บทที่ 656 จวินเซียวเซียวคลอดลูก

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 654 จวินเซียวเซียวคลอดลูก

ฉีเฟยอวิ๋นรีบออกไปกับพ่อบ้าน อาอวี่จะตามไปด้วย ฉีเฟยอวิ๋นเห็นว่าอวิ๋นจิ่นค่อนข้างตกตะลึงพรึงเพริด ไม่วางใจเลยต้องการให้อาอวี่อยู่

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นตอนที่คนไม่ได้สนใจให้ความสำคัญ ค่ำคืนนี้คนส่วนใหญ่ในเรือนจวินจื่อหลับพักผ่อนกัน ฉีเฟยอวิ๋นใช้ยานอนหลับขนาดไม่รุนแรงใส่น้ำที่พวกเขาดื่มกิน

เพราะฉะนั้นเลยมีเพียงอาอวี่และอวิ๋นจิ่นอยู่

พอขึ้นรถม้าแล้วฉีเฟยอวิ๋นได้ไล่พ่อบ้านไป พ่อบ้านยังไม่รู้สาเหตุอะไร ดึกดื่นออกมาเพราะเรื่องนี้ พ่อบ้านไม่เข้าใจเสียจริง ว่าคุณหนูทำเพื่อสิ่งใด

ฉีเฟยอวิ๋นหาข้ออ้างไล่พ่อบ้าน รอพ่อบ้านไปแล้ว เธอถึงได้รออยู่ที่หน้าประตูจวนอ๋องเย่

เป็นอย่างที่คิดไม่นานอวิ๋นจิ่นได้เดินออกมาจากจวนอ๋องเย่

จวนอ๋องเย่กับจวนแม่ทัพห่างกันไม่ไกล อวิ๋นจิ่นจึงรีบวิ่งไป

พอมาถึงจวนแม่ทัพอวิ๋นจิ่นเห็นประตูใหญ่ปิดสนิทก็คิดที่จะเคาะ

อวิ๋นจิ่นที่เดินอย่างรวดเร็วไม่ได้สังเกตเห็นว่าด้านหลังมีคนตามมา นางจะเคาะประตูกลับถึงเรียกรั้งไว้

“อวิ๋นจิ่น!”

อวิ๋นจิ่นชะงักงัน หันกลับไปมองฉีเฟยอวิ๋นที่อยู่ด้านหลัง

ภายในค่ำคืนอันมืดมิด มีแสงสว่างสลัวๆมองดูออกว่าคนที่มาคือใครไม่ยากมาก

อวิ๋นจิ่นหน้าซีดเผือด รีบทำความเคารพฉีเฟยอวิ๋น “ถวายบังคมนายท่าน”

“อวิ๋นจิ่น เจ้ามาดูท่านพ่อของข้าหรือ?”ฉีเฟยอวิ๋นเดินเข้าไป อวิ๋นจิ่นไร้หนทางที่จะปิดบังเลยพยักหน้าตอบรับ

“เพคะ ได้ยินว่าท่านแม่ทัพฉีได้รับบาดเจ็บ อวิ๋นจิ่นเลยมาดูเพคะ”

“เช่นนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าไปแล้ว ท่านพ่อของข้ามิเป็นอะไร”

“ไม่เป็นไรหรือเพคะ?”อวิ๋นจิ่นกล่าวด้วยสีหน้าที่ยากจะเชื่อ ฉีเฟยอวิ๋นหมุนตัวเดินไป อวิ๋นจิ่นรู้สึกผิดปกติเลยตามไปด้วย

ในยามค่ำคืนแม้จะมีเพียงอวิ๋นจิ่นกับฉีเฟยอวิ๋นสองคน แต่ทว่าทั้งสองคนกลับไม่ใช่คนที่ขี้กลัว แม้ว่าค่ำคืนจะมืดมิด ยังคงเดินอย่างสงบเช่นดังเดิม

“นายท่าน!”

“เจ้าชอบอะไรในตัวท่านพ่อข้า?”ฉีเฟยอวิ๋นไม่อยากพูดมาก

อวิ๋นจิ่นคิดไม่ถึงว่าจะถูกจับได้เสียจริงแล้ว แต่นางก็สงบมาก กล่าวว่า“หม่อมฉันกับท่านแม่ทัพคือมีความผูกพันกันเมื่อชาติก่อน ท่านแม่ทัพเคยช่วยหม่อมฉัน หม่อมฉันทำเพื่อตอบแทนบุญคุณเพคะ”

ฉีเฟยอวิ๋นหยุดฝีเท้าลง ยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?

อวิ๋นจิ่นอยากคุกเข่าลง ฉีเฟยอวิ๋นได้ประคองนางขึ้น

“ชอบคนคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องที่ผิด ข้าเพียงแค่แปลกใจว่าเพราะเหตุใดเจ้าถึงชอบท่านพ่อข้า ถึงแม้จะบอกว่าท่านพ่อข้าดีมาก แต่ทว่าอายุของเจ้ากับท่านพ่อกลับต่างกันมาก

เนื่องด้วยหน้าตาสะสวยกับความสามารถของเจ้า จะหาคนที่ทำดีต่อเจ้านั้นไม่ยาก“

“พูดคือเช่นนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไร นี่เป็นใจของหม่อมฉัน”อวิ๋นจิ่นไม่อยากอธิบาย ฉีเฟยอวิ๋นก็รู้สึกว่ามีเหตุผล

“อวิ๋นจิ่น เรื่องวันนี้ ข้าจะช่วยเจ้าปิดบังเป็นอย่างไร?”

อวิ๋นจิ่นไม่พูด ฉีเฟยอวิ๋นหยิบเหรียญกษาปณ์ที่ทำจากทองแดงมีด้ายแดงแขวนห้อย อวิ๋นจิ่นกล่าวถามด้ายความแปลกใจว่า“นี่คืออะไรเพคะ?”

“เจ้าดู ฟังข้า ข้าพูดสิ่งใด เจ้าก็ทำสิ่งนั้น”

อวิ๋นจิ่นไม่เข้าใจ ได้แต่พยักหน้า

ฉีเฟยอวิ๋นทำเพื่อไม่ให้ทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอเอาเหรียญทองแดงสะกดจิตให้อวิ๋นจิ่น

“อวิ๋นจิ่น ตอนนี้เจ้าง่วงแล้ว หลับตาลงเสียเถิดนะ”

อวิ๋นจิ่นมองเหรียญ แล้วหลับตาลง

“วันนี้เจ้าออกมาปรึกษาหารือกับข้า เกี่ยวกับเรื่องที่เหล่าซื่อจื่อจะทำอย่างไรถึงได้เป็นศิษย์ของเฟิงอู๋ชิง ไม่ได้ไปที่จวนแม่ทัพเลย แล้วก็ไม่ได้เจอพ่อบ้านของจวนแม่ทัพ แล้วก็ไม่รู้เรื่องของแม่ทัพฉีเลย”

“……..”อวิ๋นจิ่นกล่าวตาม ฉีเฟยอวิ๋นเก็บเหรียญไว้ จากนั้นให้อวิ๋นจิ่นลืมตา

อวิ๋นจิ่นลืมตาช้าๆ มองมาทางฉีเฟยอวิ๋น นางกล่าวว่า”นายท่าน”

“อวิ๋นจิ่น เหตุใดเจ้าถึงหลับเสียแล้วนี่?”

อวิ๋นจิ่นรีบกล่าวว่า“เมื่อครู่หารือกับนายท่านเรื่องที่เหล่าซื่อจื่อจะกราบไหว้อาจารย์ เหตุใดถึงลืมแล้ว?”

“กำลังเดิน เจ้าก็สัปหงกแล้ว?”ฉีเฟยอวิ๋นหมุนตัวกลับไป อวิ๋นจิ่นเดินตาม แม้ว่าจะมีความแปลก แต่ไม่นานก็ลืมทำไมถึงแปลกอย่างนี้นะ

ระหว่างทางเดินกลับจวนอ๋องเย่ด้วยกันทั้งสองได้พูดถึงเรื่องเหล่าซื่อจื่อ

อาอวี่เห็นทั้งสองกลับมา กำลังจะพูด กลับได้ถูกฉีเฟยอวิ๋นเรียกไว้

“อาอวี่ ช่วงนี้เจ้ามักไปหาตงเอ๋อร์ใช่หรือไม่?”

อาอวี่สีหน้าเลิกลัก กล่าวว่า“พระชายา…….”

“อวิ๋นจิ่น เจ้าพักผ่อนก่อน ข้าจะไปพูดคุยกับอาอวี่”

ฉีเฟยอวิ๋นจิตใจห่อเหี่ยวอย่างไม่มีอะไรมาเทียบได้ สะกดจิตอวิ๋นจิ่นแล้วยังต้องสะกดจิตอาอวี่ด้วย ราคาของการโกหกคือกล่าวโกหกเรื่องหนึ่งแล้วยังต้องพูดโกหกอย่างนับไม่ถ้วนเพื่อไปทำให้การโกหกนี้สำเร็จลุล่วง

ค่ำคืนหลังจากนี้ไม่กี่วัน ฉีเฟยอวิ๋นเพิ่งจะพักผ่อน ในพระราชวังมีคนมารับฉีเฟยอวิ๋นเข้าวัง เพื่อต้องการให้ฉีเฟยอวิ๋นผดุงครรภ์แก่พระสนมเอกเซียว

ฉีเฟยอวิ๋นคำนวนคือล่าช้าไม่กี่วัน เธอมีการเตรียมตัวนานแล้ว เลยเอาหีบยาเข้าพระราชวังคืนนั้นเลย

ที่พระตำหนักจิ่นซิ่วได้มีคนรออยู่ทางด้านนั้นแล้ว เหล่าหมอหลวงล้วนคุกเข่าบนพื้น ราชครูจวินก็อยู่

ฉีเฟยอวิ๋นไม่รู้ว่าราชครูจวินเข้าวังมาตั้งแต่เมื่อไหร่

ฉีเฟยิวิ๋นเดินตามคนไปถวายบังคมองค์จักรพรรดิอวี้ตี้และพระพันปี ถึงได้ไปดูจวินเซียวเซียว

“พระชายา ท่านมาแล้ว”หมอหลวงหูตกใจ ลักษณะของเด็กไม่ใหญ่ แต่ไม่สามารถคลอดออกมาได้

ภายในพระราชวังจัดเตรียมคนที่มีประสบการณ์เป็นหมอตำแยกว่ายี่สิบชีวิต คนที่อายุมากผู้นั้นยังเคยทำคลอดอ๋องตวนด้วย

เวลานี้ หมอหลวงก็ไม่ใช่สามารถก้าวมาด้านหน้าตามอำเภอใจได้

ฉีเฟยอวิ๋นรีบวางหีบยาลง แล้วเดินไปดูจวินเซียวเซียว ด้านหน้าของจวินเซียวเซียวคือม่านมุ้ง เธอมองเห็นหญิงคนหนึ่งที่กำลังสะลึมสะลือหายใจโรยราอยู่เวลานี้

คนอื่นยืนล้อมรอบอยู่ คล้ายดั่งรับรู้ได้ถึงการตายเคลือบคลานเข้ามาใกล้ ใบหน้าแต่ละคนคล้ายดั่งเถ้าที่ดับมอดไป ทั้งตัวมีเหงื่อแตก จนกระทั่งสั่นเทา

ฉีเฟยอวิ๋นนั่งลงแล้วกอบกุมมือของจวินเซียวเซียว ทั้งตัวของจวินเซียวเซียวชื้น นางเงยหน้ามองฉีเฟยอวิ๋น น้ำตาหลั่งออกมาทางหางตา ริมฝีปากสั่นระริกกล่าวว่า“พระชายาเย่ ขอร้องล่ะช่วยลูกของข้าด้วย ขอร้องล่ะช่วยเขาด้วย”

“วางใจเถิด”ฉีเฟยอวิ๋นตรวจสองตำแหน่งของเด็กอยู่ทิศทางที่ผิด โดยพื้นฐานแล้วตลอดออกมาไม่ได้ ไม่แน่เท้าน้อยๆจะออกมาก่อน

เด็กที่คลอดปกติจะเอาศีรษะออกมาก่อน นับว่านางโชคร้ายมาก

ฉีเฟยอวิ๋นปล่อยมือ กล่าวขึ้นว่า“เตรียมน้ำร้อน คนอื่นถอยออกไป”

หมอหลวงหูเกรงว่าจะพัวพัน เลยรีบพาคนออกไปคุกเข่าด้านนอก

หมอตำแยต่างก็ทยอยเดินออกไป คุกเข่าอยู่ที่พื้น

พระพันปีนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร ลูบคลำคลึงศีรษะแล้วกล่าวว่าอืม จากนั้นกล่าวตรัสอีกว่า”อย่าคิดว่าเช่นนี้ก็มิเป็นไรแล้ว หากไม่สามารถรักษาชีวิตของะระสนมเอกเซียวไว้ได้ พวกเจ้าก็อย่าได้คิดจะมีชีวิตรอด”

ทุกคนผงกศีรษะลงไม่กล้าที่จะตอบโต้

เวลานี้องค์จักรพรรดิอวี้ตี้เดินไป สุดท้ายเป็นลูกของพระองค์

พระพันปีกล่าวอย่างไม่พอใจว่า“หากวันปกติเจ้ารักทะนุถนอมนางมากหน่อย นางก็ไม่มีทางเป็นเยี่ยงนี้ ล้วนเป็นเจ้าที่ไม่ทะนุถนอมนาง”

“ลูกรู้ว่าผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”องค์จักรพรรดิอวี้ตี้รีบตรัสตอบรับ

พระมเหสีหวาเดินเข้ามาจากด้านนอก เหล่านางกำนัลทยอยทำความเคารพ พระมเหสีหวาเดินไป กล่าวว่า“ฝ่าบาท ไม่เป็นไรเพคะ ทั้งแม่และลูกจะต้องปลอดภัยเพคะ”

“ขอบใจพระมเหสี”องค์จักรพรรดิสับสนวุ่นวายใจ ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรได้บ้าง

พระมเหสีหวาถึงได้เดินไปดูราชครูจวินและกล่าวขึ้นว่า“ราชครู เจ้าก็อย่ารีบร้อน แม่และเด็กจะต้องปลอดภัย”

“พระมเหสีตรัสถูกต้อง”

มีคนเอาเก้าอี้มีให้พระมเหสี พระมเหสีหวาเดินไปถอนสายบัวตรงหน้าพระพันปี “เสด็จพี่หญิง”

“นั่งลงเถิด”

“เพคะ”

พระมเหสีนั่งลง แล้วมองไปด้านในตามด้วยปลอบพระพันปีว่า“จะต้องไม่เป็นไรอย่างแน่นอนเพคะ”

พระพันปีตอบรับอืม แล้วมองไปที่นางกำนัลผู้หนึ่ง แล้วตรัสว่า“ไปบอกพระชายาเย่ เมื่อจำใจอย่างยิ่ง ปกป้องคนเป็นแม่ไว้!”

พอได้ยินคำกล่าวพูดของพระพันปี ราชครูจวินคุกเข่าลงทันที

พระพันปีมองไป ราชครูจวินก็กล่าวขึ้นว่า“สามารถสืบทอดสายเลือดของฝ่าบาทได้เป็นความโชคดีของนาง พระพันปีไม่ควรใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาแก้ปัญหา มันทำให้ยุทธศาสตร์สำคัญของบ้านเมืองล่าช้าพ่ะย่ะค่ะ!”

“ราชครูจวิน ข้าก็คิดเช่นนี้ ปกป้องแม่ไว้!”

“……”

ตอนที่ด้านนอกกำลังแข็งทื่ออึ้งกันอยู่ ด้านในได้มีเสียงเด็กร้องไห้ดังออกมา องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ชะงักงันไปครู่หนึ่ง แล้วหันมองไปกล่าวตรัสว่า“คลอดแล้วหรือ?“