบหนีไป

เจี้ยงเสวี่ยคิดจะไปจับตัวเขากลับมา

ทว่าร่างกายของอี้หยุนเฟยกลับโปร่งแสงและหายตัวไปต่อหน้าต่อตา

“แม่นางมู่ เขา…..เขาหายไปแล้ว?”

กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วและพยายามมองหาไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบอี้หยุนเฟย ราวกับเขาได้หายตัวไปจากอากาศอย่างไร้ร่องรอย

เสียงที่เกิดขึ้นที่นี่ทำให้คนที่อยู่ข้างนอกเป็นกังวลอย่างมากและต่างพากันวิ่งเข้ามา

“นายท่าน ข้าน้อยมาช่วยช้าเกินไป นายท่านได้โปรดลงโทษข้าน้อยด้วยขอรับ”

“พวกเจ้าเห็นอี้หยุนเฟยบ้างไหม?”

“อี้หยุนเฟย? คุณชายอี้? ไม่เห็นขอรับ” ทว่าเมื่อสักครู่พวกเขาเหมือนได้ยินเสียงของเขา?

ฝูกวงและลั่วอิ่งกล่าวด้วยความดีใจ “ชิงเฟิง เจี้ยงเสวี่ย พวกเจ้าอยู่ที่นี่เองหรือ คุณชายเซี่ยวล่ะ พวกเขาก็อยู่ข้างในนี้ใช่หรือไม่?”

“คุณชายเซี่ยวไม่ได้อยู่ในนี้”

“คุณชาย……เกิดอะไรขึ้นกับเขา? เหตุใด….เหตุใดสีหน้าของทุกคนถึงดูแย่เช่นนี้? เกิดอะไรขึ้นกับชิงเฟิง?”

“เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ลั่วอิ่ง เจ้าคุ้มกันชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยกลับไปที่วังหลวง ฝูกวง เจ้าอยู่ที่นี่และพาคนออกไปตามหาอี้หยุนเฟยภายในถ้ำใต้ดินแห่งนี้ ทำยังไงก็ได้ให้หาเขาให้เจอ”

“ขอรับ นายท่าน….นายท่านก็ได้รับบาดเจ็บ นายท่านกลับไปก่อนดีหรือไม่ขอรับ?”

“ข้าจะอยู่รอเขาที่นี่”